ทะเล กับ ความรัก มีหลายสิ่งที่มีความคล้ายคลึงกัน
มีเวลาที่สงบนิ่ง ชวนหลงไหล และ มีเวลาที่รุนแรง ดั่งพายุพัดโหมกระหน่ำ
แต่ถึงจะน่ากลัวอย่างไรก็ตาม ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า ทุกคนก็ยังอยากที่จะไปทะเล
และเช่นกันกับความรักที่ทุกคนโหยหา แม้ไม่รู้ว่าปลายทางจะเป็นอย่างไร
สำหรับผมนั้น ทะเลกับความรัก คือ สิ่งที่แยกจากกันไม่ได้ ทำไมหรือครับ เพราะว่าทะเลคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
เมื่อครั้นเริ่มจำความได้ สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่ชอบและไปบ่อยที่สุดที่พ่อและแม่พาไปคือทะเล หรือ สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่ไปกับแฟนของผม ก็เป็นทะเลเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมตัวผมเองถึงได้ชอบที่จะไปทะเล ผมเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านก็น่าจะมีความรักในทะเลเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะสถานที่ ที่ชื่อว่า "ประจวบคีรีขันธ์"
เมื่อพูดถึง อำเภอสามร้อยยอด เราก็มักจะนึกถึง อุทยานแห่งชาติ ที่มีบึงบัว(ทุ่งสามร้อยยอด)ขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา, เทือกเขาหินปูนตั้งตระหง่าน หรือ พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ใน ถ้ำพระยานคร ซึ่งทุกที่ที่กล่าวมานั้น มีความสวยงามมาก และคุ้มค่ากับการที่จะเดินทางไป
แต่ในวันนี้ เราจะมาพูดถึง โรงแรมๆหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในสถานที่ ที่ไม่คิดว่าจะมีโรงแรมที่ครบครันขนาดนี้ตั้งอยู่ได้ พร้อมแล้วก็ติดตามต่อไปกันเลยครับ
โรงแรม La Isla Pranburi Beach Resort (ลา อีสลา ปราณบุรี)
ตั้งอยู่ ณ บริเวณปลายสุดของแหลม หาดบางปู อำเภอสามร้อยยอด และด้วยความที่เป็นโรงแรมเดียวที่ตั้งอยู่บริเวณปลายแหลมนี้เอง ทำให้ชายหาดทั้งหมด เป็นชายหาดส่วนตัวของโรงแรมไปโดยปริยาย มีความสะอาด และมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก
ตัวโรงแรมจะมีทั้งหมด 48 ห้อง แบ่งออกเป็น ห้องประเภทต่างๆดังนี้
1. Deluxe Seaview --> พื้นที่ห้องขนาด 44 ตร.ม. โดยห้องจะอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร มีAmenitiesต่างๆให้อย่างครบครัน
2. Deluxe Pool Access --> จะเหมือนห้องพักประเภทเริ่มต้น แต่อยู่ที่ชั้น1แทน และเปิดประตูระเบียงลงสระได้ทันที
3. Suite --> ห้องมีขนาดใหญ่มากขึ้น พื้นที่ห้อง 43 ตร.ม. เพิ่มฟังก์ชั่นห้องLiving Room พร้อม Sofa bed และมีอ่าง Jacuzziให้ ในขณะที่ห้องก่อนหน้าไม่มี
4. Pool Villa --> เป็นห้องtypeที่ใหญ่ที่สุดในโรงแรม โดยมีขนาดถึง 140 ตร.ม. ประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน และมีห้อง Living room ส่วนกลางไว้ใช้ร่วมกัน และที่โดดเด่นสุดด้วย สระว่ายน้ำส่วนตัว เรียกได้ว่าตอบโจทย์ สำหรับคนที่ชอบความ Private และ เป็นครอบครัวใหญ่
ระหว่างทางเดินไปเช็คอินน์ ก็จะพบกับลานกว้างที่ปลูกหญ้ากับปลูกต้นไม้ เขียวชะอุ่ม ดูสงบร่มเย็น อาคารLobby ออกแบบเป็นทรงเรือใบ ให้บรรยากาศเป็นไปในทางเดียวกับโทนทะเล
ตัวอาคารLobby มีความโอ่โถง มีเก้าอี้จัดไว้เพียงพอสำหรับแขกที่รอเข้าเช็คอินน์ เจ้าหน้าที่ปฎิบัติตามมาตราการ DMHTT ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด มี partition กั้นอย่างดี
สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูป โรงแรมนี้มีพื้นที่ให้ถ่ายรูปมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ บริเวณLobbyของโรงแรม
ในวันนี้ เราไม่ได้พักในแบบ room type เริ่มต้น เนื่องจากห้องพัก เต็มเกือบ 100% เลยเลือกเข้าพัก ห้องประเภท Suite ที่มีเพียง 2 ห้อง ทั้งโรงแรมแทน
ห้องพักประเภท Suite จะถูกแยกออกมาจากอาคารหลักของตัวโรงแรม โดยจะตั้งอยู่ชั้น 2 ของอาคารที่เป็นที่ตั้งของสปา เพื่มความprivateของแขกผู้เข้าพักมากขึ้น
ขึ้นบันไดไปห้องพักกันครับ
มาถึงห้องพักแล้ว วันนี้เราพักห้องหมายเลข 502 ครับ
เปิดประตูเข้ามาก็จะพบกับ Living Room มี Sofa 2 ตัว โต๊ะขาสั้นไว้วางของเวลาดูทีวี ตู้เย็น โต๊ะทำงาน พร้อมแอร์ที่แยกออกจากห้องนอน ถือว่าครบครันเลยทีเดียว
ระหว่าง Living Room กับห้องนอน จะมีประตูเลื่อนสไลด์ เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว และยังช่วยป้องกันกลิ่น ในกรณีที่นำอาหารเข้ามากินภายในห้องได้
ห้องนอน เป็นเตียง King size ขนาด 6 ฟุต นุ่มกำลังดี พร้อมหมอนให้ 4 ใบ + หมอนเสริมอีก 2 ใบ เพียงพอต่อคนที่ชอบหมอนเยอะเช่นผม ในห้องมีทีวีอีก 1 เครื่อง และ แอร์แยกจากห้อง Living Room เพดานสูง โอ่โถง เปิดเข้ามาแรกๆ ค่อนข้างร้อนเลยทีเดียว แต่ด้วยแอร์จำนวน 2 ตัว เพียงพอต่อทำความเย็นให้ห้อง ใช้เวลาไม่นาน อากาศในห้องก็เย็นขึ้นทันตา
วิวที่ได้จากในห้องนอน จะเป็นวิวของคลองบางปู และภูเขาหินปูน ที่มีเรือจากหมู่บ้านชาวประมงแล่นผ่าน มีบรรยากาศที่เห็นวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านเอกลักษณ์ของท้องถิ่น แต่วิวห้องSuiteนี้ จะแตกต่างจากห้องTypeอื่น ที่จะเห็นวิวทะเลแบบเต็มๆ ซึ่งก็จะแลกมาด้วย ความเป็นส่วนตัวที่ลดลงและ ความวุ่นวายหากมีแขกมาก เมื่อเทียบกับห้องแบบSuiteที่แยกอาคารออกมานี้
มาถึงอีกหนึ่งไฮไลต์ของห้องที่แตกต่างจากห้องTypeอื่น ก็คือ ห้องน้ำที่มีอ่าง Jacuzzi ขนาดอ่างกำลังพอดีสำหรับ 1 คน พร้อมด้วย Rain Shower ที่แยกต่างหากจากตัวอ่าง
วิวที่มองออกไป ก็เป็นวิวเดียวกันกับห้องนอน แต่สำหรับแขกที่อาจจะเขินอาย หรือกังวลว่าจะมีคนนอกมองเข้ามา ทางโรงแรมเขาก็มีม่านมู่ลี่แบบญี่ปุ่นขึ้นลงได้ เพื่อเพิ่มความPrivacy แต่ไม่เพียงเท่านั้น! ยังมีม่านขนาดยักษ์ ที่อยู่นอกอาคาร ปรับเลื่อนลงมาปิดได้โดยใช้รีโมทจากภายในห้อง เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดดและ เพิ่มความเป็นส่วนตัวอีกขั้นหนึ่ง เก๋มากๆ ดังนั้น หมดห่วงเรื่องสายตาจากภายนอกได้เลยครับ
มุมมองจากด้านชิดกระจก มองมายังภายในจะเห็น โถสุขภัณฑ์และประตูเปิดออกไปยังบริเวณห้องนอน
Minibar พร้อมกับตู้เซฟ ขนมขบเคี้ยวพร้อม ในราคาที่ไม่แพงมากเมื่อเทียบกับที่อื่น
เมื่อสำรวจห้องกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาไปเล่นสระว่ายน้ำ ที่ถือว่าเป็นอีก 1 ไฮไลต์ของการเข้าพักโรงแรม
ป้ายบอกทาง ชี้ไปยังสระว่ายน้ำที่เรากำลังจะไป
ทางไปสระว่ายน้ำ จะต้องเดินผ่านอาคารหลักของโรงแรมเสียก่อน
เห็นสระว่ายน้ำกับทะเลแล้ว บรรยากาศดีมาก
สระว่ายน้ำที่นี่ มีขนาดความยาวถึง 50 เมตร โดยมีสะพานพาดผ่านตรงกลางที่สามารถว่ายน้ำลอดผ่านไปได้ ห้องพักประเภท Pool Access จะสามารถลงสระได้ทันทีเพียงแค่เปิดประตูออกจากห้องพัก
ว่ายน้ำ พร้อมมองวิวทะเล ภูเขาหินปูน ให้บรรยากาศที่น่าตื่นตา
ถึงแม้ว่าตัวสระว่ายน้ำ จะไม่ได้เป็นแบบ Infinity pool ติดทะเล แต่ก็มี ลานหญ้าเขียวขจี ขนาดเท่าสนามฟุตบอลมาตรฐาน เอาไว้ให้แขกได้ทำกิจกรรมหย่อนใจ หรือ สามารถจัด Event ริมทะเล ได้สะดวกเหมาะ
สามารถนั่งเก้าอี้ชายหาด อาบแดด รับลมทะเล ไปพร้อมกับชมลานหญ้าเขียวขจี เป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายสำหรับการพักผ่อน
เมื่อมองย้อนกลับมาจากชายหาด ก็จะเห็นตัวอาคารโรงแรมตั้งตระหง่าน โดยมีแบคกราวน์ด้านหลังเป็นเขาหินปูน และท้องฟ้าสีฟ้าครามตัดกับลานหญ้าสีเขียวขจี
อีก 1 กิจกรรมที่ห้ามพลาด แต่ผมพลาด เพราะเล่นน้ำสระเพลิน ก็คือ พายเรือแคนู บริเวณคลองบางปู และ ทะเล ซึ่งทางโรงแรงจัดให้มีเรือพายแคนู สำหรับแขกผู้เข้าพักได้ใช้บริการฟรี เสียดายมากที่ไม่ได้ไปทำกิจกรรม แต่โอกาสหน้ายังมี ไว้กลับมาเที่ยวใหม่คราวหน้า จะไม่พลาดอย่างแน่นอน
ลาดจอดรถของที่นี่จะมี 2 ลานด้วยกัน ลานจอดแรกจะอยู่ติดกับทะเล โดยมีทางเข้าออกเป็นถนนหินกรวดเล็กๆ นำพารถไปยัง ลานจอดที่ติดอยู่กับลานหญ้ากว้าง ข้างสระว่ายน้ำ ส่วนอีกลานหนึ่งจะถึงก่อนบริเวณLobbyของโรงแรม ทำให้มั่นใจได้ว่า มีที่จอดรถเพียงพออย่างแน่นอน ในวันที่เข้าพัก ทางโรงแรมแจ้งว่าแขกเต็มเกือบ 100% แต่ที่จอดรถก็ยังเหลือเพียงพอต่อแขก ยอดเยี่ยมเลยครับ
ลานจอดรถริมทะเลโรยหินกรวด เพียงพอต่อแขกทุกคนที่เข้าพัก
เรือประมงพื้นบ้าน แล่นออกมาตามคลองจากหมู่บ้านชาวประมงบ้านบางปู เพื่อออกทะเลจับปลา
เล่นน้ำกันจนเหนื่อย เวลาเย็นมาถึงก็ต้องหาสถานที่ฝากท้อง ทราบมาจากพี่พนักงานโรงแรมว่า ที่ตลาดลงเล บริเวณชายหาดสามร้อยยอด มีตลาดนัดขายอาหารทะเลปรุงสดใหม่ และอาหารนานาประเภท ไม่รอช้า รีบออกเดินทาง ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจากโรงแรมก็ถึงหาดสามร้อยยอด ณ วันที่เรามา (กย 65) มีนักร้อง เขียนไขและวาณิช มาร้องเพลง ทำให้ตลาดคึกคักเป็นพิเศษ ผู้คนมานั่งรอดูคอนเสิร์ตกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
มีร้านอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย ตามความชอบของแต่ละบุคคล
นั่งกินอาหารริมทะเล ชมวิวเกาะโครำ และเกาะนมสาวเบื้องหน้า
สำหรับผม เลือกซื้อ หอยเชลล์อบเนยร้อนๆ มานั่งกิน ชมวิวพระอาทิตย์ตก ที่หน้าหาดสามร้อยยอด และจบไปอีก 1 วัน
เช้าวันถัดมา ก็ถึงวันเดินทางกลับซะแล้ว สำหรับอาหารมื้อเช้า ทางโรงแรมจะเสริฟ์ที่ ห้องอาหาร Pulakorn ซึ่งห้องอาหารนี้จริงๆแล้ว จะขายอาหารแบบ All-day-dining คือ สามารถมาฝากท้องได้เช้ายันค่ำ โดยความพิเศษของที่นี่คือ อาหารทะเลจะรับซื้อมาจากชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง ทำให้อาหารทะเลที่นี่สดใหม่อยู่เสมอ และทำให้ขายได้ในราคาที่ไม่แพง เรียกได้ว่า สามารถใช้วันหยุดอยู่แต่ในโรงแรมได้สบายๆ
ห้องอาหาร Pulakorn จะอยู่ด้านหลัง อาคาร Lobby นี่เอง
อาหารเช้า ... ทางโรงแรมมีให้เลือกหลากหลาย จากอาหารเช้าสไตล์American ขนมปัง ไส้กรอก ไข่ดาว เบคอน หรือ แบบไทยๆ ข้าวผัด ข้าวต้ม ปาท่องโก๋ ผัดผักต่างๆ
อาหารที่นี่อาจจะไม่ได้เลิศหรูนัก ด้วยขนาดโรงแรมที่ไม่ได้มีจำนวนห้องพักมากมายอะไร กับ ขนาดห้องอาหารที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ แม้คนจะเยอะ แต่อาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ไม่มีขาด และ รสชาติอาหารอร่อยกว่าโรงแรมขนาดใหญ่บางโรงแรมเสียอีก ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงถึงความใส่ใจของโรงแรมต่อแขกทุกคนที่ใช้บริการ
ตัวไลน์อาหารอาจจะไม่ได้ถ่ายมา เนื่องจาก ผู้เข้าพักเยอะมากที่มาใช้บริการและเกรงใจแขกท่านอื่น จึงขอเก็บบรรยากาศถายในห้องอาหารมาฝากแทน
เมื่ออิ่มท้องแล้ว ก็ขอเดินย่อยอาหารรอบโรงแรมอีกสักเล็กน้อย ก่อนที่จะเก็บของเตรียมตัวเดินทางกลับ
เดินไปรอบๆโรงแรมจะพบว่า ต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่นมาก มีพื้นที่ให้นั่ง จัดให้มีโต๊ะนั่งรับลมเย็นๆ สบาย
บรรยากาศโดยรอบก็จะร่มรื่น เห็นมีพนักงานคนสวน คอยรดน้ำและตัดต้นไม้ จึงเข้าใจได้เลยว่า ทำไมต้นไม้ของที่โรงแรมนี้ จึงสวยงามอยู่เสมอ และสะอาด ไม่มีใบไม้หล่นบนทางเดินเลยแม้แต่ใบเดียว
เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอกับเจ้าของโรงแรมตัวจริง เดินร้องเหมียวๆเข้ามา มาถึงก็ทิ้งตัวลงนอนขวางทางเดิน ว่าแล้วก็ขอจกพุง 1 ที
เขียวชะอุ่มร่มรื่นไปทุกพื้นที่เลยจริงๆ
มุมนั่งถ่ายรูป ก็มีให้เลือกมากมาย
สรุปโดยรวม
โรงแรมนี้เหมาะสำหรับ คู่รัก และ ครอบครัว ที่ชอบเที่ยวทะเล เล่นน้ำสระว่ายน้ำ เล่นน้ำทะเล ต้องการความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง ไม่ได้เน้นออกไปเดินตลาดโต้รุ่งอะไรมาก หรือ เน้นเที่ยวบริเวณสามร้อยยอดเป็นหลัก เนื่องด้วย โรงแรมตั้งอยู่สันโดษบริเวณปลายแหลม เป็นหาดส่วนตัว
- การเดินทางสะดวกสบาย มีที่จอดรถเพียงพอให้ผู้เข้าพักทุกท่าน ไม่มีการจอดรถซ้อนคันให้ต้องพะวงใจ
- อาหารสดสะอาด และอร่อย โดยเฉพาะอาหารทะเลที่ได้มาจากหมู่บ้านชาวประมงโดยรอบ คุ้มค่า
- ห้องพักให้อุปกรณ์มาแบบครบครันเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป ห้องอาจจะไม่ได้ใหม่มาก หรือตกแต่งอลังการ แต่ความสะอาด และบำรุงอุปกรณ์สภาพห้องต่างๆ ให้อยู่ในสภาพดีและใช่งานได้ น้ำร้อนสม่ำเสมอ ไม่มีข้อข้องใจใดๆ
จุดสังเกต
- บริเวณห้องพักSuiteอยู่ติดกับคลองบางปู ซึ่งช่วงเช้าตี5 - 6 โมงเช้า จะมีเรือประมงที่กลับมาจากการหาปลาเข้าฝั่ง เสียงเรือจะค่อนข้างดัง หากใครที่ไม่ชอบให้เวลานอนมีเสียงดังรบกวน แนะนำให้นอนบริเวณตึกหลักน่าจะดีกว่า แต่สำหรับผม ไม่มีปัญหาอันใด
- ทางเข้าโรงแรม ค่อนข้างแคบ และ รถสวนกันลำบาก เพราะต้องผ่านบ้านของชาวบ้านชาวประมง โดยเฉพาะทางไปที่จอดรถที่ติดกับลานสนามหญ้าบริเวณปลายแหลม ข้างหนึ่งเป็นคลองทะเล ถ้าขับมาแบบเร็วๆ อาจจะตกลงไปได้ แนะนำให้ขับด้วยความระมัดระวัง ทางโรงแรมมีการจัดไฟแสงสว่างอย่างเพียงพอ แต่ด้วยความที่สถานที่ตั้งโรงแรมอยู่ปลายแหลม จึงหลีกเลี่ยงเส้นทางไม่ได้ ซึ่งก็ถือว่าเข้าใจได้
สุดท้ายนี้ จากข้อสรุปข้างต้น ก็พอจะสรุปได้ว่า La Isla Pranburi เป็น โรงแรมบริเวณเขาสามร้อยยอดที่น่าเข้าพักแค่ไหน และผมอยากจะแนะนำให้ผู้อ่านทุกท่าน ได้มาสัมผัสโอกาสการเข้าพักแบบนี้ด้วยตัวคุณเอง แล้วจะไม่ผิดหวัง
ขอขอบคุณทุกท่าน ที่อ่านบทความท่องเที่ยวนี้จนจบ สำหรับการท่องเที่ยวในรีวิวครั้งหน้ากับผม Supernovamann จะเป็นที่ไหนนั้น ขอฝากติดตามผมได้ทาง เพจ FB page ที่ลิ้งค์ด้านล่างได้เลยนะครับ
Info
📍 โรงแรม La Isla Pranburi Beach Resort
🏠 ที่อยู่ : 99/9 Moo 8 Sam Roi Yot,, Tambon Sam Roi Yot, Prachuap Khiri Khan, 77120, Thailand
☎️ เบอร์โทรศัพท์ : 032-900-353
🌐 Website : Pranburi Beach Resort | La Isla Pranburi Beach Resort
🚩พิกัด : https://goo.gl/maps/XccY3c5DZk...
📍ตลาดลงเล หาดสามร้อยยอด
⏰เวลาเปิด/ปิด : ทุกวันเสาร์ เวลา 17:00 - 22:30 น.
🚩พิกัด : https://goo.gl/maps/bwH1S7nnvB...
Supernovamann
Life is a Journey
เพราะชีวิตคือการเดินทาง
Supernova Mann
วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 13.03 น.