หากจะพูดถึงภูกระดึงเป็นสถานที่ที่หนึ่งที่เราเองอยากไปสัมผัสมากเป็นอันดับแรกๆของการท่องเที่ยวฤดูหนาว เราอดไม่ได้เลยสักปีที่ต้องแชร์ทะเลหมอกและพระอาทิตย์ตกที่ภูกระดึง ปีแล้วปีเล่าเราก็ยังไม่ได้ไป จนมาถึงปีนี้ (2564) ขออนุญาติรีวิวย้อนหลัง อิอิ  ถึงจะนานแต่ความทรงจำไม่เคยหายไปเลย ยังจำได้ในทุกความสุขที่ได้สัมผัส......

30/10/2021 

เราเริ่มออกเดินทางในช่วงสายๆของวันเสาร์น่าจะสัก 11 โมง หรือเที่ยง ใช้เวลาเดินทางจาก มุกดาหาร มุ่งหน้าสู่ ภูกระดึง จังหวัดเลยเป็นระยะเวลา 5-6 ชม. การเดินทางระยะไกล การคุยกับเพื่อนร่วมทางดูจะเป็นทางออกที่เราจะไม่เบื่อ และรู้สึกว่าแปปเดียวก็ถึง แล้ว 5555 (คนขับจะคิดเหมือนเราไหมไม่รู้ 555)


17.30 น. 

เราเดินทางถึงอำเภอภูกระดึง จ.เลย เราไม่ได้จองที่พักล่วงหน้า เลยสุ่มหาที่พักแถวใกล้ๆ ได้ที่พักคืนละ 750 บาท (จำชื่อที่พักไม่ได้ อิอิ ) หลังจากได้ที่พักเราท้องก็ร้อง เราเลยออกไปหาข้าวเย็นกัน หาอยู่นาน ที่นี่เป็นอำเภอเงียบๆ ร้านค้า ตลาดก็มีทั่วไป เราเลยจบกันที่ หมูกระทะ 5555 จากนั้นก็กลับที่พัก เตรียมตัวขึ้นภูกระดึงพรุ่งนี้

31/02/2012

05.00 น.  

ตื่นมาจัดการตัวเอง เพราะเราตั้งใจจะออกจากที่พักไม่เกิน 6.30 น. เพราะกลัวไม่ทันลูกหาบ และเป็นการเดินเขาครั้งแรกของเราด้วย พูดได้เลยว่าภูกระดึงเป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวแบบลำบาก ที่เราก็ไม่รู้ว่าเราจะชอบการท่องเที่ยวแบบนี้เฉยเลย 5555

หลังจากเก็บหระเป๋าเรียบร้อยก็พร้อมออกเดินทางกันเล้ยยยยย  อาหารเช้าเลาเลือก 7-11 

ตอนขับรถเข้ามาในอุทยานเรามองเห็นทะเลหมอกอยู่บนภูด้วย มันยิ่งทำให้เราอยากรีบไปให้เร็ว เพื่อที่จะเดินขึ้นไปดูหมอก โคตรดีใจเลยไม่คิดว่าจะเจอ แต่หารูปไม่เจอละ 555 พอจะเข้าอุทยานเราก็ต้องลงไปซื้อบัตรเข้าอุทยานด้วยเครื่องอัตโนมัติ  ได้บัตรมาแล้วกะไปโลดดดด

หลังจากเข้ามาแล้วก็หาที่จอดรถ เตรียมกระเป๋า แล้วก็ไปจุดตรวจ วัคซีน แล้วก็ไปจ่ายตังค์ค่า เช่าเต็นท์ ถุงนอน ผ้าห่ม หมอน จ่ายตังค์เสร็จก็เดินขึ้นไปให้ถึงเพื่อรับของข้างบนเลยจ้า สู้เขานะหญิง

รีบมาก  ลูกหาบก็ยังไม่มา เราก็เลยจับบัตรคิวแล้วก็มีเวลาเดินซื้อถุงเท้ากันทาก หมวก ช๊อปปิ้งไป  เพราะพี่ลูกหาบจะมาประมาณ 7.00 โมง

พอถึงเวลาก็มาตามนัด ที่นี่จะคิดค่าลูกหาบ กิโลกรัมละ 30 บาท ของเราจัดไปเลย 7 กิโลละมั้ง จำไม่ค่อยได้ละ หลังจากที่ฝากพี่ลูกหาบแล้วก็ได้เวลาไปทำตามความฝันแล้วววว

ลงทะเบียนแล้วก็ไปกันเลย ระยะทาง 5.5 กิโลเมตร แค่นี้เอง หอบมากกกกกกก555 แค่ซำแรกก็จะตายแล้วววแม่ แต่ก็รีบเดินเพราะจะไปให้ทันทะเลหมอก ทันนิดหน่อยแต่ทำให้หายเหนื่อยมากเลย ชอบมากๆ สบายใจสุดๆ

เราพักกินข้าวเช้ากันที่นี่ และที่ขาดไม่ได้ก็คือแตงโม  อร่อยมากจริงๆ  พักกันเต็มที่แล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อ 

แน่นอนว่าเราก็ถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ ธรรมชาติคือดีมากๆ ช่วงเวลาของการเดินป่า เป็นช่วงเวลาที่ดีช่วงเวลาหนึ่งที่เราได้ใช้ความคิดและได้อยู่กับตัวเองจริงๆ โดยปราศจากโลกของมือถือ และผู้คนที่เป็นพิษ

ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงกว่าๆ เราก็เดินทางมาถึงยอดภูกระดึงแล้ว ตอนนั้นเป็นเวลาบ่ายกว่า เหนื่อยก็เหนื่อย หิวข้าวก็หิว แดดก็ร้อน เดินยังไงก็ไม่ถึงลานกางเต็นท์สักที่ เป็นสามกิโลที่ไกลมากกกกกกกก

งั้นเราก็แวะพักผ่อนสักหน่อย

ฉันผู้ยอมจำนนนต่อป่าสน เห็นที่ไหนไม่ได้ ชอบมาก แต่ก่อนเคยเกิดเป็นต้นสนรึป่าวนะ555

สนต้นเดียว ในตำนาน  เจอกันแล้วนะ

เดินไปอีกสักพักใหญ่ๆเราก็ถึงลานกางเต็นท์ ไปแจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมประทับตาอุทยาน แล้วก็ไปกินข้าวเพราะหิวมากกกกก จากนั้นก็ไปรับของที่เช่าไว้  ของจากลูกหาบยังมาไม่ถึง พวกเราเลยตัดสินใจว่าเวลาที่เหลืออยู่ เดินไปดูพระอาทิตย์ที่ผาหล่มสักกันเถอะ เว้าแล้วกะไปปปปปป

ไปเจอหมอกไหลลล   สวยไม่ไหววว  ชอบมาก  ประทับใจอีกละ

ยิ่งเดินยิ่งไกล  แต่ยิ่งเห็นแสงพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ก็ยิ่งเดินให้ไว เดินให้เร็ว อย่าได้พลาดโอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น ในเมื่ออีกไม่กี่ก้าวเราก็จะถึงจุดหมายที่เราวาดไว้แล้ว ฮึบบบบ เร่งเครื่องเต็มกำลัง

ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร ท้ายที่สุดเราก็มาเก็บแสงเย็น ที่ผาหล่มสัก ได้เรียบร้อย

"นับเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ ทีความสุขมาก ดีใจมาก โคตรรู้สึกดีจริงๆ"   แต่    เรื่องราวปวดขาจะเกิดขึ้นหลังจากนี้555  เพราะเราเดินไปดูพระอาทิตย์ตกเป็นระยะทางเดินเท้ากว่า 10  กิโลเมตร  ตอนไปมันก็ดึงดูดอยู่หรอก แต่ตอนกลับนี่มืดสนิทมิตรสหาย  ดีแต่มีเพื่อนร่วมทางเดินกลับด้วยกัน นี่ละน่าาคือมิตรภาพของคนเดินทาง ไม่รู้จักกันแต่ก็ยังเดินทางไปด้วยกันได้ เพราะเรามีเป้าหมายเดียวกัน 5555

กลับมาถึงเต็นท์ประมาณ 3 ทุ่ม ก็ไปกินข้าวก่อนเลยกลัวร้านค้าปิด จุดจบอย่างเราก็จบด้วยหมูกระทะ

จากนั้นก็อาบน้ำ เย็น เย็น แล้วก็เข้านอน  กลางคืนอากาศค่อนข้างเย็นเลย หนาวจนต้องใส่หมวก 

จนท.แจ้งว่า  นทท.ท่านใดจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ให้ไปรวมกันที่ศูนย์อำนวยการตอน 04.00

ได้ยินแล้วก็นอนเถอะ  ฝันดีจ้าาาา

01/11/2564

04.30  หนาวเกิ๊น

05.00  ดูพยากรณ์อากาศ พระอาทิตย์วันนี้จะขึ้น 7.30-09.00

05.30  ลุกเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น

เส้นทางสามารถเดินไปได้เอง แต่เนื่องจากไม่เคยไปก็ดูป้ายดีๆ อาจจะหลงได้  วันนั้นหมอกลงหนามาก จนมองไม่เห็นถนน  มองเห็นระยะประมาณ 50 เมตร มีแต่หมอกจุกๆไปเลยจ้า ไม่มีทะเล 5555

รอจนถึง 8.00 น พระอาทิตย์ก็ไม่ยอมขึ้น เราเลยตัดสินใจกลับเพราะกลัวไม่ทันลูกหาบ และต้องเดินลงอีก

กลับมาแล้วก็กินก่อนนน  อันนี้อร่อยมาก ชอบบ

เราเดินลงประมาณ 10.00 น หมอกก็ยังหนาอยู่เลย

รูปคู่ใบเมเปิ้ลสักหน่อย

สักรูปเดี๋ยวเขาว่ามาไม่ถึง  หมองคือไม่จางเลย 

ขอนั่งเหงาๆ มองผู้บ่าวจักหน่อย อิอิ

ทริปนี้เป็นทริปที่ได้สัมผัสธรรมชาติแบบสุดๆ เป็นครั้งแรกที่มาแล้วก็ประทับใจมาก มีโอกาสมาอีกแน่นอน สัญญากับตัวเองเลย 

" อะไรที่เป็นความสุข ก็จงรีบทำ เราเกิดมาเพื่อมีความสุข ไม่ใช่หาความสุขให้คนอื่น"

The E N D 

นานนานเที่ยวที

 วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 20.57 น.

ความคิดเห็น