ความเดิมตอนที่แล้ว https://th.readme.me/p/43844


      หลังจากนับทางโค้งต่างๆ มาตั้งแต่ บ้านรักไทย,ถ้ำปลา,บ้านจ่าโบ่  ได้ประมาณสี่โค้ง โค้งซ้าย โค้งขวา โค้งขวาหักศอก โค้งซ้ายหักซอก เราก็มาถึง อ.ปาย เรียบร้อย

    เราเข้าที่พักก่อนเลยครับ ที่พักนี้มีชื่อว่า "ปายกลางเวียง" พิกัดอยู่ด้านล่างนะ เรียกได้ว่าอยู่ใจกลางปายเลย ใกล้ถนนคนเดิน แบบที่ว่าเดินออกไปไม่กี่สิบเมตรก็เจอะเจอร้านขายของในถนนคนเดินแล้ว ที่นี่เป็นที่พักที่ดูค่อนข้างจะเก่าหน่อย แต่ก็สะอาด ปลอดภัยดี มีที่จอดรถ ราคาจึงไม่ได้แพงอะไร ผู้ดูแลหรือเจ้าของก็ไม่แน่ใจ อัธยาศัยดี
     ถ้าไม่ได้จองล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ ที่พักส่วนใหญ่ที่คนนิยมหรือเกรดดีกว่านี้หน่อยก็จะค่อนข้างเต็ม เราไปนี่ในตัวเมืองเต็มจะหมด

  หลับกันไปงีบนึง ก็ค่ำแล้ว ก็ได้เวลาออกมาเดิน ถนนคนเดิน 

    คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากกับที่นี่ ที่ที่หลายคนคงเคยมาเดินตั้งแต่สมัยวันเรียน วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว กันแล้วล่ะ แต่เราก็เพิ่งจะเคยมา เอาภาพบรรยากาศมาฝากให้ได้ระลึกถึงกันสำหรับผู้ที่เคยมาแล้ว ส่วนถ้าใครยังไม่เคยมาก็ลองชมบรรยากาศไปก่อน แล้วลองมาเยือนดูได้เสมอนะ...

   แต่ดูเหมือนว่า นักท่องเที่ยวที่นี่ เป็นต่างชาติสัก70-80 เปอร์เซ็นเลยละ ฝรั่งสายแบคแพคมีเยอะทีเดียว 

   บริเวณตรงนี้ทั้งขนมจีน ทั้งผัดไทย ดูฝรั่งจะชอบมาก คนเต็มเลย เซเว่นก็กำลังจะเปิด บรรยากาศของถนนคนเดินก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ถ้าย้อนกลับไป สักสิบกว่าปีก่อนนั้นบรรยากาศจะเป็นยังงัยนะ ใครมีรูปเอามาโชว์กันที่

   เกี๊ยวซ่าปั้นสดทอด ร้านนี้อร่อยเลย ชิ้นละ 5 บาท

   ร้านหนังสือเดี๋ยวนี้ ตามหัวเมือง ตามท่ารถ แทบจะไม่มีร้านไหนขายหนังสือแล้ว อยู่ไม่ได้ คงเหลือร้านที่เป็นแบรนด์ นายอินทร์ ซีเอ็ด อะไรทำนองนี้ที่ยังคงอยู่  ส่วนที่ปายนั้น ยังคงมีอยู่ร้านนึง...

   ที่นี่มีของกินสำหรับอิสลาม ด้วยนะ โรตี น้ำชา ข้าวหมกไก่ ก็มี มัสยิด ยังมีในถนนคนเดินเลย 
ไม่แน่ใจว่าย้ายถิ่นฐานมาจากไหนรึเปล่า เพราะพื้นเพแถวนี้คงไม่น่าจะมีอิสลามอ่ะ...

     เห็นเขาบอกกันว่า ข้าวปุกงาดำ ที่นี่อร่อย แต่ไม่รู้ร้านไหน  เห็นมีขายหลายร้าน เราเลยเลือกสุ่มไปร้านนี้แหละ เพราะมีป้ายเขียนว่า มาปายไม่กินข้าวปุกก็เหมือนมาไม่ถึงปาย เออใช้ได้เลย อร่อยดี เลือกถูกร้านด้วย ร้านนี้แหละขึ้นชื่อ  ที่จริงร้านนี้ขึ้นชื่ออีกอย่างคือ ยำขนมจีนยูนนาน แต่เราไม่รู้555 ต้องมาลองอีกครั้ง ร้านนี้คือร้าน "ข้าวปุกงาป้าอาซู"

   เมื่อได้ของกินเล่นจนเป็นที่น่าพอใจ เราก็ไปหามื้อหลักกิน เราแวะเข้าร้านนี้ "Annkamii" อ่านว่า อันกามิ ตกแต่งร้านโทนสีขาวปูพื้นด้วยหญ้าเทียม เป็นร้านสไตล์ญี่ปุ่นที่ขายโดยอิสลามที่อยู่ในถนนคนเดินปาย เออช่างแปลกดีเราเลยแวะเข้าไป สั่งข้าวหน้าเนื้อและข้าวแกงกะหรี่ ร้านก็อยู่ข้างร้านข้าวปุกงาดำนั่นแหละ

     ร้านจะอยู่ติดกับ ร้านอาหารบ้านปาย ตรงข้ามร้านอุดมเอกเลย แล้วก็มีร้านป้าอาซู ที่ขายข้าวปุกงาดำเนี่ยแหละ จอดกินตรงนี้กันได้เลย

   พออิ่มแล้วเราก็ไปเดินต่ออีกนิด วนซ้ำที่เก่าแหละ แต่คนดูครึกครื้นขึ้นนะ นึกว่าจะเงียบ

  ได้ยินเสียงเพลง ดนตรีสด แล้วก็เลยไม่เดินต่อและ แวะจอดร้านนี้สักหน่อย มีไก่ทอด หมูอบโอ่ง ซี่โครง ขาย พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ  ให้เข้ากับบรรยากาศหนาวๆ  ร้านเล็กๆ ที่มีที่นั่งอยู่ประมาณสี่-ห้าโต๊ะ       นั่งฟังเพลงเพลินๆดูคนเดินไปเดินมาสักพักเวลาก็ล่วงเลยมาถึงห้าทุ่มดนตรีก็พอไว้เท่านี้เพราะ เขาบอกว่ากลัวหลวงพ่อจะว่าเอา เพราะร้านอยู่ตรงข้ามวัด

  เราเดินกลับที่พัก ร้าน บาร์ ต่างๆฝรั่งอยู่กันเต็มร้านเลย เรากลับที่พักนอนดีกว่า...

   ช่วงสายเราก็ออกจากที่พักแล้วก็มุ่งตรงมายังที่นี่ครับ "หมู่บ้านสันติชล"

 ใครมาช่วงเช้าจะขึ้นไปชมทะเลหมอกหยุนไหลก็ได้นะ เอารถจอดไว้ที่ลานจอดรถแล้วนั่งรถกระบะของชาวบ้านขึ้นไป เจ้าหน้าที่เขาจะจัดคิวให้ ค่าบริการจะอยู่คนละ 30 บาท รถเต็มประมาณ 10 คน รถถึงจะออก เหมาก็ได้ 300 ออกเลย

  เราไม่ได้ขึ้นไปด้านบน เราอยู่แค่ ศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนานตรงนี้พอ เพราะไปสายแล้ว หมอกคงจะไม่มีเท่าไหร่ 

ตรงนี้มีร้านค้า ร้านขายของฝากเยอะอยู่ พวกชา ไวน์ บ๊วย มีเพียบ แต่ชา ที่บ้านรักไทยราคาถูกกว่านะ ยี่ห้อเดียวกันด้วย

   เดินเข้ามาก็จะเห็นแลนด์มาร์คของที่นี่ คือ ชิงช้า 

  หรือจะเช่าชุดจีน เดินถ่ายรูปก็ได้ ด้านใน จะจำลองกำแพงเมืองจีนไว้ ถ่ายรูปแอ๊คๆได้

ค่าบริการชิงช้านี้ คนละ25บาทต่อคน เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เขาก็จะมาหมุนๆเราเอง ก็รอบไม่รู้ คงแล้วแต่ความพอใจ555

    ออกจาก หมู่บ้านสันติชล เราก็แวะ สะพานประวัติศาสตร์ปาย สักหน่อย 

  โครงสร้าง รูปแบบมันคล้ายๆกับ สะพานข้ามแม่น้ำแคว เมืองกาญจนบุรีเลยแฮะ

เมื่อก่อนตรงนี้เป็นสะพานที่ทหารญี่ปุ่นสร้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 เพื่อขนย้ายลำเลียงอาวุธและทหาร เดินทางบุกพม่า เมื่อสงครมยุติ แพ้ก็เผาทิ้ง ชาวบ้านที่เคยใช้ก็เดือดร้อนต้องสร้างสะพานไม้ข้าม ครั้นน้ำปามาก็พังอีก ก็เลยสร้างสะพานเหล็กนี้ใช้

       โดยสะพานนี้ในอดีต เป็นสะพานเหล็กที่ข้ามแม่น้ำปิงอยู่ใน จ.เชียงใหม่ เมื่อมีการก่อสร้างใหม่เป็นสะพานปูนชื่อสะพานนวรัฐ จึงขนย้ายสะพานเหล็กมาไว้ที่นี่เพื่อเชื่อมต่อ อ.ปาย เข้าสู่ความเจริญมากขึ้น

ซึ่งปัจจุบัน สะพานแห่งนี้ก็ไม่ได้ใช้สัญจรแล้ว คงเหลือไว้เป็นประวัติศาสตร์ให้นึกถึง และใช้ถ่ายรูป เป็นจุดเช็คอิน ของอำเภอปาย เมืองหน้าด่านที่จะเข้าสู่ จ.แม่ฮ่องสอน

    อ.ปาย เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์อีกแห่งหนึ่งในประเทศไทยและก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมาย ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอให้ได้ไปเที่ยวไปสัมผัสกัน อาทิ น้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติ ร้านอาหาร คาเฟ่ ทะเลหมอก ไร่ชา ศูนย์ปฏิบัติธรรม วัด หมู่บ้าน อื่นๆอีกเพียบ 1คืน2วันจะไปพออะไร.... 

พิกัด GPS

บ้านกลางเวียง : https://goo.gl/maps/2cYiYqGC1p...

ร้าน อันกามิ(Annkamii) : https://goo.gl/maps/DRgLbcNMbS...

ร้านไก่ทอดดนตรีสด : https://goo.gl/maps/GnHpExJvDg...

หมู่บ้านสันติชล : https://goo.gl/maps/wyCWtjUi9E...

สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย : https://goo.gl/maps/bv7MqAX4Bz...


+++++ฝากเพจไว้ให้ติดตามกันด้วย เผื่อมีอะไรดีๆที่คุณสนใจ+++++

https://www.facebook.com/travel1night2days

Sikhorn Palanan

 วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 22.45 น.

ความคิดเห็น