โตเกียว ดินแดนสวรรค์ของนักชิมที่ทำให้พวกเราอยากมาแชร์ร้านอร่อยๆทั้งคาวและหวานที่ได้มีโอกาสไปชิมมาให้เพื่อนๆทุกคน เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวโตเกียวเร็วๆนี้ 

1. Jumbo Yakiniku Hongo

ร้านเนื้อย่างชื่อดังของโตเกียวมี 3 สาขาด้วยกัน แต่สาขาที่เราจองมากินกันคือ สาขา Hongo แนะนำว่าควรจองผ่าน Tablecheck มาก่อน เพราะถ้าไม่จองจะไม่ได้กิน โดยที่นี่จะเสริฟเนื้อ Wagyu A5 เป็นหลักซึ่งเมื่อกินไปเรื่อยๆจะมีความเลี่ยนนิดนึง และรวมๆราคาก็ค่อนข้างสูง สำหรับพวกเราโดนไป ¥20,110 แต่ถ้าใครมีงบและได้มาเที่ยวโตเกียวแนะนำว่ามาเถอะ มาลองให้รู้ รับประกันไม่ผิดหวังแน่นอน

เมนูที่พวกเราขอแนะนำ
- Nohara Yaki
- Wagyu sushi
- Chateaubriand


2. Sushi Midori

ร้านซูชิชื่อดังในโตเกียวที่ต้องต่อคิวรอหลายชม.กว่าจะได้กิน ร้านนี้มีหลายสาขา แต่สาขาที่เราได้ไปกินมา คือ สาขา Shibuya ตั้งอยู่ที่ตึก Mark City ชั้น 4 โชคดีมากๆที่วันนั้นเราไปตอนร้านใกล้ปิดแล้ว ทำให้ไม่ต้องรอคิวเลย มีเมนูให้เลือกเยอะ ทั้งแบบเป็นเซตและแบบสั่งได้เป็นคำๆ ส่วนตัวเราค่อนข้างชอบร้านนี้มากเพราะอาหารสดทุกคำ ไม่คาวเลย อย่างโอโทโระที่เราสั่งมาก็ให้ชิ้นหนามาก หวานมาก ฟินสุดๆ อีกทั้งราคาก็ไม่แพงเลย ค่าเสียหายสำหรับร้านนี้พวกเราโดนกันไปประมาณ ¥8,000


3. Sidewalk coffee stand

ร้าน coffee stand เล็กๆ ย่าน Nakameguro ที่เราได้มีโอกาสแวะตอนไปเดินดูซากุระ เป็นร้านที่ตอนเดินผ่านแล้วค่อนข้างสะดุดตาตั้งอยู่หัวมุมถนนเลย ตัวร้านตกแต่งสไตล์ loft มีความดิบๆเท่ๆ เหมาะกับการจิบกาแฟพร้อมชมซากุระ กาแฟและชาของร้านนี้ก็อร่อยมากด้วย แต่เสียดายร้านเค้าค่อนข้างเล็กมาก มีเคาน์เตอร์บาร์ให้นั่งได้ 2-3 ที่ ส่วนมากคนจึงมักซื้อแบบ take away

เมนูที่เราสั่งกันมา

- Hot latte (¥550)

-  Hot chai tea (¥680)


4. Fuglen Asakusa

ร้านกาแฟชื่อดังจากนอร์เวย์มาเปิดแล้วที่โตเกียว โดยสาขาที่พวกเราไปกัน คือ สาขา Asakusa เมนูที่เราสั่งเป็น

ลาเต้ร้อน (¥690) เป็นกาแฟนมที่หอม นุ่ม ละมุนลิ้นมากๆ ไม่แปลกใจเลยที่คนเยอะทุกสาขา


5. Kagatsudo since 1945

เมลอนปังเจ้าดังแห่งย่าน Asakusa ที่ฮิตมาก บอกตามตรงว่าจริงๆแล้วร้านนี้ไม่ได้อยู่ในแพลนที่เราตั้งใจจะมาชิม แต่ตอนเดินผ่านร้านคือโดนตกด้วยกลิ่นขนมปังที่หอมมากๆ เลยทำให้อดใจไม่ไหวต้องไปต่อคิวลองชิม เมนูที่เราสั่งเป็น เมล่อนปังสอดไส้ vanilla (¥650) รสชาติดีอร่อย ตัวหนมปังข้างนอกจะมีความกรอบและหอม ส่วนตัวไส้ก็ไม่หวานจนเกินไป


6. Suzukien

ไอติมชาเขียว 7 ระดับในตำนานที่ว่ากันว่าเข้มข้นที่สุดในโลกแห่งย่าน Asakusa เมื่อได้ไปทั้งทีเราเลยลองสั่งชาเขียว No.7 (¥650) ที่เข้มข้นที่สุดมาชิม ซึ่งพอได้ชิมก็ไม่ผิดหวัง อร่อยมาก หอมชาเขียวและเข้มข้นมาก แต่ไม่ขมเลย ใครไปแนะนำมากๆว่าให้ลองชาเขียว No.7

ในส่วนเรื่องของการต่อคิวเราแนะนำว่าถ้าใครอยากมากิน ให้มารับบัตรคิวไว้ก่อน แล้วค่อยไปเดินเล่นแถววัดอาซากุสะ และค่อยกลับมาต่อคิวตามช่วงเวลาที่เราได้รับตามคิวอีกทีนึง


7. ISO Sushi

ร้านซูชิย่านตลาดปลา Toyosu ที่เราแวะกันหลังจากดูนิทรรศการที่ TeaLab Planet Tokyo เสร็จ ตัวปลาดิบต่างๆก็รสชาติสด อร่อยดี แต่ส่วนตัวก็รู้สึกว่าไม่ได้ว้าวมาก เมื่อเทียบกับร้านอื่น ราคากลางๆ

- เซ็ตปลาดิบและอื่นๆ 15 คำ (¥5,180)
- Tuna bowl (¥3,450)

ก็จบไปแล้วกับการรีวิว "Tokyo Food Guide 2023 | มัดรวม 7 ร้านเด็ด Tokyo 2023" ครั้งหน้าเราจะพาทุกคนไปเที่ยวที่ไหนกันอีก ก็ฝากติดตามด้วยนะ

ภาพถ่ายทั้งหมดโดย (By My Side: ผลัดกันถ่าย)

ติดตามทริปอื่นๆของพวกเราได้ที่:

By My Side: ผลัดกันถ่าย

 วันพุธที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เวลา 19.10 น.

ความคิดเห็น