วันสุดท้ายของทริปแล้ว วันนี้เราจะไปเที่ยวเบาๆกันในเมืองครับ ก่อนจะไปจบวันที่วิวภูเขาสวยๆ ตามผมมาเลยครับ
ระหว่างทางตอนออกจากที่พัก เราเจอวิวสวยๆแบบนี้ระหว่างทาง เลยอดไม่ได้ที่จะต้องแวะถ่ายรูปเล่นสักหน่อย
วิวสวยๆของที่พักเมื่อคืนครับ มองออกไปหน้าต่างห้องพัก เจอวิวเขียวๆ สวยงามมาก
วันนี้ เรามาเที่ยวอาคารเก่าแก่ในเมือง Aizu-Wakamatsu กันครับ ชื่อว่า Fukunishi Honten ซึ่งเป็นอาคารร้านค้าที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 300 ปี สร้างต่อเนื่องกันมาถึงสามยุคสมัย อันได้แก่ ยุคเมจิ (Meiji) ยุคไทโช (Taisho) และยุคโชวะ (Showa) โดยตระกูลฟุคุนิชิ (Fukunishi) พ่อค้าผู้ร่ำรวยแห่งเมืองไอซุวะกะมัทสึ (Aizu-Wakamatsu City) ที่นี่สืบทอดกันมา 300 กว่าปีโดยคน 13 รุ่น
ปัจจุบันอาคารเก็บของและตัวอาคารหลักอันหรูหรา ได้ปรับเปลี่ยนเป็นร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ร้านอาหาร คาเฟ่ และพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ เพื่อเปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชมและเข้าไปสัมผัสประสบการณ์กรุ่นกลิ่นอายอดีต
จุดเด่นที่ผนังด้านนอกของอาคารที่มีสีดำขลับอันเป็นเอกลักษณ์ เปี่ยมด้วยความงามแบบมีมนต์ขลังและโดดเด่นจากอาคารทั่วไป ที่สำคัญคือ ขึ้นชื่อเรื่องความยากลำบากในการสร้าง เพราะต้องใช้ทักษะชั้นสูงของช่าง นอกจากข้าวของเครื่องใช้อันหรูหราที่จัดแสดงให้ชมภายในตัวอาคารแล้ว กำแพงสีดำนี้จึงเป็นอีกสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความมั่งคั่งอย่างมากของตระกูลฟุคุนิชิ
ประตูอันหนาหนักของห้องเก็บสมบัติแห่งตระกูลฟุคุนิชิ ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน ประตูหนามากๆเลยครับ
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีบริการพิธีชงชาด้วย การดื่มชาแบบญี่ปุ่นนั้นเค้าจะให้ทานขนมหวานๆสักเล็กน้อยก่อน เพื่อปรับรสชาติการรับรู้รสในปาก และค่อยให้ดื่มชา การชงชาแบบญี่ปุ่นนั้นมีขั้นตอนที่มาก และเคร่งครัดสุดๆ ถึงขั้นตำแหน่งการวางอุปกรณ์ต่างๆต้องเป๊ะทุกอย่าง พอได้มาทานชาในอาคารที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ขนาดนี้ รู้สึกขลังมากๆเลยครับ
หลังจากนั้น เราเดินไปหาร้านซูชิทานกันภายในเมือง Aizu-Wakamatsu
ระหว่างเดินทางไปร้านอาหารในเมือง Aizuwakamatsu เดินผ่านถนนนี้ ที่เสาไฟมีรูปการ์ตูนของผู้ชายคนหนึ่ง พอเดินเข้าไปอ่าน ถึงรู้ว่านี่คือถนน Noguchihideyo ซึ่งเป็นถนนที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง Dr. Noguchi Hideyo นักแบคทีเรียผู้ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น ที่สู้ชีวิตจากเด็กยากจนคนหนึ่ง ผมเคยอ่านหนังสือการ์ตูนที่เล่าเรื่องชีวประวัติของท่าน เลยรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ นอกจากนั้นยังมีอนุสาวรีย์ของท่านอยู่ด้วย
ช่วงเย็นๆเราเดินทางไปยังเมือง Tadami แวะถ่ายวิวทะเลสาบ Tagokura ระหว่างทางมองดูดีๆ ในทะเลสาบจะมีเวิ้งน้ำเป็นรูปคล้ายๆรูปหัวใจอยู่สองดวง มองออกกันไหมครับ ทะเลสาบแห่งนี้วิวสวยมากๆ
คืนสุดท้ายในญี่ปุ่นล่ะ คืนนี้เราก้อพักเรียวกังกันอีกคืน สิ่งที่เพลิดเพลินใจอย่างหนึ่งของเรียวกังคือ อาหารเย็นนี่แหละครับ จะมาแบบอลังการมาก จานเล็กจานน้อยเต็มไปหมด พักเรียวกังแต่ละทีก้อสนุกสนานกับการรออาหารเย็นนี่แหละครับ สำหรับคืนนี้เราก้อพักกันที่ Yu no yado Matsuya
จริงๆแล้วเรายังอยู่ที่ญี่ปุ่นอีกวันนึง แต่วันสุดท้ายหมดเวลากับการเดินทางเข้าโตเกียว และแวะช๊อปปิ้งกันที่อากิฮาบาร่าหลังจากนั้นก็เดินทางกลับเมืองไทยตอนค่ำๆครับ ขอจบซีรี่ย์ Road Trip Fukushima ไว้เท่านี้ครับ เจอกันทริปหน้าครับ
ติดตามกันต่อได้ที่
https://www.facebook.com/TravelofSalaryMan/
https://www.facebook.com/voravuds
Voravud Santiraveewan
วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15.22 น.