มาแล้ววววว......สำหรับ...ทัวร์โอซาก้า-เกียวโต (5 วัน 4 คืน)...แบบไม่ง้อทัวร์...ริซึ่ม...ไปเที่ยวเอง ศึกษาเอง เก็บข้อมูลเอง จองที่พักเอง เลือกที่เที่ยวเอง ดูเส้นทางเอง พูดง่ายๆ ทำทุกอย่างเองทั้งหมด...งานนี้ เราไปเที่ยวกันแค่ 2 คน ก็เลือกที่ที่เราชอบ และอยากไปมากที่สุด...บรรยายมาพอสมควรละ เริ่มแล้วละกัน
ทริปนี้เราเลือกเดินทางไปช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2559 ระหว่างวันที่ 15-19 พฤศจิกายน 2559 เนื่องจากเป้าหมายของเราต้องการดู ไบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งหากใครจะไปก็ต้องเลือกช่วงนี้ดีๆ หน่อย เพราะหากเร็วไปก็ยังไม่มีใบไม้เปลี่ยนสี หากช้าไปก็อาจจะเห็นใบไม้เหี่ยวๆว่ากันไป....ดังนั้น ต้องกะดีๆ หากต้องการบรรยกาศดี ใบไม้สวยๆ ก็ช่วงประมาณเดือนนี้แหละ
เมื่อเลือกวันได้แล้ว สิ่งต่อไปคือ ตั๋วเครื่องบิน งานนี้เราจะเลือกตั๋วที่ถูกที่สุด สำหรับสายการบินที่ลง สนามบินคันไซ โอซาก้า ก็มี หลายสายการบินนะ แต่สำหรับเราเลือก นกสกู๊ต เนื่องจากได้โปรโมชั่นพอดี ราคาไป-กลับ ก็ประมาณ 10,000 บาทกว่าๆ รับว่าถูก ได้วันแล้วได้ช่วงโปรโมชั่นพอดี ก็เลือกสิ รออะไร
ปล.สำหรับการเดินทางสายการบินนี้ จากการอ่าน รีวิว มาก เนื่องจากเดินทาง ตปท. ครั้งแรก ก็กังวลไปทั่ว ดังนั้น มันก็อ่านเยอะสิ มีว่ากันว่าสายการบินนี้ทิ้งคน เนื่องจากเขามีนโยบายขายตั๋ว Over ใครช้าก็ตกเครื่องได้ เอาประสบการณ์จริง จากตัวเอง ซึ่งเมื่ออ่านมาก เราก็เลยไปเช้า เพื่อไปรอเช็คอิน มันเปิดให้เช็คก่อน 30 นาที เราก็รอ สรุปเราเช็คได้ไม่มีปัญหา มั่นใจได้บิน มีที่นั่งแน่นอน
แต่ขอติ หน่อยเหอะ การบริการให้ลุกค้า สำหรับการบริการที่ดอนเมือง ประเทศไทย จะแย่มาก ก็ไม่ถึงขณะนั้น แต่ให้บริการช้า มัวคุยกันอยู่ได้ ต่างจากการให้บริการที่สนามบินคันไซ สายการบินเดียวกัน แต่ดีมาก รวดเร็ว พนักงานมาดูแลคอยให้บริการลุกค้า เพื่อให้การเช็คอินได้รวดเร็วมากขึ้น ไม่ต้องมานั่งคุย โอ้เอ้ พอเปิดบุบ การเช็ตอินเร็วมาก ไม่เหมือนเมืองไทย ต่างกันมาก...
รูปภายในเครื่อง...คือบริการภาคพื้นดิน ไม่ค่อยโดนใจ แต่ภายในเครื่องดีนะ ที่นั่งกว้าง พนักงานบริการดี ไม่มีหนังดูนะ เดินทางนานๆ ก็แนะเอาหนังสือ หรือหนังติดตัวไปดูแก้เซงได้...
ต่อ....(ยิ่งเขียนยิ่งมีอารมณ์)...เมื่อเราได้ตั่๋วแล้ว...อ่อ...แนะนำนิดหน่อย การเดินทางครั้งนี้เราวางแผนไว้เป็นปี เนื่องจากเราต้องการตั๋วราคาถูก จึงต้องคอยเช็คราคาอยู่ตลาดเวลา เมื่อมีโปรโมชั่นออกมา เราก็จองข้ามปีไป
ต่ออีกที...จากนั้นเราก็วางแผนการเดินทาง เริ่มจากสนามบิน เราจะไปที่พักที่ไหน ไปจากสนามบินอย่างไร เที่ยวที่ไหนบ้าง งานนี้ เราวางไว้ว่า เราจะเดินทางวันที่ 1 (วันแรกของการเดินทาง) เดินทางกลางวัน ไปถึงโอซาก้า ก็ 4-5 โมงเย็น ซึ่งเป้าหมายก็ประมาณ เข้าที่พัก ตอนเย็นก็อาจจะไปเที่ยวแถวที่พักเอา ประมาณว่า ช้อปปิ้ง ดูไฟกลางคืนประมาณนั้น
วันที่ 2 และ วันที่ 3 เราจะให้เกียวโต 2 วันเลยจ้า เนื่องจากเราต้องการเที่ยวชมวัด โบราณสถานต่างๆที่เกียวโต ที่ว่าดี ดัง จะไปให้ได้มากที่สุด เพราะมาครั้งแรก ก็ต้องให้คุ้ม เพราะใช่ว่าเราจะได้ไปปล่อย สถานที่ที่เราวางไว้ คร่าวๆ ก็วัดจิ้งจอง วัดโทฟุคุจิ วัดน้ำใส วัดเงิน วัดทอง เป็นต้น......(รอติดตามตอนต่อๆไปนะ)
วันที่ 4 วันนี้เราวางแผนว่าเราจะไปเที่ยว Universal Osaka คือวันนี้เราจะให้กับที่นี้เต็มๆ 1 วันไม่ไปไหน เนื่องจากเราต้องการเที่ยว เล่น เครื่องเล่น แฮรี่ พอตเตอร์ นี้แหละเป้าหมายสำคัญ
ส่วนวันที่ 5 นั้นเราจะให้โอกาสเธอ ปราสาทโอซาก้า ครึึ่งวันเราจะอยู่ที่นี้ เดียวเขาว่าเรามาไม่ถึงโอซาก้า หากไม่มา อิอิ และจากปราสาทโอสาก้า เราก็เดินทางกลับ กทม. ซึ่งเราใช้คาดการณ์ให้ถึงประเทศไทย ก้ไม่ดึกมาก ก็ถุงสัก 2-3 ทุ่ม เดินทางกลับบ้านนอน พักผ่อนไรประมาณนี้
จบ...สำหรับการวางแผนไว้คร่าวๆ....ในการเที่ยวข้ามปีครั้งนี้ หากใครมีเงินมากพอก็ไม่ต้องรอตั่ว โปรโมชั่น หรือเลือกสายการบิน อื่นๆที่ถูกก้ได้ สายการบินของไทยเอง สายการบินญี่ปุ่นก็ได้ และลองวางแผนการเดินาทางคร่าวๆ หรือใช้แผนเราก็ได้ไม่ว่ากัน แต่บอกไว้ว่า ดูไม่แน่น แต่เอาเข้าจริงแน่นมาก
เกร็ด.....แนะนำ..ก่อนเจอของจริงในตอนต่อๆไป
นอกจาก....การวางแผนเรื่องจองตั่วแล้ว สิ่งสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ คือ JR Pass ที่เอาไว้ใช้สำหรับการเดินทางโดยรถไฟในญี่ปุ่น ซึ่งแนะว่าให้ซื้อจากที่เมืองไทยตามแหล่งซื้อ หรือบูธท่องเที่ยวที่เขาจัด ซื้อเอาไว้ก่อนดีที่สุด ดีกว่าซื้อที่ญี่ปุ่น ซื้อแล้วเราก็ไปรับที่สนามบินคันไซได้ และตั๋ว JR Pass ต้องดูด้วยนะว่าเดินทางข้ามเมืองได้ไหม เดินทางสายรถไฟไหนได้บ้าง คือ ตอนที่ไปซื้อก็ถามคนขายได้ และเราจะใช้กี่เดินทางกี่วัน
ภาพตัวอย่างตั๋วที่เราซื้อที่เมืองไทย
สิ่งที่ต้องเตรียมอีก..คือ...ตั๋วเข้า Universal Osaka คือเรื่องนี้สำคัญรองจากตั๋ว JR Pass เลยทีเดียว ต้องซื้อที่เมืองไทยเลยนะเพราะหากไปซื้อที่นั้น บอกเลยคำเดียวคนเยอะมาก หากเราไปรอ รอนานเลยทีเดียว การเล่นเครื่องเล่นเราก็จะน้อยลงไปอีกด้วย สมควรอย่างยิ่งที่ต้องซื้อไปก่อน
สำหรับตั๋วนี้่....ตั๋วอีกใบที่ต้องซื้อ คือ ตั๋วทางด่วนพิเศษสำหรับเล่นเครื่องเล่น อันนี้สำคัญ (เสียงสูง) หากจะเล่นเครื่องเล่นโดยที่ไม่ต้องรอ ควรมากที่ต้องซื้อไป หากไม่เล่นก็ว่าไป แต่ไปขนาดนี้แล้วไม่เล่นมันก็คงแปลกไปน่อย ควรนะที่จะซื้อ และจะมี 2 แบบ คือ แบบ 3 และแบบ 7
แบบ 3 ก็ประมาณว่าเล่นเครื่องเล่นได้ 3 ชิ้นโดยไม่ต้องรอ ทางด่วนเดินเข้าไปเลย แบบ 7 ก็ เล่นเครื่องเล่นได้มาก ตามชนิดที่เขากำหนดแหละประมาณ 7 อย่างว่ากันไป สรุปซื้อเราต้องซื้อตั๋วเข้า และตั่ซเครื่องเล่น ถามว่าไม่ซื้อด่วนได้ไหม ได้แต่ต้องรอเล่นหากจะเข้าไปเล่นเครื่องเล่น และบอกได้ว่า คนอย่างกะหนอน มากของมาก เห็นแล่วคุณอาจจะบอกว่าไม่น่าเลยยอมเสียเงินซื้อก็ดี มารอแบบนี้ไม่ไหว เราคนไทยนานๆทีไป ตปท ไม่ได้ไปปล่อยจะมาเสียเวลารอทำไหมจริงไหม ซื้อไปเลยดีที่สุด
ตัวอย่างตั๋วเข้า...ส่วนตั๋วด่วนเข้าเครื่องเล่น เราได้มาเป็นกระดาษ 1 แผ่น ซึ่งจะเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ในการบอกเวลา เครื่องเล่นที่เราได่เข้า เราซื่อด่วนเพราะอยากเล่นเครื่องเล่นแฮรี่ นี้เป้าหมายหลัก ส่วนอันอื่นถือเป็นของแถมเพราะเราไม่ค่อยสนใจ 2 อันที่เหลือที่เราได้ คือ เครื่องเล่นไดโนเสาร์ และจุด VIP ชมขบวนแห่ (สำหรับตั๋วด่วนอาจจะได้ไม่เหมือนกันก้ได้แล้วแต่บูธที่ไปซื้อ หรือตัวแทนขาย)
สิ่งที่เตรียมไปก่อนที่สำคัญก็ประมาณนี้...เพราะการเดินทางอื่นๆ เราก็ไปซื้อเอาข้าวหน้า เช่น ตั๋วรถไฟไป Universal ตั๋วรถบัสที่จะไปแต่ละวัด ตั่วรถ รีมูซีน ที่จะนั่งออกจากสนามบินไปที่พัก (หากไม่ใช้บริการรถรีมูซีน ก็เดินทางโดยรถไฟออกจากสนามบินไปได้ มันเชื่อมกัน) จบ
ติดตามตอนต่อไป
วัดจิ้งจอก ปิดท้ายตอนที่ 1 ไปก่อนรอติดตาม นะจ๊ะ...จะรีบเขียนให้เร็วที่สุด ส่วนจะมีกี่ตอนยังไม่ขอบอก แต่จะเอาให้ละเอียดที่สุด เท่าที่จำได้ เพราะไปนานแล้ว...กว่าจะเอามาเขียน 555+
Earn Mat
วันพฤหัสที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.54 น.