ผมแหงนหน้ามองไปบนยอดเขาสูงลิบด้วยความประหลาดใจ เมื่อสังเกตเห็นจุดขาวๆกระจายอยู่ตามผาหิน

นั่นมันเจดีย์!

เจดีย์เล็กๆ เรียงรายกันอยู่นับสิบๆ องค์บนยอดผาสูงเสียดฟ้าแห่งวัดพระบาทปู่ผาแดง

ซึ่งตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง

มันช่างเป็นภาพที่น่าอัศจรรย์ชวนให้เกิดคำถามขึ้นมากมาย

ใครหนอช่างคิดช่างสร้าง แล้วไปสร้างขึ้นบนนั้นได้อย่างไร

เพราะเอาแค่ทางขึ้นอย่างเดียวก็ไม่รู้แล้วว่าจะขึ้นทางไหน

หรือถึงขึ้นไปสูงชันขนาดนั้นลำพังแค่เอาตัวให้รอดก็คงยากเต็มทน

ถ้ายังต้องขนวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างขึ้นไปด้วยก็ยิ่งนึกภาพไม่ออก

นอกเสียจากต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า 'พลังแห่งศรัทธา'



ย้อนกลับไป ณ ช่วงเวลานั้น วันที่วัดพระบาทปู่ผาแดงยังเป็นวัดที่แทบไม่มีใครรู้จัก

ยังเป็นวันที่ลานวัดตรงเชิงเขาว่างเปล่าเงียบเหงา

ผมได้แต่แหงนหน้ามองด้วยใจที่อยากขึ้นไปสัมผัสถึงความอัศจรรย์เบื้องบน

แต่กลับดูอับจนหนทาง เพราะมาโดยไม่มีข้อมูลใดๆ

เป็นการมาโดยบังเอิญ และรู้เพียงว่าวัดแห่งนี้มีโบสถ์กับเจดีย์ที่สวยงามก็แค่นั้น!



สิ่งที่เห็นด้านบนจึงอยู่เหนือความคาดหมาย

มองซ้ายมองขวาก็ไม่มีวี่แววของผู้คนที่จะมาบอกหรืออยู่ให้ตอบคำถาม

ผมจึงได้แต่เก็บความค้างคาใจนี้กลับบ้านไปอยู่นานนับปี



จนกระทั่งภาพเจดีย์บนยอดผาระเมฆถูกเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ กลายเป็นที่รู้จัก

ลานวัดที่เคยว่างเปล่าวันนี้กลับคลาคล่ำไปด้วยผู้คนรถรา

และผมก็ได้มายืนอยู่ตรงจุดเดิม จุดที่เคยแหงนหน้ามองเจดีย์อีกครั้ง!



แต่ครั้งนี้มันแตกต่าง เพราะอีกไม่กี่อึดใจผมจะได้ขึ้นไปยืนอยู่ด้านบนนั้นแล้ว!

ชีวิตคนสมัยนี้ช่างสะดวกสบายมีรถกระบะของชาวบ้านมาคอยบริการรับส่งขึ้นสู่ยอดเขา

มันช่างแตกต่างจากคนสมัยก่อนลิบลับ

เพราะก่อนที่จะมีการสร้างวัดและตัดถนนขึ้นไปต้องอาศัยพลังศรัทธาอันแรงกล้า

ในการเดินเท้าปีนภูเขาสูงชันฟันฝ่าป่ารกชัฏเพื่อไปสักการบูชารอยพระพุทธบาท

ซึ่งชาวบ้านประพฤติปฏิบัติเป็นประเพณีสืบทอดกันมาทุกปี



จนกระทั่งในปี พ.ศ.2547 หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล แห่งวัดอนาลโยทิพยารามจังหวัดพะเยา

ได้รวบรวมกำลังศรัทธาในการสร้างวัดพระบาทปู่ผาแดงขึ้น

เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท

และเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา ซึ่งในปีนั้นเองเป็นวาระครบรอบ 200 ปี

วันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4

วัดแห่งนี้จึงมีชื่ออีกชื่อหนึ่งที่ฟังดูเป็นทางการว่า

'วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์'



รถแล่นไต่ระดับขึ้นไปตามทางลูกรังลาดชัน ไม่นานนักก็มาหยุดส่งตรงบริเวณลานจอดรถดอยภูผาหมอก

จากจุดนี้ต้องเดินเท้าต่อขึ้นไปยังยอดดอยภูผาโชคอีกประมาณ 1 กิโลเมตร

จึงจะถึงบริเวณวัดซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มเจดีย์



แค่ 1 กิโลเมตรก็เล่นเอาผมลิ้นห้อยแล้ว!

เพราะมันเป็น 1 กิโลเมตรตามทางบันไดที่ไต่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ

บางครั้งคนเราก็เคยชินกับความสบายเกินไปพอลำบากนิดลำบากหน่อยก็ท้อก็บ่นทนไม่ได้

หรือบางทีชีวิตอาจจะยังขาดศรัทธา

ศรัทธาในตัวเองที่จะมุ่งมั่นทำอะไรซักอย่างให้ประสบความสำเร็จ



แม้วันนี้ท้องฟ้าจะไม่สดใส แต่ผมกลับเบิกบานใจ

ที่ได้ขึ้นมาชื่นชมทัศนียภาพแบบพาโนราม่าบนยอดเขาของวัดพระบาทปู่ผาแดง

ได้มาปลดพันธนาการสิ่งที่ค้างคาใจ

ด้วยความงดงามและความอัศจรรย์ของหมู่เจดีย์บนยอดผาสูงเสียดฟ้าใกล้ๆ

ที่ครั้งหนึ่งผมได้แต่แหงนหน้ามองดูอยู่ไกลๆ



สถานที่แห่งนี้ล้วนเกิดจากพลังแห่งศรัทธา

พลังอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่บันดาลสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ขึ้นมามากมายบนโลกใบนี้

แม้แรงศรัทธาของผมจะเทียบไม่ได้กับชาวบ้านสมัยก่อนก็ตาม

แต่อย่างน้อยๆ พลังศรัทธาก็นำพาผมกลับมาที่นี่อีกครั้ง





เส้นทางของไอฟายน้อยสู่วัดพระบาทปู่ผาแดง

จากกรุงเทพฯใช้สายเอเชียมุ่งหน้าอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี

ผ่านจังหวัดนครสวรรค์ ตัดออกกำแพงเพชร ตาก

ก่อนเข้าสู่ตัวเมืองลำปาง รวมระยะทางประมาณ 600 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงครึ่ง



จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 1035 ลำปาง-แจ้ห่ม ไปอีก 57 กิโลเมตร ถึงตัวอำเภอแจ้ห่ม

ตรงต่อไปตามเส้นทางเดิมประมาณ 4 กิโลเมตร

สังเกตป้ายซ้ายมือวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์เลี้ยวเข้าไปตามทางคอนกรีตประมาณ 200 เมตร

เจอแยกให้เลี้ยวซ้ายต่อไปตามป้ายอีก 5 กิโลเมตร ถึงลานจอดรถของวัด




ติดต่อขึ้นรถไปยอดเขาท่านละ 60 บาท โดยทางวัดไม่อนุญาตให้นำรถขึ้นไปเองเนื่องจากทางสูงชันรถสวนกันลำบาก

รถให้บริการเที่ยวแรกประมาณ 7 โมงเช้า ขึ้นไปถึงด้านบนต้องเดินต่อไปตามบันไดสู่ยอดเขาอีกประมาณ 1 กิโลเมตร



ติดตามผลงานเรื่องอื่นๆ ของไอฟายน้อยได้ที่http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=ifind&month=24-07-2016&group=13&gblog=9
ความคิดเห็น