DOI MAMUANG SAM MUEN 🌲
พิชิตยอดดอยมะม่วงสามหมื่น + น้ำตกเปรโต๊ะลอซู
🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲
วันนี้เราพาทุกคนเดินทางมาที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก หนึ่งในอำเภอที่อยู่ไกลมากๆ จากตัวเมืองตาก และต้องผ่าน 1,219 โค้งจากแม่สอดขึ้นดอยลงมากว่าจะถึงอุ้มผาง ทริปนี้เป็นทริปหลอกแฟนมาเดินป่าหน้าฝนที่ต้องลุยทั้งฝน ลุยทั้งโคนเกือบตลอดเส้นทางการเดินป่า 😂😅
ทริปนี้เป็นทริปหารเฉลี่ยใช้งบในการเที่ยวไม่เยอะมากค่ะ ใช้เวลาในการมาเที่ยว 3 วัน 2 คืน แต่ของเราสองคนหมดไปเกือบ 5 วัน เพราะเราตัดสินใจขับรถไปนอนบ้านลุงลพ(ไกด์) ก่อน 1 คืนเพื่อพักเอาแรงก่อนเริ่มเดินป่าจริงๆ 1 วัน เพราะเส้นทางไปอุ้มผางก็เรียกได้ว่าไกลพอสมควร ถึงแม้เราจะเดินทางจากเชียงใหม่ไปแต่ก็กินระยะเวลาเพราะทางขึ้นเขาชันและโค้งเยอะ ขนาดเราออกเดินทางตั้งแต่ 6 โมงเช้าจากเชียงใหม่ไปยังไปถึงอุ้มผางเกือบๆ สี่โมงครึ่งตอนเย็น 😅
เส้นทางเดินป่าดอยมะม่วงสามหมื่นกับระยะทางไกลที่ต้องใช้เวลาเดิน5-6 ชม. สำหรับเดินขึ้นยอดดอยที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,650 กิโลเมตร แถมตลอดเส้นทางก็ชวนหวาดเสียวนิดๆ สำหรับคนที่กลัวความสูงหน่อยๆ แบบแฟนเราที่ถูกลากไปด้วย 😂 พวกเราเริ่มเดินขึ้นยอดดอยคือวันที่ 2 หลังจากมาตั้งแคมป์นอนในป่าได้ 1 คืน เอ็งเอ้ย!!! เดินตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปถึงยอดดอยตอนบ่ายสอง 😅 เดินไปพักไป นั่งกินข้าวเที่ยงบนดอยดูวิวชิวๆ ไปค่ะ ระหว่างทางขึ้นก็เจออุปสรรค์บ้างคือ "ฝน"
ขาเดินลงก็เจอทั้งฝนและพื้นลื่นก้นจ้ำเบ้าไปกันหลายรอบค่ะ ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินมากๆ แนะนำว่าจะมาทริปนี้เรื่องรองเท้ากับไม้เท้าเดินป่านั้นสำคัญมากๆ ค่ะ ถ้าหาได้ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง !!! เพราะคุณจะต้องเจอโคนตั้งแต่เส้นทางเดินมาจุดตั้งแคมป์และสิ่งที่คนในทีมของเราเจอกันก็คือรองเท้าติดโคนค่ะ!! โดนโคนดูดกันไปบ้างบางคน ช่วยกันจับ ช่วยกันพยุง ขุดหารองเท้าใต้โคนกันไป เราว่าเสียเวลาไปกับตรงนี้แหละกว่าจะไปถึงจุดตั้งแคมป์ 555+
ส่วนที่แคมป์ไม่มีสัญญาณมือถือนะจ้ะ คุณต้องตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างแท้จริงเป็นเวลา 3 วัน บนนี้มีห้องน้ำให้ใช้ค่ะ แต่ส่วนมากเอาไว้ปดทุกข์ เรื่องการอาบน้ำส่วนใหญ่ทุกคนจะใช้ลำธารที่อยู่ข้างล่างแคมป์ ซึ่งน้ำเย็น ใสสะอาดค่ะ สำหรับผู้หญิงบางคนก็อาจจะเตรียมผ้าถุงไปด้วยก็ดีนะคะ ถ้าใครไม่ได้เอาไปก็อาบแบบทั้งที่ยังใส่เสื้อผ้าอยู่ก็ได้แล้วค่อยไปเปลี่ยนชุดเอาทีหลัง
ทริปนี้เรามาแบบหารเฉลี่ย ไม่เคยรู้จักเพื่อนร่วมทริปมาก่อนเลยสักคน ทุกคนต่างก็เดินทางมาจากต่างสถานที่กันไป แต่พอได้มาเจอกัน ได้มาลำบากร่วมชะตากรรมกันในป่าก็ถือว่าได้มิตรภาพใหม่ๆ ตลอดเส้นทางการเดินป่า 3 วันนี้ อ้อ!! ตอนแรกเราจะมากันสองคนกับแฟน แต่บังเอิญไปเจอพี่คนนึงโพสหาเพื่อนร่วมทริปในกลุ่มคนเดินป่าซะก่อนก็ได้เลยมาร่วมแจมทริปกับเขานี่ล่ะค่ะ บางทีการหาเพื่อนร่วมเดินทางมายังที่เดียวกัน ความชอบแบบเดียวกันแบบนี้มันก็ดีนะ ช่วยเซฟเรื่องค่าใช้จ่ายไปได้เยอะมากๆ แถมยังได้รู้จักผู้คนใหม่ๆ มิตรภาพใหม่ๆ อีกด้วย
เส้นทางขึ้นไปอุ้มผางระยะทางเกือบๆ 165 กิโลกับ 1,219 โค้งชวนอ้วกมากๆ จ้า
ใครคิดจะมาเราแนะนำเอากระบะขึ้นมาเถอะค่ะ (หัวเราะทั้งน้ำตา) เก๋งเราเกือบไปไม่รอด
มาถึงบ้านลุงลพแล้ว นอนค้างบ้านไกด์ก่อน 1 คืน เซฟแรงตัวเองเอาไว้เดินป่าต่อค่ะ
เส้นทางเริ่มเดินก็เจอทั้งน้ำทั้งโคนกันไปเลย
รองเท้ากับไม้เท้าเดินป่าสำหรับทริปนี้คือสำคัญมากๆ คุณได้ใช้คุ้มแน่นอนถ้าซื้อมา
พี่ๆ ร่วมทริปขุดหารองเท้า 555+
นี่มาเดินป่าหรือมาช่วยชาวนาเขาดำนากันค่ะ สภาพแต่ละคน!!
ระหว่างทางเดินไปยังจุดตั้งแคมป์จะมีชาวบ้านขายเครื่องดื่มเย็นๆ อยู่ข้างทาง
ราคาก็แอบแรงอยู่แต่ถ้าอยากหายเหนื่อยจากการเดินป่าแบกเป้คุณก็ต้องยอมจ่าย
ระหว่างทางเจอวิวสวยๆ เยอะมาก อันนี้เป็นทุ่งข้าวโพดค่ะ
นี่เดินมาได้ครึ่งทางดูสภาพรองเท้าก่อน!!!
ถึงจุดตรวจทางเข้าไปจุดตั้งแคมป์คือคุณมาได้ครึ่งทางแล้ว ยินดีด้วยค่ะ ไปต่อ!!
ทริป 3 วันขาดการติดต่อจากโลกภายนอก ของที่แบกมาบนหลังก็เตรียมมาให้พร้อมนะคะ
อะไรไม่สำคัญอย่าแบกมา เพราะมันจะเป็นตัวถวงคุณสำหรับการเดินมากๆ กว่าจะถึงแคมป์ เหนื่อยโว้ย!!
บางทีก็ถามตัวเองไม่ได้เหมือนกันนะว่าทำไมต้องพาแฟนมาลำบากแบบนี้ด้วยวะ 555+
แต่เพื่อนร่วมทริปแต่ละคนเราว่าก็คงแอบเสพติดความลำบากกันอยู่พอควรถึงกล้ามาป่านี้
กางเต็นท์ตั้งแคมป์เสร็จตอนบ่ายสามเราก็ต้องรีบเดินตัวปิวเข้าป่ากันต่อไปยังน้ำตกเปรโต๊ะลอซูค่ะ
สามคนที่เหลือตกรอบไปแล้ว บอกสังขารไม่ไหวขอพักหายใจที่แคมป์ เลยมีแค่เรา 4 สาวเดินเข้าป่ากันมาต่อยังจุดๆ นี้ บอกเลยว่าสวยมากกกก หอบแดกก็หอบแดก แต่ก็อยากได้รูป 555+
น้ำตกเปรโต๊ะลอซู (ปิตุ๊โกร) หรือน้ำตกรูปหัวใจ
กระโดดโลดเต้นกับพอใจแล้วก็รีบเดินกลับค่ะ เพราะใกล้มืดค่ำแล้ว เดี๋ยวจะเดินลำบาก เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ เดินสวนกลับลงไปตั้งแต่พวกเราเริ่มเดินขึ้นมากันแล้ว บนนี้เลยไม่มีใครเลยนอกจากเรา 4 คน
น้ำในลำธารใสมากๆ แล้วก็เย็นชื่นใจด้วย เป็นจุดที่เราต้องมาอาบน้ำค่ะ ถึงบนแคมป์จะมีห้องน้ำให้หลายห้องแต่ส่วนมากก็เหมาะเอาไว้ปลดทุกข์เสียมากกว่า ทุกคนจะอาบน้ำที่ลำธารกันค่ะ เรียกได้ว่ามาติดป่าอย่างแท้จริงถ้าไม่รวมว่ามีห้องส้วมให้เข้าอ่ะนะ แต่ถ้าไม่มีก็คงลำบากต้องขุดหลุมปลดทุกข์ 55+
เช้าวันต่อมาเราตื่นกันตั้งแต่ตีห้า ช่วยกันทำกับข้าว กินข้าวเตรียมของนิดหน่อยและอาหารเที่ยงขึ้นไปกินระหว่างทางเดินขึ้นยอดดอยมะม่วงสามหมื่นค่ะ ใช้เวลาเดินราวๆ 5 ชม. ระยะทางไกลพอสมควรแล้วก็ทางชันและเจอฝนบ้างนิดหน่อย พกเสื้อกันฝนกับน้ำดื่มกันไปด้วยนะ อย่าเอาไปแต่ข้าวเที่ยง
เดินไปพักไปค่ะ ชิวๆ ไม่ต้องรีบ มีเวลากันทั้งวัน
เส้นทางเริ่มโหดขึ้นเรื่อยๆ จากที่ต้องใช้ไม้เท้าเดินป่าช่วยพยุงดันตัวเองขึ้นเนินก็ต้องมาจับเชือกไต่ขึ้นไปเพราะตรงนี้ชันมากๆ และเป็นจุดอันตรายที่ต้องใช้ความระมัดระวังค่ะ
ข้างหลังมองลงไปเราจะเห็นวิวน้ำตกรูปหัวใจอยู่ไกลๆ หมอกลงหนามาก ต้องรอฟ้าเปิด
กว่าจะมาถึงจุดชมวิวจุดแรกก็หอบแดกกันไปล้านรอบค่ะ
ขนาดน้องหมายังเดินมาไหว ถ้าคนไม่ไหวนี่คงอายหมา
ไปกันต่อค่ะ นี่ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทาง แวะกินข้าวเที่ยงกันสักพักก็เริ่มออกเดินทางต่อ เดินไปตามไหล่เขาผ่านเขาสองสามลูกกว่าจะไปถึงยอดมะม่วงสามหมื่น
ระหว่างทางวิวสวย หมอกปัง ธรรมชาติงดงามจริงๆ
ฝนก็เทลงมา เดี๋ยวฝนเดี๋ยวแดด จนไม่รู้จะร้อนหรือหนาวดีนะ?
แต่ถ้าได้ขึ้นมาบนนี้แล้วบอกเลยว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อยที่ต้องเสียไปจริงๆ นะ
เพราะได้วิวเหมือนต่างประเทศจริงๆ ตรงจุดนี้คือหลงมากกกกก!! (ก.ล้านตัว)
มาถึงกันแล้ว ได้เป็นผู้พิชิตยอดดอยมะม่วงสามหมื่น กับระยะทางโหดเอาเรื่อง
ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,650 เมตร มานี่ได้ทั้งพิชิตยอดดอยและยังได้เห็นวิวน้ำตกรูปหัวใจแบบเต็มๆ
ทริปนี้ต้องขอบคุณลุงลพจริงๆ ค่ะ ที่พาทุกคนเดินลากสังขารได้มาจนถึงบนนี้
พอรู้ว่าต้องเดินกลับนี่ก็แอบถอนหายใจกันอยู่นะ แต่ท้องไส้ก็เริ่มเหมือนจะหิวอีกรอบ รีบกลับลงไปที่แคมป์เตรียมตัวทำกับข้าวเติมพลังกันดีกว่า
อ้อ บนนี้มีสัญญาณมือถือนะคะ ถ้าใครอยากโทรศัพท์ก็โทรบนนี้ได้เลยก่อนลงไป
มาแล้วไม่ผิดหวังค่ะ ถึงจะเหนื่อยแต่คุ้มกับค่าเหนื่อย ไปหลอกเพื่อน หลอกแฟนมาเดินสิ คุณจะโดนบ่นแป๊บๆ แต่พอคนถูกหลอกให้มาเห็นวิวแบบนี้ก็จะเลิกบ่นเอง 555+
ทริปวันที่ 24 - 26 ก.ย. 65
เรากลับจากเดินป่า วันที่ 27 กันยายน 2565
(นอนค้างตากอีก 1 คืน เพราะลงมาจากป่ากว่าจะถึงตัวเมืองตาก็มืดค่ำแล้ว)
🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲
สรุปค่าใช้จ่ายทริปหารเฉลี่ยรวมทั้งสหมด 7 คน
- ค่าอาหารที่ซื้อไปช่วยกันทำกินเองในป่า 3 วัน หารกันตกคนละ 244 บาท
- ค่ารถนำขึ้นไปยังจุดเริ่มเดินป่า 3,000- ค่าไกด์คนนำทาง 1,500- ค่าอาบน้ำ 20 - ค่าเข้าน้ำตก 40 - ค่ากางเต็นท์ 30
รวมแล้วหาร 7 ตกคนละ 733 บาท
สรุปทริปนี้หมดไปทั้งหมดรวมค่าอาหารตกคนละ 977 บาท(ยังไม่รวมค่าน้ำมันรถค่าเดินทางมาที่บ้านลุงลพของแต่ละคนค่ะ)
😎😎😎😎😎😎
สนใจเดินป่าดอยมะม่วงสามหมื่นติดต่อไกด์
เฟสบุ๊คลุงลพ : ลุงลพ อุ้มผาง
เบอร์โทรติดต่อ : 087-2124773
🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌲
การเดินทางไปอุ้มผาง : https://goo.gl/maps/3nHRiXayUA...
แผนที่ไปบ้านไกด์ : https://goo.gl/maps/v9RmRdUF2S...
#เที่ยวให้โลกจำ #เที่ยวไทย #เที่ยวไทยเท่ #เที่ยวป่า #รีวิวเที่ยว #รีวิวเดินป่าไทย #รีวิวเดินป่า #เดินป่าไทย #เดินป่า #ธรรามชาติบำบัด #เที่ยวเหนือ #อุ้มผาง #ตาก #เที่ยวตาก #ดอยมะม่วงสามหมื่น ##น้ําตกเปรโต๊ะลอซู #น้ำตกปิตุ๊โก #รีวิวเที่ยว #amazingthailand #thailand #Tak
เที่ยวให้โลกจำ
วันพฤหัสที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 10.56 น.