ก่อนหน้านี้ผมเคยเห็นภาพซาซิมิอาหารทะเลแบบสดๆ พร้อมด้วยหัวและหางปลา เสริฟมาอย่างโดดเด่นในจานใบใหญ่ เห็นแล้วน่าสนใจมากๆ จนต้องไปสืบหาที่มาร้านสักหน่อย จนสุดท้ายได้ข้อมูลมาว่าเป็นของร้าน "หรอยในหลืบ" ร้านชื่อแปลกๆ แถมอยู่ที่หัวหินโน่น แถมถ้าจะไปเค้าแนะนำกันว่าต้องจองก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะผิดหวังได้ เลยเล็งๆไว้ตลอดว่า ถ้าได้ไปหัวหิน จะต้องไปพลาดไปที่ร้านนี้อย่างแน่นอน จนเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนได้ไปหัวหินจนได้ มาดูกันครับว่าร้านนี้เป็นอย่างไร
เนื่องด้วยวันที่ไปเพิ่งได้ iPhone14 Pro Max มาพอดี เลยอยากจะลองทำรีวิวอาหารด้วยภาพจาก iPhone14 ดูบ้าง ภาพนิ่งและคลิปทั้งหมดในรีวิวนี้ถ่ายจาก iPhone14 Pro Max แล้วนำไปแต่งต่อในคอมนะครับ เรียกได้ว่ารีวิวทั้งร้านอาหาร ทั้งโทรศัพท์ไปด้วยเลย
ร้านชื่อแปลก หรอยในหลืบ จากที่ลองไปค้นดู คำว่าหรอบเป็นภาษาใต้ แปลว่าอร่อย ส่วนคำว่าในหลืบ มาจากการที่ร้านตั้งอยู่ในตำแหน่งของท้ายซอยที่เข้ากับคำว่าในหลืบ เลยออกมาเป็นชื่อร้านว่า หรอยในหลืบ อาหารที่ร้านขายมีอาหารใต้ชนิดต่างๆ และที่โดดเด่นคือ มีพวกอาหารทะเล ซาซิมิต่างๆ ที่สดอร่อย รวมไปถึงมีเนื้อระดับ A4, A5 ขายอีกด้วย
สำหรับการมาที่ร้าน ตาม GPS มาเลยครับ ไม่ยากอย่างที่คิด เข้ามาในซอยจะเห็นที่จอดรถแบบในรูป สามารถเข้าไปจอดได้เลย แต่ถ้ามาช่วงคนเยอะๆจะต้องจอดซ้อนกัน และมีการเรียกให้ออกไปเลื่อนรถในบางครั้ง
ตรงข้ามกับที่จอดรถจะเห็นป้าย หรอยในหลืบ ชี้เข้าไปในซอย เห็นได้อย่างชัดเจน เดินเข้าไปเลยครับ
พอเข้าซอยไปเลี้ยวขวา จะเห็นรูปเรือเพ้นท์ไว้บนกำแพงสวยๆ เห็นแล้วก็อดเข้าไปยืนถ่ายรูปไม่ได้
ป้ายบอกเมนูแนะนำประจำร้าน
ร้านมีที่นั่งเยอะพอสมควร แต่ก็อย่าได้ประมาทไปครับ คนมาทานอาหารที่นี่ก็เยอะเช่นกัน ทางร้านแนะนำให้จองโต๊ะก่อน และจองพวกอาหารแนะนำไว้ด้วย ไม่งั้นอาจจะมีหมดก็ได้ โดยการจองอาหารก็จะมีให้มัดจำค่าอาหรไว้ด้วย ตอนผมไปมัดจำไว้ 1พันบาท
ด้านในมีขึ้นป้ายอาหารแนะนำไว้อีกแล้ววววว รู้สึกเหมือนโดนสะกดจิตให้สั่งนะ 5555
เมนูร้านทำมาดูดีเลย มีรูปประกอบไว้อย่างละเอียด เห็นแล้วอยากสั่งให้หมดทุกอย่างเลย
จานแรกมาล่ะครับ กับมันปูระโนด ราคา 120 บาท มาให้เรียกน้ำย่อย บีบมะนาว กินกับข้าวสวยและหอมแดง รสชาติมันๆหอมๆนัวๆดีครับ
เต๋าเต้ยหม้อไฟ ราคา 1,550 บาท ตอนแรกที่ได้ยินชื่อไม่รู้จักว่ามันคือชื่อปลา ชื่อน่ารักดีจริงๆ เห็นรูปครั้งแรกนึกไปถึงอาหารจีนปลาจาระเม็ดนึ่งกับขิงที่เคยกินสมัยเด็กๆ แต่พอไปหาข้อมูลมาถึงได้รู้ว่ามันปลาคนละชนิด คนละเกรดกันเลย เต๋าเต้ย อร่อยกว่า และแพงกว่ามาก เสริฟพร้อมหม้อไฟและผัก วิธีทานทางพนักงานแนะนำว่า ให้คลุกกับไข่ และอย่าลวกให้สุกมาก เอาแค่พอสุกก็พอ น้ำซุปหม้อไฟต้องบอกว่า หอม และหวานมากๆ ติดใจกันทุกคน ส่วนปลานั้น สมราคาจริงๆ เนื้อสดมากๆ เนื้อละเอียด นิ่ม เด้งละมุนลิ้น แถมเนื้อเยอะชิ้นโตๆมาเต็มๆ อร่อยมากๆเลยครับ
ไก่สับเบตงจานใหญ่ ราคา 280 บาท ไก่เนื้อนิ่มๆ พร้อมน้ำซอสสูตรเฉพาะตัวของเบตง หอมอร่อยดีครับ
ใบเหลียงผัดไข่หน้าแตก ราคา 120 บาท ปกติจะเห็นเค้าเอาใบเหลียงไปคลุกกับไข่แล้วผัด แต่จานนี้เป็นใบเหลียงผัด แล้วเอาไข่ดาวโปะมาแทน อร่อยตามมาตรฐานครับ
จานเด็ดมาแล้ว จานนี้เป็นเซ็ตเรือซาซิมิอ่าวไทย ราคา 899 บาท จานใหญ่อลังการมากๆ ในจานมีซาซิมิหลายชนิด ทั้งปลากระพง กั้ง ปลาหมึก หอยเป่าฮื้อ ปลาแต่ละชนิดก็สดมากๆ เนื้อเด้งๆ ไม่มีความคาวเลย
ยำยุกเกะปลากระพงเอจจิ้ง ราคา 180 บาท จานไม่ใหญ่มาก เป็นซาซิมิปลากระพงเอจจิ้ง ที่ราดน้ำยำแบบญี่ปุ่น ไม่ใช่น้ำยำแบบเผ็ดๆของบ้านเรา กินแกล้มกับแตงกวาผ่าซีก อร่อยเกินคาดครับ
กั้งกระดานซาซิมิ ราคา 280 บาท จริงๆมีอยู่ในเซ็ตเรือซาซิมิแล้ว แต่ไม่รู้เลยสั่งมาเพิ่ม เนื้อสดเด้งๆสู้ลิ้น หอมๆหวานๆ ไม่เคยกินกั้งแบบซาซิมิมาก่อน ติดใจซะแล้วครับ
โคตรไข่ยัดไส้ ราคา 200 บาท เป็นไข่ยัดไส้ที่รวมไข่มาสามแบบ เป็นไข่ไก่ และน่าจะเป็นไข่ปลาริวกิว อีกอันไม่แน่ใจเหมือนกัน รสชาติอร่อยปกติครับ
ซาซิมิปลากุดสลาด ราคา 1,900 บาท มาทั้งตัวเลยครับ ตัวใหญ่อยู่ ปลาสดอร่อยมากๆ ตอนสั่งเค้าถามว่า จะเอาตัวใหญ่ไหม ราคา 5,990 สามารถเอาไปทำอาหารได้ 3 แบบ แต่อยากกินแบบหลากหลายมากกว่า เลยสั่งตัวเล็ก
กุ้งมังกรเจ็ดสี ราคา 3,000 บาท เพิ่งรู้ว่ามันต่างจากกุ้งมังกรธรรมดา คือมันจะแพงกว่า และตัวใหญ่กว่า จานนี้คืออึ้งมาก กุ้งมังกรตัวใหญ่มาก และเนื้อเยอะกว่าที่คิดมาก ความสดกับความอร่อยคงไม่ต้องบรรยายล่ะ ดีงามมากๆ อร่อยสุดๆ อยากกลับไปกินอีก แต่แอบแปลกใจนิดนึง เคยไปกินกุ้งมังกรที่ร้านอาหารจีน เค้าจะเอาเลือดกุ้งมังกรไปใส่ในสไปร์ท แล้วมันจะจับตัวเป็นก้อนนิ่มๆ แล้วให้กินพร้อมสไปร์ท แต่ที่นี่ไม่มีมาให้ด้วย แอบเสียดาย
ปลาหมึกซาซิมิตัวเล็กๆน่ารัก มาทั้งตัวเลย อยู่ในเซ็ตเรือซาซิมิ
เนื้อเต๋าเต้ย ที่สุกแล้ว ตัวใหญ่ เนื้อชิ้นโตดี
สำหรับปลากุดสลาด เมื่อทานเสร็จ สามาถให้ทางร้านเอาส่วนหัวไปสับเป็นชิ้นๆ แล้วเอาไปใส่หม้อไฟของเต๋าเต้ยกินต่อได้ พอเห็นที่เค้าสับมาให้แล้ว จะเห็นว่ายังมีเนื้ออีกเยอะมากๆ แต่ต้องแทะเก่งสักหน่อย ซึ่งผมไม่ค่อยสันทัด แต่คนที่กินเป็นนี่ เห็นเค้าแทะอย่างเพลิดเพลินมากๆ
หัวกุ้งมังกรเจ็ดสี ยังสามารถให้ทางร้านนำไปย่างได้อีก พอพนักงานยกมานี่ หอมกลิ่นคล้ายๆกุ้งย่างคลุ้งไปทั่วโต๊ะเลย หอมมาก ด้านในหัวยังสามารถแทะเนื้อกุ้งมากินได้อีกพอสมควร รวมถึงมีไข่ที่สุกแล้วมาด้วย
เอาหัวกุ้งที่สุกแล้วมาตั้งบนจานใหม่
ขนาดของกุ้งมังกร น่าจะเรียกได้ว่า ตัวใหญ่เท่าแขนเลย
สำหรับของหวานมีไอติมไข่แข็งครับ รสชาติกลางๆนะครับ เคยไปกินที่อื่นมันหอมๆมันๆไข่มากกว่านี้
ค่าเสียหายทั้งหมดของมื้อนี้ครับ สำหรับราคาเรียกได้ว่าเหมาะสมกับคุณภาพเลยแหละ อาหารทุกอย่างสดมากๆ ไม่คาว รสชาติอร่อย มันปูระโนด ไก่ทอดเบตง และโคตรไข่นี่ ที่พูดถึงน้อยไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ อร่อยเลย เพียงแต่โดนอาหารอย่างอื่นที่โดดเด่นกว่ากลบไปซะสนิทเลย ถือเป็นอีกร้านที่ผมใส่ไปใน list ร้านประจำล่ะ คราวหน้าถ้าไปอีกจะต้องแวะไปอีกแน่ๆ ใครจะไปตามรอยอย่าลืมจองโต๊ะก่อนไปนะครับ และจองอาหารในเมนูแนะนำไว้เลย ถ้าจะว่าถึงข้อเสียก็มีนิดหน่อยเรื่องสถานที่ ถ้าไปช้า และต้องจอดรถปะหน้าคันอื่น เวลาเค้าจะกลับ เราจะถูกเรียกให้มาเลื่อนรถ อาจจะทำให้จังหวะการทานอาหารสะดุดลงได้ครับ
สำหรับการรีวิวการถ่ายรูปด้วย iPhone14 Pro Max ถือว่าดีกว่าที่คิดมากๆ รูปออกมาคมชัด ละลายหลังได้อย่างเนียนกว่าแต่ก่อนมากๆ ส่วนการถ่าย VDO 4K ก็ถ่ายออกมาได้ชัดเจน สีสันดีงาม เรียกได้ว่างานนี้เอามาใช้ถ่ายรีวิวอาหารได้เลย ภาพทั้งหมดถ่ายออกมาเป็น JPG นะครับ ไม่ได้ถ่าย Raw เพราะเกรงใจขนาดที่ใหญ่มาก
ติดตามกันต่อได้ที่
https://www.facebook.com/TravelofSalaryMan/
https://www.facebook.com/voravuds
Voravud Santiraveewan
วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 18.28 น.