ตอนที่ 2 ไม่รอช้า วันนัดหมายก็มาถึง

อ้อ...ลืมไปนิด สิ่งที่ไม่ควรพลาดอีกเรื่องคือ พ๊อคเกจไวไฟ อันนี้สำคัญเป็นอย่างมาก ควรที่จะมี แม้ไวไฟที่ ญี่ปุ่นจะมีจุดไว้คอยให้บริการไว้หลายจุด แต่การมีติดตัวเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากเอาไว้หา ตารางรถไฟ (อันนี้สำคัญเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการที่จะเที่ยวในญี่ปุุ่น) และที่สำคัยรองลงมานั้น ก็ไว้โพสสิ...มาเที่ยวภาพสวยๆ มุมดีๆ ก็ต้องเผยแพร่ให้คนเขาได้ชื่นชมว่าไป และหาที่เที่ยว ที่กิน ตามนั้น

จากตอนที่ 1 เราได้วางแผนคร่าวเป็นอันเรียบร้อย...ลืม..อีกอย่าง เที่ยวครั้งนี้ เราพัก Drop In ใกล้สถานี Osaka ตลอดทั้ง 4 คืน เดินก็ไม่เกิน 10 นาที จากที่พักไปสถานีรถไฟ ออกทางประตูเหนือของสถานี ออกมาเลี้ยวซ้าย ตรงไปตลอด ข้ามถนน ข้ามทางรถไฟ ก้ถึง การหาง่าย จีพีเอส จัดไป

ภาพห้องพักที่เราพัก จะเป็นแบบแคปซูน นึกง่ายๆ ก็เหมือนหักพัก บนรถไฟ ซอยเป็นห้องๆ มี 2 ชั้น มีแบบพัก ญ พัก ช แยกกัน ที่นี้ไม่ได้มีเฉพาะแบบนี้ มีแบบส่วนตัวได้เลือกได้ ห้องน้ำแยก ห้องนักเล่นมีให้พัก รหัสเข้าห้องเป็น พาสเวิด ความปลอดภัยของทรัพย์สินไม่ต้องห่วงไม่มีหาย และมีล๊อคเกอร์ด้วยหากกลัวหายจริง

นี้สำหรับภาพห้องส่วนกลาง ทุกคนจะมากิน นั่งเล่น นั่งกินในห้องนี้ เพราะห้ามนำของกินเข้าห้องพัก มีตู้เย็นไว้ให้คอยบริการสำหรับ นำของกินที่ซื้อฝากไว้ได้ น้ำร้อน เครื่องซักผ้ามีคอยให้บริการ ห้องน้ำ ห้องส้วม แม้ห้องรวม การสะอาด สะดวกในการใช้ ไม่ต้องห่วง ใครสนใจ ค้นหาได้ ตามชื่อนี้ ที่นี้ เงียบ ไม่วุ่นวาย ส่วนใหญ่ต่างชาติมาพักเยอะ

พนักงานที่นี้พูดภาษอังกฤษได้ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ และสามารถจองผ่านระบบออนไล ที่ดังๆ ได้อันนี้ไม่ต้องแนะนำนะ น่าจะรู้ได้ (บอกนิดแล้วกัน อโกดา งี้)

เริ่ม....วันที่เราจะไปเที่ยว...ก็มาถึง นั่นสายการบิน นกสกูต และเราก็มาถึงที่ สนามบินคันไซ Osaka ตอนเย็น เราก็ผ่านระบบ ตรวจคนเข้าเมือง ปกติ เดินออกมา

ยืนงง...นิดหนึ่งว่าจะไปไหน สิ่งแรกที่เราทำคือ ต่อสัญญาณไวไฟ สิรออะไร เมื่อเสร็จเรียบร้อยสิ่งที่เราต้องทำต่อไป คือไปรับ JR Pass ที่เราซื้อไว้ตั้งแต่เมืองไทย ทางไปเอานั้น เราขึ้นไปชั้น 2 เดินไปทางที่เชื่อมกับสถานีรถไฟที่จะออกไป สนามบิน หากงง ก็เดินตามเขาไป

ภาพอาจจะไม่ชัด เลี้ยวขวาเลย เดินขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นไปชั้น 2 แล้วเดินออกไปข้างนอก เดินตรงไป เลี้ยวขวา จับสังเกตจะเห็นคนเยอะๆ กำลังเดินไปประตูทางออก 1 ของอาคาร

เดินมาสักพักเราก็จะเห็นคนรอรับตั๋วเพียบ พร้อมกับซื้อใหม่ สำหรับเราที่ซื้อมาแล้ว เข้าไปข้าวใน ขึ้นไปชั้น 2 ได้เลย ไปรับตั๋วชั้นนี้ สำหรับใครลากกระเป๋ามาด้วย เขามีที่ล๊อคกระเป๋าไว้คอยให้บริการไม่ต้องห่วง หรือไปกะเพื่อนก้ฝากมันเฝ้า เพราะไม่ต้องขึ้นไปเยอะ ไปคนเดียวรับตั๋วได้

ออกประตู 1 ทางที่จะไปซื้อตั๋ว รับตั๋วที่เราซื้อไว้ ตรงไปคนเยอะๆนั้นแหละ และก็เป็นทางเชื่อมที่จะออกจากสนามบิน เมื่อเรารับตั๋ว JR Pass เป็นที่เรียบร้อย ก็ไปต่อสิจ๊ะ

งานนี้...เราไม่ได้นั่งรถไฟออกจากสนามบิน แต่จองรถรีมูซีน

ที่ขายตั๋ว...และจุดขึ้นรถเพื่อออกจากสนามบิน เนื่องด้วยเราซื้อตั๋วตั้งแต่เมืองไทย เราก็เดินไปรอเพื่อขึ้นรถได้

นี้คือ...ตั๋วที่เราซื้อ ยืนให้เขาและบอกว่าเราจะลงที่ไหน บอกไปลงสถานี Osaka เขาก็จะให้หางตั๋วไว้

นี้คือ รถรีมูซีนที่ว่า...พูดง่ายๆ ก็รถทัวร์บ้านเรานี้แหละ นั่งไปยาวๆๆ ก็ไช้เวลาก็ไม่นาน นั่งไปเรื่อยๆ หรือใครไม่ชอบนั่งรถไฟออกไปก็ได้

เมื่อถึงจุดลง เราก๋ลงและเดินไปที่พัก ซึ่งไม่ไกล ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียค่ารถแทกซี่เลย ลองเดินหาได้นะ หากจะบอกละเอียดเดินไปทางไหน อาจจะงง ได้ จีพีเอส ใช้ไปเลย

คร่าวๆ..สำหรับเดินไปที่พัก คือทำอย่างไรก็ได้ไปตั้งหลักในสถานี Osaka ให้ได้ แล้วเดินไปทางออก ทิศเหนือ (North) จะมีป้ายบอก เมื่อเจอเราก็เดินออกทางประตูแล้วเลี้ยวซ้าย


เลี้ยวซ้ายออกมาบุ๊บ....สังเกตตามภาพ ขวามือจะเป็นจุให้บริการรถสถารณะ..ที่คอยให้บริการ มีไปหลายที่ ตามช่องบริการ ดูได้เลย

จากนั้นเดินสุด...อาคารจะเจอจุด...ข้ามที่ต้องเดินข้ามถนน แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ เราจะข้ามถนนอีก 2 ครั้งและ ข้ามทาง รถไฟ หาก ข้ามครบที่บอก เดินไปอีกนิดก็จะถึงที่พัก

ภาพทางรถไฟที่เราจะข้าม ที่พักของเราอยู่ฝั่งตรงข้าม...

ที่พักติดร้านอาหาร สักเกตได้ และระหว่างเดินไปที่พักคุณจะสังเกตเห็นจุชมวิว เมือง Osaka อุเมดะ สกาย บิวล์ดิ้ง (Umeda Sky Building) ซึ่งหากมีเวลาก็ไปกันได้ รอบนี้เราไม่ได้ไป แต่เดินผ่านมันทุกวัน คือที่นี้ เขาจะเปิด-ปิด เป็นเวลา หากจะขึ้นเขามีเสียค่าเข้าอยู่ไม่แพง คือ ไปญี่ปุ่นแล้ว สำหรับค่าเข้าก็เจียดเอาค่า ช้อปปิ้งนั้นแหละเนาะ แนะว่าไม่ควนพลาด เพราะเราพลาดไปแล้ว เดินจากที่พักก็น่าจะไปได้

เมื่อ....เดินทางมาถึงเก็บสัมภาระเรียบร้อยก็ออกเที่ยวสิจ๊ะ ใกล้ที่พักเรานั้น มีจุดชมวิวด้วยนะ ใครสะดวกก้ไปได้ หรือไม่ชอบก็ออกเดินเที่ยวแถว สถานี Osaka ก็ได้มีห้าง มีร้านอาหาร มากมาย แต่ที่นี้จะปิดเร็วหน่อยนะ 2-3 ทุ่มก็ปิดแทบจะไม่เหลืออะไรให้เดินเล่น หรือหากลุย เราก็นั่งรถไฟไป Namba ก็ได้ย่านฮิต ไฟกูลิโก๊ะ เปิดดึก...ไปได้ คนเยอะมาก เดียวตอนต่อๆ เราก็ไปเหมือนกันจะบอกอีกทีนะ

สำหรับเรานั้นรึ...เดินแค่แถวสถานีแล้วกัน หาไรกิน

ร้านแรกสำหรับไปถึง อารมณ์คนญี่ปุ่นเขากิน มีหลายร้านอยู่ข้างสถานี Osaka เราเดินๆๆ ก็มาจบที่ร้านนี้แหละ มีร้านเหล้าด้วยนะ หากใครจะเข้าไป แต่จะเสียตรงที่สูบบุรี่กันเยอะ ทนได้ก็ไม่มีปัญหา

อาหารมือแรก อากาศหนาวๆ กินร้อนๆ ร้านนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนทำงาน กำลังกลับบ้าน แวะมากินก่อนกลับ ดังนั้น ส่วนใหญ่เขาจะยืนกิน กินเสร็จก้กลับ ไม่ได้นั่งคุยอะไรมากมาย วิธีการสั่ง ชี้อย่างเดียว เนื่องจากเขาพูดอังกฤษไม่ได้ เราก็พูดญี่ปุ่นไม่ได้ ภาษามือพูดกันรู้เรื่อง เขาจะมีรูปหน้าร้าน และราคาบอก ชี้เลย เดียวก็ได้กิน

กินอิ่ม..พุ้งนี้เช้าเรายังมีภาระกิจต่อ เราก็กลับไปพักผ่อนจะดีกว่านะ

เกร็ดเล็กๆ....ญี่ปุ่น น้ำหากินง่าย..มีตู้ก็ไปหยอดได้เลย แต่ด้วยความที่เราเป็นนักท่องเที่ยวจะให้หยอดอะไรมากมาย เราหยอดมา 1 ขวด ก็ไม่ต้องทิ้งนะเอาไว้เติมน้ำดื่มไว้กิน บางร้านอาหารเขาก็ไม่ได้มีน้ำให้เติมตลอดเวลา มีเป็นของตัวเองไว้ก็ดี และอีกอย่างถังขยะหายาก มีน้อย เหมือนหยอดตู้ กดน้ำกิน ทิ้งขวดตรงนั้น อะไรประมาณ

จบ...สำหรับการเดินทางวันแรก..พุ้งนี้เราเตรียมตัวไปเที่ยว Kyoto กัน

Earn Mat

 วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.12 น.

ความคิดเห็น