เวลาท้อใจ ผมแนะนำให้ไปทะเล เพราะเสียงทะเลจะบอกเราว่า สู้ สู้
การเดินทางครั้งนี้ ผมจะพาไปล่องเรือหรู และไปกินซีฟู๊ดแบบจัดเต็มที่ราไวย์ แล้วไปเอนกายที่ วิจิตร ภูเก็ต
ทริปนี้เกิดจากเพื่อนสมัยเรียนซึ่งเป็นเพื่อนรู้จักกันมาเกือบสิบปี อยากจะพาแฟนหนุ่มมาออกเดท
เพื่อนให้ Concept ขอเที่ยวหรูๆอยู่สบายๆกินกระจาย ในงบไม่เกินคนละ 15000 บาท
ในเมื่อเพื่อนเสนอมามีเหรอครับผมจะไม่สนอง
เรามาดูค่าใช้จ่ายกันคราวๆครับ
ตั๋วเครื่องบิน บางกอกแอร์เวย์ ไป-กลับ คนละ 1060 บาท ค่าเช่ารถ 3 วัน+น้ำมัน คนละ 500 บาท
ค่าแพ็คเกจล่องเรือ+ที่พัก คนละ 8600 บาท ค่าอาหาร 5 มื้อ คนละ 1500 บาท
รวมทั้งหมดแล้ว 11700 บาท/คน
หมดเรื่องของค่าใช้จ่ายไปแล้ว ทีนี้ก็ถึงเรื่องแผนการท่องเที่ยวของพวกเรากันครับ
วันที่1 ช่วงบ่าย ล่องเรือ (แนะนำให้มาถึงสนามบินก่อน 11 โมง ถ้าจะไปล่องเรือเลยน่ะครับ )
ช่วงเย็น จัดเต็มซีฟู๊ด ครัวคุณภา ราไวย์
วันที่ 2 ช่วงเช้าพักผ่อน ที่ วิจิตร กลางวัน ทานข้าวที่โฟโต้ตอนเย็น เล่นน้ำ จัดเต็มซีฟู๊ด ครัวคุณภา ราไวย์
วันที่ 3 ช่วงเช้า พักผ่อน ช่วงบ่าย เตรียมตัวกลับกรุงเทพ
เป็นยังไงกันบ้างกับทริปของพวกเรา เน้นพักผ่อน กินแล้วก็นอน คุ้มกับค่าห้องมากครับ มาครับ เรามาเริ่มกันวันแรกเลย..
การเดินทางของเรา อาศัยช่วงโปร 48 ปี ของบางกอกแอร์เวย์ ได้ราคาไปกลับเที่ยวละ 480 บาท คุ้มมากครับ
นัดรวมตัวกันที่ เลาจน์ของบางกอกแอร์เวย์ ต้องมาจัดข้าวต้มมัดครับ ถ้ามาแล้วไม่ได้กินเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง
อาหารที่เสริฟบนเครื่องครับ
เดินทางมาถึงรับภูเก็ต แบ่งหน้าที่กัน ผมมารับกระเป่า ส่วนเพื่อนผมไปติดต่อรถรับรถเช่า หลังจากนั้นเปิด google map
ไปท่าเรือ อ่าวปอแกรนด์มารีน่า เพื่อไปล่องเรือ Hype กันครับ
รายละเอียดในการล่องเรือ แต่ละวันไม่เหมือนกันน่ะครับ และไม่ได้ออกทุกวัน
ช่วงวันที่ 16 พ.ย. - 17 เม.ย. เรือออกจากท่าเรือป่าตอง
วันอังคารเเละศุกร์ไป เกาะราชา วันพุธเเละเสาร์ไป เกาะเฮ วันพฤหัสบดีเเละอาทิตย์ไป เกาะเเหวะ
ช่วงวันที่ 19 เม.ย. - 15 พ.ย. เรือออกจากท่าเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่า
วันอังคาร ศุกร์เเละอาทิตย์ไป เขาตะปู อ่าวพังงา วันพุทธเเละเสาร์ไป เกาะห้อง กระบี่
*เครดิตภาพ Andaman Passion
เดินทางมาถึงท่าเรือ จอดรถเตรียมกระเป๋า มีพนักงานมาต้อนรับสอบถามชื่อ และแนะนำเส้นทางที่จะไปขึ้นเรือ
ลำนี้เลยครับ ที่จะพาเราไปเขาตะปู ขึ้นเรือเสร็จ พนังงานจะถามชื่อ และพาไปยังที่นั่งครับ
ถ้ามาสองคนอาจจะต้องแชร์กับคนอื่น แต่โชคดีเรามากันสี่คนเลยได้นั่งกันสบายๆครับ
ระหว่างนั่งพัก มีเวลครัมดิ่งมาดับความร้อน สดชื่นดีครับ
หลังจากหายเหนี่ยกันแล้ว ก็ได้เวลา take a photo กันครับ ถ่ายแฟนเราบ้าง เพื่อนเราบ้าง
ถ่ายสาวๆแต่ถ่ายเยอะไม่ได้เกรงใจคนที่มาด้วยครับ ฮ่าๆ
หลังจากเติมอาหารตากันแล้ว ขั้นตอนต่อมาคืออาหารปาก บ้างครับ เป็นบุฟเฟต์ ตักได้เรื่อยๆครับ
มีพวกซูซิ แซนวิส ทาร์ตไข่ สปาเก็ตตี้ เครื่องดื่มพวกน้ำผลไม้ น้ำอัดลมทานได้ไม่อั้น จัดเต็มกันไปเลยทีเดียวครับ
กินได้เต็มที่เลยครับ ไม่ต้องกลัวบนเรือมีห้องน้ำให้ สะอาดครับไม่ต้องกังวล
ประมาณบ่ายสาม เรือมาจอดให้เล่นน้ำ ไปเล่นที่ชายหาด มีเรือเล็ก รับส่งครับ
ถ้าใครไม่เล่นน้ำก็ถ่ายรูปบนเรือ หรือจะนอนอาบแดด หน้าเรือได้
วันนี้ฟ้าและคลื่นไม่ค่อยเป็นใจพวกเราเลยขออยู่บนเรือดีกว่า ถ่ายรูปนั่งรับลมชิวๆไปครับ
เรือจอดให้เล่นน้ำประมาณ 45 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หลังจากแขกที่ไปเล่นน้ำขึ้นเรือเสร็จ
มีผลไม้เย็นชื่นใจให้ทาน พร้อมกับคอกเทลเบาๆกระตุ้นร่างกายให้ขยับ ตามจังหวะที่ ดีเจเริ่มเปิดเพลง พนักงานบิ้วให้แขกลุกขึ้นมาขยับเบาๆ
สักพักเมื่อแขกได้ที่ ต่างก็ออกมาโชว์สเต็ปกันครับ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และได้พบเพื่อนใหม่
ที่คุยภาษาเดียวกันบ้างต่างภาษาบ้าง แต่ผมเชื่อว่าเวลานี้ทุกคนพร้อมที่จะสนุกไปด้วยกัน
และช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาดอีกช่วงหนึ่งคือ พระอาทิตย์ตก
ถึงแม้ว่าวันนี้ฟ้าจะไม่ค่อยเป็นใจแต่แสงสีทองสุดท้ายของวันก็ยังสวยอยู่ดีครับ
วันนี้ผมมีโอกาสได้เจอ คุณพราว วงโอลีฟด้วย น่ารักนิสัยดีมากคับ เจอสาวสวยไม่ขอถ่ายรูปได้ไงครับ
ประมาณ 1 ทุ่ม กลับถึงฝั่งโดยสวัสดิภาพครับ
ก่อนจะเข้าที่พักไปจัดซีฟู๊ด ร้านคุณภา โดยเราต้องซื้อวัตถุดิบเอง แล้วนำไปให้ทางร้านปรุงครับ
คิดราคากิโลละ 100 บาทครับ วันนี้จัดไปเบาๆ ปูม้า 1.5 กิโล กุ้ง 1.5 กิโล ปลากระพง 1 กิโล
ค่าใช้จ่ายมื้อนี้จำได้คราวๆประมาณ 1600 บาท
ก่อนกลับเจอพี่ป็อป ปองกูลด้วยครับ ถ่ายรูปวนไปครับ
จากร้านอาหารมาถึงที่พักไม่ไกลครับ ใช้เวลาแค่ 10 นาที ก็มาถึง เดอะ วิจิตร ที่พักของเราแล้วครับ
เช็คอิน รับเวลคัมดริ้ง และพวงมาลัยพร้อมกับจดหมายลาออก เอ่ย!! ไม่ใช้ครับ เป็นจดหมายต้อนรับครับ
ล็อบบี้กลางคืนสวยมากครับ เรียบร้อยแล้วพนักงานพานั่งรถบักกี้ไปยังห้องพักครับ
ห้องที่ผมพักได้เป็นห้องพลูวิวล่า ส่วนเพื่อนผมอยากได้แบบติดทะเล เลยเลือก ดีลักซ์ วิลล่า ซีวิว ครับ
มาดูห้องที่ผมพักครับ มีอ่างอาบน้ำใบใหญ่มาก แช่สองคนได้สบาย ห้องน้ำเป็นแบบ Out door
มีประตูสามารถเดินลงสระว่ายน้ำได้เลยครับ อ่างล้างหน้าไม่ต้องแย่งกันมีให้สองอ่างเช่นกัน
ไปดูด้านนอกห้องกันบ้างครับ สระว่ายน้ำ ใหญ่จริงๆครับ เล่นได้สี่คนสบายๆ
วันนี้ดึกมากแล้วขอตัวไปพักผ่อนก่อนครับ พรุ่งนี้จะพาไปดูอาหารเช้า และเดินสำรวจรอบๆรีสอร์ทกันครับ
ตอนนี้เตียงนอนกวัวมือเรียกแล้วครับ ฮ่าๆ
สวัสดีเช้าวันใหม่ที่แสนจะสบาย นอนตื่นสาย จัดการธุระส่วนตัวแล้วเดินไปทานข้าวกันครับ ห้องพักของผมจะอยู่ใกล้กับล็อบบี้
ส่วนห้องอาหารอยู่ติดกับหาด เรียกได้ว่าคนละทิศคนละทางกันเลย แต่ไม่เป็นไรครับ ถือว่าออกกำลังกายและเดินสำรวจรีสอร์ทไปในตัว
เจอ Kid club เป็นที่แรกครับ Kid club ได้รับการปรับปรุงใหม่ พึ่งเสร็จก่อนผมมาอาทิตย์หนึ่ง
สวยไฉไล เลยครับ มีสระสำหรับเด็ก และเครื่องเล่นด้านนอกด้วยครับ ส่วนด้านในเป็นบ้านบอลครับ
วิวจากสระน้ำที่นี้ไม่ธรรมดาเลยครับ ผู้ใหญ่แบบผมแอบอิจฉา
อีกด้านเป็นใจส่วนของฟิตเนส วิวสวยไม่แพ้กัน ออกกำลังไปมองทะเลไป
ออกจาก Kid club มุ่งหน้าไปห้องอาหารกันเลยครับ หิวข้าวแล้ว ห้องอาหารเช้า อยู่ติดกับสระว่ายน้ำและทะเลเลยครับ
ไลน์อาหาร มีครบถ้วนครับ ทั้งไทย จีน อินเตอร์ ผลไม้และที่ไม่เหมือนใคร มีโซนกาแฟ และขนมไทย ให้เรลือกเยอะมากครับ
ไม่ค่อยเห็นที่ใหนมีขนมไทยเยอะแบบนี้
กินอิ่มกันแล้ว เดินย่อยอาหาร ริมทะเล เดินไปเจอบ้านวิจิตร เป็นร้านอาหาร
เสียดายตอนผมไปร้านปิดช่วงโลว์ซีซั่นครับ เลยอดชิม
หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนครับ แยกย้ายกันไปนอนพักผ่อน ตอนเที่ยงค่อยออกไปหาอะไรทานกัน
ส่งภรรยาเข้าห้อง ผมขอตัวไปเดินดูส่วนอื่นบ้างครับ ติดนิสัยถ้าตื่นแล้วไม่ชอบนอนต่อครับ ในส่วนต่อไปจะพาไปดู
สปาของที่นี้กันครับ บรรยากาศดีมาก แอบไปถ่ายจากุซซี่ของแขกท่านอื่นมา ถ้าได้นอนแช่น้ำหลังนอนเสร็จ คงจะฟินนาดูครับ
ออกจากสปาผมเดินไปชวนเพื่อนไปทานข้าวด้านนอกเลยถือโอกาส ดูห้องของเพื่อนดูบ้างครับ เป็นห้อง ดีลักซ์ ซีวิว
มองเห็นทะเลไกลๆ ห้องนี้ไม่มีสระและมุ้งน่ะครับ แต่สวยไปอีกแบบ
มาดูห้องผมตอนกลางวันบ้างครับ อ่างอาบน้ำมองเห็น สระว่ายน้ำฟินมาก
เที่ยงแล้ว ได้เวลาออกไปหากิน ฮ่าๆ เนื่องจากเพื่อนอยากไปไปถ่ายน้องมาร์ดี ที่โฟโต้ ผมมีเหรอจะขัดความต้องการ
ใช้เวลาประมาณ 20 นาที มาถึงแล้ว สั่งอาหารกับเครื่องดื่มคนละแก้ว เฉลี่ยคนละ 500 บาท ครับ
ระหว่างรอก็ออกไปถ่ายรูปเล่นกันไป รออาหารไม่นานทานเสร็จ ได้เวลาไปตามหาพี่มาร์ดีกันครับ มีอยู่ด้วยกัน สามตัว
ใครไปแล้วหาให้เจอน่ะ ร่ำลาพี่มาร์ดี ได้เวลาพักหนังตาอีกแล้วครับ ขับรถกลับรีสอร์ท ตอนเย็นค่อยออกมาเล่นน้ำ
ส่วนผมก็เหมือนเดิมเป็นพวกไม่ยอมนอน เปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาหาอะไรดับร้อนที่บาร์ริมทะเลครับ
ไปนั่งถ่ายรูปเล่นโทรศัพท์ รอเวลา Happy hour ครับ ซื้อ 1 แถม 1 ครับ จำชื่อได้แค่ตัวเดียวคือ วิจิตร พาราไดซ์ อยากขอสักสองแก้ว ฮ่าๆ
เดินถ่ายรูป วน ไปครับ บรรยากาศดี๊ดี เอาภาพมาฝากครับ
ตอนบ่ายๆน้ำลด ชาวบ้านแถวนั้นจะออกมาเก็บหอยกันครับ และทางรีสอร์ทยังมีกิจกกรมยามบ่าย
แต่ละวันไม่เหมือนกันครับ วันที่ผมไปมีโยคะริมหาดด้วย
ห้าโมงเย็นคุณภรรกับเพื่อนมาตามนัดครับ ไม่รู้จะบรรยายังงัย ให้รูปบรรยายดีกว่าครับ
วันนี้เรามีนัดกับคุณภาอีกแล้วครับ มื้อนี้เพื่อนบอกว่าต้องเอาให้หนัก จัดมาเลยครับ กุ้ง 2 กิโล หอย ตัวละ 40 บาท
ปูม้า 2 กิโล ปลากะพง 1.2 กิโล ค่าเสียหายมื้อนี้คนละ 600 บาท อิ่มจนจุกกันเลยครับ
ทานมาสองวัน ลืมบอกเพื่อนๆไปครับที่ ราไวย์จะมีร้านดังสองร้านคือ ครัวคุณภา กับ มุกดี รสชาติอร่อยเหมือนกัน แจ่น้ำจิ้ม
คุณภาเด็ดกว่าครับ มุกดีเคยมาทานคราวก่อน น้ำจิ้มเฉยๆครับ
กลับมาถึงรีสอร์ท พวกเรานัดกันมาปาร์ตี้ที่ห้องครับ นั่งคุยกันไปเรื่อยๆเหมือนไม่ได้คุยกันมาก่อน กลางคืนยุงเยอะไปหน่อยครับ
ได้เวลาเข้านอนกันแล้ว พรุ่งนี้ต้องกลับกรุงแล้วแล้วครับ ตลอดทริป 3วัน2คืนที่ภูเก็ต ทริปนี้ได้มาพักผ่อนจริงๆจังๆครับ แถบไม่ต้องใช้แรงมากเลยครับ เที่ยวสบายล่องเรือเก๋ๆถ่ายรูปเอาไปอวดเพื่อนมีรูปเก็บไว้ลงได้เป็นปี กินกันแบบกระจาย ให้เอียนอาหารทะเลกันกันไปข้าง แล้วได้นอนสบายๆรีสอร์ทเงียบสงบและสวยมากครับ เหมาะแก่การนอนจริงๆ ถ้ามีโอกาสจะกลับมาอีกแน่นอนครับ กินอิ่ม นอนอุ่น จริงๆครับทริปนี้ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมรีวิวนี้
ลืมชม พี่คนนี้ด้วยครับ ตอนที่เราไปถึงสนามบิน ก่อนเวลา มากก ไฟต์ของพวกเรา รอบ ทุ่ม แต่เราไปถึงกันตั้งแต่บ่ายสอง และช่วงนั้นสนามบิตภูเก็ต คนเยอะมากครับ และสายการบินอื่นดีเดย์ด้วย ด้วยความที่พวกเราอยากจะกลับแล้วเลย สอบถามพี่เค้าไปว่า สามารถเลื่อนเวลาให้เร็วกว่านี้ได้มั้ย
และความน่าตาดี บวกกับโชคดี มีที่นั่งเหลือในไฟตืบ่ายสอง เลยทำให้เราได้กลับบ้านเร็วขึ้น ขอขอบคุณด้วยน่ะครับ ที่ช่วยติดต่อประสานงานให้
Mr'Napat Ittiyos
วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.43 น.