สวัสดีค่ะทุกคน...ในห้องบลูแพลนเน็ต

กระทู้แรกของเราในปี 2022

จริงๆก็หายไปนานมากเพราะโควิดแล้วไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย TT_TT


ก่อนอื่นต้องขอกล่าวถึงที่มาของการเขียนกระทู้นี้ก่อนเลย

คือว่า พันทิปได้จัดกิจกรรมให้สมาชิกได้ร่วมเล่นเกมส์ในกิจกรรมที่ชื่อว่า...

" Isan In Love : ม่วนอีหลีคีรีริมโขง "

จัดขึ้นโดย พันทิป ร่วมกับ ททท. 

https://pantip.com/topic/41471398


เราก็ได้เป็นผู้โชคดีของกิจกรรมนี้นั่นเอง (แต้มบุญยังเหลือเด้อ 555)

เส้นทางของเราคือ เส้นทางที่ 2 "นครพนม-สกลนคร (Adventure)"

ระหว่างวันที่ 22 July - 24 July 2022

เริ่มเลออออ -


Day 1 : 22 July 2022

ทีมงานนัดเจอกันที่สนามบินดอนเมือง เวลา 06.00 น. เพื่อลงทะเบียนและรับของที่ระลึกกันค่ะ

ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้จะมีเพื่อนร่วมเดินทางด้วยกันมากกว่า 30 ชีวิต

แบ่งเป็น 3 เส้นทางนะคะ

พร้อมลุยแล้วค่ะ...


และนี้คือเพื่อนเดินทางไปกับเราในครั้งนี้ แฮ่ๆ

-

เราออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบิน แอร์เอเชีย

ไปยังสนามบินนครพนม เราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงยังจุดหมายกันแล้วค่ะ


Cr. ยืมรูปจากทีมงานมานะคะ


สถานที่ที่ 1 : บ้านลุงโฮ บ้านนาจอก

บ้านลุงโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh’s House) หรือบ้านลุงโฮ เป็นบ้านที่เคยใช้เป็นที่พำนักของท่านประธานาธิบดีโฮจิมินห์

ในช่วงกอบกู้เอกราชของเวียดนาม ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่จัดแสดงเรื่องราวที่สำคัญในครั้งนั้น

รวมไปถึงประวัติและยังได้นำข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของท่านโฮจิมินห์มาทำการจัดแสดง

ซึ่งตัวบ้านมีลักษณะเป็นบ้านโบราณที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมไทยผสมเวียดนามอย่างมีเอกลักษณ์

โดยรอบๆ ยังมีความร่มรื่นจากต้นไม้นานาชนิดให้เที่ยวชมอีกด้วยค่ะ

การเดินทางไปบ้านลุงโฮจิมินห์

             รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองนครพนมไปบ้านลุงโฮจิมินห์ มีระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

             และสามารถเหมารถหรือเช่ารถไปยังสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดนครพนมได้ตามความสะดวกเลยค่ะ


เปิดทุกวัน 08:00 น. – 18:00 น.

เพื่อความแน่ใจแนะนำให้โทรสอบถามก่อนเดินทางนะคะ


ไปดูกันว่าที่นี่มีอะไรบ้าง ...

เมื่อเรามาถึงยังบ้านลุงโฮ จะมีทีมงานคอยตอนรับและมีอาหารว่างให้เราได้ลองชิมกันด้วยค่ะ

ชาร้อน (เราจำไม่ได้แล้วววว 55) กลิ่นหอม ดื่มแล้วสดชื่นดีค่ะ

ขนมใบป่าม (ไม่แน่ใจว่าออกเสียงถูกมั้ยนะ) มีใส้ถั่วผสมมะพร้าว หวานๆเค็มๆ เราว่าคล้ายๆกับขนมเทียนของภาคกลางเลยค่ะ

ใส้ของขนมจะเป็นประมาณนี้ค่ะ

ทานคู่กันก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ

เมื่อทานของว่างเสร็จแล้ว ก็จะมีวิทยากรประจำบ้านมาให้ความรู้กับกลุ่ม นทท. ค่ะ

ปล.จำชื่อวิทยากรไม่ได้นะคะ 555


ต่อไปเราไปชมบริเวณรอบๆ และข้าวของเครื่องใช้ของลุงโฮกันเลยค่ะ


ในรูปนี้คือลุงโฮนะคะ (แต่จำช่วงอายุไม่ได้ค่ะ)


ถึงเวลาเราก็ต้องเก็บรูปกันหน่อยเนอะ

อันนี้เราเอง ถ่ายคู่กับป้ายหน่อยละกัน เดี๋ยวว่าเรามาไม่ถึง แฮ่ๆ


อันนี้บัดดี้เราเอง - ผู้ร่วมเดินทางในทริปนี้



หลังจากที่เราได้เยี่ยมชมบ้านลุงโฮเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ก็ได้เวลาไปทานอาหารเที่ยงแล้วค่ะ


สถานที่ที่ 2 : ร้านอาหาร สบายดี @นครพนม

หิวแล้ววววววว เริ่มเลอออ...

เมนูแรก : ปลาเค้าทอดน้ำปลา เนื้อปลาคือสดมากๆ รสชาติดีมากเลยค่ะ

ต่อมา : กุ้งกระเบื้อง (เคยลองครั้งแรก อร่อยดีค่ะ) แป้งกรอบๆ จิ้มกับน้ำจิ้ม เข้ากันสุดๆไปเลย

ต่อมา : แกงส้มชะอมกุ้ง (กุ้งตัวใหญ่มากๆ) น้ำแกงคือเข้มข้นสุดๆ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ดีงามเลยค่ะ

ต่อมา : ผัดฉ่าปลาคัง เนื้อปลาสดมากเลย รสชาติดีมากๆค่ะ

เมนูนี้คือ พันหอม (ใช่ไหมนะ 555) มีไข่ หมูยอ ผักสลัด พันด้วยหอม ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด เข้ากันสุดๆไปเลย

ของคาวแล้วเราก็ต้องต่อด้วยของหวานสินะ จะได้ครบสูตรเนอะ 555

จะบอกว่าอาหารที่ร้าน สบายดี @นครพนม อร่อยทุกอย่างที่ทีมงานได้จัดให้เราทานเลยค่ะ

ที่ร้านมีเมนูอาหารให้เลือกมากมาย หลักๆจะเน้นเป็นเมนูปลานะคะ

และก็ยังมีเมนูขนมหวานอีกมากมายให้เราได้ทานด้วยน๊า

.

.


เมื่อเราอิ่มท้องกันแล้ว

ก็ได้เวลาที่ต้องไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนครพนมกันแล้วค่ะ


นั่นก็คือ...


สถานที่ที่ 3 : พระธาตุพนม

"พระธาตุพนม"

ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอีสาน พระบรมธาตุที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาของนครพนมมาแต่โบราณ

พระธาตุพนมแห่งนี้ก็ยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิดวันอาทิตย์และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีวอกอีกด้วย

ซึ่งไม่ว่าใครที่ได้ไปกราบสักการะก็จะได้รับอานิสงส์ บุญบารมี เสริมดวงและความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตอีกด้วย

จะบอกว่าพระธาตุสวยงามมาก เคยอยากไปหลายครั้งแล้ว 

และครั้งนี้ได้ไปสักการะด้วยตัวเอง ได้เห็นกับตา รู้สึกดีและชอบที่นี่เอามากๆเลยค่ะ 

พระธาตุพนมเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่สำคัญของจังหวัดนครพนม

ที่ใครมาแล้วต้องห้ามพลาดที่ต้องมาสักการะกันค่ะ


ถ้ามีโอกาสจะกลับไปไหว้อีกนะคะ

-

เมื่อเราได้ทำการสักการะ ไหว้พระ ทำบุญ ถ่ายรูปกันเรียบร้อยแล้ว

สถานที่ต่อไปเราต้องไปเช็คอินเข้าที่พักกันก่อน

.

.

สถานที่ที่ 4 : โรงแรมชีวาโขง (Chewa Khong Hotel) 

โรงแรม Chewa Khong โรงแรมใหม่ล่าสุดในนครพนม ที่เพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นานนี้เอง

มีร้านกาแฟบนชั้น 6 ของโรงแรมที่วิวดีมากๆ มองเห็นแม่น้ำโขง ชื่อร้าน Chewa Cafe By SK Sroikham 

ตัวโรงแรมตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ออกแนวมินิมอล วิวที่เห็นเบื้องหน้าคือ วิวแม่น้ำโขง มีภูเขาสวยๆ ให้เราได้ชมด้วยนะคะ

เดี๋ยวมารีวิวต่อนะคะ

รอหน่อยน๊า...

มาต่อกันเลยค่าาา...

เราได้ทำการเข้า Check in เก็บของ พักผ่อน เดินเล่น ถ่ายรูปกัน

เรามาดูในส่วนของโรงแรมเรามาดูบรรยากาศว่าเป็นแบบไหนกันค่ะ

จะบอกว่าห้องกว้าง สะอาด ครบจบเลยค่ะ

ในส่วนของด้านบนชั้น 6 จะมีสระว่ายน้ำ วิวมองเห็นแม่น้ำโขงด้วยค่ะ

จะบอกว่ามุมถ่ายรูปที่โรงแรมคือดี แสงสวยมากๆค่ะ

"Chewa Cafe By SK Sroikham" คาเฟ่ด้านบนชั้น 6 ที่บรรยากาศดีมากๆ ถ่ายรูปสวยมากๆเช่นกัน

โดยรวมของโรงแรมสำหรับเราถือว่าดีมากเลยค่ะ ราคาถูก พนักงานดูแลดี ประทับใจค่ะ

ทางทีมงานได้นัดเราตอน 18.00 น. เพื่อไปทานอาหารเย็นกันค่ะ

ก่อนที่เราจะไปร้านอาหาร ทางทีมงานได้มีกิจกรรมให้เราเล่นก่อน โดยให้เราไปหา Landmark ที่ถนนคนเดิน

เราไปดูบรรยากาศถนนคนเดินกัน

.
.

"ถนนคนเดินริมโขง นครพนม"

ซึ่งอยู่บริเวณหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ มีทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลาประมาณ 16.30 น. - 20.30 น.
เราสามารถเดินลัดเลาะออกไปตามริมน้ำโขงแล้วจะเจอ Walkway เส้นทางสวรรค์ชายโขง 12 จักราศี วิวดีมากๆ
มีทั้งทางปั่นจักรยาน และ Boardwalk มีผู้คนมาเดินออกกำลังกาย หรือเดินเล่นชมโขง
*จุดจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยว จอดได้ที่บริเวณหลังตลาดอินโดจีน และเลียบริมโขง ถนนสุนทรวิจิตร หน้าโรงเรียนสุนทรวิจิตร
ไปจนถึงบริเวณลานตะวันเบิกฟ้า

ขอภัยในความมีแต่รูปเรานะคะ

วันนี้วันแรกที่เราได้ไปเดินถนนคนเดิน ผู้คนน่ารัก เมืองสะอาด และของกินก็เยอะมากๆ เช่นกัน

เราอยู่ที่ถนนคนเดินประมาณ 1 ชั่วโมง ได้เวลาเดินทางไปร้านอาหารกันแล้วค่ะ

"River Bar & Restaurant"

เมื่อเรามาถึงยังร้านอาหาร ทางทีมงานก็มีกิจกรรมให้เราได้ร่วมสนุก พูดคุยกัน มอบของที่ระลึก
(ไม่ได้มีภาพบรรยากาศมาฝากน๊า เพราะมัวแต่หิว 555)

แต่เรามีภาพอาหารมาฝากนะทุกคน อาหารอร่อยเกือบทุกอย่างเลยค่ะ

ปล.เราจำชื่อเมนูไม่ได้นะคะ 555

เมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ทำกิจกรรมเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลากลับไปพักผ่อน

เพื่อเตรียมตัวตื่นเช้าออกเดินทาง ของแต่ละเส้นทางกันค่ะ

แล้วพรุ่งนี้มาดูกันนะคะ ว่าเส้นทางที่ 2 "นครพนม-สกลนคร (Adventure)"

มีอะไรให้เราได้ไปทำกิจกรรมกันบ้างน๊าาาาาาาาา

ไม่ใช่คนอีสาน แต่ขอเป็นสาวอีสานวันนึงได้ไหมนะ แฮ่ๆ

วันนี้ของตัวไปนอนก่อนแล้วววว zzZZ Good Night-

Day 2 : นครพนม-สกลนคร (Adventure)

นัดหมายที่เวลา 06.00 น. ตื่นเช้าๆ อากาศดีมากๆเลยค่ะ

บรรยากาศด้านล่างของโรงแรมตอนเช้าน๊า

จุดหมายของเราวันนี้คือ "อุทยานแห่งชาติภูผายล"

ไปกันเล้ยยยยยยยย เราจะใช้เวลาเดินทางจาก นครพนม ไป สกลนคร ประมาณ 1.30 ชม. นะคะ

จุดแรกที่เรามาคือ อ่างเก็บน้ำห้วยหวด

ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูผายล เช่นเดียวกันนะคะ

อ่างเก็บน้ำห้วยหวด

ก่อนที่เราจะเดินขึ้นไปยังด้านบน จะมีพี่เจ้าหน้าที่ประจำอุทยานฯ แนะนำสถานที่ก่อนนะคะ

บรรยากาศระหว่างที่เราเดินขึ้นไปกันค่ะ

ด้านบนของอ่างเก็บน้ำจะมีน้ำตกด้วยนะคะ

เก็บรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อยค่ะ

สถานที่ต่อมาที่เราจะไปกันคือ...

จุดชมวิวผาด่าง

จุดชมวิวผาด่าง อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูผายลเหมือนกันนะคะ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวไปเดินป่าอย่างเป็นทางการ

หากใครสนใจไปต้องทำการติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก่อนนะคะ

ระยะที่เราเดินขึ้นไปประมาณ 3 กม. ค่ะ รวมไป-กลับก็ประมาณ 6 กม. เลยน๊า

เราไปดูบรรยากาศของที่นี่กันเลยค่าาาา

ระหว่างทางที่เราเดินขึ้นไปนั้นจะมีไกด์ชาวบ้านคอยให้คำแนะนำเราด้วยนะคะ

เราเดินมากันจนถึงจุดชมวิว ภูผาด่าง กันแล้วน๊า

แวะพักเหนื่อยและถ่ายรูปกันก่อนน๊า

จุดนี้หากจะถ่ายรูปต้องระวังหน่อยนะคะ เพราะเป็นหน้าผาสูงและลึกมากค่ะ

บรรยากาศข้างบนคือสวยมากๆ ลมเย็น วิวดีมากๆเลยค่ะ

ได้เห็นวิวแล้วหายเหนื่อยเลยทีเดียวค่ะ

เมื่อหายเหนื่อยกันแล้วเราก็เดินไปกันต่อเลยยยยย

ระหว่างทางเดินไปนั้นเราก็จะได้เห็นความสวยงามของต้นไม้ ภูเขาต่างๆนะคะ

บางช่วงในระหว่างที่เราเดินไปต่อนั้น จะมีความชันของภูเขาเป็นช่วงๆ

เราต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเอามากๆเลยลนะคะ

จริงๆที่นี่มีจุดที่น่าสนใจมากมายเลย ระหว่างที่เราเดินขึ้นไปและตอนที่เดินลงมา

ในรีวิวนี้อาจจะเห็นภาพไม่ทั้งหมดนะคะ เพราะเราหารูปไม่เจอ 555

สภาพตอนที่เดินลงแล้วถึงจุดสุดท้ายก่อนถึงด้านล่าง

ไม่ไหวแล้วขอนั่งหน่อย ป้าเหนื่อย 555

เหนื่อยแต่สนุกจังได้มาเดินป่า ที่เป็นเส้นทางใหม่ ทำให้เราเห็นความสวยงามของธรรมชาติมากมายเลยทีเดียว

เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกันนะ แต่ยังไหวอยู่ 555

ก่อนเราขึ้นไปจะมีศูนย์ประสานงาน กลุ่มอาสานำเที่ยวภูผาด่าง ไว้บริการนะคะ

เราสามารถติดต่อก่อนขึ้นไปได้เลยนะคะ

เมื่อเราลงมาถึงด้านล่าง ซึ่งเวลาเราค่อนข้างเลทไปจากแผน
ทำให้เราได้ทานข้าวเที่ยงเกือบบ่ายสองเลยทีเดียว

หิวแล้วว มื้อนี้เราฝากท้องไว้กับร้านอาหาร

Steak House โคขุนโพนยางคำ (ต้นตำหรับ)

มาถึงถิ่นทั้งทีจะไม่ให้ลองได้ยังไงกันเนอะ

ด้วยความหิวโหย ทางทีมงานได้สั่งอาหารไว้ให้เราแล้วค่า

ไปดูกันว่ามีอะไรน่าทานบ้างน๊า

มาร้าน Steak ก็จะพลาดเมนูดังๆได้ไงเนอะ

จะบอกว่าเนื้อดีมากเลยค่ะ (ถามจากคนข้างๆ เพราะเราไม่ทานเนื้อน๊า)

เมนูหมูก็อร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ ที่ร้านไม่ได้มีแค่ Steak อย่างเดียวยังมีเมนูอื่นๆให้เราได้ชิมกันด้วยค่ะ

ก็จะมี ส้มตำ คอหมูย่าง ลาบหมู ต้มแซ่บ และก็เมนูอื่นๆอีกมายมายเลยค่ะ

โดยรวมอาหารที่ร้านคุณภาพดี รสชาติอร่อยค่ะ (แล้วแต่คนนะคะ)

เมื่อเราทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินทางกลับนครพนมกันค่ะ

ระหว่างทางกลับเราได้แวะที่ "วัดถ้ำผาแด่น" ก่อนนะคะ

“วัดถ้ำผาแด่น” จ.สกลนคร ~ ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานอีกทั้งบริเวณวัดยังมีความร่มรื่นเอามากๆ มีเสียงน้ำไหล นกร้อง มีองค์พญานาคสวยงามโดดเด่นเอามากๆ
การเดินทาง : ต้องจอดรถไว้ด้านล่าง จะมีรถสองแถวของทางชุมชนไว้บริการ มีค่าบริการคนละ 20฿ (ไป-กลับ)

เป็นอีกหนึ่งวัดที่ใครผ่านไปสกลนครต้องแวะไปให้เห็นกับตาน๊า

ท้องอิ่มแล้วตาก็เริ่มปิดแล้วละคะ เราใช้เวลาเดินทางกลับไปยัง นครพนมประมาณ 1.30 ชม. นะคะ

ขอตัวไปหลับก่อนน๊าาาา zzzZZZ

หลับเพลินเลย รู้ตัวอีกทีก็ถึงนครพนมแล้วค่ะ

ตามแผนคือเราจะต้องกลับโรงแรมเพื่อไปเปลี่ยนชุดก่อน แต่ว่าเวลาเราเลทเลยไม่ได้เปลี่ยนนะคะ

ถึงนครพนมก็หกโมงกว่าแล้ว คือเราต้องไปล่องเรือทานอาหารเย็นที่ริมโขงกันนะคะ

เรามาต่อกันที่ "เรือแม่โขงพาราไดซ์ครูซ"

เรามาทานอาหารเย็นกันที่นี่นะคะ เป็นการล่องเรือชมวิวทั้งสองฝั่งโขง ที่สวยงามมากๆเลยค่ะ

สภาพหน้าตาของการไปเดินป่าแล้วมาล่องเรือต่อก็จะประมาณนี้เลยค่ะ

ขออภัยในความหน้าเหนื่อยและหน้าสดด้วยนะคะ แฮ่ๆ

จะบอกว่าบรรยากาศยามค่ำคืนบนเรือแห่งนี้ดีมากๆเลยค่ะ มีอาหารอร่อย ดนตรีสดเพราะๆให้เราฟังด้วยค่ะ

เราจะใช้เวลาในการล่องเรือ ไป-กลับ ประมาณ 2 ชั่วโมงนะคะ

หลังจากที่เรือกลับมาจอดยังท่าแล้วเราสามารถนั่งต่อได้เรื่อยๆเลยค่ะ

เรามาดูบรรยากาศต่างๆ และอาหารมื้อเย็นของวันนี้กันเลยค่ะ

ท้องฟ้าช่วงที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า เราว่ามันสวยมากๆเลยค่ะ

ระหว่างที่เราทานอาหารกันนั้น เราก็จะมองเห็นวิวทั้งสองฝั่งโขงเลยค่ะ

ซึ่งบรรยากาศดีมากๆเลยน๊า

การมานครพนมครั้งนี้ทำให้เราอยากกลับมาอีกเลยอ่ะ

หลังจากที่เราทานอาหารกันเรียบร้อยแล้วเราก็มีเวลาเหลือสามารถไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินได้อีกค่ะ

ทานคาวแล้วไม่ทานหวานก็ใช่ที่นะคะ ต้องล้างปากด้วยของหวานสักหน่อย

ร้านขนมร้านนี้อร่อยมากเลยค่ะ แต่ว่าจำชื่อร้านไม่ได้น๊า

ทานขนมหวานเสร็จเราก็ไปเดินเล่นกันต่ออีกสักแป็บนึง

เรารู้สึกว่าเราชอบนครพนมเข้าแล้ว เพราะเป็นเมืองที่สงบ เงียบ สะอาด ผู้คนน่ารัก เหมาะแก่การมาพักผ่อนเอามากๆเลยค่ะ

ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสได้กลับไปเที่ยวอีก จะไปนอนเล่นริมโขง เพราะอยากได้โมเมนต์แบบชิวๆ ตื่นเช้ามามองแม่น้ำโขง 555

วันนี้ก็ตื่นเช้า และเดินป่าเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว

กิจกรรมของวันที่ 2 ก็ได้จบลงไปแล้วน๊า

ได้เวลากลับไปพักผ่อนแล้วนะทุกคน เตรียมตัวตื่นเช้าเพื่อไปลุยของวันสุดท้ายที่ถ้ำนาคี กันต่อค่ะ

วันนี้นอนหลับฝันดีนะคะ -Goog night-

zzzZZZ

เดี๋ยวมาต่อตอนจบของวันที่ 3 น๊า
รออีกนิด จขท อินดี้ค่ะ 555

Day 3 : นครพนม-สกลนคร (Adven

ture)

นัดหมายของเราคือ 06.00 น. เพื่อเดินทางไป "ถ้ำนาคี อุทยานแห่งชาติภูลังกา"

ก่อนเดินทางไปถ้ำนาคี เราก็แวะทานอาหารเช้ากันที่ "ครัวศรีเทพ"

เป็นร้านอาหารเช้าของโรงแรมศรีเทพ แต่เปิดให้คนนอกไปทานได้นะคะ

อาหารเช้าอร่อยดีค่ะ มีทั้งไข่กะทะ ข้าวต้ม โจ๊ก อาหารตามสั่ง และเครื่องดื่มค่ะ

อิ่มแล้ว...ไปถ้ำนาคีกันเลยค่าาาา

ถ้ำนาคี อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม

ถ้ำนาคี มีลักษณะเป็นเพิงหินขนาดใหญ่และมีลวดลายของเกล็ดพญานาคบนพื้นผิวของหิน (คล้ายถ้ำนาคา) มีก้อนหินใหญ่ลักษณะเหมือนหินหัวงูอยู่ไม่ไกลกัน อีกทั้งหากเดินทางต่อไปอีกราวครึ่งกิโลเมตรก็จะมีจุดชมวิว “ผานาคี” เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่งดงามอีกด้วย

สำหรับ ถ้ำนาคี ไข่พญานาค เศียรพยานาค เป็นจุดท่องเที่ยวที่อยู่ในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติสายใหม่ ภูลังกาเหนือ หรือ เส้นทางสายธรรม-สายพญานาค (ระยะทางประมาณ 12 กม.) ในเส้นทางจะมีจุดน่าสนใจต่าง ๆ ให้เที่ยวชม ได้แก่ น้ำตกตาดโพธิ์-ถ้ำนาคี-วังนาคี-ผานาคี-หินสาลึคึ-ลานธรรม (หัวภู)-หินพญาศรีสัตตนาคราช-ไข่พญานาค-หินโลมา (วาฬ) -เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ และเศียรพญานาค (องค์ที่ 9) ที่เพิ่งค้นพบใหม่ล่าสุด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกา โทร. 08-4792-3505 และ 0-4253-0766 (เวลา 9.00-16.00 น.)

Cr : ข้อมูลจาก http://www2.nakhonphanom.go.th/travel/detail/48/data.html

เราไปดูกันเลยว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง...

เริ่มต้นด้วย...เราจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานเป็นคนเดินนำเที่ยว และให้คำแนะนำระหว่างที่เราเดินขึ้นไปด้านบนค่ะ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปต้องมีไกด์ชาวบ้านหรือเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เป็นคนนำขึ้นไปนะคะ

ระหว่างทางเดินขึ้นไปเราจะได้เห็น น้ำตก ดอกไม้ พืชสมุนไพรต่างๆ และสัตว์ป่าอีกด้วยค่ะ

ระหว่างทางเดินขึ้นไป ร่มรื่น ทางเดินง่าย อากาศเย็นสบาย เพราะมีลำธารและน้ำตก

ระหว่างทางขึ้นไปเราจะเจอทำตกเป็นจุดๆ ซึ่งสวยงามมากๆค่ะ

ทางเดินขึ้นไปจะมีบางช่วงที่เป็นบันได และหินสลับกัน แต่ไม่ได้ชันมาก
แนะนำว่าให้ใส่รองเท้าที่พื้นไม่ลื่นจะสะดวกกว่า หรือเป็นรองเท้าผ้าใบจะดีสุดค่ะ

ที่ถ้ำนาคี จะมีพญานาคทั้งหมด 9 องค์ แต่ว่าเราถ่ายรูปมาได้ไม่หมดนะคะ
และไม่ได้เรียงแต่ละองค์น๊า

ตรงนี้เป็นจุดที่เราเดินขึ้นมารู้สึกเย็นมาก แสงตรงนี้สวยมากๆเลยค่ะ

บันไดในบางจุดจะมีความชัน ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยนะคะ

เมื่อเราเดินขึ้นมาถึงด้านบนตรงถ้ำนาคี จะมีความเย็นมากๆนะคะ

ตีคล้องก่อนไปตั้งจิตอธิฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะคะ

มาอธิฐานขอพรกันค่ะ

จุดชมวิวด้านบนของถ้ำนาคี วิวมองเห็นแม่น้ำโขงด้วยน๊า

เมื่อเราพักเหนื่อย ถ่ายรูปกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินลงกันแล้วค่ะ

จะบอกว่าน้ำตกที่นี่สวยมากๆเลย

ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้วค่าาาา

หลังจากที่กลับเข้ามายงตัวเมืองนครพนม เรามาแวะทานอาหารเที่ยงที่ร้านส้มตำ (จำชื่อไม่ได้อ่า)

จะบอกว่าส้มตำที่ร้านนี้อร่อยมาก น้ำปลาร้าคืออร่อยมากๆ และอาหารอย่างอื่นก็อร่อยเช่นเดียวกันค่ะ

ปล.ถ้าหาชื่อร้านเจอจะกลับมาอัพเดทให้น๊า

จริงๆอาหารเยอะมาก ดูจากหน้าตาแต่ละคนคือ enjoy eating มากกกกก 555

ทานอาหารเสร็จแล้วเรากลับโรงแรมเพื่อเก็บของและ Check out นะคะ

รีบตั้งแต่เปิดทริปจนปิดทริป 555 แต่สนุกมากๆเลย

เรา Check out เรียบร้อยแล้วก็ไปต่อกันที่ร้านกาแฟเลยค่ะ

76A the space cafe

76A The Space นครพนม เป็นร้านกาแฟในบ้านอาคารเก่าสไตล์โคโรเนียลริมแม่น้ำโขง ที่นำมารีโนเวทใหม่ให้ยังคงโครงสร้างบ้านเดิมไว้ได้อารมณ์วินเทจ เพิ่มเสน่ห์การตกแต่งให้ดูเรียบๆแบบทันสมัย ฝั่งตรงข้ามร้านสามารถนั่งมองวิวแม่น้ำโขงและทิวเขาของประเทศเพื่อนบ้านได้แบบเพลินๆ  ในส่วนของเครื่องดื่มเน้นกาแฟ Specialty คั่วอ่อน และเครื่องดื่มแบบ non-coffee ให้เลือกหลายเมนู ให้ทานคู่กับครัวซอง สโคนและชีสทาร์ต

Cr. : https://www.paiduaykan.com/travel/76a-the-space

เรามาดูบรรยกาศในร้านกันค่ะ

ตัวอาคารเก่าที่รีดนเวทใหม่เป็นอะไรที่ลงตัวเอามากๆ แสงสวย เหมาะแก่การถ่ายรูปเลยค่ะ

ส่วนของคาเฟ่จะมีทั้ง Indoor & Outdoor นะคะ

พื้นที่กว้าง สามารถนั่งทำงาน นั่งพักผ่อนได้นะคะ

เมนูเครื่องดื่ม และขนมมีให้เลือกเยอะมาก

วันที่ไปเราได้เลือกลองเมนูชาเขียวมัทฉะ รสชาติคืออร่อยเลยค่ะ (ถ้าไปนครพนมอีกก็จะไปร้านนี้)

ส่วนเมนูขนมเราไม่ได้ลองทานนะคะ

เราก็ได้นั่งเล่น พูดคุย ถ่ายรูปกันจนเรียบร้อยก็ได้เวลาที่จะต้องไปสนามบิน

เพื่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯกันแล้วละคะ

แต่ๆๆๆๆ เครื่อง Delay จ้า เราเลยต้องหาที่ไปรอก่อนไปสนามบินกัน

ทางทีมงานเลยพาไปแวะที่ "โบสถ์นักบุญอันนา"

โบสถ์คือสวยมากๆเลยค่ะ เราก็แวะถ่ายรูปกัน เพราะเข้าข้างในไม่ได้นะคะ

เราถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินทางไปสนามบินกันจริงๆแล้วค่ะ

จบทริปแล้วนะ Isan In Love : ม่วนอีหลีคีรีริมโขง

เส้นทางที่ 2 "นครพนม-สกลนคร (Adventure)"

ขอขอบคุณ พันทิป x ททท. ที่ได้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้นมา
สนุก มีความสุข ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ และยังได้ความรู้อีกมากมายด้วยค่ะ

ขอบคุณแต้มบุญที่ยังเหลือทำให้เราได้เดินทางมาเจอกันอีกครั้ง
หวังว่าเราจะได้มาเจอกันอีกนะคะ

เด็กหญิงพัชมน

25/08/2022

การทำรีวิวครั้งนี้หากผิดพลาดประการใดต้องข้ออภัยด้วยนะคะ
รูปภาพบุคคลในกระทู้นี้ได้มีการขออนุญาตบุคคลนั้นๆแล้วนะคะ

ปล. หัวข้อหลัก จขท. เขียนผิดนะคะ จริงๆต้องเป็น
นครพนม - สกลนคร : เมืองรองที่ต้องจองก่อนมา (Isan In Love : ม่วนอีหลีคีรีริมโขง) ค่ะ

เด็กหญิงพัชมน

 วันพฤหัสที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2566 เวลา 15.19 น.

ความคิดเห็น