สวัสดีจ้าหายไปนานเพราะงานมันยุ่ง ทริปเดือน 8 รอบนี้ไปล่าหมอกกันที่เพชรบูรณ์เขาค้อภูทับเบิก ไอ้วันนี้ดีดีก็ไม่ค่อยว่างดันไปว่างวันพายุเข้าเป็นยังไงไปดูกัน

ตารางทริปนี้
เช้าที่เขาค้อ เที่ยวไดโนเสาร์เขาค้อขึ้นภูทับเบิก
วันที่สองแวะท้ายเขื่อนป่าสักบ้านท่าฤทธิ์
รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D7200 fix35 Tamron70-300 Tokina11-20 และคลิปจาก Iphone 12
ดูคลิปกันก่อนได้จ้าฝากกดซัปกันได้นะครับ
เริ่มออกเดินทาง 4 ทุ่มดูพยากรณ์ตอนแรกก็ว่าไม่มีพายุ พออีกสองวันจะเดินทาง ดันมีข่าวพายุจะเข้า เราก็เลยผ่าฝนกันมาตลอดทาง ตกตลอดแทบไม่หยุด แต่ดั้นมาหยุดตรงเลยตัวเมืองเพชรบูรณ์ ตรงกำลังจะเข้าเขาค้อไม่ตกซะงั้น มาจอดรถนอนที่ Pino latte ตอนตี 3 นอนได้ตื่นนึง 6 โมงนิดๆก็ออกมาเจอน้องหมอกให้ชื่นใจกันแล้วเช้านี้ เอาไปชมกันเลย

นู้นถนนที่เราขับมา



เดี่ยวขอขับลงไปดูตรงถนนหน่อยว่าหมอกชัดใกล้กว่านี้ไหม







ขับลงมาทางผาซ่อนแก้ว

ลงมาริมถนนแล้ว








มาดูหมอกแบบใกล้ชิดด มันฟินมากเช้านี้ ปกติจุดนี้มากี่ทีก้ยังไม่เจอหมอกครับสำหรับผม รอบนี้ได้เจอละตรงจุดนี้



วนกลับมาที่เดิมอีกรอบแสงเริ่มสว่างแต่พระอาทิตย์อยู่ไหนไม่รู้กำลังสู้กับก้อนเมฆข้างบน





อาเกลตื่นแล้วค่าาา อากาศหนาวกำลังดีเย็นๆแบบเปิดแอร์ฉ่ำๆ

พ่อๆไปถ่ายตรงนุ้นน

ครอบครัวตะลอนเที่ยวมาแล้ว

ไปต่อค่ะเย้



ลงจาก pino มาหาข้าวกินเส้นเขาค้อข้างทาง และมาต่อกันที่ ไดโนเสาร์เขาค้อ เอาใจลูกสาวโดยเฉพาะจุดนี้ ค่าเข้าผู้ใหญ่คนละ 100 ไปดูกันเลย

ไดโนเสาที่นี้ตัวใหญ่ใหม่และสวยครับ พื้นที่ก็กว้างขวางแต่ไม่ใหญ่จนเกินไปกำลังดี ใช้เวลาเดินเที่ยวประมาณ 30-45 นาทีก็ครบแล้ว ถูกใจเด็กๆแน่นอน


พ่อๆมันจะงับหัวหนูไหม

ผ่านช่วงแรกก็จะมีเข้าเขาวงกต หน้าตื่นตาตื่นใจอยู่ครับ


โอโห้ นั้นตัวไรอ่ะแม่


มีไดโนเสาร์เยอะแยะเลยบางตัวก็มีเสียงร้องด้วย

อ่ะติงนังๆตังนิง








เดินยังไม่ทันเหนื่อยเท่าไหร่ก็ครบแล้ว วันที่เราไปโชคดีมากว่าเป็นกลุ่มแรกๆพอดีคนยังน้อย พอเราเดินออกมีรถทัวร์มาลงน้องๆนักเรียนมาทัศนศึกษาเต็มเลย มาเที่ยวกันได้เลยครับ

ก่อนออกผ่านซุ้มร้านค้าต้องได้ของเล่นติดมือซะหน่อย ไม่สนกล้องถ่ายรูปแล้วว



ตลอดเช้านี้ฝนไม่ตกเลยเราก็คิดว่าคงจะรอดแล้ววันนี้ก็ไปเตรียมขึ้นทับเบิกกันต่อ




ระหว่างทางขึ้นฝนก็เริ่มมีปรอยๆ แต่หมอกข้างทางก็สวยงาม

จนไต่ระดับไปเรื่อยๆบางช่วงวิ่งทะลุหมอกมองแทบไม่เห็นข้างหน้า

ระหว่างทางจะเจอเพจตากล้องมาคอยถ่ายรูปเราหลายเพจมาก จดชื่อไว้แล้วกลับบ้านไปลองทักถามเขาดูว่ามีรถเราไหม

แต่ละเพจก็มีค่าสนับสนุนแล้วแต่กันไป อย่างเพจที่ผมเลือกนี้เพราะได้มุมรถเราสวย ขาขึ้น 200 บาท ได้ทุกรูปที่เขาถ่ายติด ถ้ามีขาลงด้วยก็250 ก็ได้มา10กว่ารูปนะ

ตูดงามๆๆ สนับสนุนกันไป

ขึ้นมาถึงยอดภูทับเบิก หมอกลงหนาจัดมากๆ ฟ้าขาวเลย อากาศเปิดๆปิดๆเหมือนแดดกำลังสู้กับหมอกก

อากาศหนาววๆเลยตอนนี้กินข้าวตามสั่งข้างบน



สายหมอกพัดไหลไปไหลมาเดี่ยวเปิดเดี่ยวปิด ได้อารมณ์ดีแท้


วัดป่าภูทับเบิก

จากนั้นบ่ายโมงเราก็มากางเต็นท์กันที่ผาหัวสิงห์ เล็งไว้แล้วรอบนี้ต้องมานอน เรากางลาน3ขยับลงมาชั้นนึงนะครับจากยอดหัวสิงห์เพราะคิดว่าลมน่าจะเบา ในตอนแรกก็ฝนยังไม่ตกนะให้เรากางได้แบบสบายใจ ลมก็นิ่งๆ แต่ฟ้ายังปิด หรือจะเป็นเพราะผมใช้เมียกางเต็นท์ พระท่านก็เลยลงโทษอย่างหนัก

หลังจากกางเสร็จเรียบร้อย ฝนก็เริ่มตก และแรงซะด้วยแต่ลมไม่มี เอาอยู่สบายๆตอนนี้นอนเล่นในเต็นท์ชิลๆ ลมหนาวๆ

นอนหลับไปตื่นอย่างฟินอากาศดีมากๆ ลมสงบ

ฝนรอบแรกผ่านไปลงมาเดินเล่น

ฟ้าขาวโพลน แต่อากาศสุดฟิน ประมาณ บ่ายสามได้กำลังจะตั้งวงทำอาหารกันเลยอากาศมันดีจัดๆๆ


วัตถุดิบพร้อม


นั้งเล่นนอนเล่นกันอีกเต็นท์พื้นก็สบาย



จากนั้นไม่นานฝนรอบที่สองก็มา คราวนี้มันหอบเอาลมมาด้วย

ตอนแรกเราก็ขึ้นไปนอนบนเต้นท์ตามสูตรเดิม แต่คราวนี้ลมมาหนักมาก ออนนิ่งเริ่มเอาไม่อยู่ละ พื้นมันแฉะสมอสู้ลมไม่ไหว

ตอนนี้ทุกคนลงมาช่วยกันจับเสาออนนิ่งแล้วครับ คือทุกอย่างมันไวมาก คลิปไม่มีเวลาถ่าย มีถ่ายมาได้นิดเดียวตอนเจอถล่มแล้วลองไปดูกันนะครับ

ลมหอบตีแรงมากๆ

เต็นท์พื้น Vida ของเราเอาไม่อยู่เสาเต็นท์เจอลมตีจนหมอบพับลงไปเองแบบรูปนี้เลย ผมไม่ได้พับเต็นท์ ตอนนี้ทั้งลมทั้งฝนกระหน่ำ ทั้งหนาว ทั้งเสียว

สู้กันอยู่ครึ่งชั่วโมงมันไม่เบาลงเลย ของทุกอย่างตอนนี้เปียกซก เราเลยเก็บออนนิ่งก่อน ตากฝนกันให้น้องเกลไปนั้งเล่นโทสับในรถลูกจะไดไม่กลัว แต่เราเริ่มกลัวละรถมันจะไหลไม่ว้าาา5555 แต่เต็นท์หลังคาบอกเลยว่าโคตรดี ลมแค่ไหนก็นิ่งเอาอยู่เป็นอะไรที่แจ่มมาก แต่ว่ามันแรงเกินเต็นท์พื้นที่ทพี่เขาจะนอนก็เปียกหมดแล้ว เลยตัดสินใจเก็บของหมดเลยตอนนี้ 4โมงกว่าแล้ว และทุกคนสบัดสบอมไม่ได้เตรีนมตัวมาตากฝนขนาดนี้เริ่มปวดหัวหนาวสั่น
ในที่สุดเราก็ยอมแพ้กลายเป็นผู้ประสบภัยอย่างเต็มตัวต้องอพยพลงเขากัน แต่ไม่ใช่แค่เรา มีอีกสองกลุ่มที่ผาหัวสิงห์วันนี้ก็ยอมเก็บของหนีเช่นกันครับ ไว้รอบหน้ามาแก้มือใหม่นะ ธรรมชาตินี้ล้อเล่นไม่ได้นะ555

เก็บของเสร็จเราก็ไม่รุ้จะนอนไหนดีก็เลยขับลงมาที่พื้นซะเลย ตอนแรกก็เจอที่พักแต่ยังไม่ถูกใจห้องเลยขับต่อไปเรื่อยมาทางเขาค้อๆ ขับไปขับมาก็เลยมานอนที่เขาค้อมันซะเลย ที่พักเป็นห้องละ500ริมถนนเขาค้อแหมไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย
คืนนั้นกว่าจะเริ่มกินข้าวเย็นกัน 2 ทุ่ม อัดพารากันไปคนละสองเม็ดค่อยกินอาหารอร่อย ตลอดทางแต่เย็นมะวานฝนก็ยังตกไม่หยุดทั้งคืนเลย ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ

ที่พักเราห่างไปรศนีย์เขาค้อ8โล เลยขับมาดูหมอกยามเช้า

หมอกน้อยๆแต่ก็พอมีให้เห็นอยู่








ดูหมอกเสร็จหาอะไรกินกลับมาที่พัก เช็คอุปกรณ์ ทุกอย่างเปียกหมดเลย ก็เลยเอามากางตาก กว่าจะได้ออกก็เป็นเที่ยงกว่า แต่โดยสรุปแล้วมีของเสียหายแค่ชายผ้าออนนิ่งเสริมสีเขียวหูผูกเชือกขาดแค่นั้นแต่ยังใช้งานได้ ยังอื่นไม่มีอะไรพังเต็นท์พื้นก็กางได้เหมือนเดิม มันเป็นขาออโต้เมื่อวานเลยสู้ลมไม่ไหวพับลงเองดีไปว่าไม่หัก รอดไปทริปนี้


ขากลับวิ่งออกมาเส้นไหนก็ไม่แน่ใจแต่วิวสวยไม่เบาครับ เส้นนี้มาทะลุเส้นหลักหล่มสักเหมือนกัน







วิวดีสวยงาม



มุมนี้คือดี




แหมวันนี้ละแดดเปรี้ยงฟ้าใสเลยนะ มันน่านักก




ปืดท้ายทริปนี้ขอเข้าไปที่หลังเขื่อนป่าสักบ้านท่าฤทธิ์ ไปหาน้องแพะ
เอ้ยนี้น้องควาย

เลยไปหน่อยก็เจอน้องแพะ

วันนี้มีงานเขาเลยไม่พาไปเดินตรงลานกว้างๆครับ




น้อนมารุมใหญ่เลย





จากนั้นก็มานั้งเล่นกันลมเย็นสบายมากๆ



อากาศดีจัดแหมะน่ากางเต็นท์นอนจริงๆเสียดายต้องกลับ


วิวดีลบรรยากาศได้ มาเที่ยวกันได้เลยใกล้ๆ

เกลบอกเยี่ยมมม


มันเพลินมากนั้งกันจนมืดครับลมก็ดีไม่มียุงอีก


มีช้างให้ถ่ายด้วยอยู่จนถึง 3 ทุ่ม


ต้องมานอนสักรอบจุดนี้ดีจริงคอนเฟิม ออก3ทุ่ม 5ทุ่มก็ถึงบ้านเรียบร้อยจบทริปแบบทุลักทุเลนิดหน่อยไว้แก้มือใหม่ผาหัวสิงห์

แล้วพบกันใหม่กับทริปหน้ากับครอบครัวตะลอนเที่ยว วันนี้สวัสดีจ้า

เหลี่ยมพาเที่ยว
วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.57 น.