สำหรับเนื้อหาใน Part 1 นั้น จะเป็นเรื่องราวของการเดินทางไปสู่ "ดอยเสมอดาว" น๊ะครับ
หมายเหตุ: เนื้อหาในบทความนี้ จะเล่าแต่ละสถานที่แบบคร่าวๆน๊ะครับ ส่วนรีวิว แบบละเอียดของแต่ละที่ จะแยกไปเป็นบทความของแต่ละที่อีกทีครับ
4 มกราคม 2567
หลังจากเก็บตัวในช่วงปีใหม่ ไม่ออกไปไหน เพราะช่วงเทศกาลคนแย่ะ
และอยู่ๆวันนี้ก็เกิดนึกอยากจะไปเที่ยว ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน คิดได้ดังนั้น ก็รีบเก็บของอย่างรวดเร็ว มีอะไรก็โยนใส่รถให้หมด และก็เริ่มออกเดินทาง (แน่นอนว่า ไม่มีการวางแผนอะไรทั้งสิ้น)
และหลังจากปักหมุดที่ดอยเสมอดาวแล้วก็พบว่า
Writer: อืมมม 9 ชั่วโมงกว่าเลยเหรอ ไม่ไหวๆ ขับรถรวดเดียวไม่น่าไหว หาที่แว่ะกลางทางก่อนดีกว่า แล้วค่อยไปเสมอดาว
หลังจากนั้น ก็ทำการเปิด Google Map เพื่อหาสถานที่ ที่เคยปักหมุดเอาไว้ ที่อยู่ตรงกลางระหว่างบ้าน กับ ดอยเสมอดาว เพื่อที่จะไม่เดินทางไปถึงดอยเสมอดาวเย็นเกินไป หรือถึงตอนค่ำไปแล้ว (หึหึ เรานี่ ช่างฉลาดจริงๆ)
Writer: นี่งัยเจอแล้ว "อุทยานแห่งชาติภูแลนคา" หรือ "มอหินขาว" นั่นเหลอะ (อยู่ตรงกลางพอดีเลย อิอิ)
Writer: Let's go... ออกเดินทางได้ๆๆๆ
และแล้ว การผจญภัยเล็กๆ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
.
.
.
เวลาประมาณ 17:30
Writer: ถึงแล้ว "อุทยานแห่งชาติภูแลนคา" ฮ่าฮ่าฮ่า
เปิดกระจกรถ ส่งยิ้มไปให้เจ้าหน้าที่ แล้วก็พูดว่า
Writer: ผมมากางเต้นท์ครับ ^^
เจ้าหน้าที่: เอ่อๆๆๆ ที่นี่มันก็มีที่กางน๊ะ แต่วันนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ส่วนใหญ่เค้าจะกางที่ "มอหินขาว" ข้างล่างกันน่ะ
Writer: ใช่ครับ ผมก็จะมากางที่มอหินขาวนั่นเหลอะ ไอ้ที่มันถ่ายดาวสวยๆนั่นเหลอะ ไม่ใช่ที่นี่เหรอครับ
เจ้าหน้าที่: ที่นี่มันศูนย์ใหญ่ มอหินขาว มันอยู่ข้างล่าง ต้องขับรถกลับลงไปน่ะ
"ห๋าๆๆๆ แล้วไอ้ที่เราขับรถขึ้นเขามาล่ะ"
และหลังจากนั้น ก็ต้องขับรถลงเขาไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อไปกางเต้นท์ที่ "มอหินขาว" แน่นอนว่า พอไปถึงก็ "มืดตึ๊ดตื๋อ" แล้ว T_T
แต่ในความโชคร้าย ก็ยังมีความโชคดี คือในระหว่างที่กำลังกางเต้นท์คนเดียวมืดๆ ก็มีนักกางเต้นท์ในบริเวณนั้น มาช่วยยืนส่องไฟให้ จึงทำให้การกางเต้นท์นั้นง่ายขึ้นแย่ะเลย
5 มกราคม 2567
เช้าแล้ว ตื่นมารอถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นกันครับ
บรรยากาศของลานกางเต้นท์ครับ
เนื่องจากเมื่อคืนมาถึงตอนมืดแล้ว ก็เลยตัดสินใจกางเต้นท์เล็ก ที่ปกติเอาไว้กางตอนทริปเดินป่า ที่กางได้ง่ายกว่า
และเจ้าของเต้นท์ขาวๆทางขวา ก็เป็นนักท่องเที่ยวที่มีน้ำใจ มาช่วยยืนส่องไฟให้ผมเมื่อคืนครับ ^^
บรรยากาศรอบๆลานกางเต้นท์ของ "มอหินขาว" ครับ
"มอหินขาว" ในตอนสายๆ แดดแรงแล้ว และหญ้าก็ไม่เขียวแล้ว
สรุป: "อุทยานแห่งชาติภูแลนคา" "มอหินขาว" และ ลานกางเต้นท์ มันอยู่คนละที่กันครับ (รายละเอียดเอาไว้ใน รีวิวแยกน๊ะครับ)
และก่อนไป ก็แว่ะไปขอแสตมป์จากเจ้าหน้าอุทยานแสนสวย อิอิ
Writer: เอาล่ะ ออกเดินทางสู่จุดหมายหลัก "ดอยเสมอดาว" ได้แล้วๆๆๆ เย้ๆๆๆ
(และหลังจากปีกหมุดใน Google Map ก็พบว่า)
"อิหยั๋งว๊ะ" !!!
Writer: เฮ้ยๆๆๆ ทำไม เรามาครึ่งทางแล้ว ระยะเวลามันยัง 8 ชั่วโมง เกือบ 9 ชั่วโมงอยู่เลยว๊ะ เราก็เลือกจุดที่มันอยู่ตรงกลางแล้วนี่หว่าๆๆๆ T_T
Reader: นั่นมัน Helicopter Mode โว๊ยๆๆๆ เอ็งขับรถไป ไม่ได้นั่งฮอไป เข้าใจมั๊ยๆๆๆ
Writer: ฮือๆ เข้าใจแล้ว งั้นก็ขับรถไป แบบค่ำไหน นอนนั่นก็แล้วกัน T_T
ระหว่างทางก็ผ่าน "สะพานห้วยตอง" ก็แว่ะถ่ายรูปซักหน่อย
ผ่าน "วัดผาซ่อนแก้ว" ก็ถ่ายรูปจากร้านค้า ที่เป็นจุดชมวิว
และก็ผ่าน "ภูหินร่องกล้า"
งั้นคืนนี้ นอนนี่แล้วกัน ฮ่าฮ่าฮ่า
และก็แน่นอนว่า ไม่ลืมที่จะไปขอแสตมป์ อิอิ
ต้นสนที่เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของ "ลานกางเต้นท์ภูหินร่องกล้า" ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว หน้านลานกางเต้นท์
และในตอนกลางคืน ระหว่างที่เดินไปเข้าห้องน้ำ ก็สังเกตเห็นว่า ดาวสวยดี ก็เลยลองถ่ายรูปซักหน่อย
6 มกราคม 2567
บรรยากาศตอนประมาณ 9 โมงเช้า ของที่นี่ครับ
หมายเหตุ: ที่ลานกางเต้นท์แห่งนี้ ไม่มีมุมถ่ายรูปตอนพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าน๊ะครับ และในส่วนของพระอาทิตย์ตกดินนั้น ก็ไม่สามารถรับชม ตอนที่พระอาทิตย์เป็นไข่แดงได้
ปล 1. และสำหรับ รีวิวฉบับเต็มของลานกางเต้นท์แห่งนี้ ผมจะมาเฉลยถึงที่ตั้งของขุมทรัพย์ ของเหล่าชาวเต้นท์ ที่แอบซ่อนอยู่ที่ลานกางเต้นท์แห่งนี้ นั่นก็คือ "ห้องอาบน้ำอุ่น" ใช่แล้วๆๆๆ ที่นี่ มีห้องอาบน้ำอุ่นครับ ฮ่าฮ่าฮ่า
ปล 2. จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่ความลับอะไรมากหรอกครับ เดินๆ ไปทางมุมซ้ายของภาพล่าสุด ก็จะเจอ ห้องอาบน้ำ แยกชายหญิงครับ ห้องที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น มันจะอยู่ห้องสุดท้ายน่ะครับ (เดาว่า ที่ห้องของผู้หญิง ก็จะมีอยู่ 1 ห้องเหมือนกัน)
และก่อนที่จะเดินทางต่อ ผมก็ขอไปแว่ะเที่ยวที่ "หมู่บ้านร่องกล้า" แป๊บนึง แต่เนื่องจากว่า มันเป็นช่วงที่ดอกซากูระยังไม่บาน มันก็เลย ไม่ค่อยมีอะไรให้ถ่ายแบบนี้ครับ
ปล 1. แต่ว่า จริงๆแล้วในวันนี้ ดอกซากูระที่ภูลมโล มันก็เริ่มบานแล้วน๊ะครับ แต่ผมเลือกที่จะไม่ไป เพราะว่าเคยไปมาแล้ว
ปล 2. และจุดชมวิวตรงนี้ มันก็คือจุดชมวิว ของ "วัดป่าภูหินร่องกล้า" น๊ะครับ สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถยนต์ ก็สามารถขับรถมาได้ถึงวัด และก็เดินมาจุดนี้ประมาณ 200 เมตรครับ
และหลังจากนั้น ผมก็ออกเดินทาง เพื่อมุ่งหน้าสู่ "ดอยเสมอดาว" อันเป็นจุดหมายหลัก ต่อไป
แต่ แอ๊ะๆๆๆ ผ่าน "อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระกาน" จำได้ว่าตอนเด็กๆ เคยมาครั้งนึง
งั้นก็แว่ะหน่อยก็แล้วกัน
แต่พอเข้ามาแล้ว ก็รู้ว่า จำชื่อน้ำตกผิด แต่ก็ไม่เป็นรัย เพราะได้มาอีก 1 แสตมป์ อิอิ
"แต่ทว่า !!! การที่ผมออกจากเส้นทางหลัก เพื่อมาน้ำตกแห่งนี้ ที่เห็นว่า มันใช้เวลาแค่นิดเดียวนั้น มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันยิ่งใหญ่ เพราะว่า อี Google Map มันดันพาผมไปอีกทาง ที่เป็นเส้นเลาะชายแดน โดยไม่รู้ตัว"
Writer: แอ๊ะ!!! ทำไมทางที่ไป เสมอดาว มันลำบากจังว๊ะ มีขึ้นเขาด้วยเหรอ จำได้ว่า เสมอดาวนี่ มันมีขึ้นเขานิดเดียวไม่ใช่เหรอ
"ผมที่ยังไม่รู้ตัว และขับตาม Google Map ไปเรื่อยๆ เริ่มแอ่ะใจ จนกระทั่ง !!!"
"อิหยั๋งว๊ะ"
ไอ้ทางไป "ดอยเสมอดาว" เนี่ยๆๆๆ มันต้องผ่าน "ภูสอยดาว" ด้วยเหรอๆๆๆ
และหลังจากที่กลับไป check Google Map แล้ว ว่าเราไม่ได้กดผิดแน่ๆ ก็เดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่ และก็ได้รู้ว่า "ดอยเสมอดาว" มันก็มาทางนี้ได้ แต่คนเค้าไม่ได้มาทางนี้กันหรอก เพราะว่ามันเป็นเส้นทางเลาะชายแดน ที่ผ่านป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ และทิวทัศน์อันสวยงาม (คิดปลอบใจตัวเองทันที)
ผมที่จริงๆแล้ว ก็อยากมาเดินป่าที่นี่ซักครั้งอยู่แล้ว คิดหนักทันที ว่าไหนๆก็มาถึงแล้ว จะเดินดีมั๊ย แต่เนื่องจากว่า ผมพึ่งลงมาจากภูกระดึง เมื่อกลางเดือนธันวา และรองเท้าเดินป่าก็ยังไม่ได้ซัก และไม่ได้เอาติดรถมาด้วย (นอกนั้น ของทุกอย่าง มีอยู่ในรถครบหมดแล้ว)
และเนื่องจากเวลาที่ผมเดินทางมาถึงนั้น มันเลย บ่ายโมงไปแล้ว ถึงอยากเดิน เจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาติให้เดินขึ้นเขาแล้ว ผมนั้นจึงได้ตัดสินใจ ขับรถชมทิวทัศน์อันสวยงาม เพื่อเดินทาง มุ่งสู่ "ดอยเสมอดาว" ต่อไป
.
.
.
เวลาประมาณ บ่าย 3 โมง ครึ่ง
หลังจากที่ผมนั้น ขับรถมาถึงบริเวณใกล้ทางเข้าของลานกางเต้นท์ "ดอยเสมอดาว"
Writer: ถึงแล้วๆๆๆ "ดอยเสมอดาว" ฮ่าฮ่าฮ่า (หัวเราะในใจอย่างมีความสุข)
"อืมมม มีสาวๆ น่ารักๆ เดินไป เดินมาเต็มไปหมดเลย อย่างว่าเหลอะ ที่เที่ยวยอดนิยมก็ยังงี้" คิดอยู่ในใจ
และเมื่อขับรถต่อไปอีกนิด
"เอ๊ะ !!! สาวๆแย่ะจัง เด๋วออกไปเดิน แอ็คท่าถ่ายรูปดีกว่า เด๋วเผื่อมีสาวๆ มาขอให้ถ่ายรูปให้ อิอิ" คิดอยู่ในใจ พร้อมทั้งยิ้มแบบ กรุ้มกริ่ม
และเมื่อขับรถต่อไปอีกนิด
เอ๊ะๆๆๆ สาวๆ พวกเอ็งไม่ต้องมากันแย่ะขนาดนี้ก็ได้ ทำไมทั้ง สาวๆ หนุ่มๆ มันเดินไป เดินมากันเต็มไปหมดเลยว๊ะ แถมรถก็จอดอยู่แย่ะมากๆๆๆ
และเมื่อขับรถไปถึงบริเวณแยกทางเลี้ยวเข้า "ดอยเสมอดาว" ก็เห็นเจ้าหน้าที่อุทยาน สวมชุดลายพราง ยืนกันอยู่แย่ะมาก และก็พบความจริงว่า !!!
"อิหยั๋งว๊ะ"
วันนี้เค้ามีงานวิ่งเทรลกัน !!!
ผมไม่รอช้า เข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ทันที
Writer: ผมเป็นนักท่องเที่ยวครับ จะมากางเต้นท์
เจ้าหน้าที่: หึหึ จองเอาไว้หรือเปล่าๆๆๆ (บทสนธนา ถูกเปลี่ยนแปลงเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แน่นอนว่าเค้าไม่ได้พูดแบบนี้หรอกน๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า)
Writer: เปล่าครับ (ผมนั้นรู้ชะตากรรมทันที)
"ฟิ้วๆๆๆ"
ผม... จากนักท่องเที่ยว กลายเป็นผู้ประสบภัย และถูกเฉดหัวไปนอน "ผาชู้" ที่อยู่ใกล้ๆกันทันที
แต่ว่า จริงๆแล้ว ผมก็สามารถเลือกนอนที่ปากทางเข้า "ดอยเสมอดาว" ที่ "ปลายฟ้า" ได้เหมือนกัน และก็ดูเหมือนว่า วิวจะสวยกว่า ที่ "ผาชู้" ด้วยซ้ำ
แต่เนื่องจากว่า จุดกางเต้นท์ตรงนี้มันอยู่ริมถนนอย่างนี้ ผมจึงคาดว่า ตอนกลางคืน น่าจะเสียงดัง และมีการตั้งวงเหล้ากัน (อันนี้ผมไม่แน่ใจน๊ะ ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ อยู่ดูแลหรือเปล่า)
ผมก็เลยเลือกที่จะไปนอนที่ "ผาชู้" ซึ่งเป็นพื้นที่ภายในอุทยานจริงๆดีกว่า
และจริงๆแล้ว ที่ "ผาชู้" ก็จะมีร้านอาหารสวัสดิการอยู่ แต่เนื่องจากวันนี้ มีงานวิ่งเทรล แม่ครัวทุกคน จึงถูกเกณฑ์ ไปทำอาหารเลี้ยงนักวิ่งทั้งหมด
ผม... ที่ตั้งใจว่า ทริปนี้ จะไม่ทำอาหารกินเอง เพราะขี้เกียจล้าง และหวังจะฝากท้องไว้กับร้านอาหาร ก็เลยต้องใช้ ท่าไม้ตาย
"มาม่า ปลากระป๋อง" เหมือนกับคืนแรก ที่ "มอหินขาว" ทันที T_T
7 มกราคม 2567
พระอาทิตย์ขึ้น ที่ "ผาชู้"
วิวด้านหน้าลานกางเต้นท์ ของ "ผาชู้" ครับ
บรรยากาศสบายๆ ยามเช้าครับ
มีทะเลหมอกเล็กน้อย ให้เห็นอยู่ไกลๆครับ (รูปนี้ผมใช้เลนส์ระยะ 200mm ซูมสุดกระบอกน๊ะครับ)
.
.
.
และแล้ว การเดินทาง จาก กทม. เพื่อมาสู่ "ดอยเสมอดาว" ที่ใช้เวลาถึง 4 วัน ก็ได้สิ้นสุดลง "เย้ๆๆๆ"
ถึงเส้นชัยแล้วๆๆๆ มีป้ายต้อนรับเต็มไปหมดเลย ฮ่าฮ่าฮ่า
บรรยากาศสบายๆ
มีดนตรีให้ฟัง
เหรียญรางวัลของเค้าสวยน๊ะ เห็นแล้วอยากได้เลย หึหึ
เสมอดาวในวันนี้ ก็จะวุ่นวายกว่าปกติเล็กน้อย
และแน่นอนว่า อีก 1 แสตมป์ อิอิ
พระอาทิตย์จะตกแล้ว
ลองถ่ายมุมอาร์ทๆ ผ่านหญ้าบนเนินดูบ้าง
บ๊ายบาย พระอาทิตย์
แน่นอนว่า กิจกรรมตอนค่ำคืนของที่นี่ ก็ต้องเป็นการถ่ายดาวตอนกลางคืน
ต้นไม้คู่ ประจำ "ดอยเสมอดาว" (ถ่ายติดหางช้างด้วย อิอิ)
8 มกราคม 2567
สวัสดีวันใหม่ ที่ "ดอยเสมอดาว"
ต้นไม้ประจำเนินของ "ดอยเสมอดาว"
ทะเลหมอก ที่มีอยู่เล็กน้อย ในวันนี้
ลองใช้เลนส์เทเล ซูมลงไปดู
ลองถ่ายมุมอาร์ทๆ กับกิ่งไม้
จุดชมวิว "ผาหัวสิงห์"
บ๊าบบาย "ดอยเสมอดาว"
และหลังจากเลื่อนดูหมุด ที่เคยปักเอาไว้ใน Google Map ผมก็ได้จุดหมายต่อไป นั่นก็คือ
"ภูชี้ฟ้า" เย้ๆๆๆ
และแล้วการเดินทางแบบ "โนแพลน" "ค่ำไหนนอนนั่น" ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
แบกกล้อง
วันพฤหัสที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 22.58 น.