วันที่ 2 ของทริป เราจะไปเมืองจีหลง (Keelung) เขตปกครองใหม่ที่อยู่รอบเมืองไทเป (New Taipei City / Xinbei) เช่นเดียวกับเถาหยวน (Taoyaun) อี่หลาน (Yilan) และตั๊มสุ่ย (Tamsui)
เมืองจีหลงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น ท่าเรือประมงเจิ้งปิน อุทยานเกาะเหอผิง หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น พิพิธภัณฑ์เหมืองทอง แหลมปี่โถว
การเดินทางก็สะดวก จะเลือกเดินทางด้วยรถไฟธรรมดา (TRA) รถไฟฟ้า (MRT) หรือรถบัสก็ได้
ก่อนไปเที่ยว !!! ขอฝากแพลนวันแรกของทริปด้วยนะครับ
EP1: https://th.readme.me/p/45899
- Zhongzheng District
- Yongkang Street
- Miramar Ferris Wheel
- Fuzhoushan Hiking Trail
- Tonghua Night Market
เริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้าแบบโลคอลที่ร้าน FU Hang Soy Milk ร้านเก่าแก่ที่เปิดขายตั้งแต่ปี 1958 ฮิตขนาดที่มีคนมาต่อคิวตั้งแต่ 05.30
เรานั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมาที่สถานี Shandao Temple ออกที่ทางออก 5
ร้านอยู่ที่ศูนย์อาหารชั้น 2 ของตลาดฮัวซาน แต่แถวยาวไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้า 555
เวลาเปิด-ปิด: 05.30 – 12.30 (ปิดวันจันทร์)
พิกัด: https://goo.gl/maps/NiZd1248FhsoXdCf9
เมนูที่ต้องสั่งคือน้ำเต้าหู้เค็ม (Xian Dou Jian) 30 NTD เต้าฮวยใส่น้ำมันพริก ปลาแห้ง ไชโป้ว ปาท่องโก๋กรอบ อีกเมนูคือน้ำเต้าหู้หวาน (Zhe Dou Jiang) 20 NTD ทานคู่กับปาท่องโก๋
ยังมีอีกหลายเมนูที่น่าลองเช่น Shao Bing ขนมปังอบเตาถ่านสูตรเฉพาะของร้าน, Dan Bing แพนเค้กสไตล์ไต้หวัน ใครอยากมากินร้านนี้ แนะนำให้รีบมาแต่เช้าครับ
กินอิ่มแล้วก็พร้อมเที่ยว !! เช้านี้จะไปตลาดโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen old street) สถานที่เที่ยวสุดฮิตของเขตรุ่ยฟาง (Ruifang) เมืองจีหลง
การเดินทางไปจิ่วเฟิ่นมีหลายวิธี รถไฟแบบธรรมดา (TRA) รถบัส หรือเช่ารถพร้อมคนขับก็ได้ ซึ่งการเช่ารถจะสะดวกสุดแต่แพง เหมาะกับกลุ่มที่มากันเยอะๆ
ที่มา: https://www.1000milesjourney.com/from-ximen-to-jiufen/
เราเลือกไปด้วยรถบัสสาย 965 ต่อเดียวถึงจิ่วเฟิ่นเลย ใครพักแถวสถานีหลักไทเป ป้ายรถอยู่ใกล้สถานี Beimen ถ้าพักแถวซีเหมิน ป้ายรถอยู่ใกล้ทางออก 2 บริเวณ Armed Forces Cultural Center
บัสสาย 965 จะรับผู้โดยสารตามจำนวนที่นั่ง เพราะรถจะขึ้นทางด่วน ถ้ากลัวรถเต็ม ให้ไปรอรถบัสที่ป้ายแรก ได้ขึ้นแน่นอน 555
ป้ายแรกของรถบัสสาย 965 อยู่ใกล้กับทางออก 1 สถานี Fuzhong (รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน)
เดินย้อนมาทางรูปปั้นนี้ แล้วเลี้ยวซ้ายไป Fuzhong Rd. ป้ายรถอยู่หน้าร้าน Tomod’s
จุดรอรถบัสมีป้ายชัดเจน ที่พื้นก็มีตัวเลขกำกับ รถจะมาจอดตรงกับป้ายที่พื้นเลย
ช่วงแรกที่รถผ่านในเมือง ก็เจอรถติด แต่พอขึ้นทางด่วนปุ๊บ ก็ตรงยาวๆ แบบรวดเดียวเลย 555
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 90 นาที ก็ถึงเมืองรุ่ยฟาง รถบัสผ่านสถานีรถไฟ (TRA) ก่อนจะขึ้นเขาตรงไปยังหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น
ลงรถที่ป้ายนี้ครับ แล้วเดินขึ้นเนินไปทางขวา ทางเข้าตลาดโบราณติดกับร้าน 7-11
>> https://goo.gl/maps/MNuTr1CcCykhgZbg7
หลังป้ายรถบัสคือศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจิ่วเฟิ่น (Jiufen Xiahai City God temple)
สภาพอากาศวันนี้มีหมอกจางๆ เย็นสบาย แต่พยากรณ์อากาศเตือนว่าฝนจะตก 12.00
ก่อนถึงทางเข้าตลาดโบราณ มีจุดชมวิวชื่อ Guanhai Pavilion มองเห็นได้ทั้งภูเขาและทะเล
>> https://goo.gl/maps/dmcABDniyEWPBTYY6
จิ่วเฟิ่น เดิมเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่บนไหล่เขา ซึ่งมีเพียง 9 ครอบครัว เวลาชาวประมงมาส่งของที่หมู่บ้านก็จะจัดมา 9 ชุด จนเป็นที่มาของชื่อ จิ่วเฟิ่น ที่แปลว่า 9 ส่วน
ต่อมามีการขุดพบแร่ทองคำที่นี่ จนกลายเป็นเหมืองทองที่มีชื่อเสียงและรุ่งเรืองมากในยุคอานานิคมญี่ปุ่น
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง บริษัทเอกชนของไต้หวันมารับช่วงต่อ แต่ก็ต้องปิดกิจการเพราะไม่เหลือแร่ทองคำให้ขุดแล้ว เมืองนี้จึงถูกทิ้งร้าง
กระทั่ง Studio Ghibli ใช้จิ่วเฟิ่นเป็นแรงบันดาลใจในฉากภาพยนตร์อนิเมชั่น SPIRIT AWAY ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมา ที่นี่จึงกลับมาชีวิตอีกครั้ง
ถนนโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen Old Street) เป็นถนนสายเล็กๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ เช่น โรงน้ำชา ร้านขายขนมและอาหาร ร้านขายของที่ระลึก คนส่วนมากมาเดินหาของกิน จิบชา และหามุมถ่ายรูป
ส่วนสายกินแบบเราก็โดนตกตั้งแต่ทางเข้าตลาดเลย 555 คุณป้าเจ้าของร้านน่ารักมาก ใจดีสุดๆ
ลูกชิ้นกุ้งทอด (2ลูก / 80 NTD) นำผักต่างๆ มาห่อกุ้ง คลุกแป้งแล้วทอดจนกรอบ กินตอนร้อนๆ ยิ่งอร่อย
ข้างนอกกรอบ ไส้กุ้งหอมกลิ่นพริกไทย ราดซอสรสเปรี้ยวๆ หวานๆ ทานกับผักดอง
ฝั่งตรงข้ามคือร้านเต้าหู้เหม็นแบบต้ม เราชอบความนุ่มของเต้าหู้ แต่เมนูนี้ไม่ค่อยแนะนำสำหรับมือใหม่ที่พึ่งเข้าวงการ 555 กลิ่นจะแรงกว่าแบบทอด
Fishball Bozai ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่คนขายพูดไทยได้ เราสั่งมา 3 อย่างเลย
>> https://goo.gl/maps/HiMeLCrUg2TGHiLx6
เต้าหู้ทอดยัดไส้ลูกชิ้นปลา (คล้ายลูกชิ้นแคระ) ราดด้วยซอสเต้าหู้ยี้ อีกชามคือซุปลูกชิ้นปลาที่ยัดไส้หมูสับ (ฮวี่หวานทัง)
กานตงเฟิ่น คือวุ้นเส้นแห้งที่ราดด้วยซอสเค็มๆ หวานๆ โรยด้วยกระเทียมเจียว
ถ้าเอา 3 อย่างมารวมกัน ก็คือก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม 555
จากทางเข้าตลาด ให้เดินบนถนนสายหลักไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเลี้ยวเข้าตรอกซอกซอยข้างทาง
ให้โคมแดงนำทางเราไปยังโรงน้ำชาอาเม่ยซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่
กว่าจะถึง ... ก็หาของกินไปเรื่อยๆ ร้านนี้ขายลูกชิ้นต้มในซุปหมาล่า ซุปผงกะหรี่ คล้ายเมนูของว่างที่ฮ่องกง
เดินตามกลิ่นจนมาเจอเต้าหู้เหม็นแบบย่าง ... จัดไปอีก 1
ห้ามพลาด !!! ไส้กรอกไต้หวัน (เข่าเซี่ยงฉาง) ร้านนี้มีหลายแบบ ไส้กรอกเนื้อหมู ไส้กรอกไข่ปลาบิน ไส้กรอกหมึกดำ และไส้กรอกข้าว ไม้ละ 35 NTD/ 3 ไม้ 100 NTD
>> https://goo.gl/maps/MTEqYfhZfYYHCiDk6
เมนูนี้ชื่อ โร่วหยวน เมนูขึ้นชื่อของจิ่วเฟิ่น ใช้แป้งข้าวเหนียวห่อไส้หมูแดงแล้วนำไปทอด
>> https://goo.gl/maps/s2RAyS6D8Dkv8HVv8
เราเคยเห็นร้านนี้ขายที่ตลาดโบราณตั๊นสุ่ย ขายอาหารทะเลชุบแป้งทอด มีทั้งปลาหมึก ไข่ปลาหมึก ปู กุ้ง
ทางนี้ขายปีกไก่ ขาไก่ ตุ๋นพะโล้ กลิ่นพะโล้หอมมาก
เถียนปูล่า เป็นเมนูของกินเล่นที่เกิดขึ้นในยุคอานานิคมญี่ปุ่น คนไต้หวันเรียกว่า Taiwan Tempura
เดินมาถึงร้าน A-Lan Salty Grass Mochi เป็นอีกร้านที่คิวยาว ขายขนม Caozai Kueh แป้งโมจิที่ใส่หญ้าชิวคัก (เหมือนแป้งขนมเทียน) มีไส้เค็ม (ไชโป้ว) และไส้หวาน (ถั่วแดง)
>> https://goo.gl/maps/4PXKbxUNoujBDwTWA
แป้งนุ่มหนึบ ได้กลิ่นชิวคักแบบอ่อนๆ เราสั่งไส้ถั่วแดง อร่อย !!! ราคาชิ้นละ 20 NTD
หันไปเห็นต้าวแมวขาวตัวนี้เลยหยิบกล้องมาถ่าย แต่นางกระโดดหนี เราเลยเดินตามไป
และสิ่งที่ต้าวแมวพาเรามาเจอก็คือ ต้นซากุระ สารภาพตามตรงว่าแยกไม่ออกครับ เห็นดอกสีชมพูก็เหมารวมว่าเป็นซากุระหมด 555
เจอต้นซากุระ 4 ต้น ดอกกำลังบานทุกต้น สีชมพูอ่อน สวยมากๆ มีบางส่วนร่วงไปบ้าง แต่ก็ยังสวยอยู่ดี :)
ถือว่าคุ้มค่ามาก ต้องขอบคุณต้าวแมวขาว
เดินต่อจนถึงร้านบัวลอยยายไล่ (Lai Ah Po Taro Balls) บัวลอยไต้หวันเจ้าเก่าในตลาดจิ่วเฟิ่น
>> https://goo.gl/maps/UknyDbjQ2qK4ppHA8
ที่ร้านมีบัวลอยเผือก (ยวู่หยวน) บัวลอยมันหวาน (ตี้กวาหยวน) กินกับซุปถั่วแดง (หงโต้วทัง) มีทั้งร้อนและเย็น
เราสั่งแบบเย็น (50 NTD) ซุปถั่วแดงหวานกำลังดี แป้งบัวลอยก็หนุบหนับ เคี้ยวเพลิน
ที่ร้านขายบัวลอยแบบที่ยังไม่ต้มด้วยนะครับ ปั้นกันสดๆ ตรงหน้าร้านเลย
เดินจากร้านบัวลอย Lai Ah Po ไปอีกนิด จะเจอ 3 แยกเล็กๆ
- เดินตรงไปเป็นจุดชมวิว Jiufen Cats Viewpoint
- เลี้ยวขวาจะเข้าสู่ Shuqi Rd. ทางเดินไปยัง A-mei tea house
- เลี้ยวซ้ายขึ้นเนินไปจะเจอบัวลอยเจ้าดังอีกร้าน (A GAN YI TARO BALL)
Jiufen Cats Viewpoint จุดชมวิวตรงนี้คงตั้งชื่อตามคุณแมวเจ้าถิ่น
>> https://goo.gl/maps/36YBY7mPyZ1j2ron9
วิวตรงนี้ดีมาก ด้านหน้าเป็นภูเขา ด้านหลังเป็นทะเล
ถ้ามาช่วงเย็นในวันที่ฟ้าเปิด ต้องได้รูปสวยๆ แน่นอน
ตรงนี้เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน
เราย้อนกลับมาที่ Shuqi Rd. เดินลงบันไดไปเรื่อยๆ มุมนี้ก็ถ่ายรูปสวย เป็นทางลงเขาที่สองข้างทางประดับด้วยโคมแดง
ก่อนถึงโรงน้ำชาอาเม่ย มีอุโมงค์หินอยู่ แต่เราไม่ได้เดินเข้าไปสำรวจ เลยบอกไม่ได้ว่ามีอะไร 555
อีกด้านมีรูปปั้นคนงานเหมืองทองในสมัยก่อน ตรงนี้คือ Photo Spot สำหรับถ่ายรูปโรงน้ำชาอาเม่ย
ในที่สุดก็มาถึง A-mei tea house ไฮไลท์ของจิ่วเฟิ่น นักท่องเที่ยวแทบทุกคนต้องมาถ่ายรูปตรงนี้
>> https://goo.gl/maps/BBaw5ioWeivJWSzx6
A-mei tea house อาคารไม้ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ประดับด้วยโคมไฟสีแดงจำนวนมาก
ร้านนี้ขายน้ำชาเป็นเซท (300 NTD) เสริ์ฟพร้อมขนมแกล้มน้ำชา (งากรอบ, เค้กถั่ว, โมจิและบ๊วย) ทางร้านบังคับสั่งตามจำนวนคนนะครับ
ที่นั่งในร้านมีโซนด้านในและโซนที่อยู่ตรงระเบียง เวลาจิบชา จะได้ชมวิวภูเขาและทะเลไปด้วย
ส่วนคนที่อยากถ่ายรูป A-mei tea house แบบสวยๆ ไม่มีอะไรมาบัง แนะนำร้านน้ำชาชื่อ Skyline tea house รับรองว่าได้รูปแบบปังๆ แน่นอน
>> https://goo.gl/maps/5bd1GBMJm5xBwbty9
เดินลงมาที่ Qingbian Rd. จะเจอกับ Shengping Theater โรงหนังเก่าที่ภายในยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ เปิดให้เข้าชมฟรี
ทางเดินบริเวณนี้ก็แขวนด้วยโคมแดงเต็ม 2 ข้างทาง ตัวอักษรที่เขียนบนโคมแดงคือ จิ่วเฟิ่น
ขากลับก็เดินย้อนกลับไปตามทางเดิมได้เลย
ก่อนกลับขอแวะชิมบัวลอยเผือกที่ร้าน A GAN YI TARO BALL อีกร้านดังของจิ่วเฟิ่น
>> https://goo.gl/maps/o9MzJoZGtYNGLBkA8
สั่งแบบใส่ซุปถั่วแดงร้อน (55 NTD) เพราะเริ่มตัวสั่นแล้ว 555 ซุปถั่วแดงจืดไป แต่ชอบความหนุบหนับของบัวลอย โดยเฉพาะบัวลอยเผือก ได้เนื้อสัมผัสของเผือกเวลาเคี้ยว
ความปังของร้านนี้ไม่ได้มีแค่ขนมอร่อย แต่อยู่ที่วิวสุดอลังการนี้ด้วย กินบัวลอยไป ชมวิวไป คือที่สุด !!!
ปิดท้ายด้วยไอศครีมถั่วตัดที่ร้าน A-Jou Peanut Ice Cream Roll เจ้าของร้านนี้ก็น่ารัก พอเห็นนักท่องเที่ยวถ่ายรูปก็จะยื่นจานให้ถ่ายรูปก่อนห่อไอศครีม
>> https://goo.gl/maps/E3jwVw94pyTTHTc37
แผ่นแป้งโรตี โรยด้วยถั่วตัดป่น วางไอศครีมลงไป 2 ลูก (เลือกรสชาติได้) ชิ้นละ 50 NTD
ถ้าอยากลองแบบต้นตำรับ ก็ต้องโรยผักชี ส่วนตัวเราชอบ เหมือนจะแปลก แต่อร่อยดี
นอกจากร้านอาหาร ก็มีร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆ และผลงานศิลปะต่างๆ เช่น พู่กัน ตุ๊กตา งานแกะสลักไม้
ดูเหมือนตุ๊กตาปั้นตัวเล็กๆ แต่มันคือขลุ่ย !!! พึ่งเคยเห็นขลุ่ยที่น่ารักขนาดนี้
เดินเพลินมาก โชคดีที่ไม่มีแดด ไม่มีฝน ได้ถ่ายรูปจนอิ่มใจ กินจนอิ่มท้อง ถึงเวลากลับไทเปกันแล้วครับ
ใกล้กับจิ่วเฟิ่นยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์เหมืองทอง น้ำตกทองคำ ทะเลหยินหยาง แหลมปี่โถว จัดโปรแกรมเป็น One Day Trip ได้เลย
ขากลับก็นั่งบัสสาย 965 ไปที่สถานี Beimen หริอสถานี Ximen ก็ได้ แต่ถ้ามีแพลนจะไปตลาดเราเหอต่อ แนะนำให้นั่งบัสสาย 1062 บัสจะจอดด้านหน้าตลาดเลย
จากทางเข้าตลาด ให้เดินขึ้นเนินไปทางขวา ยืนรอรถบัสตรงป้ายที่เขียนว่า To Taipei
>> https://goo.gl/maps/P8GFeJfCrTTRuF4h7
ได้เวลาบอกลาจิ่วเฟิ่นแล้ว ครั้งหน้าตั้งใจจะมาค้าง อยากเดินชมบรรยากาศตอนกลางคืนของที่นี่ คิดว่าต้องสวยมากๆ แน่เลย
ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง รถบัสก็ถึงสถานี Beimen ถือโอกาสเดินชิลแถวนี้เลย มีทั้งคาเฟ่ ประตูเมืองโบราณและพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจหลายที่
เริ่มที่ Taipei North Gate (Cheng’en Gate) เป็นหนึ่งในห้าประตูเมืองโบราณที่สร้างในยุคของ Guangxu แห่งราชวงศ์ชิง ปัจจุบันเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทเป
>> https://goo.gl/maps/vma2vqbqz1ZQE6ow6
ประตูเฉิงเอิน เป็นป้อมปราการที่หันหน้าไปทางทิศเหนือ สร้างด้วยศิลปะแบบจีนโบราณ ผนังทึบมีแค่หน้าต่างที่ใช้สังเกตการณ์ จั่วหลังคาเป็นแบบชั้นเดียว
ที่นี่กลายเป็นอีกสัญลักษณ์ของไทเปไปแล้ว เราเคยมางานเทศกาลโคมไฟ มีการจัดแสดงแสงสี โดยใช้ประตูเฉิงเอินเป็นฉาก ยังคงประทับใจจนถึงทุกวันนี้
ด้านหลังของประตูเฉิงเอินคือ Postal Museum Taipei อาคารเก่าที่ออกแบบโดยสถาปนิกญี่ปุ่น เคยเป็นที่ทำการไปรษณีย์เป่ยเหมิน ปัจจุบันปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยที่ชั้น 1, 2 ยังคงใช้เป็นที่ทำการไปรษณีย์
>> https://goo.gl/maps/S4kjy6kUf1dmpUbDA
ตรงข้ามประตูเฉิงเอินคือพิพิธภัณฑ์รถไฟ (National Taiwan Museum Railway Department Park) ภายในจัดแสดงเรื่องของรถไฟไต้หวันในแต่ละยุค เสียค่าเข้าชม 30 NTD
เวลาเปิด-ปิด: 09.30-17.00 (ปิดวันจันทร์)
>> https://goo.gl/maps/fJS4qkpr5yYJNWLVA
Taipei Info Hub อาคารที่สร้างด้วยอิฐแดง เคยเป็นโกดังบริษัทมิตซุยในยุคอานานิคมญี่ปุ่น ตอนนี้มีการปรับปรุงใหม่ ชั้นล่างทำเป็นคาเฟ่ ชั้น2 เป็นโถงแสดงนิทรรศการ
>> https://goo.gl/maps/iT7A31nPdokjCXWe8
National Center of Photography & Images เป็นอาคารเก่าอายุ 100 ปี ที่ปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ถ่ายภาพซึ่งเปิดให้เข้าฟรี มีการจัดแสดงผลงานทางภาพถ่าย ส่วนชั้นล่างทำเป็นคาเฟ่
เวลาเปิด-ปิด: 10.00-18.00 ปิดวันจันทร์
>> https://goo.gl/maps/iT7A31nPdokjCXWe8
แวะจิบกาแฟยามบ่ายที่ร้าน Mountain Kids Coffee Roaster: MKCR คาเฟ่เล็กๆ สไตล์มินิมอลตกแต่งด้วยโทนสีขาว
>> https://goo.gl/maps/nD7igjdxW1GzAjRPA
ชั้น 1 มีที่นั่งโซนด้านนอกร้าน ประมาณ 1-2 โต๊ะ
ถ้านั่งทานที่ร้าน จะต้องสั่งเมนูเครื่องดื่มอย่างน้อยคนละ 1 แก้ว
จุดขายของร้านอยู่ที่ชั้น 2 สามารถรับชมวิวประตูทิศเหนือแบบไม่มีอะไรมากั้น แนะนำให้มาช่วงเช้าหรือเย็น แสงสวย เหมาะกับการถ่ายรูป
เราสั่งเมนู ลาเต้ร้อน ราคา 100 NTD กาแฟมีความดีงามอยู่ครับ
เดินกลับโรงแรมเพื่อไปเก็บของที่ซื้อมาจากจิ่วเฟิ่น นั่งพักขาสักหน่อย แล้วค่อยไปต่อที่ตลาดเราเหอ
เรานั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงไปสถานี CKS memorial hall แล้วเปลี่ยนเป็นสายสีเขียวเพื่อไปยังสถานี Songshan
ภายในสถานี Songshan มีผลงานศิลปะชื่อ Dome of light สวยดีครับ แต่อาจจะไม่อลังการเท่า Dome of light ที่เมืองเกาสง
ออกจากสถานีที่ทางออก 5 จะเจอวัดวัดซงซานฉือโย่ว (松山慈祐宮) อยู่ตรงทางเข้าตลาดเราเหอ เป็นวัดนิกายเต๋าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในไทเป สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1753 เพื่อบูชาเจ้าแม่ทับทิม (Mazu) เทพธิดาแห่งท้องทะเลที่ชาวประมงนับถือ
>> https://goo.gl/maps/Vn8piwy91qdrSdh8A
วิหารหลักของวัดมีความสูง 6 ชั้น ภายในมีเทพของลัทธิเต๋าประดิษฐานอยู่หลายองค์
ความสวยงามของวัดซื่อโยวอยู่ที่งานแกะสลักที่ประดับทั้งด้านนอกและด้านในวัด มีความละเอียดและปราณีต
เสาที่อยู่ตรงประตูทางเข้าวัดเป็นงานปั้นลายมังกร
ด้านในของบานประตู เป็นงานแกะสลักรูปเทพเจ้าเรียงกันหลายองค์
แม้แต่เพดานของวิหาร ก็ตกแต่งด้วยงานแกะสลัก ละเอียดทุกจุด
บริเวณกลางวัดคือจุดสักการะขอพรจากเจ้าแม่ทับทิม มีกระถางธูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่
สามารถขอพรเจ้าแม่ทับทิมได้ทุกเรื่อง เช่น ความปลอดภัยในการเดินทาง สุขภาพ ความรัก การเรียน การงาน ค้าขาย ยกเว้นเรื่องการเสี่ยงโชค
เราไปช่วงเทศกาลโคมไฟ ภายในวัดจึงมีการประดับด้วยโคมไฟสีสันสวยงาม
ใครมีแพลนมาเดินตลาดเราเหอ อยากให้เผื่อเวลามาที่วัดซื่อโย่วด้วยนะครับ มาไหว้ขอพรจากเทพเจ้าภายในวัดและชมความสวยงามของงานศิลปะไปด้วย
จากทางเข้าตลาดเราเหอ เดินเลี้ยวขวาที่ซอยแรก จะเจอสะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge)
>> https://goo.gl/maps/YBh5cCpEgocWgQqq5
เป็นสะพานที่ใช้ข้ามแม่น้ำจีหลง บริเวณโดยรอบเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับใช้พักผ่อน มีเส้นทางสำหรับปั่นจักรยาน
เราชอบภาพวาดที่สะพาน เป็นการรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของย่านนี้
บนสะพานมีทั้งทางคนเดินและเลนปั่นจักรยาน
อีกกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่ก็คือการตกปลา
เราซื้อของกินจากในตลาดมานั่งกินบริเวณนี้ได้ จัดปิกนิกริมแม่น้ำจีหลงไปเลย
นั่งปล่อยใจชิลๆ รับลมเย็นๆ ชมพระอาทิตย์ตก รอให้ตลาดเปิดแล้วค่อยไปหาของอร่อยกินกัน
สำหรับร้านอร่อยในตลาดเราเหอ เรารวบรวมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ไปตามกันได้เลยครับ
>> https://th.readme.me/p/45214
ปิดจบอีกวันที่ยาวนานมาก ตั้งแต่เช้ามืดจนถึงดึก เป็นอีกวันที่ประทับใจครับ
รอติดตามวันที่ 3 จะพาไปถนนสายวัฒนธรรม ต่อด้วยการเดินเทรล ปิดท้ายด้วยการเดินชิลหาของกินที่ตลาดซื่อหลิน
EP3: https://th.readme.me/p/46048
CALL ME KG
วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 07.19 น.