สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน เรียกผมว่า "Mr.Electric" ก็ได้สิ่งที่ผมจะเขียนถัดไปคือเรื่องราวการเดินทาง 30 วันกับแบงค์พัน 20 ใบ 

First day

ผมตัดสินใจออกจากงานและมาทำตามสิ่งที่ใจบ้าๆเรียกร้อง

หลังจากออกจากงานวันแรกสำหรับการเดินทางที่ยาวไกลได้กลับมาดอยปุยอีกครั้งที่แห่งนี้มีหลายๆอย่างเป็นเรื่องราวทำให้หวนคิดคำนึงผมนั่งรถไฟธรรมดา 320 บาท จากรังสิตมาลงเชียงใหม่จากนั้นต่อรถสองแถวไปในเมือง 40 บาท และเช่ารถมอเตอร์ไซต์จาก "อาร์เขต" มา 10 วัน เป็นราคา 2500 บาท ผมขับมาเรื่อยๆจนถึง "ลานกางเต้นท์ดอยปุย" ตอนนั้นเป็นเวลา 14.20 น. ผมนำเต้นท์มาเองจึงเสียแค่ค่าสถานที่ 30 บาท วันนี้เหนื่อยมากเพราะด้วยอายุและร่างกายที่ไม่ออกกำลังเลยบวกกับกระเป๋าที่โคตรหนักทำให้การผจญภัยครั้งนี้ค่อนข้างลำบากถึงแม้ว่าใจจะไหวแต่ก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อนไม่ได้แข็งแรงเหมือนตอนวัยรุ่นมหาลัยแล้วทำอะไรต้องระมัดระวัง จริงๆมีเด็กวัยรุ่นฝรั่งมาชวนปั่นจักรยานวิบากพวกบอกว่าพี่ลุยเลยมันๆถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ลุยแน่แต่ตอนนี้ขอผ่านก่อน 

น้องๆพวกนี้เป็นเด็กที่ถูกอุปถัมภ์จากครอบครัวชาวต่างชาติน้องๆเป็นคนไทยแต่ว่าพูดภาษาไทยไม่ได้พวกเขาเกิดแต่ไม่ได้เติบโตที่นี้เพราะถูกเลี้ยงดูในต่างประเทศ คนซ้ายมือชื่อ "คาลิป" คนขวาชื่อ "โยเซฟ" ชื่อของพวกเขามาจากพระคัมภีร์ไบเบิลเด็กๆสองคนนี้มีพลังในการใช้ชีวิตเยอะมากพวกเราพูดคุยกันอย่างเมามันจนได้ทราบว่าจริงๆแล้วไม่ได้มีแค่พวกเขาเพียง 2 คนเท่านั้นแต่ยังมีพี่ๆน้องที่ถูกอุปถัมภ์อีกหลายคน

"คาลิป"เป็นเด็กที่อายุเพียง 16 ปี แต่น้องมีความฝันและจินตนาการที่สวยงามน้องอยากเป็น Pilot (นักบิน) ที่เก่งกาจ น้องจะใช้เวลาว่างศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องของเครื่องบินและการเรียนต่ออย่างเป็นระบบ คาลิป บอกว่าเขาชอบถ่ายรูปเครื่องบินเวลามันกำลังขึ้น ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมจึงถามน้องไปเขาตอบอย่างมั่นใจก็เพื่อจะได้นำมาศึกษาและแยกเยะว่าลำไหนชื่ออะไรเป็นของสายการบินไหนและรุ่นอะไร ผมอุทานออกมา "Oh my goodnees" ใช่ครับกล้องที่น้องถืออยู่ในมือคือสิ่งที่จะทำให้ความฝันของน้องเป็นจริง น้องพยายามเปิดคลิปยูทูปที่เป็นสารคดีเกี่ยวกับการสร้างเครื่องบินให้ดูแต่ด้วยความมึนของผมจึงไม่สามารถเข้าใจได้สุดท้ายจึงตัดบทน้องไปดื้อๆ (Hahaha)

"โยเซฟ" อายุ 12 ปีแต่เปี่ยมไปด้วยพลังผมก็ถามคำถามเดิมว่ามีความฝันไหมน้องตอบกลับมาทันทีว่าตอนนี้ยังไม่มีเพราะอายุยังน้อยอยู่ขอใช้ชีวิตสนุกสนานให้สมกับวัยก่อนแล้วในอนาคตค่อยคิด (Hahaha) เจ้าเด็กนี้คำพูดคำจามันคมนัก

การสนทนาของเราสามคนดำเนินไปอย่างสนุกสนานจนผมไม่รู้ว่าจะคุยเรื่องอะไรจึงชวนเข้าประเด็นของเกม "พวกเราไม่เล่นเกมครับเพราะผู้ปกครองไม่อนุญาต" นี้คือคำตอบที่ได้รับผมยืนมึนไปพักหนึ่งและก็ครุ่นคิดอยู่ในใจว่าทำไมนะแต่ในที่สุดก็เข้าใจได้ ผ่านทางการพูดคุยกับน้องๆทำให้ผมได้มองย้อนกลับไปถึงชีวิตในวัยเด็กของตัวเองที่สมัยนั้นยังไม่มีความฝันอะไรเลยไม่มีแผนการอะไรทั้งนั้นแค่ใช้ชีวิตมึนๆไปวันๆถึงแม้มันจะมึนแต่มันก็สดใสและมีความสุขมาก รอคอยวันเสาร์-อาทิตย์และต้องตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อดูการ์ตูนช่อง 9 หลังจากการ์ตูนจบก็ไปปั่นจักรยาน, ตกปลา, เล่นเกมออนไลน์ และก็ดีดลูกแก้วกับเพื่อนแค่นี้ผมก็มีความสุขที่สุดแล้ว

ผมแวะซื้อข้าวกล่อง,ขนมปังและน้ำที่ 7-11 เป็นเงิน 90 บาท ข้าวกล่องกินตอนเย็นส่วนขนมปังกินตอนเช้าประหยัดเข้าไว้จะได้อยู่ยาวๆ (Hahaha)

ผมใช้เวลาหนึ่งคื่นที่ได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดกับคนรอบข้างมันเป็นช่วงที่มีค่าและสวยงามมากๆผมสูดอากาศเต็มปอดและยืนมองเมืองเชียงใหม่ที่ไม่หลับไหลอย่างกับเด็กมองลูกโป่งวันนี้ถึงจะเหนื่อยและลำบากแต่ก็คุ้มที่ได้เห็นอะไรใหม่ๆในชีวิต

เราสามารถมองเห็นเมืองเชียงใหม่ทั้งเมืองได้ผ่านสถานที่แห่งนี้แสงไฟ,อากาศที่ดีและแสงดาวยามค่ำคืนทำให้รู้สึกเป็นอิสระอย่างบอกไม่ถูกอุณภูมิรอบข้างเริ่มลดลงเรื่อยๆความหนาวเริ่มเข้ามาตอนนั้นเป็นเวลา 20.00 ผมเริ่มง่วงเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทางผมโบกมือลาเมืองเชียงใหม่และเข้านอน ฝันดีทุกท่าน

Mr.Electric

 วันพฤหัสที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 22.20 น.

ความคิดเห็น