Readme.me - เช็คอินญาจาง เวียดนามใต้ ด้วยงบหลักพัน

เช็คอินญาจาง เวียดนามใต้ ด้วยงบหลักพัน | Nha Trang - Vietnam

ทริปนี้เป็นครั้งแรกของปี 2023 ที่เดินทางไป เวียดนาม หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่ง ขอเรียกว่าทริป เช็คอินญาจาง เวียดนามใต้ ( Nha Trang - Vietnam ) ด้วยงบหลักพัน มีแจกแพลนการเดินทางท้ายบทความนะครับ

ญาจาง หรือ Nha Trang เนี่ย บรรยากาศเมืองชายทะเล ที่อากาศไม่แตกต่างจากเมืองไทยบ้านเรามากนัก แต่ลมพัดตลอดเวลาเลยรู้สึกสบาย ไม่เหนี่ยวตัวเหมือนริมทะเลบ้านเราเลยสักนิด การเดินทางในครั้งนี้ ผมบินตรงจากไทยไปยังสนามบินแคมรานห์ หรือออกเสียงอีกอย่างว่า กามซัญ ด้วยสายการบิน แอร์เอเชีย (Airasia) บินตรงจากดอนเมืองสู่กามซัญ เพียงแค่ 2 ชั่วโมง

บอกก่อนตอนต้นเลยว่าใครที่มองหากุ้งล็อบสเตอร์สดๆเป็นๆดีๆ ราคาตัวละ 300฿ ไม่มีอยู่จริง.

Nha Trang - เมืองต่างอากาศทางใต้ของเวียดนาม

อยู่ตรงกลางระหว่าง ดานัง กับ ดาลัด เมื่อถึงสนามบินกามซัญ ก็จะมีรถมารอรับเรา (หรือใครสะดวกนั่งรถบัสเข้าเมืองก็ได้ใช้เวลาใกล้เคียงกัน ราคา 95,000 VND) ด้วยความที่ มาเที่ยวกัน 3 คน ผมเลยจองรถผ่าน Klook.com เป็นรถ SUV ราคา 750 บาท เพื่อความสะดวกสบายของทุกคน ใช้บริการ Klook.com สะดวกสะบายเยอะมากครับ

พวกเราเลือกพัก โรงแรม Sata Hotel ผ่านเว็บ agoda.com เป็นห้องสวิท วิวทะเล ราคาห้องละ 890 บาท ไม่มีอาหารเช้า โรงแรมนี้อยู่ใกล้ชายหาด ใกล้ของกิน และแหล่งช็อปปิ้ง จะเรียกว่ากลางใจเมืองเลยก็ได้ ห้องคือดีมาก คุ้มราคา

หลังจากเอาของไปเก็บที่พัก พวกเราก็ไปตามจุดเช็คอินสุดฮิต ตามที่คนอื่นๆ เขาชอบมารีวิวกัน ที่เรียกร้าน Bánh căn 51 หรือที่คนไทยเรียกว่าขนมครกเวียดนาม ร้านนี้เป็นร้านดัง ซึ่ง ถ้าไปกัน 3 คน ก็ต้องสั่ง 3 จาน เอาง่ายๆ คือ ต้องสั่งตามจำนวนคน น้อยกว่านี้ไม่ขายให้ คือ ผมอยากจะบอกว่า 1 จาน 6 ชิ้นมันเยอะมาก กุ้ง หมึก เนื้อ เยอะเกินสำหรับคนหนึ่งคน สุดท้ายก็ต้องหอกลับมากินที่โรงแรมเมื่อยามหิว ค่าเสียหายร้านนี้ 640 บาท (400,000VND) **กุ้งดี หมึกดี เนื้อไม่เท่าไร กินอิ่มก็เดินมาร้านกาแฟใกล้ๆกัน

แค่ข้ามถนนมาชื่อร้าน CCCP Coffee คือ เวียดนามได้ชื่อว่ากาแฟถูกมากครับทุกคน ร้านหรู ชาวเกาหลี แน่นร้าน สั่งกาแฟ 3 แก้ว จ่ายแค่ 160 บาท (100,000VND) ภาพอาจดูไม่แน่นเพราะพวกเราขอนั่งโซนด้านนอก โซนด้านในห้องคนเยอะไม่ไหวจริงๆครับ.

อิ่มท้อง และเติมคาเฟอีนเข้าร่างแล้ว ก็ใช้บริการ GrabCar อันนี้แนะนำครับถูกกว่าแท็กซี่ และที่สำคัญตัดบัตรเหมือนเมืองไทยบ้านเราได้เลย ไม่ต้องมามัวนับแบงค์ถอนเงินกันให้วุ่นวาย อันนี้สะดวกมาก เราเรียกGrab มารับไปที่ Nha Trang Mountain Church ( โบสถ์ ญาจาง ) ตรงทางเข้าจะมีคุณลุงบอกเราว่า ให้บริจาคเงินเพื่อเป็นค่าเข้าชมเท่าไรก็ได้ เอาเงินใส่ลงไปในตู้เหมือนตู้บริจาคบ้านเรานี่แหละครับ จากนั้นก็เดินตามทางไปด้านบน วิวสวย โบสถ์สวย สาวๆ น่าจะชอบ ถ่ายรูปเท่ๆ เก๋ๆ

จากนั้นพวกเราก็เดินกันเพลินๆไปเรื่อยๆ ไป Long Son Pagoda ห่างจาก Nha Trang Mountain Church ประมาณ 2 กิโลเมตร ที่วัดให้เราเข้าชมฟรีนะครับ หรือใครจะร่วมบริจาคก็จะมีตู้รับบริจาคเหมือนกัน เดินขึ้นไปด้านบนมีเหนื่อย..ถ้าไม่ฟิต..มีหอบเหมือนกัน แต่วิวดีครับ ได้เห็นเมืองในมุมสูง และขอบอกว่าวัดนี้คณะทัวร์เยอะมากครับ

นั่งพักพอหายเหนื่อยก็เรียก GrabCar ไปที่ Ponagar Temple ( ปราสาทโพนคร ) เป็นหอเทวาลัยของชาวจาม จุดนี้มีค่าเข้าชมนะครับ ชาวทางชาติ 30,000 VND. สวยงาม แปลกตา ที่สำคัญไม่ร้อน เพราะทีแรกพวกเรากลัวว่าการไปเที่ยวตามวัด ตามโบสถ์ ตามปราสาท มันจะร้อน แต่จริงๆ แล้วลมพัด เย็นสบายมากครับ

พิกัดเช็คอินต่อไปคือ..ร้าน Quán Ốc Ngon ร้านอาหารทะเล ขึ้นชื่อที่เมื่อก่อนเขาจะตั้งโต๊ะริมถนนบนฟุตบาท อัพเดทล่าสุด 2023 นะครับ ไม่มีริมถนนบนฟุตบาทแล้วนะครับ ที่นั่งจะอยู่ในอาคาร เดียวพนักงานจะพาไป เจ้าของร้านแกใจดีมาก อ่อที่สำคัญคือ อยู่ถนนเดียวกับที่พัก ห่างจาก Sata Hotel 500 เมตรอยู่ในซอยนะครับ ถ้าใครมาตาม GPS ไม่ต้องตกใจที่มันจะพาไปร้านใหญ่ๆหรูๆ ลงรถแล้วเดินย้อนมาเข้าซอยนิดนึงนะครับ และถ้าใครจะมาตามหาล็อบสเตอร์ราคาตัวละ 300 บาท บอกเลยว่าไม่มี ที่ร้านคิดเป็น กรัม ครับ ราคา 100 กรัม ละ 140,000 VND. พวกเราลองสั่งไปหนึ่งตัว ขอตัวละ 500 กรัม ร้านก็จับมาให้ดูสดๆ ว่า 500 กรัมคือตัวนี้นะ ส่วนอาหารอื่นๆ ไม่แพงเลย ร้านนี้พวกเราจ่ายไปทั้งหมด 925,000 VND. ไม่อิ่ม บอกเลย 555+ ต้องกลับมากินขนมครกเวียดนามที่ใส่ห่อมาจากร้านถือว่าช่วยชีวิตมื้อค้ำ

ช่วงที่ผมไปที่ญาจางเข้ามีงานประจำเมืองพอดี เรียกว่าวันหยุดของเมืองก็ว่าได้ ทุกคนจะออกมาเที่ยว ทางเมืองก็ปิดถนนริมชายหาดจัดกิจกรรม คือ ปิดแบบปิดเป็นจริงเป็นจัง จนถนนหน้าที่พักรถติดแน่นมาก ความวุ่นวายอย่าได้เอ่ยถึง..

ก็เลยถือโอกาส ไปเดินเล่นดูบรรยากาศของคนเวียดนามที่เขามาเที่ยวงานกันบ้าง คือชีลดีมากเลย... ขากลับที่พักก็เดินผ่านตรอกยอดฮิต ที่คนเวียดนามและนักท่องเที่ยวชอบมานั่งดื่มชีล ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

เช้าวันที่ 2 คือ ด้วยความที่เราเป็นนักเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ อะไรตัดออกจากแพลนได้ก็ตัด เลยตื่นสายนิดนึง แต่ไม่สายไปมากนักเพราะหิว เลยจำเป็นต้องตื่น อาบน้ำแต่งตัว ลงมาหาอาหารเช้ากินใกล้โรงแรม

ได้เฝอร้าน Quán Mịn เป็นอาหารมื้อเช้า บอกเลยว่า ราคาไม่แพง แถมอร่อยด้วย ใครมาพักแถวนี้ผมแนะนำครับ

จากนั้นก็เดินกลับที่พักเตรียมตัวไปเดินเล่นที่ VinWonders Nha Trang ถึงราคาเข้าชมจะแพงที่คิดว่าเล่นไม่คุ้มที่เสียแน่นอน แต่ไหนๆ ก็มาเมืองนี้ครั้งแรกแล้วก้ต้องไปลองดู ของแบบนี้ไม่ได้มากันบ่อยๆ เช่นเดิมเราเรียก GrabCar จากที่พักไปท่าเรือ VinWonders ราคา 165 บาทนั่งรถ 30 นาที ระยะทางไม่ไกล แต่ที่นี่เขาจำกัดความเร็วห้ามเกิน 80 กม./ชม. ทุกคันครับ.. อ่อ..ลืมบอกว่า บัตรเข้าส่วนสนุกผมก็จองผ่าน Klook.com ได้วอยเชอร์ GrabCar แถมมาด้วยแต่ลืมใช้โมโหตัวเองสุดๆ ทางเข้าอยู่ที่อาคารหลังแรกซ้ายมือนะครับ อย่าเดินเลยไปโซนโรงแรมนะ เพราะผมเดินเลยเป็นงานต้องเดินย้อนกลับมาอีก ตั๋วออนไลน์ที่เราบุ๊คมาเป็นคิวอาร์โค้ดครับ สามารถโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดูได้เลย แล้วเขาจะขอมือถือเราไปแสกนตรงประตูทางเข้า สะดวกสบายสุดๆ เรานั่งเรือข้ามไปนะครับ เรือใหญ่ เร็ว และปลอดภัย เสียดายกระเช้าเสียซ่อมแบบไม่มีกำหนด.

ไหนๆ มาแล้วก็เดินเที่ยว และเล่นเครื่องเล่นให้คุ่ม เท่าที่จะทำได้ละกันครับ (ไม่ได้เก็บภาพมาฝากนะครับ) ปล่อยแก่กันสักนิด.. ส่วนโซนสวนน้ำ คือพวกเราตั้งใจมาเล่นเหมือนกัน แต่พอเห็นคนด้านในแล้ว ขอเดินดูเฉยๆ ดีกว่า คือคนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก.

ในส่วนของอควาเรี่ยม ก็ใหญ่ แต่ดูเก่าไปหน่อย ใหญ่และดีเมื่อเทียบกับบึงฉวาก... ไม่รู้จะเทียบกับอะไรให้พอเห็นภาพ พวกเราใช้ชีวิตเดินๆ ถ่ายรูปๆ เล่นๆ กินนิดหน่อย (เพราะของด้านในค่อนข้างแพง)

เราอยู่ที่ VinWonders Nha Trang จนถึงเย็นก็ข้ามฝั่งกลับมาเพื่อหารถเข้าตัวเมืองญาจาง บอกเลยว่าการเรียก GrabCar จากที่นี่ยากมากครับ กดเรียกเลย 10 ครั้ง รอเกือบ 30 นาที ไม่มี GrabCar ที่อยู่ใกล้เลย จนเกือบถอดใจ โชคดีมา GrabCar มาส่งผู้โดยสารแถวนี้ เราเลยได้กลับที่พักสักที... จริงๆแล้วที่นี่มีแท็กซี เป็นของตัวเองด้วยนะ แต่ด้วยความที่เราอยากประหยัด เลยขอใช้ GrabCar ถูกกว่า แท็กซี่ 100-200 บาทเลย

แต่แล้ว GrabCar ก็ไม่สามารถมาส่งเราถึงหน้าโรงแรมได้ เพราะถนนปิด รถติด ถ้าต้องวนก้เสียเวลาไป 30 นาที คนขับเลยขอส่งเราที่หน้าปากซอย ซึ่งเราก็โอเค เพราะว่าจะได้เดินหาอะไรกินก่อนเข้าที่พักด้วย คือเดินจากจุดที่จอดส่งเรา เดินแค่ 10 นาที ก็ถึงโรงแรม แต่ถ้าจะนั่งอยู่ในรถ 30 นาที ก็คงไม่ไหวครับ รถติดจริงๆ

แวะซื้อแซนวิสเวียดนาม Bánh mì, đồ uống Lily และชานมไข่มุก Trà sữa 20k พ่อค้าแม่ค้าที่นี่เอนจอยกับคนไทยอย่างพวกเรามาก ภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ ไม่เคยตรงตามไวยากรณ์ ตอนแรกว่าจะซื้อไม่เยอะ พอถึงที่พักคือหิ้วอะไรกันเต็มไม้เต็มมือไปหมด มื้อค่ำมื้อสุดท้ายก่อนกลับไทยพรุ่งนี้เช้า

Day3 - เราจองรถมารับเราที่โรงแรมไปส่งสนามบินผ่าน Klook.com ในราคา 575 บาท เมื่อเทียบกับ GrabCar 890 บาท คือ GrabCar แพงกว่า

เราตื่นกันตี 5 คือที่นี่แสงแดดร้อนแรงมากตั้งแต่ ตี 5 อาบน้ำแต่งตัว (ภาพบรรยากาศตอนตี5 เพราะอาทิตย์ขึ้นแล้ว) ลงมาเช็คเอ้าท์ แล้วก็เดินไปกินกาแฟที่ร้าน Hoang Tuan Coffee ร้านดีเช่นเคย กาแฟถูกมาก ตามเคย แนะนำ

รถมารับเรา 7 โมงตรง ตรงมาก คือเรานั่งดูอยู่ที่ร้านกาแฟซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม 7 โมงปุ๊บ รถจอดหน้าโรงแรมเลย ยอมรับความตรงเวลาของบริษัทนี้ เรานั่งรถจากโรงแรมใช้เวลา 45 นาที ซึ่ง สนามบินคือ เงียบมากกกกกกกกก ตกใจคิดว่ามาผิดที่ เงียบคือเงียบสุดๆ แล้วพวกเราก็มาเป็นผู้โดยสารกลุ่มแรกของทอลมินอล นั่งรอเค้าเตอร์เปิดไปสิ.. 10.30 น. ถึงเวลาบินกลับประเทศไทย ด้วยสายการบิน Airasia เหมือนเดิม บินตรงดอนเมือง-กามซัญ ญาจาง

ทรปนี้เราเดินทางช่วงเดือนมิถุนายน 2566 ถือว่าเป็นช่วงท่องเที่ยวของญาจางเลยก็ว่าได้เพราะ เป็นช่วงฤดูร้อนไม่มีมรสุม

สำหรับ ญาจาง ฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 4.8 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน ถึงวันที่ 18 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 31°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน ญาจาง คือ มิถุนายน โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 32°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 26°C.