13 มีนาคม 2567

หลังจากที่ผมนั้น เสร็จภารกิจถ่ายรูปที่จุดชมวิว "เสม็ดนางชี" แล้ว ผมก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดภูเก็ต เพื่อแว่ะเยี่ยมชม พร้อมด้วยเก็บแสตมป์ที่ "อุทยานแห่งชาติสิรินาถ" ต่อทันที

อุทยานแห่งนี้นั้นอยู่ติดทะเล และอยู่ไม่ห่างจากจังหวัดพังงาเท่าไหร่นัก

โดยชายหาดของที่นี่นั้นค่อนข้างยาว และมีประชาชนนั้น แว่ะเวียนมาพักผ่อนค่อนข้างแย่ะ

และสำหรับนักผจญภัยคนไหน ต้องการที่จะกางเต้นท์นอน ก็สามารถทำได้ โดยที่ด้านตรงข้ามของถนนที่มีชายหาดอยู่นั้น จะมีลานกางเต้นท์ เอาไว้บริการ
แต่ขอแนะนำว่า ให้มากางตอนเย็นๆน๊ะครับ เพราะว่าตอนกลางวันนั้น แดดร้อนมากๆ

และสำหรับชายหาด และน้ำทะเลของที่นี่นั้น ก็ค่อนข้างสวยพอสมควรเลยครับ
ถึงหาดทรายจะไม่ค่อยขาวเท่าไหร่ แต่น้ำใสมากครับ

และในวันนี้ก็มีน้องๆนักเรียนชั้นประถมนั้น แว่ะมาเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนานด้วยครับ

และสำหรับชายหาดของที่นี่นั้น ก็อยู่ไม่ไกลจากชายหาดชื่อดังแห่งหนึ่งของภูเก็ตครับ
นั่นก็คือ "หาดไม้ขาว" ที่นักท่องเที่ยวนั้น ชอบมาถ่ายรูปเครื่องบินตอนลงจอดกันนั่นเหลอะครับ

มาแล้วๆ

รูปนี้ผมใช้เลนส์ระยะ 200mm ส่องครับ

มาอีกลำแล้วๆๆๆ

จริงๆแล้วก่อนหน้านี้มันมีเครื่องบินรุ่น "A380" ที่ลำใหญ่กว่านี้มากๆมาลงจอด แต่ตอนนั้น ผมไม่ได้หยิบกล้องออกมาด้วยครับ
เสียดายจริงๆ
และแน่นอนว่า หลังจากนั้น ผมก็ขับรถมุ่งหน้าสู่ "หาดไม้ขาว" เพื่อไปถ่ายรูปเครื่องบิน แบบใกล้ชิดกว่านี้ทันทีครับ

.
.
.

ถึงแล้วครับ
แต่ก่อนอื่น ผมจะขออธิบายการเดินทางมาที่ "หาดไม้ขาว" แห่งนี้ ก่อนน๊ะครับ
โดยถ้าท่านขับรถมาตามป้ายโดยรถยนต์ ป้ายบอกทางก็จะบังคับให้ท่านนั้น ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถที่ห่างจากจุดนี้พอสมควรครับ
และเมื่อท่านจอดรถแล้ว ก็ให้ขึ้นรถรับจ้าง ที่จอดรอรับอยู่ได้เลยครับ คนละ 20 บาทครับ เพราะมันค่อนข้างไกลมากครับ
ส่วนนักผจญภัยคนไหนนั้น ที่เดินทางมาด้วยรถมอเตอร์ไซค์ ก็สามารถขับมาตรงจุดนี้ได้เลยครับ (รถยนต์เข้าไม่ได้น๊ะครับ)

Writer: และเมื่อผมจ่ายค่าโดยสารเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินตรงมายังจุดถ่ายรูปทันที .....
"โอ้โห้ๆๆๆ" ผมนั้นร้องออกมาทันที
Reader: ทำไมๆ สวยเหรอๆๆๆ
Writer: แดดร้อนโว๊ยๆๆๆ

คือว่าจริงๆแล้วจุดที่สามารถถ่ายได้แบบสวยๆ และก็ใกล้ชิดมากๆนั้น มันอยู่ไกลออกไปจากจุดที่ผมยืนถ่ายรูปนี้ค่อนข้างไกลเลยครับ
และปัญหาที่สำคัญก็คือ แดดร้อนมากครับ (ดังนั้น ถ้าใครที่คิดที่จะมาถ่ายรูปที่นี่ ก็ขอบอกว่า อย่าลืม ร่ม หมวก และครีมกันแดด เด็ดขาดครับ)

และอีกอย่างหนึ่งที่อยากบอกก็คือ ถึงแม้ว่า แดดที่เห็นข้างหน้าของผมนั้นจะร้อนแรงแค่ไหน แต่ที่ด้านหลังของผมนั้น มันกลับร้อนแรงแบบเดือดปุดๆ ยิ่งกว่าทะเลเดือดอีกครับ (ต้องขออถัย ที่ไม่สามารถถ่ายรูปมาให้ดูได้ครับ เห่ะๆ)

มาแล้วครับๆ ลำแรกเป็นเครื่องบินใบพัดเลยครับ

เท่ห์จริงๆ

แน่นอนว่า ผมก็ยืนถ่ายรูปเครื่องบินในร่ม เป็นการอุ่นเครื่องก่อนครับ
เพราะว่าผมมีเลนส์เทเลระยะ 200mm อยู่ครับ ก็เลยยังไม่ต้องตะลุยฝ่าพายุแดดออกไปครับ

และก็จริงๆแล้ว ในจุดที่ผมยืนอยู่นั้น ที่ด้านหลังใกล้ๆกัน มันก็มีโรงแรมอยู่ด้วยน๊ะครับ
ถ้านักท่องเที่ยวคนไหนอยากที่จะมาถ่ายรูปที่นี่แบบสบายๆ ในช่วงแดดร่มลมตก ตอนเย็น หรือตอนเช้าๆ การมานอนพักที่โรงแรมใกล้ๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่งเลยครับ

มาแล้วๆ "Air Asia"

"Singapore Airlines"

"Air Asia" อีกแล้ว

"Bangkok Airways"

อัยย่ะ ลำนี้สวยๆ

"เซ่..... โน่ะ"
หมายเหตุ:
จริงๆแล้วรูปนี้ มันไม่ชัดทั้งเครื่องบิน และก็คนน๊ะครับ ผมก็เลยไม่ได้เซนเซอร์หน้า

มุมกว้างๆดูบ้างๆๆๆ

และแน่นอนว่า ก่อนกลับ ผมก็อยากได้มุมแบบถ่ายใต้ท้องเครื่องบินดูบ้าง 
ดังนั้น ผมจึงต้องวิ่งฝ่าพายุแดด เพื่อไปยังจุดนี้ให้ได้ก่อนที่เครื่องบินนั้นจะลงครับ

หมายเหตุ: และก็จริงๆแล้ว ผมนั้นสามารถรูได้ก่อนล่วงหน้าครับ ว่ากำลังจะมีเครื่องบิน บินมาลงหรือเปล่า โดยสามารถตรวจสอบได้จาก Web ที่แสดงข้อมูลของเครื่องบินแบบ realtime ครับ
โดยใช้ keyword ว่า "Air Radar" ค้นหาใน google ครับ มันมีให้ใช้อยู่หลายเว็บครับ

และหลังจากที่ผมนั้น ตรวจสอบแล้ว และมองเห็นเครื่องบินอยู่ไกลๆแล้ว ผมก็ออกวิ่งทันทีครับ

และผลก็ปรากฏว่า "ไม่ทัน" ครับ
เพราะว่าเครื่องบิน พอมันเิร่มมาใกล้ๆแล้ว มันบิยเร็วมากครับ

"แช๊ะ !!!"

ได้แค่นี้ครับ
โดยผมก็ลองพยายามวิ่งอยู่ 2 - 3 ครั้ง ผมก็ปรากฏว่า ไม่ทันจริงๆครับ
ผมก็เลยตัดสินใจว่า เอาไว้คราวหน้า ที่ผมเตรียมร่มอันใหญ่ๆ มาก่อนดีกว่าครับ ถึงจะสามารถนั่งรอแบบกลางแดดได้


แบกกล้อง

 วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19.34 น.

ความคิดเห็น