. ณ บันทึกเก็บยิ้ม .
ต้นปีนี้ ที่เกาะพยาม
"การเดินทางออกไปเที่ยวไม่ใช่เรื่องยาก . . แต่การรวมแก๊งให้ไปเที่ยวพร้อมกันได้ต่างหากที่ยาก" ทริปนี้ก็ . . เป็นแบบประโยคข้างต้นเลยล่ะ ฮ่าๆ ๆ อย่างว่าเนอะในเมื่อช่วยกันคิดทริป เราก็อยากไปพร้อมกันทุกคน จริงมั้ย?
และเมื่อเวลาของทุกคนลงตัว ได้เวลาเก็บกระเป๋าเดินทางยกขึ้นรถ และ โก อิ้ง ทู ระนอง กันจ้า
ปักหมุกตารางเที่ยวฉบับ 3 วัน 2 คืน
วันที่ 1 ภูเขาหญ้า - หาดชาญดำริ - นอนตัวเมืองระนอง (Blu Monkey Hub & Hotel Ranong)
วันที่ 2 ติ่มซำระนองโอชา - เกาะพยาม (นิธิพร รีสอร์ท เกาะพยาม)
ระนอง เมืองรองที่ใครๆ ก็นึกถึง ถนนเส้นเพชรเกษมจะพาเราผ่านจังหวัดสมุทรสาคร ขับตรงมาเรื่อยๆ ก็จะผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และมาถึงจุดหมายปลายทางในครั้งนี้ . . . จังหวัดระนอง
การเดินทางไประนองในครั้งนี้ เป็นการนั่งรถยนต์กันไปแบบชิวๆ ชมวิวสองข้างทางเพลินๆ และเราก็มาถึงจุดหมายปลายทางแรกตอนเวลาประมาณบ่ายสามโมงกว่า
ภูเขาหญ้า มาถึงระนองทั้งที่ต้องขอปักหมุดสถานที่ที่ใครๆ ก็ไม่พลาดกันเสียหน่อย ช่วงที่เราไปเนื่องจากเป็นช่วงต้นปีทำให้ภูเขาหญ้าลูกนี้ยังมีสีเขียวของต้นไม้ประปรายสลับกับหญ้าสีเหลือง
มาเวลาบ่ายแก่ๆ แบบนี้กำลังโอเคเลย ลมพัดตลอดเวลา แดดเริ่มหุบ ถ่ายรูปออกมาสวยๆ แบบนี้
ถ่ายรูป 1 แชะ
แสงแดดค่อยๆ จางลง ก้อนเมฆค่อยๆ เปลี่ยนสี ธรรมชาติบอกเวลากับเราว่า ใกล้จะเปลี่ยนจากช่วงกลางวัน เป็นช่วงกลางคืนแล้ว ได้เวลาหาที่ดูพระอาทิตย์ตกดิน กินข้าวเย็นกัน
หาดชาญดำริ จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกในวันนี้ อยากให้ทุกคนมาทันช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก เราคิดว่าฉากตอนนั้นคงสวยมากเลยล่ะ ด้วยความว่าเรามาช้าไปหน่อยทำให้พอมาถึงพระอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว เห็นเพียงแสงสุดท้ายของวันที่ยังคงไม่ลับขอบฟ้าไป
ร้านทานอาหารเย็นใกล้หาดชาญดำริ ร้านอาหารเคียงเล วันที่เราไปคือคนแน่นร้านมาก แนะนำว่าโทรมาจองไว้ก่อนดีกว่า
กินอิ่ม นอนหลับ . . ท้องตึงมากแล้วตอนนี้ คืนนี้เราโทรจองที่พักไว้ที่ Blu Monkey Hub & Hotel Ranong ที่พักอยู่ในตัวเมืองระนอง ไม่ไกลจากร้านอาหารเคียงเลเลย ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 20 นาทีถึงที่พัก
แชะรูปที่พักมาฝากกัน ใครชอบห้องพักโทนสีขาว ดำ เราว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่พักที่น่าสนใจ ด้านหน้าที่พักมีสระว่ายน้ำเล็กๆ และมุมนั่งเล่นชิวๆ บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้
มุมรับแขก
ที่พักไม่มีอาหารเช้าบริการ แต่จะมีกาแฟ ขนม น้ำส้ม ให้ทานในตอนเช้า
เช้าวันรุ่งขึ้น
เราเช็คเอาท์ออกจากที่พัก และแวะออกไปหาติ่มซำแถวนั้นทานเป็นอาหารเช้า ก่อนจะเดินทางไปท่าเรือ
ถ้าใครอยากตามรอยล่ะก็ แวะมาร้าน ติ่มซำระนองโอชา กันได้เลย กินกันไปแบบจุกๆ หรือจะเลือกร้านอื่นก็มีตัวเลือกให้อีกหลายร้านในละแวกนั้น
กินอิ่มแล้วเราก็พร้อมออกเดินทางต่อกันได้ ไปที่ท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลปากน้ำกันเลย
ทางที่พักของเราได้จองเรือ Speed Boat ไว้ให้พวกเราล่วงหน้าแล้ว ค่าเรือราคา 300 และ 350 บาท/คน/รอบ ราคาจะต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับช่วงเวลา
เรามาถึงเกาะพยามกันแล้วจ้าา . . ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที
นิธิพร รีสอร์ท เกาะพยาม ที่พักบนเกาะพยามในคืนนี้ของพวกเรา ห้องพักที่นี่มีหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบติดทะเล ไม่ติดทะเล หรือจะแบบครอบครัวก็สามารถเลือกได้
หลังจากมาถึงบนเกาะแล้ว จะมีพี่ๆ เจ้าหน้าที่ของที่พักมารับเราด้วยรถกระบะมินิสีเขียวที่เห็นในรูปด้านบน เอาล่ะ ขนกระเป๋าขึ้นรถได้
หลังจากที่พวกเราเก็บของในห้องพักกันเรียบร้อยแล้ว เดอะแก๊งค์ก็ได้เจรจาร่วมกันแล้วตัดสินใจจับคู่เพื่อเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวรอบเกาะกัน (ถ้าใครเลือกแผนนี้ก็อย่าลืมขอแผนที่จากพี่ๆ ที่รีสอร์ทมาด้วยนะ)
เริ่มจากร้านอาหารกลางวันของพวกเรา ขี่ขึ้นเขาไปทานเตี๋ยวเป็ดกันจ้าที่พยามซีวิว หิวจนไม่ได้ถ่ายรูปก๋วยเตี๋ยวเป็ดมาฝาก แต่เก็บวิวมาฝากนะ
อิ่มกันแล้ว พวกเราก็ไปกันต่อจ้า ขี่มอเตอร์ไซค์ลงจากเขา มุ่งตรงไปที่วัดเกาะพยาม
วัดเกาะพยาม ตั้งอยู่ในอ่าวแม่หม้าย และไม่ไกลจากท่าเรือ หากใครจะปรับเปลี่ยนแผนขับตรงมาเที่ยววัดเกาะพยามก่อนก็สามารถปรับเปลี่ยนกันได้ตามความสะดวกของเพื่อนร่วมทริป จุดเด่นของวัดเกาะพยามอยู่ที่พระอุโบสถที่สร้างไว้กลางทะเล บนหลังคาประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางลีลาหันหน้าออกสู่ทะเล เมื่อเดินตามสะพานทอดยาวเข้าไปใกล้ๆ ก็ยิ่งเห็นความสวยงามของสถานที่แห่งนี้
รูปปั้นกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ขี่มอเตอร์ไซค์ไปชมหินทะลุกันต่อ
ขี่มอเตอร์ไซค์มากันต่อจนถึง อ่าวเขาควาย ที่นี่มีจุดไฮไลท์อีกหนึ่งจุดบนเกาะพยาม คือ หินทะลุ ตอนที่เราไปเป็นช่วงน้ำขึ้น แต่เราก็มีความพยายามในการได้รูปหินทะลุใกล้ๆ ด้วยการถกขากางเกงขึ้น ฮ่าๆ แล้วเดินไปใกล้ๆ แล้วก็ได้รูปนี้มาฝาก
แม้แดดจะแรงแค่ไหน แต่ด้วยลมทะเลที่พัดผ่านตัวเราตลอดเวลา เราก็อยากจะยืนชมวิวทะเลตรงนี้อีกหน่อย บอกได้เลยว่าทะเลตรงจุดนี้สวยมาก
หลังจากขี่มอเตอร์ไซค์วนรอบเกาะกันไปสักพัก เรากลับไปเล่นน้ำทะเลหน้าที่พักเรากัน
นิธิพร รีสอร์ท เกาะพยาม
ห้องพักแบบซีวิว (sea view) ใครเลือกห้องพักแบบนี้ วิวข้างหน้าคือดีแบบนี้เลย
หน้าห้องพักจะมีสระว่ายน้ำเล็กๆ แต่หากใครอยากเล่นน้ำทะเลแทนให้เดินลงไปอีกหน่อยก็สามารถเล่นน้ำทะเลได้เลย
พระอาทิตย์เริ่มทอแสงสีทอง บอกเวลาเย็นของวันนี้ ในขณะที่พวกเรายังคงเดินเล่นอยู่บนหาดทรายที่มีทะเลกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
สถานที่กินข้าวเย็นบนเกาะพยามคืนนี้ พวกเราเลือกไปทานกันที่ร้านอาหารของที่พัก The Blue Sky Resort ซึ่งอยู่ติดกับนิธิพร รีสอร์ท แต่หากเพื่อนๆ อยากซื้ออะไรกลับมาทานที่โซนทานอาหารของ นิธิพร รีสอร์ท ซึ่งอยู่ติดกับวิวทะเลแบบนี้ก็มีร้านอาหารบนเกาะให้เลือก สามารถถามพี่ๆ ได้เลย
อยากจะเก็บบรรยากาศแบบนี้กลับกรุงเทพฯ ด้วยกันเลย
กู๊ด มอร์นิ่ง
เช้านี้อากาศดีมาก พวกเราตื่นมาอาบน้ำ แต่งตัว ทานอาหารเช้าของที่พัก และเตรียมตัวกลับกัน
การได้เก็บกระเป๋าออกเดินทางไปที่ไหนสักที่ และเริ่มต้นเดินทาง ไม่ว่าระหว่างทางเราอาจจะเจอลมฝน ทางโค้ง หลงทิศ หาเป้าหมายไม่เจอ หรือแม้แต่เจ้าโควิดที่ยังคงเกาะติดเราอยู่จนถึงทุกวันนี้ แต่เรากลับรู้สึกว่าเราจะไม่มีทางได้สัมผัสอะไรแบบนั้นเลย ถ้าเราไม่ออกเดินทางด้วยตัวเอง
แล้วตามเราไปเที่ยวกันต่อทริปหน้านะ
พบกันได้ในโลกโซเชียล ณ เฟสบุ๊ค : บั น ทึ ก เ ก็ บ ยิ้ ม
https://www.facebook.com/keptyoursmile/
เ ขี ย น : มนุษย์ตัวเล็ก
มนุษย์ตัวเล็ก
วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 15.06 น.