กาญจนบุรี ครั้งเดียวไม่เคยพอ ทริปนี้ นอนไมด้า แล้วไปออกกำลังกายขาที่ ช่องเขาขาด

สวัสดีค่ะ ... วันนี้ ทรายจะพาเพื่อนๆ นอนเล่นที่ ไมด้า รีสอร์ท กาญจนบุรี (Mida Resort Kanchanaburi)
แล้วไปออกกำลังกายขากันต่อที่ ช่องเขาขาด ค่ะ
รีวิว ฉบับที่ 35 (Vol.35) แล้วนะคะ

รีวิวนี้ เป็น CR นะคะ พอดีไปงานเกษียณอายุ ของหน่วยงานที่ทรายทำงานค่ะ

ก็เลยถือโอกาสเก็บภาพภายในที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยว มาฝากเพื่อนๆ ค่ะ

แวะให้กำลังใจ ทราย ทาง Facebook "S Travel My Story" บ้างนะคะ

https://www.facebook.com/pages/S-Travel-My-Story/310289235793445เราออกเดินทางจาก กทม. กันแต่เช้าค่ะ มุ่งหน้าสู่จังหวัด กาญจนบุรี ค่ะ

สถานที่แรกที่เราจะเเวะกัน ก็คือ "วัดถ้ำเสือ" ซึ่งสถานที่ที่ห้ามพลาด เมื่อมาเที่ยว กาญจนบุรี ค่ะ

การเดินทางไม่ยากเลยค่ะ "วัดถ้ำเสือ" ตั้งอยู่บนเนินเขา อำเภอท่าม่วง เป็นอำเภอที่อยู่ก่อนถึงตัวเมืองกาญจนบุรี

เป็นวัดที่มีความสวยงามมากๆ ค่ะ

หลังจากไหว้พระกันเสร็จ เราก็มุ่งหน้าไปที่พักกันค่ะ >>> สถานที่จัดงานเกษียณอายุ ของหน่วยงานที่ทรายทำงานค่ะ

" ไมด้า รีสอร์ท กาญจนบุรี " (Mida Resort Kanchanaburi)

ภายในโรงแรมดูร่มรื่นมากๆ ค่ะ มีต้นไม้เยอะจริงๆ

ห้องพักที่ของเราเป็นแบบ ห้องซูพีเรีย (Superior) ค่ะ

ภายในห้องกว้างมาก ไม่เก่า ไม่ใหม่ กลางๆ ค่ะ

บริเวณสระว่ายน้ำ ใหญ่ดีนะคะ มีทั้งสระเด็ก และสระผู้ใหญ่ ค่ะ

บริเวณริมน้ำ ซึ่งเป็นบริเวณที่สวยมากๆ ของโรงแรมค่ะ บริเวณนี้ ในช่วงเช้าเพื่อนๆ มาเดินเล่น ก็อย่าตกใจนะคะ

ว่าทำไมไม่มีน้ำเลย ทรายไปถามพนักงานมาค่ะ คำตอบคือ ประมาณช่วง 11 โมง ทางเขื่อนถึงจะปล่อยน้ำมาค่ะ

บริเวณ เย็นๆ ถึงค่ำๆ บริเวณนี้ สวยมากๆ เลยนะคะ

อาหารบางส่วนจากงานค่ะ ที่เหลือถ่ายไม่ทัน ด้วยความหิว ก็จัดกันซะเรียบเลยค่ะ

ตัดมาที่ช่วงเช้ากันค่ะ อาหารเช้ามีให้เลือกเยอะมากค่ะ แต่ที่ชอบก็คงเป็น ปาท่องโก๋ ค่ะ ทานไป 5 ตัวได้... 555

ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็เดินสำรวจพื้นที่สักหน่อย ก่อนจะเก็บของกลับ

อย่างที่บอกเพื่อนๆ ว่าเช้าๆ น้ำจะแห้งค่ะ ไม่ต้องตกใจนะ

ห้องพักแบบ เต็นท์ ค่ะ อยากเขาไปดูข้างใน แต่มีคนนอนอยู่ อดเลยค่ะ

ก่อนกลับ กทม. ก็ตกลงกันว่าไปแวะเที่ยวกันที่ "ช่องเขาขาด" กันก่อนดีกว่า

"พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด" เป็นสถานที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ภายในพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟสายมรณะ

ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปี พ.ศ. 2485 - 2488 โดยมีทั้งส่วนที่เป็นนิทรรศการภาพถ่าย สไลด์ มัลติมีเดีย การจัดแสดงอุปกรณ์

เครื่องมือเครื่องใช้ของเชลยศึกสงคราม รวมถืงการเปิดให้เข้าชมสถานที่จริงบริเวณช่องเขาขาดที่เป็นเส้นทางการสร้างรถไฟสู่ประเทศพม่าค่ะ

ข้อมูลการเข้าชมและติดต่อ

- เปิดให้ชมทุกวัน จันทร์ - อาทิตย์ 9.00 น. -16.00 น. ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการเข้าชม

- ติดต่อสอบถามได้ที่ 034-531-347, 08-1754-2098, 08-1814-7564

การเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด

ตัวเมืองกาญจนบุรี - พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด 80 กิโลเมตร

น้ำตกไทรโยคน้อย - พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด 20 กิโลเมตร

พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด - น้ำตกไทรโยคใหญ่ 20 กิโลเมตร

- จากตัวเมืองกาญจนบุรี วิ่งบนถนนแสงชูโตที่เป็นถนนสายหลัก ข้ามทางรถไฟ ไปจนถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน

ให้เลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอไทรโยค (ทางหลวงหมายเลข 323)

- วิ่งผ่านน้ำตกไทรโยคน้อยไปอีกประมาณ 20 กิโลเมตร ผ่านโรงเรียนบ้านพุเตย ให้สังเกตด้านซ้ายมือ

มีป้ายบอกทางเข้าพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ทางกองการเกษตรและสหกรณ์ใช้เวลาเดินนานพอสมควรค่ะ เนื่องจากอากาศร้อน แต่ก็มีลมเย็นๆ พัดบ้าง แต่ด้วยอายุของผู้ร่วมเดินทางของทริปนี้

ซึ่งมีแต่ผู้สูงวัย เราจึงเดินแค่ทางเรียบด้านล่าง แล้วก็เดินย้อนกลับมาทางเดิมค่ะ หลังจากนั้น คณะของทราย ก็มุงหน้าเข้า กทม.

เพราะกลัวว่า รถจะติด แล้วจะถึงกันมืดค่ะ

อยากบอกว่า กาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆ และก็มีแต่ที่สวยๆ

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่สามารถเที่ยวครบได้ภายในทริปเดียว ค่ะ แล้วเดียวถ้ามีเวลาได้มาเที่ยว กาญจนบุรี อีก จะมารีวิวให้เพื่อนๆ ชมนะคะ

สุดท้ายนี้ ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ