สะบายดี..(สวัสดี) ทริปนี้เราจะพาไปชิลกันที่ประเทศลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านเรานี่เอง

ก่อนเดินทางเที่ยวลาวเตรียมตัวยังไงบ้าง???

1. พาสปอร์ตที่มีอายุใช้งานคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน

2. วัคซีนพาสปอร์ต ถ้าหากมีการฉีดวัคซีนครบ 2โดสอย่างน้อย

3. แลกเงินที่ลาว ในเมืองจะเรทสูงกว่า

4. ภาษาที่ใช้ เป็นภาษาลาว ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย

5. เสื้อผ้าชุดแต่งกาย สภาพอากาศเหมือนบ้านเรา แค่มีลมเย็นๆ

6. เวลาที่ลาวเท่ากับที่ไทย

7. ซิม เราไปซื้อที่สนามบินหลวงพระบาง


Day 1 : สนามบินดอนเมือง - หลวงพระบาง

นัดเจอเดอะแก๊งที่สนามบินดอนเมือง ออกเดินทางโดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD1030 เวลา 13.55 น. ไปยังหลวงพระบาง 15.20 น. ค่าตั๋วประมาณ 1,xxx บาท

ไม่นานพวกเราก็เดินทางมาถึงสนามบินหลวงพระบาง วันนี้อากาศดีมาก ตัวสนามบินหลวงพระบางวิวสวย รายล้อมไปด้วยภูเขา หลังจากผ่านด่านตรวจเข้าเมืองเสร็จเรียบร้อย เราก็มาซื้อซิมเน็ตตรงทางออก เราซื้อซิมแบบ 10 วัน ราคา 180 บาท ใช้เน็ตได้ 10 GB โทรภายในลาวได้ 3 วัน ที่เราซื้อเยอะ เพราะเอาโน๊ตบุ๊คมาทำงานด้วย แต่จะบอกว่าเน็ตแรงมาก

จากนั้นก็ไปแลกเงินในตลาดเรทดี ยังไม่ถึงบาท คืนแรกเราพักที่ Ananta Villa หลวงพระบาง เราเลือกใช้รถตู้คุณลุง คือแกใจดีมาก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เดี๋ยวมาทิ้งคอนแท็คให้ทีหลังนะ ที่พักที่เราอยู่จะอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง ใกล้กับ Night Market ประมาณ 150 เมตร และ จุดชมวิวเมืองบนพระธาตุภูสี ประมาณ 0.3 กม.  ห้องที่เราพักเป็นดีลักซ์ ที่พักที่นี่สะอาด ปลอดภัย และ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ตกคนละ 630 บาท สำหรับ 2 คืน

หลังจากเก็บของเสร็จพวกเราก็ออกมาเล่น ทานอาหารมื้อค่ำง่ายๆ เพราะวันนั้นที่ไปเป็นวันชาติของสปป.ลาว และเป็นเหมือน Holiday ของคนลาว จึงไม่มีใครขายของ และเราก็มาต่อร้านนั่งชิลที่ T56 Cafe & Bar Luang Prabang มาลาวทั้งที จะพลาดได้ไงกับ BeerLao 555

Day 2 : ตักบาตรข้าวเหนียว - ประชานิยม - กิจกรรมที่เราแพลนไว้ - ขึ้นไปจุดชมวิวเมืองพระธาตุพูสี - ตลาดมืดเดินเล่น - ร้านนั่งชิล

วันต่อมา พวกเราก็ตื่นกันตี 04.30 เพื่อเตรียมตัวไปตักบาตรข้าวเหนียวช่วงเวลา 05.30 ประเพณี และ วิถีชีวิตของคนท้องถิ่น นี้เป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักเดินทางหลงรักเมืองหลวงพระบาง และประเพณีนี้เป้นอีกประเพณีหนึ่งที่มาหลวงพระบางห้ามพลาด ช่วงตี 05.00 -06.00 น. พระจะเริ่มออกบิณฑบาตร โดยจะใส่แค่ข้าวเหนียวถวายพระอย่างเดียว หรืออาจจะเป็นขนม ข้าวต้มมัด ข้าวหลาม ซึ่งเราไปนั่งตักบาตรกันที่หน้าวัดใหม่

หลังจากตักบาตรเสร็จ เราก็มาเดินตลาดเช้ากัน 

พวกเราเดินลัดเลาะออกจากตลาดเช้าไปยังริมโขงไปหาคาเฟอีนเข้ากระแสเลือดที่ร้านยอดฮิต ร้านประชานิยม มาดื่มด่ำบรรยากาศตอนเช้า กับปาท่องโก๋ ข้าวต้มหมู และ ข้าวเปียก ใครมาหลวงพระบางก็ห้ามพลาดเช่นกัน ยิ่งมาเช้า เราจะไม่ต้องแย่งชิงกับใคร

หลังจากนั้นเราก็กลับไปที่พัก เพื่อเตรียมออกเดินทางไปอุทยานน้ำตกตาดกวางสี จะมีค่าเข้าชม 20,000 กีบ/คน ตัวน้ำตกจะต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 300 ม.ระหว่างทางเราจะผ่านศูนย์อนุรักษ์หมีควาย หมีควายที่นี่เป็นหมีควายที่ถูกทำร้าย จะถูกนำมาดูแลที่นี่ก่อนปล่อยสู่ธรรมชาติ เดินไปเรื่อยก็จะพบกับน้ำตกที่น้ำใสมากจริงๆ เป็นน้ำตกที่สวยมาก ผ่านมากี่ปี ก็ยังเหมือนเดิม

จากนั้นพวกเราก็เดินทางโดยรถตู้ ไปยังสวนพูนสุข ไปทานขนมและเครื่องดื่ม เป็นสวนที่สวยมาก วิวดี

ไปต่อที่ไอติมนมควาย มีหลากหลายรสชาติ แต่สำหรับเรารู้สึกเฉยๆ หวานมาก รลชาติหวานมัน

ช่วงบ่ายเราไปรับประทานอาหาร มาหลวงพระบางก็ต้องทานตำหลวงพระบาง จัดว่าเด็ด นัวมาก

เริ่มหิวของหวาน แวะร้าน Formula.B ขนม เครื่องดื่มคืออร่อยมาก

เดินเยอะทั้งวัน เพื่อรอเวลาขึ้นพระธาตุพูสี ก็แวะนวดไปเลยสิค่ะ ร้าน Jasmine บริการดีมาก 70,000 กีบต่อคน แต่พวกเราไปหลายคนเลยต่อได้ที่ 60,000 กีบ  นวดเสร็จมีแรง ก็ไปเดินขึ้นบันได 328 ขั้น ประมาณ 150 เมตร เพื่อขึ้นไปวัดพระธาตุพูสีกัน ค่าเข้าคนละ 20,000 กีบ เดินขึ้นไปจะเห็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงด้านบนของพระธาตุพูสี 

ถ้าเดินขึ้นไปสุดจะเห็นจุดชมวิวแม่น้ำคาน และจุดชมวิวเมืองหลวงพระบาง ได้แบบทั่วทุกมุม


หลังจากนั้นก็ไปเดินตลาดมืด หาของกินกัน ก็ไม่พ้นตำหลวงพระบาง กินอิ่มก็ไปนั่งชิล เพราะอากาศดี ที่ TAN GOR Restaurant Bar & Lounge

Day 3: เดินตลาดเช้า - ออกเดินทางจากหลวงพระบางสู่วังเวียง

ตื่นเช้ามาเพื่อเดินตลาดเช้า และหาข้าวกินตอนเช้า ไปต่อที่ พระราชวัง หลวงพระบาง เสียค่าเข้าประมาณ 30,000 กีบ พระราชวังหลวงพระบางเป็นอาคารแบบฝรั่งแต่หลังคาเป็นแบบทรงลาว แต่ด้านในห้ามถ่ายรูป

ระหว่างทางแวะถ่ายรูปกับรถโบราณสักหน่อย

เดินไปถ่ายรูปที่วัดเชียงทอง เพราะคนยังไม่เยอะเท่าไหร่ ฟ้าเปิดแดดดี ฟ้าใส ค่าเข้าคนละ 20,000 กีบ พอเข้ามาต้องตกใจในความงดงาม ของ วัดเชียงทอง ได้เห็นแต่ในภาพ วันนี้ได้มาเห็นกับตาตัวเอง สวยจริงๆบอกเลย แลนด์มากที่ห้ามพลาดของ หลวงพระบาง

หอพระอันนี้แหละที่เค้า ฮิตๆ มาถ่ายรูปกัน รอไร เราก็ถ่ายสิ 555

เมื่อออกจากวัดเชียงทองแล้ว เราเดินทางวัดแสนสุขขาราม ระหว่างทางก็เจอบ้าบิ่นมะพร้าว คิวยาวมากๆ รอไม่ได้ เดี๋ยวตกรถไฟ

หน้าตาบ้าบิ่นมะพร้าวที่นี่ : 

เดินทางจากหลวงพระบางสู่วังเวียง โดยรถไฟ EMU ขึ้นรอบ 13.30 น. ถึงวังเวียง 14.30 น. ระหว่างทางนั่งรถไฟ เราก็จะเจอวิวสวยๆ

คืนนี้เราพักที่ VANG VIENG SAVANH SUNSET VIEW RESORT ที่พัก 3 ดาวแบบพอใช้ได้ หลังจากเดินทางมาเหนื่อยๆ ก็พักสักแปป เพื่อเตรียมตัวไปพายคายัคแม่น้ำซอง ใช้เวลาไม่นาน รอบนี้เราไม่ได้พายเอง จะมีไกด์ช่วยบอก ทิศทาง ของน้ำเชี่ยวบางจุด และตรงไหนมีก้อนหินเยอะๆๆ

หลังจากพายเสร็จแวะซื้อโรตีก่อนกลับไปที่พักเปลี่ยนชุดมาทานอาหารเย็นกัน

แวะมาทานอาหารเย็นที่ร้าน PS Restaurant & Bar ร้านนี้จะไปกิน ต้องจอง เพราะส่วนมากจะเป็นกรุ๊ปทัวร์มาลง ที่นี่มีเบียร์นำเข้าเยอะมาก และอาหารโซนนี้จะค่อนข้างติดหวาน และยำที่นี่จะแปลกๆไม่เหมือนบ้านเรา 555 กินเสร็จก็กลับที่พักพร้อมฝนกระหน่ำ

Day 4: นัดรถมารับแต่เช้าเพื่อขึ้นผาหนามไซ - บลูลากูน

ตื่นเช้าเพื่อออกเดินทางไปยังผาหนามไซ เพื่อขึ้นตอนเวลา 06.00 น. ผาหนามไซ ผาวัดใจ ทางขึ้นสุดโหด แต่วิวหลักล้าน มองเห็นทิวทัศน์ของทุ่งนาที่เขียวชะอุ่ม แถมได้เห็นความสวยงามของภูเขาเมืองวังเวียงได้ครบ 360 องศา เป็นอีกหนึ่งจุดที่มาวังเวียงแล้วไม่ควรพลาดเลยจริงๆ ค่าเข้าคนละ 10,000 กีบ ระยะทางเดินขึ้นจุดถ่ายรุปกับมอไซต์ประมาณ 350 เมตร สำหรับเราใช้เวลา 1.30 ชั่วโมงในการขึ้น เพราะเส้นทางที่ขึ้นค่อนข้างลำบากไม่ใช่พื้นถนนราบต้องปีนไต่ขึ้นไป ส่วนมากจะมีแต่โขดหินที่ขรุขระและแหลมคม ยิ่งตอนใกล้ถึงยอดเขาหินคมๆยิ่งเยอะบวกกับความสูงชัน รองเท้าต้องเอาแบบที่เกาะหินอยู่ เกาะดิน ได้ดี พอเดินไปถึงยอดเขา ผาหนามไซ ได้มาเห็นวิวเห็นธรรมชาติความเหนื่อยความท้อ จุดไฮไลท์ ของผาหนามไซก็คือ มอเตอร์ไซด์และธงชาติลาว ขาลงเหมือนจะง่ายแต่ก็ผ่านลงมาด้วยดี

หลังจากนั้นก็ไปต่อที่ บลูลากูน น้ำใสมาก ถ่ายรูป บรรยากาศ

Day 5: นัดรถตู้มารับที่วังเวียง มุ่งสู่เวียงจันทน์

จุดแรกที่แรกที่ไปพิพิธภัณฑ์สีสะเกด หรือวัดสีสะเกด เป็นวัดหลวงแห่งนครเวียงจันทน์ ลาว เปิดตั้งแต่ 8.00 -17.00 น. ค่าเข้า 30,000 กีบ วัดนี้ถือว่าเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปมากสุดในเวียงจันทน์ ทางเข้าวัดอยู่ฝั่งตรงข้ามหอพระแก้ว ด้านหน้าวัดจะมีคุณลุงนั่งวาดภาพบนกระดาษสา คุณลุงบอกว่าเป็นกระดาษที่วาดยาก

หลังจากพวกเราก็แวะทานมื้อเที่ยงที่ Kualao Restaurant เป็นร้านอาหารพื้นเมืองแบบในวัง

ทานมื้อเที่ยงเสร็จพวกเราก็มุ่งหน้าไปที่ประตูชัย เพื่อเก็บภาพประตูชัย มาลาวแล้วไม่มาที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึง

สถานีต่อไปคือวัดพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เรียกได้ว่า หากไม่ไปกราบไหว้สักการะก็เหมือนไปไม่ถึงเวียงจันทน์เลยทีเดียว ตามเรามาเที่ยวชมความสวยงามของที่นี่กันได้เลย! ที่นี่จะเปิด 8.00 -17.00 น. ค่าเข้าคนละ 30,000 กีบ

สถานที่สุดท้ายก่อนที่เราจะข้ามด่านไปยังหนองคาย ร้าน Mystery Cafe เป็นร้านขนม กาแฟ ฮันนี่โทสต์

หลังจากนั้นพวกเราเดินทางข้ามแดนด่าน หนองคาย เวียงจันทน์ เพื่อมาพักที่หนองคาย 1 คืน เพื่อบินกลับกทม. พวกเรามาพักที่ฮักเคียงโขง ที่นี่บริการดีมาก ที่พักคือดี หลังจากที่ไปลาวหลายวัน เริ่มอยากกินอาหารรสชาติไทย พวกเราก็มาจบกันที่ร้าน ดีดีโภชนา เป็นร้านอาหารที่อร่อย ถูก ในหนองคาย

Day 6: เตรียมตัวเดินทางไปที่อุดรธาานี เพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบินอุดร เพื่อบินกลับกทม. ก่อนขึ้นเครื่องเราก็แวะกินข้าวเที่ยงที่ร้าน DOSE Factory อุดรธานี คือ The Best ที่เป็นโรงงานของคนรักกาแฟในอุดรธานี ตกแต่งสไตล์โรงงานแบบอินดัสเตรียลลอฟต์ ตั้งอยู่ริมถนนนเรศวร ใจกลางเมืองอุดรธานี พอเดินเข้ามาในร้านปุ๊บ พนักงานก็เสิร์ฟเวลคัมดริงค์ Pineapple & Sweet Basil ให้ทานก่อนเลยค่ะ เป็นการบริการระดับโรงแรมมากๆ

เมนูเครื่องดื่มที่สั่ง:

Serotonin (เซโรโทนิน) ราคา 125 บาท  >> เป็นกาแฟนุ่มจากบราซิล รสชาติจะเป็นเนย ถั่ว ผสมกับวานิลลาและชาเอิร์ลเกรย์ แบบลงตัว ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายเวลาดื่ม

Passion Bomb คือน้ำเสาวรส ราคา 75 บาท

Bella ราคา 125 บาท  >> เป็นเครื่องดื่มสดใส เปรียบเสมือนผู้หญิงสวย ส่งกลิ่นที่เย้ายวนของลิ้นจี่ และ กุหลาบ พร้อมความสดชื่อนด้วยโซดา

เซริ์ฟแอนด์เทิร์ฟ ครีมสไปซี่ ( Surf & Turf Cream Spicy ) ราคา 325 บาท  >> เป็นเมนูสปาเก็ตตี้ ที่มีกุ้ง เบคอนผัดกับซอสครีมเผ็ด รสชาติเข้มข้น ไม่เลี่ยน

สลัดมัม ราคา 195 บาท  >> เป็นสลัดโบราณ ที่มีส่วนผสมของทูน่า ไข่ขาวต้ม พวกมันแกว แตงกวา และผักสลัดต่างๆ คลุกเคล้าด้วยน้ำสลัดไข่แดง รสชาติจะออกเปรี้ยวๆหวานๆ

ผักโขมชีสสติ๊ก ราคา 185 บาท / โปเตโต้ เวดเจส ราคา 165 บาท / สปาเกตตี้ ซีฟู้ดผัดพริก ราคา 255 บาท

พิซซ่าหน้าแฮมสัปปะรด และ แซลมอนรมควัน ทำแป้งได้อร่อยมาก ชอบ

ผัดหอยอาชาริ ทานคู่กับขนมปังกระเทียม

ร้านนี้คือดีย์ทุกอย่าง ถ้าเทียบราคากับที่กทม. อันนี้เราให้ 10/10 อ่ะ สำหรับรสชาติ และการบริการ

ถึงเวลาเดินทางกลับบ้าน ลาวเป็นประเทศที่คุณหลงใหลและอยากที่จะกลับไปกันอีกแน่นอน เพราะผู้คนที่ใจดี ยิ้มแย้ม มีแต่ธรรมชาติ

📷 รูปภาพทั้งหมดถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ Note 10 plus

บะบาย แล้วไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ

ฝากติดตาม ฝากแชร์คอนเท้นนี้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ

สามารถติดตามได้ที่ช่องทาง FB Page: ชะนีรีวิว - Chanee reviews

หรือ สอบถามรายละเอียดได้ที่ : IG: Bellemariere 

ชะนีรีวิว - Chaneeereviews

 วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 00.31 น.

ความคิดเห็น