จำได้ว่าไปเกาะสีชัง มาล่าสุดเมื่อปี 2017 ถ้านับย้อนกลับไปก็เป็นเวลา 7 ปี ที่ไม่ได้มาเกาะสีชัง จริงๆเป็น1ในเกาะที่เราชอบมากๆเลย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะค่อนข้างเยอะมากๆ ความเงียบสงบและคนน้อย ทำให้เราชอบเกาะสีชัง เพราะดูไม่วุ่นวายดี เป็นเกาะที่ Slow life ดี ใช้เวลาน้อย จะไปเที่ยวแบบ one day trip ก็ได้ หรือจะเที่ยวแบบสบายๆชิลๆก็ 2 วัน 1 คืน 
ปัจจุบัน เกาะสีชัง มีจุดเช็คอินใหม่ บริเวณแหลมถ้ำพัง นั่นก็คือถ้ำทะลุ เห็นคนอื่นๆที่ไปมาถ่ายรูปสวยเลย เป็นมุมที่ดูว้าวมาก ทริปนี้มีเวลาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์เลยจัดทริป 2 วัน 1 คืน เที่ยวเกาะสีชังเลย 

การเดินทางทริปนี้ เราเริ่มต้นการเดินทางกันที่ สถานีขนส่งเอกมัย เราเลือกนั่งรถมินิบัสไฟฟ้า รอบเวลา 06.00 น. ค่ารถ 120 บาท ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ไปลงที่โรบินสันศรีราชา จากนั้นต่อรถสามล้อไปท่าเรือเกาะลอย ค่ารถ 80 บาท รอบเรือมีออกทุกชั่วโมง ค่าเรือเที่ยวละ 60 บาท เรานั่งเรือรอบ 09.00 น. จริงๆออกก่อนเวลาด้วยเพราะคนเต็มก่อน

เรือที่นั่งก็สไตล์เดิม เป็นเรือไม้ใช้เวลานั่งเรือข้ามไปเกาะสีชังประมาณ 45 นาที ถึงเกาะโทรให้ทางที่พักมารับ 

สำหรับที่พักในทริปนี้เราพักบ้านทะเล รีสอร์ท ที่พักติดทะเล ห้องนอนตกแต่งสไตล์มินิมอลโทนฟ้าขาว น่ารักมาก จากห้องเดินไม่กี่ก้าวถึงทะเล ห้องที่เราพักชื่อห้องแมงกระพรุน ห้องเราไปติดทะเลนะ เดินประมาณ 20 ก้าวถึงทะเล ที่พัก พักได้ 2 คน คืนละ 1390 บาท ฟรีมอเตอร์ไซค์ 1 คัน 

หน้าหาดที่พักก็จะเห็นวิวทะเลแบบนี้ 

ห้องนอนก็โอเคเลย สีขาวดูสบายตา มีห้องน้ำในตัวนะ

ได้รถมอเตอร์ไซค์ ได้เวลาออกเลาะ หิวๆเลยแวะมาที่ร้าน ระเบียงทะเล ร้านอาหารริมทะเล ที่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะอาหารทะเลสดๆ มีให้เลือกหลายอย่าง อาหารอร่อย นั่งชมวิวทะเลได้

หน้าตาเมนูอาหารที่เราสั่งมา รสชาติเราว่าโอเคเลย 

บริเวณร้านอาหาร น้ำทะเลใสมากๆ มีโขดหินที่ทำให้เรานึกึงสามพันโบก ดูสวยแปลกตา 

ดูสีน้ำทะเลดิใส สามารถเดินลงไปถ่ายรูปเล่นได้ 

อิ่มท้อง เราไปกันที่ สะพานอัษฎางค์ ช่วงบ่ายน้ำลง น้ำทะเลบริเวณนี้ใสอยู่นะ

เดินเล่น ถ่ายรูปบริเวณชายหาด น้ำใสๆ

ให้ดูความใสแบบชัดๆ

ไปหาอะไรเย็นๆดื่มกันที่ เรือนซาร์เลวิช เรือนไม้เขียวริมทะเล 

เรือนไม้เก่าติดทะเลสุดคลาสสิก ปัจจุบันเปิดเป็นคาเฟ่ มีเครื่องดื่มขาย ไปจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ถ่ายรูปเล่น นั่งชิลชมวิวทะเลได้

ภายในเรือนไม้ ดูเก่าแก่คลาสสิก 

ตอนอยู่ด้านใน แล้วนั่งมองออกไปด้านนอก เห็นวิวทะเลคือสวยมากๆ 

หาดถ้ำพัง
เป็นหาดทรายเดียวของเกาะที่สามารถลงเล่นได้สะดวกสุด บริเวณนี้ ทะเลสวยนะ น้ำใสเลย มีร้านอาหาร มีเตียงผ้าใบ มีกิจกรรมให้เล่น เช่น พายเรือคายัก บานาน่าโบ๊ท ปัจจุบันบริเวณริมหาดอยู่ในช่วงปรับปรุง แต่ว่ายังสามารถลงเล่นน้ำได้อยู่

ความสวยของหาด ความใสของน้ำ เราว่าหาดถ้ำพังยังคงเป็นชายหาดที่สวยเสมอ 

ช่วงบ่ายแก่ๆ หลังจากเข้าห้องพักได้ เปลี่ยนชุดไปลุยหาดลับ 

หาดนี้ชื่อว่า หาดหินหมวดศิลา
หาดลับๆที่เชื่อว่าใครคนไม่คุ้นชื่อและน่าจะไม่รู้จัก การเดินทางสามารถปักหมุดไปที่หาดหินหมวดศิลาได้เลย พิกัดจะอยู่ก่อนถึงโรงแรมโนโวเทล จะมีป้ายหาดหินหมวดศิลาเขียนอยู่ จะเห็นทางเดินลงเป็นศาลาเก่าๆสีน้ำตาล ทางเดินลงอาจจะพังๆหน่อย แต่พอเดินลงไปได้
บริเวณหาดน้ำใส เงียบสงบ ไม่มีคนเลย หาดบริเวณนี้เต็มไปด้วยหินรูปร่างแปลกตา แต่สวยเลย ใครอยากให้รูปสวยๆ ใส่บิกินีถ่ายรูปแนะนำหาดนี้เลย

ถ่ายรูป เล่นน้ำกันสักหน่อย 

นี่คือหินที่มีอยู่ตามหาด ตอนแรกเรานึกว่าเศษขวด มีสีเขียว สีน้ำตาล สีขาว เต็มไปหมดเลย 

พิกัด หาดหินหมวดศิลา ถ้าเห็นศาลาแบบนี้คือใช่เลย 

มาต่อกันที่แหลมงู อยู่ตรงบริเวณท่าเรือแหลมงู ท่าเทียบเรือสะพานสีเขียว บรรยากาศดีโลมพัดโชย น้ำทะเลใสๆ ไปนั่งถ่ายรูปกับสะพาน ชมวิวชิลๆ เหมาะมากๆ หรือว่าจะไปตกปลา ตกหมึกก็ได้

สะพานสองฝั่งทาสีเขียว ถ่ายรูปสวยดี 

บรรยากาศดีมาก ลมพัดโชยๆ

ชายหาดข้างๆสะพาน น้ำใสมากๆ แต่ไม่แน่ใจว่าลงเล่นน้ำได้หรือเปล่า 

หาของหวานกินสักหน่อย พอดีขับรถผ่านแลวสะดุดตา ร้านนี้ชื่อร้าน นั่งเล่น ไอศกรีมโฮมเมด
ร้านบิงซู ไอศครีมโฮมเมด ตกแต่งร้านสีหวานๆ ชมพู๊ชมพู มุ้งมิ๊ง น่ารักมากๆ เมนูของร้านจะเป็นเมนู
ไอศครีมโฮมเมดหลากหลายรสชาติ และบิงซู

ช่วงเย็นไปดูพระอาทิตย์ตกกันที่ ช่องเขาขาด
ที่นี่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยมากๆ มีสะพานเลาะไปตามเชิงเขา มองเห็นวิวทะเล เดินไปเรื่อยๆ จะมีหน้าผาสวยๆ ไปนั่งมองดูดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า แสงอาทิตย์ยามเย็นกับลมทะเล บรรยากาศดีมากๆ

วิวสวยจริง ชอบเวลาแสงอาทิตย์ส่องกระทบทะเล

สีน้ำทะเลบริเวณช่องเขาขาด น้ำใสอยู่นะแต่บริเวณนี้มีหินค่อนข้างเยอะ ด้านล่างใต้สะพานสามารถลงไปถ่ายรูปได้

เดินเลาะไปเรื่อย จะเป็นหน้าผา สามารถไปนั่งชมวิวได้ เห็นพวกพี่ๆที่เป็นสายตกปลา ตกหมึก มาตกแถวนี้กันเยอะเลย 

ภาพบรรยากาศ 

กลับที่พัก เราไปร้าน ร้านชาวบ้านชาวเล อยู่ติดกับที่พักเราเลย คาเฟ่ร้านอาหารริมทะเล นั่งชิลริมทะเลเหมาะมาก 

เราสั่งมา 3-4 เมนู อาหารอร่อยเลย อยู่ติดกับที่พักบ้านทะเล เกาะสีชังเลย เดี๋ยวรอดูภาพช่วงกลางวัน เป็นคาเฟ่ที่บรรยากาศดีน่านั่งมากๆ

เช้าวันที่ 2 เราไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณ ริมทะเล ด้านในพระจุฑาธุชราชฐาน ติดกับสะพานอัษฎางค์

สะพานอัษฎางค์ ยามเช้า สะพานสีขาวทอดยาวลงไปในทะเล เป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปสวย ช่วงเช้าคนน้อย ถ่ายรูปสบาย 

ภาพบรรยากาศ 

มากันที่ไฮไลท์ของเกาะ แหลมถ้ำพัง ถ้ำทะลุ
น่าจะเป็นจุดเช็กอินใหม่ที่พึ่งเห็นในช่วง1-2ปีหลัง
เป็นจุดถ่ายรูปถ้ำทะลุมิติ ที่โคตรคูล มีมุมถ่ายรูปหลายจุด จุดยอดฮิตที่ทุกคนต้องไปถ่าย จะมีเป็นช่องของภูเขาที่เป็นหน้าผา อยู่ 2 ฝั่ง ตรงกลางมองเห็นทะเล ถ่ายรูปสวยมาก อีกจุดใกล้ๆ กัน เป็นถ้ำที่มีช่องเล็กๆ เป็นปล่อง มีแสงส่องเข้ามาสวยมาก เดินถัดไปก็จะถ้ำทะลุสวยๆให้ถ่ายรูปอีกเช่นกัน ส่วนด้านบนจะเป็นหน้าผาหินยื่น วิวทะเล180องศา ถ่ายรูปมองวิวทะเลสวยมากๆ

ถ่ายรูปออกมาดูสวยจริง ดูอลังการ 
เราว่าถ้าสวยสุดจะเป็นช่วงเย็น เพราะน้ำจะลงไปเยอะมาก แต่ก็แลกมาด้วยคนเยอะมาก ต้องต่อคิวถ่ายรูป 
ตอนเช้าคนน้อย ถ่ายรูปสบาย

ด้านในมีถ้ำ มีปล่องที่แสงส่องเข้ามา ลายหินในถ้ำสวยมาก

มีช่องเขาที่เป็นหน้าผา สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้

อีกจุกนึง ซึ่งมีทางลงใกล้ๆกัน ช่องทางเข้าจะแคบหน่อย แต่ว่าด้านในดูมีความเป็นศิลปะของโขดหิน ตามธรรมชาติที่เป็นช่อง เรียงตัวกันอย่างสวยงาม 

เป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปสวยไม่แพ้กัน

ด้านบนจะมีหน้าผา ตามโขดหิน เวลาถ่ายรูปก็ระมัดระวังกันหน่อยละกันครับ จริงๆมันอีกอีกจุดที่คนชอบไปถ่ายกัน เป็นโขดหินยื่นเตี้ยๆ แต่เราไปช่วงเช้าน้ำขึ้นมาถึงหินเลยอดถ่าย 555 

บริเวณหน้าผาก็จะเป็นทุ่งหญ้าสีทอง 

มาถึงเกาะสีชังทั้งที ต้องไปพลาดที่จะไปสักการะ ขอพร ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
เป็นศาลเจ้าที่ชาวเกาะสีชังและชาวชลบุรีให้ความนับถือ ตั้งอยู่บนเชิงเขาเกาะสีชัง ด้านในก็มีทั้งเทพเจ้าจีน สิ่งศักดิ์สิทธิิ์ต่างๆ ใครไปเกาะสีชังแนะนำให้ไปไหว้ขอพร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโชคลาภ หรือการค้าขาย 

ด้านในมีถ้ำ มีคนแนะนำให้ไหว้ตามจุดต่างๆ

ด้านระเบียง มีจุดชมวิวที่เห็นฝั่งท่าเรือได้เกือบทั้งหมด มองเห็นประภาคารอยู่ไกลๆ

สายๆเราไปหาอะไรกิน อยากกินก๋วยเตี๋ยว มาเจอร้านเย็นตาโฟ เจ๊ม้อย สะดุดตา 
เป็นร้านก๋วยเตี๋ยว มีเน้นเมนูทะเล ไม่ว่าจะเป็นหมึก กุ้ง แมงกระพรุน เมนูเด็ดๆ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เย็นตาโฟ ร้านตกแต่งสุดคลาสสิค มีอัลบั้มเทปเก่าๆ เยอะมาก ของเก่าๆตกแต่งร้านฟิวย้อนยุคเลย

เราสั่งทั้งเย็นตาโฟ และต้มยำมา อร่อยเลย แมงกะพรุนลวกจิ้มก็อร่อย 

ชาวบ้าน ชาวเลคาเฟ่ ร้านเดียวกับร้านอาหารที่เราไปกินช่วงค่ำๆ เอาภาพบรรยากาศตอนกลางวันมาให้ชม 

เป็นคาเฟ่ที่พึ่งเปิดใหม่วันที่เราไปพึ่งเปิดวันแรก เป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งในสไตล์บีชคลับ ฟีลบาหลีมินิมอล

มีฟูกนั่งชิลริมทะเล แต่แนะนำว่าควรนั่งช่วงเย็นๆ กลางวันแดดร้อน 555

มีจัดมุมเล็กๆไว้ให้ถ่ายรูปด้วย 

จบแล้วครับ รีวิวเกาะสีชัง 2 วัน 1 คืน สำหรับใครที่มีเวลาน้อย เที่ยวเสาร์-อาทิตย์ได้ อยากไปเจอทะเลสวยๆ น้ำใสๆ บรรยากาศดี แถมเงียบสงบ หรือใครที่ชื่นชอบการตกปลา ตกหมึก อยากปพักผ่อนชิลๆ ถ่ายรูปสวยๆได้หลายจุด เราว่าเกาะสีชัง ตอบโจทย์มากครับ 

อยากเที่ยวก็เที่ยว

 วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 09.44 น.

ความคิดเห็น