ได้ยินชื่อไร่แสงอรุณมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสไปด้วยระยะทางที่ห่างจากตัวเมืองค่อนข้างมาก ไปแล้วก็ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนต่อ ประเด็นนี้ไม่สำคัญเท่าบ้านพัก (หลังที่ต้องการ) เต็มตลอดปีค่ะ ถึงอยากไปแต่ก็ทำไม่ได้ง่ายๆ จังหวะเราและบ้านต้องตรงกัน มาปีนี้แหละ บอกตัวเอง เอาซักที ไปให้รู้ (ไม่รู้จะเกริ่นให้ยิ่งใหญ่ทำไม) สรุป คือ ได้บ้านตอนหน้าฝน จองล่วงหน้า 4 เดือน
แปะ GPS ตามธรรมเนียมปฏิบัติ 20.396468, 100.299433
หลังจากจองบ้านพักพร้อมโอนเงินมัดจำ 50% แล้ว ทางที่พักให้ข้อควรปฏิบัติ/ข้อควรระวัง เกี่ยวกับการเดินทางค่ะ คร่าวๆ คือ ควรไปถึงไร่ก่อน 17.00 น. เพราะถนนเลียบแม่น้ำโขงเป็นถนนชนบทไม่เรียบตลอดเส้นทาง และหลัง17.00 นแสงไฟบนถนนบางตอนน้อยกว่าปกติอาจทำให้หลงแล้วเลยไปฝั่งลาวได้ (วรรคสุดท้ายที่พักไม่ได้กล่าว เรากล่าวเอง)
ข้อควรปฏิบัติอีกอย่าง คือ ก่อนเข้าพักประมาณ 14 วัน อย่าลืมโอนเงินอีก 50% ที่เหลือ เพราะเดี๋ยวไม่โอนห้องจะหลุดมือไป (เตือนแล้วนะ)
เอาแผนที่บ้านพักมาให้ดูก่อน ไร่แบ่งบ้านพักเป็น 2 โซน คือ โซนแม่น้ำ (บ้านริมโขง 123) และโซนภูเขา โซนนี้เราแบ่งเองเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนบ้านเดินใกล้ (บ้านบึงบัว 123) กับส่วนบ้านเดินไกล คือ เดินตัดทุ่งนา/ทุ่งหญ้า 1 แปลงใหญ่ๆ แล้วขึ้นเขาไปอีกตามระดับความสูง ไกลสุดน่าจะ บ้านเพียงออ 4 ตามแผนที่
บ้านที่เราตั้งใจไว้ คือ โซนแม่น้ำค่ะ ได้บ้านริมโขง 2 (แต่วิวดีสุดแนะนำ ริมโขง 1 นะคะ เราจองไม่ทัน อยากจะถามว่า น้องจองล่วงหน้ากี่เดือนคะ)
เรื่องแผนที่ คุ้นๆ ว่ามีคนเคยเตือนว่า google map ปักหมุดไร่แสงอรุณผิด ปักเลยไปไกลหรือไปคนละทางนี่แหละ เราใช้นำทางมาตลอด แต่อาศัยลิงค์จากทางไร่ส่งมาทางเมล์นำทางมา ปรากฎว่าตรงเป๊ะนะคะ เลยไม่แน่ใจว่าอาจจะแก้ไขแล้ว สบายใจได้ แต่ทางเข้าตาม map ที่นำทางมาอาจจะพาเข้าซอยที่งงนิดหน่อย แบบขับไปก็ใช่เหรอ ใช่เหรอไปตลอด จนเจอป้ายสุดท้ายอีกไม่กี่ร้อยเมตรให้พออุ่นใจ ไม่หลงแน่แล้ว
ป้ายไร่แสงอรุณจะอยู่ฝั่งบ้านโซนภูเขาค่ะ มาจากตัวเมืองเชียงราย ป้ายอยู่ขวามือ เห็นป้ายปุ๊ป หักซ้ายปั๊ปเพราะถึงที่จอดรถพอดี แต่ถ้าเลย ค่อยๆ ถอยได้ค่ะ รถน้อย แต่ระวังหมาแมว เยอะมาก
มีที่จอดรถให้ประมาณ 6-7 คันค่ะ ทำแนวจอดรถด้วยไม้ไผ่เล็กๆ ที่เรามองไม่เห็น แต่ไม่เป็นไร จอดไปก่อนพอเชคอินเรียบร้อยแล้ว เจ้าของจะมาบอกเรื่องจอดให้เป็นที่เป็นทางอีกที
ทางไร่มีแมวกวักนอนต้อนรับอยู่หน้าเคาน์เตอร์ เวลคัมดริ๊งเป็นน้ำกระเจี๊ยบเย็นชื่นใจ ครัวปิด 6 โมงเย็น แต่นั่งกินได้ถึง 1 ทุ่ม เราไปถึงก็เกือบสี่โมงเย็นแล้วเค้าก็เลยให้สั่งอาหารไว้เลย แต่ถ้าใครไม่อยากออกมากินข้างนอกที่นี่มีบริการปิ่นโตด้วยค่ะ
เรียบร้อยแล้วไปดูห้องพักกัน พนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เพราะหน้าที่ต่างๆ หนักทั้งนั้นค่ะ ยกกระเป๋า ทำความสะอาด ปลูกผัก ส่งปิ่นโต บล่าๆๆ
บ้านริมโขง ชื่อก็บอกแล้วว่าริมโขง ก็คือ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงเลยค่ะ หลังแรกสุดที่เห็นตามภาพเป็นหลังที่ 1 ที่ว่าวิวดีสุด ภายในมีเตียงเดี่ยวขนาดพอดี 1 เตียง เราจองไว้มีเสริมอีก 1 (ที่นอนเสริมแอบเล็กไปพลิกตัวทีตกเลย) มุมนึงจัดเป็นโต๊ะหนังสือ โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า มีหมอน ผ้าห่มให้เพิ่มเติมด้วยถ้าหน้าหนาวน่าจะได้ใช้ครบค่ะ (ไฟภายในห้องแสงสีเหลือง แต่งหน้าลำบาก สาวๆ ระวังหน้าเทานะคะ)
ของในตู้เย็นกินได้หมดเลย
ห้องน้ำเป็นแบบกึ่งปิดกึ่งเปิด น้ำอุ่นทำงานได้ดีมาก แต่ถ้าอาบตอนฝนตกก็จะอุ่นๆ เย็นๆ สลับกันไปมา น่ากลัวนิดหน่อยช่วงกลางคืนด้วยความที่หลังคาเปิดโล่งค่ะ ในส่วนที่มีหลังคาปิดก็ยังเป็นหลังคาแบบใส และมีช่องให้มองลอดขึ้นไปได้ ด้านนอกเป็นต้นไม้ใหญ่ ใครกลัวผีแนะนำอย่าสอดส่ายสายตาไปมา เพราะชวนหลอนมาก
ที่นี่ไม่มีไดร์เป่าผมนะคะ
ด้านนอกเป็นระเบียงยื่นออกไปยังแม่น้ำ (น้ำน้อยมาก ว่ามะ) ตอนฝนตกต้องเก็บหมอนสารพัดสีเข้ามานะคะเพราะฝนสาด เปียกเรียบ ตอนเราไปก็ได้แต่จัดถ่ายรูปค่ะใช้งานจริงไม่ได้ เพราะหลังจากนั่นแว๊บเดียว ฝนก็ตกมาตลอด แอบมีไม้กวาดให้ด้วย (อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย กวาดเศษไม้แห้งตายออกจากระเบียง)
เก็บภาพวิวตรงระเบียงหลังห้องได้ซักพักเดียวฝนก็ตกลงมาค่ะ เราต้องรีบออกจากห้องตรงไปที่กินข้าวเย็น กลัวฝนตกหนักออกมาไม่ได้แล้วจะอดกิน (เรื่องวิวนั่นสำคัญ แต่เรื่องกินสำคัญกว่า)
ฝนตกทำให้เราต้องมากินอาหารเย็นกันตรงอาคารเชคอินแทนโต๊ะด้านนอกวิวริมน้ำค่ะ แต่อาหารเช้าถ้าฝนไม่ตกก็จะได้ไปนั่งชมบรรยากาศกัน มาลุ้นๆ ขอให้ตกให้หมดซะเย็นนี้
เรามาถึงที่กินข้าวก่อนฝนตกค่ะ เอาเถอะค่ะ เชิญตก ยังไงวันนี้ไม่อดข้าวเย็นแน่นอน ส่วนแมวกวักยังนั่งที่เดิม เพิ่มเติมคือเปลี่ยนมุม
ช่วงเย็นในครัวค่อนข้างวุ่นวายค่ะ เพราะต้องเตรียมอาหารใส่ปิ่นโตให้แขกที่สั่งไปทานที่บ้านพักด้วย บวกกับฝนตกด้วยก็เลยช้าไปบ้าง นอกจากจะยุ่งๆ แล้วยุงก็เยอะด้วย พนักงานจะเอาสเปรย์กันยุงให้ฉีดก่อนกินข้าว (ฉีดใส่กับข้าวไปเลย....ไม่ใช่มั๊ง)
มาดูอาหารกันค่ะ เราสั่งไป 4 อย่าง ไม่คิดว่าปริมาณแต่ละอย่างจะอลังการขนาดนี้
ยำหมูยอ ต้มยำปลาคัง ชุดน้ำพริกอ่อง ผัดผัก เสิร์ฟพร้อมข้าวกล้อง
ที่บ่นๆ ว่าเยอะ ถามว่ากินหมดมั๊ย
หลังฝนตกก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ 5411 5541 5461
หลังฝนตกก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
เก็บภาพตอนโพล้เพล้มาฝากค่ะ
ฝนตกตลอดคืน และแล้วไฟฟ้าก็ดับไป (สงสัยตั้งแต่สำรวจห้องแล้วว่าที่นี่แปลกดีมีไฟฉุกเฉินติดไว้ด้วย ไม่คิดว่าจะแจ๊คพ็อตได้ใช้) วุ่นวายใจคิดต่อไปบ้านพักบนภูเขาไฟดับน่าจะแย่กว่าเรานะ (รู้สึกดีขึ้นนิดนึง) แต่ปรากฎว่า ฝั่งโน้นไฟไม่ดับค่ะ ดับอยู่ฝั่งเดียว อาบน้ำท่ามกลางแสงไฟจากไอโฟน (อาบเสร็จ ไฟมา...)
ภาพตอนเช้ากับหมอกจางๆ
เช้านี้ฝนหยุดตกแล้วค่ะ พนักงานเริ่มกางโต๊ะอาหารริมน้ำ แปลว่าวันนี้เราได้กินตรงนี้แน่นอน
อาหารเช้าที่นี่ให้เลือกระหว่าง ABF กับข้าวต้มหมู (ขอแบบไร้ผักไป 1 ชาม) เสิร์ฟพร้อม ชา/กาแฟ/โอวัลติน และปิดท้ายด้วยผลไม้ รสชาติดีและเยอะมากทั้งคู่ เวลากินไม่หมดจะรู้สึกผิดเพราะแปลงผักอยู่ข้างๆ คือปลูกเองทำเอง จะรู้สึกว่าเรากินทิ้งกินขว้าง (แนะนำค่ะ สำหรับใครทานน้อยเป็นปกติ ให้เค้าลดปริมาณข้าวลงดีกว่า)
พอเริ่มอิ่มฝนก็เริ่มตกลงมาอีกรอบ แต่ภารกิจเรายังไม่เสร็จ ยังไม่ได้ข้ามไปเก็บบรรยากาศอีกฝั่ง ไม่ได้ค่ะ งานรีวิวที่พักอย่าให้พร่อง (ร่มคัน กล้องตัว)
บ้านพักโซนภูเขาจะได้วิวเขียวๆ ของต้นไม้ค่ะ และได้วิวแม่น้ำในมุมสูง วิธีการเดินทาง คือต้องผ่านสะพานไม้ไป บ้านพักใกล้สุด คือ บึงบัว อยู่ตรงลำธารแรกหลังจากตัดทุ่งมาค่ะ
บ้านพักหลังอื่นต้องเดินตัดไปอีก 1 ทุ่ง แล้วก็ขึ้นเขาไปอีก 1 ลูก (บันไดลิบๆ เดินค่ะเดิน)
ความเห็นกับไร่แสงอรุณ
ข้อดี
1. บรรยากาศดี วิวสวย
2. อาหารอร่อย
3. การบริการดีมากตั้งแต่เจ้าของไร่ (คิดว่าใช่นะคะ) ไปถึงพนักงาน
ข้อเสีย
1. ถนนเป็นทางชนบทค่ะ ไม่เหมาะเดินทางเข้าออกตอนกลางคืน
2. ห้องน้ำแบบเปิดโล่งช่วงหน้าฝนใช้งานค่อนข้างลำบาก
3. หน้าฝน กิ้งกือเยอะมาก (ย้ำ เยอะมาก) ความสามารถทะลุทะลวงสูงมาก ปีนมาถึงผนังห้องน้ำเลยทีเดียว คืออีกนิดเดียวจะซุกตัวอยู่ในผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่แล้วอ่ะ
ไปกินไปเที่ยว - หญิงเฮเทกระจาด
วันพฤหัสที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.30 น.