รีวิวนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวนครพนมด้วยกัน 3 วัน 2 คืนครับ หลังจากที่รีวิวที่แล้วเราข้ามไปเที่ยวฝั่งประเทศลาวมา ข้ามฝั่งมาเรามาเที่ยวนครพนมกัน ถ้าพูดถึงจังหวัดนครพนม ชื่อที่คิดออกเป็นที่แรกเลยนั่นก็คือ พระธาตุพนม ใช่แล้วครับ ทริปนี้เราตั้งใจจะมาไหว้พระธาตุพนม และจังหวัดนครพนมก็เป็น 1 ในจังหวัดที่อยากไปมานานมาก ที่เที่ยวก็ว่าไปก็มีเยอะนะ มีที่เที่ยวหลากหลาย ทั้งสายธรรมชาติ สายSlow life และสายมูเตลู บอกเลยว่าต้องหลงรักนครพนมแน่ๆ เราละไม่ขอพูดพร่ำทำเพลง เราไปดูสถานที่ที่เที่ยวแวะเที่ยวในทริปนี้กันครับ 

หลังจากเรานั่งเรือข้ามฟากกลับมาจากฝั่งลาว เราก็ต่อ3ล้อไปให้ส่งที่ร้านมิตรศิลป์เซ็นเตอร์ เพื่อเช่ามอเตอร์ไซค์ ร้านจะอยู่ตรงข้ามโตัสนครพนม เป็นร้านขายมอเตอร์ไซค์ ราคาเริ่มต้นคันละ 350 บาท จากนั้นเราก็ขับยิงยาวไปที่พักในคืนแรกของเรา 

PaiPrague Resort
ที่พักในคืนแรกของเรา ที่พักตั้งอยู่ที่อำเภอท่าอุเทน อยู่ติดริมแม่น้ำโขง เป็นที่พักสไตล์แคมป์ปิ้ง มีที่พักทั้งบ้านเป็นหลัง และเต็นท์โดม แบ่งเป็นห้องพักที่มีแอร์และพัดลม ราคาที่พักถูกมาก เริ่นต้นคืนละประมาณ 350 แถมหมูกระทะฟรีด้วย ตอนเช็คอินเราจะได้คูปองไว้แลกหมูกระทะ

บรรยากาศที่พักก็จะอยู่ริมแม่น้ำโขงแบบนี้ครับ ที่พักเงียบสงบมากๆ

หลังที่เราเลือกพักจะชื่อบ้าน บ้านญี่ปุ่น พักได้ 2 คน เสริมได้ เป็นห้องแอร์มีห้องน้ำในตัว ห้องกว้างดีครับ ด้านหน้าติดริมฝั่งโขง 

ภายในห้องก็จะดูเรียบๆ ห้องกว้างดี โอเคเลยครับ ตอนนั้นที่เราไปน่าจะคืนละประมาณ 1000 

ตกเย็นเราก็มานั่งกินหมูกระทะฟรี หน้าห้องของเรา 

บรรยากาศริมแม่น้ำโขงแบบนี้เลยครับ 

วันรุ่งขึ้นเรารีบตื่นแต่เช้ามืด เพื่อเดินทางไปยังถ้ำนาคี ระยะทางจากที่พักมายังถ้ำนาคี ประมาณ 59 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 

สำหรับ ถ้ำนาคี  ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านแพง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกาฝั่งนครพนม 
โดยเราค่าเข้าคนละ 20 บาท ค่าประกัน 10 บาท 

โดยเราต้องลงทะเบียนและเริ่มเดินได้ในเวลา 07.00 น. ก่อนขึ้นอย่าลืมพกน้ำดื่มไปสักคนละ 1 ขวดด้วยนะ

ระยะทางเดินประมาณ 1.5 กม. ไป-กลับ 3 กม.นิดๆ ใช้เวลารวมๆ ประมาณ 2-3 ชม. รวมแวะถ่ายรูป


สำหรับทางเดินช่วงแรกจะเป็นทางราบ เป็นทางปูนเดินง่าย
การเดินเข้าต้องมีไกด์ท้องถิ่นเป็นผู้นำทาง ค่าไกด์แล้วแต่เราจะให้ครับ

ไปกันครับลุย 

เดินมาถึงจุดนี้จะเป็นน้ำตกแต่ช่วงปลายปี น้ำจะแห้ง ถ้าอยากเจอน้ำตกต้องไปช่วงฤดูฝน

จุดนี้เราก็สามารถแวะถ่ายรูปได้ มีหินลายแปลก มุมถ่ายรูปเยอะเลยครับ

จุดแรกเราจะเจอเศียรที่ 9 ครับ ลักษณะจะคล้ายเศียรพญานาค เป็นเศียรที่สมบูรณ์ที่สุด

นั่งบนหิน ถ่ายด้านข้างจะสวยมาก

เราจะเดินลัดเลาะไปตามแนงหน้าผา และถ้ำ

จุดนี้จะเป็นไม้ที่ขดตัวเหมือนงู

ตรงนี้จะเป็นจุดที่สำหรับไหว้ขอพร จุดนี้จะมีแอ่งน้ำอยู่ในถ้ำ

จุดนี้จะเป็นท้องพระคลัง ไกด์บอกว่าให้นำมือทั้งสองข้างไปแตะ แล้วขอพรเรื่องเงินทองไหลมาเทมา 

อีก 1 เศียร ที่มีลักษณะ เหมือนหัวงูใหญ่โผล่ออกมา ถ้ามองในมุมกว้างจะเหมือนงูกำลังขดตัวอยู่

จุดนี้จะเป็นจุดที่มีหินวางซ้อนกันตรงกลางจะมีอีก 1  เศียร 

เดินขึ้นไปจนสุดทางเราก็จะเจอกับผานาคี เป็นจุดชมวิวแบบ 180 องศา มองเห็นแม่น้ำโขงอยู่ไกลๆ จุดนี้สามารถข้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ แต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า และเริ่มเดินตอนตี 4

ภาพด้านใน ที่เราเก็บภาพมา 

หินรูปร่างคล้ายปลาโลมา 

อีก1จุดที่เราว่าสวย เป็นช่องแคบของซอกหินที่เป็นหน้าผา มีสายเถาวัลย์ห้อยลงมา 

อันนี้ก็เป็น 9 เศียร ที่เราถ่ายมา ที่มีลักษณะคล้าย แต่อาจจะมีบางเศียรที่อาจจะไม่ใช่ที่ทางอุทยานเค้านับไว้ ไม่แน่ใจว่าถ่ายมาถูกหรือเปล่า 5555 

ลงจากถ้ำนาคีมา ไกด์แนะนำให้แวะมาที่วัดสมประสงค์วนาราม ตั้งอยู่ ตำบลนางัว อำเภอบ้านแพง
วัดแห่งนี้มีรูปปั้นองค์พญาศรีสัตตนาคราช 7 เศียร ขนาดใหญ่
มีความสวยงามสง่า โดดเด่น และยังมีพระธาตุศรีเมืองแพงภายในวัด สำหรับวัดสมประสงค์ตั้งอยู่ไม่ไกลจากถ้ำนาคาและถ้ำนาคี วัดนี้สายมูต้องห้ามพลาด

รูปปั้นองค์พญาศรีสัตตนาคราช สวย สง่างามมากครับ

ภาพถ่ายจากหลายๆมุมครับ

สวยงาม อลังการเลยครับ

ภายในวัดก็ยังมีพระธาตุศรีเมืองแพงด้วย แวะไปกราบไหว้ขอพรกันได้

จากนั้นเราก็กลับไปที่พัก อาบน้ำเช็คเอาท์ ใกล้ๆกับที่พัก จะมีหอแจกเก่า ตรงนี้น่าจะเคยเป็นวัดเก่ามาก่อน ดูเก่าแก่คลาสสิคดีแวะไปถ่ายรูปกันได้

ที่ต่อมาเรามาแวะไหว้พระธาตุกันที่ วัดพระธาตุท่าอุเทน
ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าอุเทน องค์พระธาตุท่าอุเทน ก่ออิฐถือปูนเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมคล้ายพระธาตุพนม สร้างเป็น 3 ชั้น เป็นอีกหนึ่งพระธาตุที่อยู่คู่กับจังหวัดนครพนมมาช้านาน มีความงดงามของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น อยู่ติดริมแม่น้ำโขงเลยครับ จากถนนใหญ่ขับเข้าไปนิดเดียว 

องค์พระธาตุสีขาวโดดเด่น สวยงามมากครับ

ก่อนเช็คอินเข้าที่พักคืนที่ 2 เรามาแวะกินข้าวกลางวันกันที่ ร้านระเบียงโขง ร้านอาหารริมฝั่งโขง ที่มีเมนูอาหารทั้งซีฟู้ดและอาหารพื้นบ้านที่รสชาติดีเลยครับ นั่งทานอาหารชิลๆริมโขง

อาหารที่เราสั่งมาก็จะเป็นต้มย้ำรวมมิตร ส้มตำ ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม 

Mono88 Hotel Nakhon Phanom ที่พักคืนที่ 2 ในทริปนี้ ตั้งอยู่ในตัวเมืองนครพนม ห้องพักสะอาดมาก ยังดูใหม่เอี่ยม ตกแต่งเป็นโทนสีขาว มินิมอล มีไฟสีม่วงตัด ตกแต่งสวย ห้องพักดีมาก ราคาไม่แพงด้วย

ห้องไม่ได้กว้างมาก แต่ก็ไม่แคบเกินไป เตียงนุ่มดี ชอบเลยครับ

ห้องน้ำค่อนข้างกว้างเลยครับ แยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งชัดเจน อุปกรณ์อาบน้ำก็มีให้ครบ

วัดพระธาตุพนม
พระธาตุประจำปีเกิดของปีวอก เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวนครพนม เป็นที่เคารพนับถือของชาวภาคอีสาน ชาวไทย และชาวลาว องค์พระธาตุสีขาวขนาดใหญ่ตัดด้วยลวดลายสีทอง สวยมาก ไปนครพนมทั้งทีต้องแวะไปครับ

นอกจากพระธาตุพนม ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมอื่นๆด้วยนะ สวยมาก

จากวัดพระธาตุพนม กลับเข้าเมือง มาที่ ลานพญาศรีสัตตนาคราช
แลนด์มาร์คของนครพนม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เป็นรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่มี 7 เศียร อีก1สถานที่เรื่องบนบาน ขอพร ใครไปนครพนมทั้งทีก็อย่าลืมแวะไปกราบไหว้ขอพรกันได้

รูปปั้นองค์พญาศรีสัตตนาคราชดูสง่างามมีมนต์ขลัง

ตอนเย็นก็จะหลั่งไหลไ้วยผู้คนที่แวะเวียนกันมากราบไหว้

โรงแรมแลนด์มาร์คนครพนม อีก 1 จุดถ่ายรูปสวย ฟีต่างประเทศ อยู่ตรงลานพญาศรีสัตตนาคราช

มืดพอดี เรามาเดินเล่น ถนนคนเดินนครพนมกันครับ จุดนี้จะเป็นหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์
ตั้งอยู่ที่ถนนสุนทรวิจิตร เลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนคนเดินนครพนม ตั้งอยู่โดดเด่น สวยงาม เป็นอีก 1 สัญลักษณ์ของจังหวัดนครพนม

ถนนคนเดินนครพนม ถนนคนเดินริมฝั่งโขง กับความSlow life เดินเล่นหาของกินยามเย็น มีเมนูอาหารท้องถิ่นให้เลือกมากมาย ทั้งของคาว ขนมหวานมากมาย บรรยากาศคลาสสิค ฟีลคล้ายๆเชียงคาน

บรรยากาศร้านสองข้างทาง หลายๆร้านตกแต่งน่ารัก จะแวะไปทานอาหารถ่ายรูปกันได้

มีทั้งอาหารคาว อาหารหวานให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หอยนาย่างเสียไม้ เนื้อย่าง ร้านขนมหวานเด็ดมาก

ยิ่งค่ำก็ยิ่งคึกคัก ผู้คนเริ่มมาเดินช้อปหาอะไรกินกันยามเย็น

Street art นครพนม
ตั้งอยู่ในโซนถนนคนเดินนครพนม ใกล้ริมน้ำโขง เป็นไฮไลท์ที่มีชื่อจังหวัดนครพนม  มี 2 ฝั่ง กำแพง 
ไปทั้งทีต้องไปถ่ายรูปนะ

เช้ามืดเรารีบตื่นแต่เช้า ขับไปยังบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เพื่อไปเก็บแสงยามเช้า และดูพระอาทิตย์ขึ้น

สำหรับสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 นี้เป็นสะพานข้ามน้ำโขงระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว ที่ใช้สัญจรไปมาระหว่าง 2 ประเทศ เป็นอีก 1 สะพานข้ามแม่น้ำโขงที่สวยมากๆ จริงๆเราสามารถขึ้นไปถ่ายรูปบนสะพานได้ แต่ต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ก่อน เป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นริมฝั่งโขงที่สวยมากๆ

บริเวณด้านข้างริมแม่น้ำโขงก็จะเป็นจุดชมวิว มีสถานที่ออกกำลังกาย มีป้ายที่เขียนว่าสุขที่สุด@นครพนม 

บรรยากาศยามเช้า

รองอาสนวิหารนักบุญอันนา หนองแสง อยู่ในเมืองติดถนนริมแม่น้ำโขง เป็นโบสถ์คริสต์เก่าแก่ที่มีความสวยงาม อยู่ติดถนนเลียบฝั่งโขงโบสถ์เป็นลักษณะหอคอยคู่ มีความโดดเด่น สวยงามสะดุดตา
แวะไปถ่ายรูปกันได้

โบสถ์ด้านในสวยมาก

ไปเที่ยวนครพนมก็ลองแวะไปถ่ายรูปกันได้ 

ยามเช้าเราสามารถมาปั่นจักรยานเลียบน้ำโขงได้ เพราะตรงริมแม่น้ำโขงจะมีเส้นทางปั่นจักรยาน ที่วิวสวยมากๆ

เส้นทางสวยมาก เสียดายที่เวลาเราน้อยเลยไม่ได้มาปั่น

จากนั้นเราก็ไปเดินถ่ายรูปเล่น กับถนนเส้นทางริมน้ำโขง

วิวฝั่งประเทศลาว

หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ตอนกลางวัน

ด้านในศาลาก็สามารถมาถ่ายรูปได้ 

ร้านไทยสามัคคี
อยู่ติดกับหอนาฬิกา เป็นร้านเก่าแก่ที่เป็นอาคารไม้ มีความคลาสสิค เป็นอีก1จุดถ่ายรูปสวย 
ด้วยเวลาที่จำกัด มีไฟท์บินตอน 10 โมงกว่าๆ เลยรีบกลับไปเช็คเอาท์ แล้วไปแวะอีก 1 ที่ 

ที่นี่คืออนุสรณ์สถานประธานาธิบดีโฮจิมินห์ สวยตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าเลยครับ


ด้านในเป็นอนุสรณ์สถานและเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่สร้างข้นเพื่อนเป็นเกีรยติประวัติเมื่อครั้งประธานาธิบดีโฮจิมินห์ มาอาศัยอยู่ที่นครพนม ด้านนอกสร้างเป็นอาคารสวยงาม บรรยากาศเหมือนประเทศเวียดนาม ภายในรูปปั้นประธานาธิบดีโฮจิมินห์ 

จุดที่เป็นสะพานข้าม ถ่ายรูปสวย

ในด้านหลัง อนุสรณ์สถานประธานาธิบดีโฮจิมินห์ จะมีเป็นภูเขาจำลอง และ

มีจัดแสดงพิพิธภัฑ์บ้านเก่าจำลองที่เหมือนกับบ้านพักของท่านโฮจิมิน 
นอกจากนี้ยังมีอ่าวหญ่าย ชุดดประจำชาติเวียดนาม ให้เช่าสำหรับถ่ายรูปด้วยนะ

จบแล้วครับ สำหรับรีวิวนครพนม 3 วัน 2 คน จริงๆ ยังมีอีกหลายจุดที่ยังไม่ได้ไป อีกหลายบรรยากาศที่ยังซมซับไม่เต็มที่ ด้วยแพลนที่ระยะทางอาจจะค่อนข้างไกล แต่ละสถานที่ แต่บอกเลยว่าหลงรักนครพนม ชอบในบรรยากาศ ชอบความสบายๆ ดูชิล Slow life เป็นอีก 1 จังหวัดที่ต้องกลับไปซ้ำอีกแน่ๆ อาจจะต้องไปหลายวันกว่านี้ สำหรับใครที่กำลังมีแพลนไปเที่ยวนครพนม ก็ลองเช็คลิสต์ที่เที่ยว แล้วแพลนปักหมุดตามได้เลยครับ หวังว่าทุกคนจะชอบรีวิวนครพนม ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้าน้า 

อยากเที่ยวก็เที่ยว

 วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 11.52 น.

ความคิดเห็น