เที่ยวจีน19วันโดยไม่ใช้ทัวร์ Ep 6 อุทยานแห่งชาติย่าติง Yading Nature Reserve 亚丁国家保护区

สวรรค์บนดินที่อุทยานแห่งชาติย่าติง

Yading Nature Reserve

亚丁国家保护区

อุทยานแห่งชาติ ย่าติง หรือ Yading Nature Reserve เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในระดับ AAAAA ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ และมีความหลากหลาย ของภูเขาหิมะ ทะเลสาบ ลำธาร ธารน้ำแข็ง ป่าสน ตั้งอยู่บนความสูง 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในเขตเมืองเต้าเฉิง (Daocheng) มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกของประเทศจีน

ก่อนจะเข้าไปเที่ยวในอุทยาน ขอเริ่มต้นจากการเดินทางต่อจาก Ep ก่อนหน้า Ep5 กดตามลิ้งนี้ค่ะได้เลยค่ะ

สำหรับ Ep นี้ เริ่มต้นออกเดินทางในเช้าวันที่ 14 ตุลาคม

โดยเรียกแท็กซี่จากหน้าโรงแรม Fengyuan Inn ไปยังสถานีรถบัส

ค่ารถ 10 หยวนต่อคัน

ประมาณ 8 โมงนั่งรถบัสจากสถานีแชงกรี-ล่า(จงเตี้ยน) ไปที่พักที่ RIWA ชื่อ Daocheng Yading Scenic Area Xishang Yunjian Hotel

ค่ารถ 148 หยวน (ซื้อตั๋วล่วงหน้า1 วันที่สถานี )

*** การเดินทางไปอุทยานย่าติง สามารถเลือกได้ 2 เส้นทางคือ
1 ใช้เส้นทางจากคุนหมิง ลี่เจียง แชงกรี-ล่า ย่าติง
2 ใช้เส้นทางทางจาก เฉิงตู ตันปา เต้าเฉิง ย่าติง
ทริปของเรามาจากเส้นทางที่ 1 และ กลับเส้นทางที่ 2

ออกจากแชงกรีล่าได้ไม่นาน รถก็จอดให้ผู้โดยสารลงกรอกบันทึกข้อมูลส่วนตัวให้กับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ

จากนั้นก็เดินทางต่อ ตลอดเส้นทางจากแชงกรีล่า ถึงรือวา นั้นเป็นเส้นทางธรรมชาติที่สวยงามมาก และไม่มีบ้านคนอาศัยอยู่เลยตลอดระยะทางกว่า 6 ชั่วโมง

แวะทานกลางวันและเข้าห้องน้ำ 1 ครั้ง ณ จุดแวะพักจะมีร้านขายอาหารแบบร้านข้าวแกง แต่กับข้าวจะน้อย มีแค่1-2 อย่าง

ห้องน้ำสาธารณะ เส้นนอกเมืองจะเก็บค่าบริการ 1 หยวน แต่สภาพห้องน้ำก็จะประมาณเข้าไปไม่มีประตู แต่จะมีกำแพงเตี้ยๆกั้นระหว่างช่อง (ที่นั่งเป็นรางน้ำไหล) กลิ่นแรงแค่ไหนไม่มั่นใจ แต่เราใส่แมส และไม่ก้มมองตรงรางน้ำอิอิ

ก่อนถึงหมู่บ้าน รถที่นั่งมาเกียร์พัง ต้องจอดซ่อมอยู่พักใหญ่ๆ โชคดีที่ช่างซ่อมมารวดเร็ว ระหว่างรอซ่อมรถ ก็ไม่ให้เสียเวลาเปล่า ถ่ายรูปเล่นกัน

ใครใคร่เข้าห้องน้ำก็ตามอัธยาศัยตามภาพค่ะ

จากนั้นก็เดินทางต่อ ผ่านหมู่บ้าน เลี้ยงจามรีเต็มสองข้างถนน ประมาณ 6 โมงเย็น รถไปจอดให้พวกเราลงที่สถานีจอดรถเล็กๆ ซึ่งโทรสอบถามที่โรงแรมแล้วเขามีรถมารับ เจ้าของคู่สามีภรรยาให้การบริการดีมากเลย ผู้ชายพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ผู้หญิงพูดได้บ้าง แต่พวกเราสื่อสารโดยใช้ Google Translate

นี่คือห้องนอนคืนนี้ค่ะ โรงแรมDaocheng Yading Scenic Area Xishang Yunjian Hotel

ค่าโรงแรม 790 บาทต่อห้อง (จองล่วงหน้าผ่านtrip.com ) 1 คืน และจองหน้าเคาเตอร์เพิ่มสำหรับคืนวันที่ 16 ในราคาที่ถูกกว่าจองผ่าน Trip.com

ในระหว่างรอเช็คอิน โชคดีเจอกลุ่มพี่คนไทย ชวนนั่งรถเหมาไปอุทยานด้วยกันในวันพรุ่งนี้ ปกติถ้าเป็นรถแชร์ หรือรถตู้ประจำทาง จะคิดคนละ 10 หยวน แต่พี่เค้าเรียกรถคันนี้มารับเฉพาะพวกเรา 10 คนก็ขอลดราคาเหลือคนละ 8 หยวน หมดภารกิจของวันนี้

หลังทานอาหารเย็นใกล้ๆโรงแรม ก็แยกย้ายพักผ่อนเก็บแรงไว้เดิน Trekking ในวันพรุ่งนี้ค่ะ

เช้าวันที่ 15 ตุลาคม ประมาณ 7 โมงเช้า รถตู้แชร์ มารับที่โรงแรม ระยะทางถึง Yading Centre (จำหน่ายตั๋ว) ประมาณ 6 กิโลเมตร ซื้อตั๋วเข้าอุทยาน 2 วันในราคา 120 หยวนและ ค่ารถบัส 146 หยวน

เดินเข้าแถวไปยังจุดขึ้นรถบัสค่ะ

นั่งรถบัสของอุทยาน และแวะลงที่โรงแรมตรงจุดจอดรถบัสสถานีที่ 2 เพื่อเช็คอินเก็บสัมภาระ ที่โรงแรมให้เช็คอินได้เลยตั้งแต่เราไปถึงประมาณ 9 โมงครึ่ง

👌ที่พักคืนนี้ โรงแรม Sada’s Tibetan Inn ราคาค่าห้อง 536 บาท โรงแรมมีขายอาหารเช้า เย็น และมีซุปเปอร์อยู่ใกล้ๆ

เก็บสัมภาระเรียบร้อย ก็รอรถบัสคันที่วิ่งในหมู่บ้าน รร.เราอยู่ตรงป้ายรถบัส ไปถึงจุดลงรถสุดท้ายของอุทยานที่ต้องเริ่มต้นเดิน ประมาณ 10.30 น.

การเดิน Trekking ในอุทยานย่าติง มี 2 เส้นทาง
ระยะสั้น เริ่มต้นจาก ทุ่งหญ้าชงกู (Chonggu Meadow) 
– วัดชงกู(Chonggu Monastery) 
-ทะเลสาบไข่มุก (Pearl Lake) 
– จุดชมยอดเขาเซียนหน่ายยื่อ Xiannairi 

ระยะยาว เริ่มต้นจาก ทุ่งหญ้าลั่วหรง ( Luorong Pasture) 
– ทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake)  
และทะเลสาบห้าสี ( Five Color Lake)

เราเลือกเดินระยะสั้นก่อน เพราะวันนี้เริ่มต้นสาย ระยะสั้นไปกลับ รวมระยะทาง 3 กม. ระหว่างทางที่เดินไปก็แวะทานอาหาร แวะนั่งพัก ถ่ายรูปกันไป จะได้ไม่รู้สึกเหนื่อยมาก พวกเราใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง เลยล่ะ

ควรพกอาหาร น้ำดื่มไปทานด้วย เพราะระหว่างทางเดินไม่มีร้านค้าค่ะ เราพกน้ำร้อน โปรตีนชง ไข่ต้ม เป็ดที่ขายในซุปเปอร์แบบซีลใส่ถุงพร้อมทาน ช๊อคโกแลตจะช่วยให้พลังงานมากขึ้น หรือขนมปัง พกอาหารเบาๆ ทานสะดวกค่ะ

ภาพบรรยากาศระหว่างทาง

สามารถเดินไปวัดทางนี้ก็ได้ จะเข้าวัดทางด้านหลังค่ะ

แต่เราเดินขึ้นด้านหน้าค่ะ ทางเดินจะชันมากกว่า แต่วิวจะสวยกว่า

แวะวัดชงกู่กันก่อนค่ะ

ถัดจากวัดไป ไม่ไกลมาก จะมีห้องน้ำ ดูสะอาดดีค่ะ

และเมื่อเดินตามทางมาเรื่อยๆ วิวตรงหน้าเป็นทุ่งหญ้า ฉากหลังเป็นภูเขาหิมะสวยงามค่ะ

ลงไปถ่ายรูปเล่นกันกลางทุ่งหญ้าค่ะ

กลับมาทางเดินที่เขาทำไว้ให้ เพื่อเตินตามเส้นทางต่อค่ะ

จุดนี้สีน้ำเขียวมาก เราแอบลอดรั้วลงไปถ่ายรูป อิอิ

ตลอดเส้นทางเดิน สามารถหยุดถ่ายรูปได้แทบทุกมุม สวยๆ

เดินไปจนถึง จุดที่มีระดับความสูงจากน้ำทะเล 4080 เมตรค่ะ

ถึงแล้ว ทะเลสาบไข่มุก เป็นไฮไลท์ของรูทสั้น นักท่องเที่ยวมาแออัด แย่งมุมถ่ายรูปกันตรงจุดนี้ค่ะ

จบเส้นทางเดินเท้าระยะสั้นก็เย็นแล้ว ก็กลับโรงแรมในหมู่บ้าน จะได้พักผ่อนเพื่อวันพรุ่งนี้ต่อค่ะ

วันที่ 16 ตุลาคม ทานอาหารเช้าที่โรงแรม (ราคา 20 หยวน) ก่อนออกเดินทาง ประมาณ 8 โมงถึงจุดจอดรถป้ายสุดท้าย

วันนี้เราเดินเส้นทางระยะยาว ซึ่งจะต้องเดินจากจุดลงรถบัสไปอีก 500 เมตร เพื่อซื้อตั๋วขึ้นรถกอล์ฟคนละ 70 หยวน และนั่งรถกอล์ฟไปอีกประมาณ 3 กม.

เส้นทางระยะยาว ไปกลับ 9 กิโลเมตร เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง

เริ่มต้นจาก ทุ่งหญ้าลั่วหรง ( Luorong Pasture) – ทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake) และทะเลสาบห้าสี ( Five Color Lake)

เส้นทางนี้สามารถใช้ไม้เท้าค้ำยันได้ เพราะพื้นทางเดินไม่มีร่องเหมือนกับระยะสั้น

บรรยากาศระหว่างทาง

จุดแรกเมื่อลงจากรถกอล์ฟ เดินมานิดเดียว ก็ได้ถ่ายภาพกับวิวสวยๆ เลยค่ะ

ช่วงที่เราไปอากาศตอนเช้าหนาวมาก แต่เมื่อเดินไปสักระยะ ร่างกายจะปรับตัว ไม่รู้สึกหนาว แต่ก็ไม่ร้อน กำลังสบายๆเลยล่ะ

จุดนี้เป็นจุดไฮไลท์ บางคนเดินมาถึงตรงนี้ก็ไม่ไปต่อแล้ว จุดนี้อยู่ห่างจากจุดลงรถใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งเราเข้าใจว่าถึงทะเลสาบน้ำนมแล้ว มัวแต่ถ่ายรูปเล่น กระโดดโลดเต้นกันสนุกสนาน เสียเวลาอยู่ตรงจุดนี้นานเลยค่ะ (จริงๆแล้วเป็นข้อห้ามนะคะ เพราะจุดที่เราเดินไปอากาศจะเบาบาง ทำให้ร่างกายเหนื่อยง่าย และขาดอ๊อกซิเจนได้)

ถึงกับต้องพึ่งอ๊อกซิเจนกันเลยล่ะ555

ทางเดินเป็นขั้นบันไดที่ทำไว้อย่างดี เดินง่าย แต่ทางจะชันอาจจะทำให้เหนื่อยง่าย ควรแวะพักเป็นระยะๆ และพกอ๊อกซิเจนกระป๋องติดตัวไปด้วย

เป้าหมายต่อไปคือทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake) และทะเลสาบห้าสี ( Five Color Lake) ค่ะ

เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และไม่ง่ายเหมือนกับที่ผ่านมา เพราะยิ่งสูง ทางยิ่งชัน เดินไป4-5ขั้นก็ต้องหยุดพักกันทีเดียวค่ะ เส้นทางเดินจะมีจุดแวะนั่งพัก นั่งทานอาหารเป็นระยะๆ

1.30 ชั่วโมงผ่านไป ก็เดินมาถึงป้ายบอกทาง ซึ่งมีประโยชน์มากค่ะ คือระยะ 1000 ม.ไปทะเลสาบ 5 สี ระยะ 800 ม. ไปทะเลสาบน้ำนม

เจอน้องคนไทยที่ตรงจุดแวะพัก บอกว่ามีคนแนะนำ ว่าควรไปทางทะเลสาบน้ำนมก่อน ทางไม่ชันมาก เราก็เลยเลือกไปทางทะเลสาบน้ำนม แล้วขึ้นทะเลสาบ 5 สีอีก300 ม. ส่วนตอนกลับเลือกเส้นทาง 1000 ม. จะได้ไม่ย้อนค่ะ

จากจุดป้ายบอกทางใช้เวลา ครึ่งชั่วโมงถึงทะเลสาบน้ำนมค่ะ

เดินทางมาไกล เมื่อถึงจุดถ่ายรูปตากล้องก็แชะๆอย่างเดียวเลย ได้ภาพซ้ำมาเพียบ เลยจ้า

เห็นวิวกันชัดๆหน่อยนะคะ แม้ว่าภาพถ่ายจะสวยได้เพียงเสี้ยวหนึ่งของตาเห็นก็ตาม

นี่คือป้ายบอกทาง จากทะเลสาบน้ำนมไปถึงทะเลสาบ 5 สีอีก 500 เมตร โอ้วมายก๊อต เดินขึ้นเขาอีก 500 เมตรหราาา

แต่เราก็ทำสำเร็จ เย่

และป้ายนี้คือ ทะเลสาบ 5 สีที่ระดับความสูง 4,700 เมตร (เป็นระดับความสูงที่มาถึงโดยการเดินเท้าล้วนๆ)

เมื่อขึ้นมาถึงทะเลสาบ 5 สี นอกจากจะได้เห็นความงามของทะเลสาบ 5 สีแล้ว เรายังมองเห็นทะเลสาบน้ำนมจากมุมนี้ด้วยค่ะ

สำหรับภาพนี้คือทะเลสาบ 5 สีนะคะ

อยากจะนอนเล่นอยู่ตรงนี้นานๆ แต่ตอนนี้บ่าย2.30 แล้ว จะต้องรีบกลับไม่งั้นตกรถบัสแน่ๆ

โอ้โห เราขึ้นมาสูงขนาดนี้เชียว

ตอนกลับไม่ได้แวะถ่ายรูปแค่หยุดพักเหนื่อย ยังใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง กว่าจะถึงจุดขึ้นรถบัส

เราขึ้นรถบัสไปลงที่สถานี 2 เพื่อเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม และรอขึ้นรถเพื่อออกไปหน้าอุทยานหรือจุด Yading centre แต่รถจะเต็มมาจากด้านในอุทยาน ต้องให้พนักงานขับรถ แจ้งทางต้นสายรถให้พวกเราว่า มีคนรออยู่ตรงหมู่บ้านหลายคน ให้มีที่นั่งว่างมารับด้วย พวกเราก็ต้องแบ่งกันนั่งไปคันละคน2คน กว่าจะออกหน้าอุทยานได้ก็ค่ำ

พวกเรานั่งรถตู้รับจ้างที่รอนักท่องเที่ยวอยู่หน้าอุทยาน เจอรถคันเดิมที่นั่งมา ก็เลยเหมากลับพร้อมพี่ๆกลุ่มเดิม ไปถึงโรงแรม 2 ทุ่มกว่า เหนื่อย เพลีย แต่ยังมีปัญหาเรื่องรถเช่าที่จะเดินทางไปชินตูเฉียววันพรุ่งนี้อีก กว่าจะสรุปกันได้ก็ดึกเลยค่ะ Ep นี้ขอจบเพียงแค่นี้ก่อนนะคะ