ทางรถไฟสุดคลาสสิคแดนไต้หวัน "ALISHAN FOREST RAILWAY"

ทางรถไฟสุดคลาสสิคแดนไต้หวัน FOREST RAILWAY

ตอนที่ 2 ทางรถไฟสุดคลาสสิคแดนไต้หวัน "ALISHAN FOREST RAILWAY"

หากพูดถึง "รถไฟ" ที่แสนจะคลาสสิคหรือดูโรแมนติกอะไรต่าง ๆ มากมายในส่วนของเอเชียหลายคนก็มักจะนึกถึงญี่ปุ่น หรือถ้ากว้างอีกหน่อยก็เป็นทางรถไฟสุดคลาสสิค "ทรานส์ไซบีเรีย" ใช่ไหมครับ แต่ถ้าจะไปทรานส์ไซบีเรียก็ต้องเก็บตังค์จำนวนหนึ่ง แต่ถ้าอยากลองมาสัมผัสเส้นทางรถไฟสุดคลาสสิคอีกแห่งหนึ่งในซีกเอเชียตะวันออกที่หลายคนอาจไม่เคยสนใจ หรือไม่รู้ข้อมูลเลยว่ามีด้วยเหรอ คำตอบคือ "มี" ซึ่งก็อยู่ในเกาะไต้หวันนั่นเองและถ้าเอ่ยถึง "อาลีซาน" หลายคนก็จะนึกถึงภูเขาสูง ๆ ที่ทอดตัวอยู่บริเวณแถว ๆ ตอนกลางของไต้หวันพร้อมกับภาพพระอาทิตย์โผล่ขึ้นเหนือหมอกในยามเช้าตรู่ หรือไม่ก็ขบวนรถไฟที่หน้าขบวนเป็นสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของรถไฟสายนี้ แต่รู้ไหมว่าเราสามารถนั่งรถไฟสายนี้ได้จากตัวเมืองเจียอี้ได้เลย ดังนั้นรีวิวนี้เลยจะพาท่านไปนั่งรถไฟกันครับ

ณ ยามเช้าของวันที่ 13 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา

ขณะที่ตื่นจากที่พักที่ผมพัก คือ "CHIAYI PEPETI HOYSETL" ตื่นมาก็จะเจอภาพของสถานีรถไฟเจียอี้อยู่เบื้องหน้า พูดง่าย ๆ อีกรอบคือสถานีรถไฟเจียอี้อยู่ด้านหลังโรงแรมที่พักนั่นเอง จากตัวสถานีรถไฟมายังที่พักผมใช้เวลาเดินประมาณ 5-6 นาทีไม่ไกลมากนัก หลังจากตื่นแต่เช้าแล้วผมกับเพื่อนก็เตรียมตัวไปสถานีรถไฟเจียอี้เพื่อไปรับตั๋วสำหรับขึ้นรถไฟสายคลาสสิคกัน

บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟเจียอี้

เมื่อมาถึงบริเวณสถานีรถไฟเจียอี้แล้ว ผมกับเพื่อนก็ไปที่เคาเตอร์สถานีรถไฟเพื่อไปรับบัตรรถไฟสายอาลีซานโดยยื่นใบจองพร้อมกับพาสปอร์ตเพื่อแสดงตัวตนว่าเป็นบุคคลที่ทำการจองจริง ก่อนจะเล่ารายละเอียดต่อไปก็ขอเล่าขั้นตอนการจองตั๋วรถไฟกันก่อน ตามไปที่ลิงค์นี้ได้เลยครับผมได้ทำขั้นตอนจองตั๋วรถไฟสายนี้ไว้แล้ว

ขั้นตอนการจองตั๋วรถไฟสายอาลีซาน

https://www.facebook.com/lifeisatravelbytee2015/photos/?tab=album&album_id=1753656264845805

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเดินรถไฟสายอาลีซานในปัจจุบัน

1. การจองตั๋วรถไฟสายอาลีซานจะเจอได้เพียง 15 วันก่อนเดินทางเท่านั้น เช่น ถ้าเดินทางในวันที่ 13 เมษายน 2559 จะจองได้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2559 ไม่มีเปิดจองตั๋วนานหลายเดือน

2. เส้นทางรถไฟสายอาลีซานในตอนนี้เปิดเดินรถไฟจากสถานีเจียอี้ - สถานีรถไฟเฟิ่นชีหู (เท่านั้น) ถ้าต้องการจะต่อไปอาลีซานตอนนี้ยังไม่สามารถทำได้ครับ เพราะเส้นทางรถไฟจากเฟิ่นชีหู-อาลีซานพังเสียหายจากพายุมรกตเมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนนี้กำลังซ่อมแซมอยู่ครับ

3. ปัจจุบันราคาตั๋วรถไฟเที่ยวละ 240 TWD (เฉพาะขาเดียว)

หลังจากไปรับตั๋วรถไฟแล้วก็มีเวลาเหลือ ผมกับเพื่อนเลยไปหาอะไรกินตรงด้านนอกสถานีรถไฟ บรรยากาศในเมืองเจียอี้ก็คล้ายกับในไทเปตอนเช้า ๆ ตรงที่ว่า ไม่มีร้านค้าไหนเปิดเลย 555 ทำไงดีสุดท้ายก็ต้องมานั่งกินข้าวกล่องรถไฟใน Family mart แทนเพื่อประทังชีวิต หลังจากกินเสร็จเรียบร้อยก็เดินกลับไปยังสถานีรถไฟ

บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟก็จะมีตึกที่เป็นที่ตั้งของรถบัสที่จะไปอาลีซานอยู่ครับ ถ้าใครไม่อยากนั่งรถไฟสายอาลีซานก็นั่งรถบัสจากด้านหน้าสถานีได้ เพราะรถบัสจะมีบริการหลายรอบเริ่มตั้งแต่ 07.00 น.โมงเช้า แต่ถ้าไปรถไฟจะมีแค่ตอน 09.00 น.เท่านั้นนอกจากนี้ก็จะเจอลุง ๆ ป้า ๆ แท๊กซี่ที่จะมีญาณวิเศษรู้ว่า ไอ้นี่ไปอาลีซานแน่ ๆ ก็จะถามว่า ไปอาลีซานกับอั๊วะไหมด้วยครับ หลากหลายทางเลือกในการไปอาลีซานแล้วแต่กำลังทรัพย์แต่ละคนเนอะ

จากนั้นก็เดินเข้าไปยังข้างในสถานีรถไฟเจียอี้ครับ พอเดินเข้าไปก็เดินตามป้ายที่เขียนว่า "ALISHAN LINE" ได้เลยเพราะรางของรถไฟสายนี้จะแยกต่างหากจากรางรถไฟสายปกติครับ

เดินเข้าไปก็เห็นหัวขบวนรถไฟสีแดง ๆ ผมกับเพื่อนก็ตกใจว่า เฮ้ย ทำไมมันมาเร็วจังนี่ 8.30 น.เองนะหรือว่าเป็นขบวนนี้เลยวิ่งหน้าตั้งไปที่ขบวนรถไฟและถามเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็น่ารักครับบอกว่า ยังไม่ใช่ขบวนนี้ ขบวนที่คุณต้องนั่งจะมาตอน 9.00 น.นะจ้ะเทอ

ป้ายนี้ก็จะแสดงข้อมูลของทางรถไฟสายอาลีซานว่าเป็น 1 ใน 3 เป็นเส้นทางรถไฟขึ้นเขาที่มีชื่อเสียงสวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก มีหรือที่นักเดินทางอย่างเราจะพลาดชม

อันนี้เป็นขบวนรถไฟสาย Jungshing Express 311 ที่เดินทางจากเจียอี้ไป Dulishan ขบวนนี้ออกตอน 08.20 น.ไปถึงปลายทาง 9.44 น. คนก็ขึ้นกันเยอะเลยครับขนาดไม่ใช่สายไปอาลีซาน

ป้ายไม้ตรงนี้แสดงเส้นทางสถานีเจียอี้ไปยังสถานี Beimen พร้อมทั้งบอกระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลที่ 30 เมตร

ลักษณะตัวรถไฟที่วิ่งตรงเส้นทางสายอาลีซานไม่ว่าจะเป็นสาย Jungshing Express 311 หรือสาย ALISHAN ขบวนรถไฟจะคล้ายกันเพียงแต่แตกต่างกันที่ที่นั่งครับ ถ้าสาย Jungshing Express 311 ที่นั่งจะเป็นแนวยาวคล้ายกับที่นั่งสองแถวในป้ายเราประมาณนั้น ถ้าเป็นสาย ALISHAN จะเป็นที่นั่งแบบ 2-1

สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยของการมานั่งรถไฟสายคลาสสิคแห่งนี้คือ การไปถ่ายรูปกับป้าย "ALISHAN FOREST RAILWAY " เป็นที่ระทึกซะหน่อยว่าครั้งหนึ่งเคยมาขึ้นแล้วนะจ้ะตัวเทอจ๋า

บริเวณสถานีรถไฟเจียอี้อีกมุมเมื่อหันหลังไปวันธรรมดาที่เงียบเชียบเหลือเกิน

เตรียมตัวออกผจญภัยกันหรือยัง ???? เอ้าเตรียมตัวได้เวลารถไฟจะมาแล้ววววว

ในที่สุดขบวนรถไฟสายอาลีซานที่พี่รอคอยก็มาแล้ว ดีใจจนน้ำตาแทบไหลมาไต้หวันแต่ละทีหนีไม่พ้นรถไฟจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น THSR TRA (รถไฟชานเมือง) หรือแม้กระทั่งรถไฟฟ้าใต้ดินตอนนี้ก็นั่งครบทุกแบบแล้ว 555

บรรยากาศในขบวนตู้รถไฟครับ เนื่องจากเป็นวันธรรมดาดังนั้นผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงวัยกันทั้งนั้นเลย อิจฉาคนแถบเอเชียตะวันออกนะครับเเบบพวกจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฮ่องกง คนสูงอายุจะชอบเดินทาง เดินเขา เดินป่ากันคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สุขภาพดีและอายุยืนมั้งครับ

เส้นทางรถไฟสายอาลีซาน

สถานีตั้งทาง : สถานีเจียอี้

สถานีปลายทาง : สถานีอาลีซาน (แต่ปัจจุบันเป็น เฟิ่นชีหูแทน)

**** แต่อย่างที่บอกว่าพายุมรกตเจ้ากรรมเคยมาถล่มเส้นทางนี้ทำให้วิ่งได้แค่ถึงเฟิ่นชีหูเท่านั้นนอกนั้นต่อรถบัสไป***

เส้นทางรถไฟแบบคร่าว ๆ ครับ โดยจะพบว่าเส้นทางรถไฟสายอาลีซานจะวิ่งจากระดับความสูงที่ 30 เมตรจากนครเจียอี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงระดับความสูงที่เฟิ่นชีหู 1403 เมตรครับ แต่ถ้าทางรถไฟวิ่งได้ปกติเหมือนแต่ก่อนก็จะไต่ระดับจาก 30 เมตรไปสิ้นสุดที่สถานีอาลีซานที่ความสูง 2216 เมตร จากนั้นก็ต้องต่อรถไฟไปยังสถานี Chushan (จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น) ที่เป็นระดับเส้นทางที่สูงที่สุดของสายนี้ที่ระดับความสูง 2451 เมตรครับ

ก่อนจะเล่าการเดินทางก็ต้องมาทำความรู้จักเส้นทางรถไฟสายอาลีซานกันก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องจริง ๆ

ทางรถไฟสายอาลีซานนั้นสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1912 เพื่อจุดประสงค์ขนไม้จากบนเขาอาลีซานสู่เมืองเจียอี้แต่แล้วในปี 2009 ก็มีพายุมรกตพัดถล่มไต้หวันทำให้เส้นทางรถไฟสายอาลีซานได้รับความเสียหาย ทำให้ปัจจุบันเปิดเส้นทางได้เพียงบางส่วนเท่านั้น จากข้อมูลที่มีในตอนนี้พบว่าเส้นทางรถไฟที่วิ่งบนเส้นทางรถไฟที่สูงที่สุดในโลกอันดับ 1 คือ Qinghai–Tibet Railway ของประเทศจีน ส่วนเส้นทางรถไฟสายอาลีซานของไต้หวันนั้นติดอันดับที่ 13 ของโลก แต่ถ้านับในทวีปเอเชียก็ติดอันดับ 2 รองจากเส้นทางชิงไห่-ธิเบตของจีน เลยทีเดียวครับ

ภาพด้านบนแสดงเส้นทางรถไฟสายอาลีซานที่มีจุดเริ่มต้นจากนครเจียอี้ (สถานีรถไฟเจียอี้) - จนสิ้นสุดที่สถานีรถไฟอาลีซานโดยรถไฟขบวนนี้จะเริ่มไต่ที่ระดับพื้นราบที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 30 เมตรที่นครเจียอี้จากนั้นก็เริ่มไต่ระดับความสู้ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงทางวกวนคดเคี้ยวหลายโค้ง (สังเกตได้จากตอนนั่งรถไฟจะพบว่าลอดผ่านหลายอุโมงค์มาก) ที่บริเวณ Durhhshan จนไต่ถึงที่สถานีอาลีซานที่ระดับความสูง 2216 เมตร แต่เนื่องจากพายุมรกตได้ทำลายเส้นทางรถไฟสายนี้บางส่วนจากที่กล่าวมาก่อนหน้าทำให้ปัจจุบันเส้นทางรถไฟสามารถวิ่งได้ถึงแค่เฟิ่นชีหู (ที่ระดับความสูง 1403 เมตร) เท่านั้น ถ้าจะไปอาลีซานก็ต้องต่อรถบัสไป และที่จะบอกคือการที่รถไฟผ่านระดับความสูงต่าง ๆ ทำให้เหมือนต้องผ่านลักษณะป่าไม้ที่แตกต่างกันตั้งแต่ป่าเขตร้อน (Tropical forest) จนถึงป่าดิบชื้นในเขตอบอุ่น (Temperate forest)

ตารางเวลาจากสถานีรถไฟเจียอี้ - เฟิ่นชีหู

ตารางเวลาจากสถานีรถไฟเฟิ่นชีหู - เจียอี้

*** ข้อควรระวัง

1. รถไฟสายอาลีซานจะวิ่งจากเจียอี้ - เฟิ่นชีหูและเฟิ่นชีหู - เจียอี้ ดังนี้

วันธรรมดา : มี 1 เที่ยว คือ ขาไป (เจียอี้ - เฟิ่นชีหู) รอบ 9.00 น. และขากลับ (เฟิ่นชีหู - เจียอี้) รอบ 14.00 น.

วันหยุด (เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ) : มี 2 เที่ยว คือเพิ่มรอบ ขาไป (เจียอี้ - เฟิ่นชีหู) รอบ 10.00 น. และขากลับ (เฟิ่นชีหู - เจียอี้) รอบ 15.00 น.

เล่าข้อมูลคร่าว ๆ แล้วนะครับ อันนี้ก็คือตั๋วรถไฟสายอาลีซานจากเจียอี้ไปเฟิ่นชีหู (ทำไมได้ตั๋วแบบนี้อ่าาาา นึกว่าจะได้ตั๋วที่มีรถไฟอาลีซานในตั๋วซะอีก ตะเตือนไตมากมาย)

ระหว่างนั่งก็เจออีกหนึ่งขบวนจอดอยู่อย่างโดดเดี่ยว

จากสถานีรถไฟเจียอี้ก็จะผ่านสถานีรถไฟ Beimen และแล้วก็มาสะดุดตากับชานชาลาสีเขียวอันโดดเด่น ซึ่งสถานีนี้คือสถานี Jhuci(Zhuqi) Station ครับสถานีนี้คนขึ้นเยอะพอสมควร หลังจากรับคนที่สถานีนี้เสร็จรถไฟก็เคลื่อนตัวไต่ระดับความสูงไปเรื่อย ๆ

รถไฟเคลื่อนผ่านจากเมือง ผ่านสวนตอนนี้ก็ไต่ระดับขึ้นเขาเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างที่ไกลสุดลูกหูลูกตา

จากนั้นความอึมครึมเริ่มมาเยือน ฟ้าเริ่มมืดเป็นสัญญาณว่าฝนกำลังจะตกแล้ว แต่บ่กลัวเพราะอยู่ในรถไฟแต่หวาดเสียวตรงรางที่ติดกับหน้าผาแค่นั้นเอง

ระหว่างที่ขบวนรถไฟเคลื่อนที่อยู่เจ้าหน้าที่ก็จะอธิบายเส้นทางเป็นภาษาจีน (ฟังไม่ออกเลย ไม่รู้ว่าพูดอะไรบ้าง) พร้อมกับเปิดเพลงอาลีซานด้วย มารู้อีกทีตอนรถไฟหยุดนิ่งตรงราง ตอนแรกก็คิดว่าหยุดทำไม และเห็นคนไต้หวันก็ยืนดูกันเลยแบบคงจอดให้ถ่ายรูปรถไฟตอนกำลังเลี้ยวโค้งมั้ง (มโนเก่งขั้นรุนแรงมาก) ใช่จริง ๆ ครับ

จากนั้นรถไฟก็มาถึงสถานีปลายทางเฟิ่นชีหูจากเจียอี้รถไฟออก 09.00 น. มาถึงเฟิ่นชีหูเวลา 11.20 น. ใช้เวลารวมทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที แถมมาพร้อมกับฝนฟ้ากระหน่ำอย่างรุนแรง

เมื่อมาถึงสถานีรถไฟบรรยายกาศฝนตกหนักราวฟ้ารั่ว ไอหมอกตัดผ่านภูเขาให้ความสวยงามไปอีกแบบ

เมื่อลงจากรถไฟก็จะมีโกดังเก็บรถไฟอยู่คล้าย ๆ กับพิพิทธภัณฑ์เดินเข้าไปดูได้ครับ จากภาพด้านบนก็จะเป็นช่วงอุโมงค์แบบเขาวงกต ที่คนสมัยก่อนสร้างได้ไงก็ไม่รู้เก่งมาก อุโมงค์ตรงนี้เป็นทางสลับซับซ้อนอยู่บริเวณสถานี Dulishan ที่ระดับความสูง 741 เมตร

เดินดูข้างในโกดังเสร็จก็เดินไปยังตัวสถานีเฟิ่นชีหูเพื่อไปทำภารกิจอะไรบางอย่าง นั่นคือ ?????

จากนั้นก็เดินมาต่อโดยเข้าไปในสถานีรถไฟเฟิ่นชีหู เมื่อเข้ามาในตัวตึกก็จะเจอที่จำหน่ายตั๋วและทางออกที่ตรงข้ามกับที่จำหน่ายตั๋ว ก็จะเจอร้าน ๆ หนึ่ง(ภาพด้านบน) ร้านก็จะเป็นร้านขายข้าวกล่องรถไฟ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 120 TWD ครับแต่จุดประสงค์ที่มาร้านนี้ก็คือ กล่องข้าวรถไฟที่อันคู่ควรค่าแก่การเก็บ เพราะใช่ว่าจะมาไต้หวันบ่อย ๆ ใช่ไหมหล่ะครับก็มาแล้วก็ต้องเก็บซะหน่อย

หน้าตาข้าวกล่องรถไฟของร้านนี้ครับ (ด้านซ้าย) ส่วนด้านขวาคือถุงที่มีชุดข้าวกล่องรถไฟ กว่าจะสื่อสารกับคนขายได้เกือบแย่เลยทีเดียว แต่โชคดี (อีกแล้วมาไต้หวันมีแต่เรื่องดี ๆ ยกเว้นฝนตกอย่างเดียว) ที่เจอผู้หญิงไทยที่มีแฟนเป็นคนไต้หวันก็มาซื้อแบบเดียวกับผม พี่เค้าก็ช่วยสื่อสารให้ครับแต่ก็ไม่อยากรบกวนมาก แต่ก็ขอบคุณจริง ๆ มาพูดเรื่องราคาบ้างอย่างที่บอกราคาข้าวกล่องรถไฟราคาเริ่มต้นแต่ 120 TWD แต่ถ้าอยากได้ชุดข้าวกล่องด้วยสนนราคารวมคือ 550 TWD ครับ พอซื้อเสร็จคุณป้าเจ้าของร้านก็อธิบายถุงผ้าเป็นภาษาจีน (เอ่อ ผมไม่ได้เรียนจีนนะป้า) และสอนการสะพายกระเป๋ากล่องข้าวด้วยครับ

หน้าตาข้าวกล่องรถไฟเฟิ่นชีหูอัดเเน่นด้วยผัก ผัก เนื้อ กินทีอิ่มทีเดียว มาดูกล่องรถไฟ Limited editoin ดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. มีถุงผ้าสีแดงที่สกรีนรถไฟสีเหลือง

2. กล่องข้าวสแตนเลส หรืออะลูมิเนียมหว่าที่มีโลโก้รถไฟ

3. ถุงแดงที่มีช้อนและตะเกียบ

ถามว่าแพงไหม คำตอบก็แพงนะครับแต่ใช่ว่าเราจะมาที่แห่งนี้บ่อย ๆ ก็เก็บไปเป็นที่ระลึกเลยดีกว่า

เมื่อซื้อเสร็จคุณป้าเจ้าของร้านก็จะให้แก้วสำหรับใส่น้ำเข้าไปกินข้างใน หรือจะเก็บไปกินที่อาลีซานแบบผมก็ได้นะครับ อิอิ

จากร้านขายข้าวกล่องรถไฟก็เดินไปยังถนนคนเดินเฟิ่นชีหู บรรยากาศจะคล้ายกับจิ่วเฟิ่น ที่ไทเปเลยแต่เนื่องจากผมกับเพื่อนมีเวลาจำกัดมากในเฟิ่นชีหูเพราะบ่ายโมงตรงผมกับเพื่อนต้องขึ้นรถตู้ไปอาลีซานครับ ไม่งั้นจะเย็นมากเลยเก็บบรรยากาศได้เเค่นี้ (ซ่อมรอบหลังอีกทีนะจ้ะ)

บรรยากาศเงียบเชียบเชียวอาจเพราะว่าฝนตก และเป็นวันธรรมดาด้วยครับคนเลยน้อย

จากตลาดโบราณเฟิ่นชีหูก็ได้เวลาเก็บภาพรถไฟสายอาลีซานเป็นที่ระลึกแล้วครับ และแล้วโชคก็เข้าข้างผมคือ ฝนหยุดตกแล้ว เยเย่

ป้ายสถานีรถไฟเฟิ่นชีหูครับ คลาสสิคดีแท้ทำมาจากไม้สุดท้ายการต่อรถไปอาลีซาน

จากสถานีเฟิ่นชีหูก็เดินทะลุเข้าไปในโกดังครับพอเดินสุดโกดังก็เดินขึ้นเนินเขาเลี้ยวซ้าย ตามภาพก็จะเจอกับศาลาที่มีรถมาจอด

ข้อมูลการเดินทางจากเจียอี้ไปยังเฟิ่นชีหู

1. นั่งรถไฟสายอาลีซาน จากเจียอี้ - เฟิ่นชีหู ราคาเที่ยวเดียว 240 TWD (รายละเอียดข้อมูลอยู่ด้านบนนะครับ)

2.จุดจำหน่ายตั๋วรถบัสไปอาลีซาน หรือจะไปเฟิ่นชีหูครับจะอยู่บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟเจียอี้เลย

ข้อมูลการเดินทางไปอาลีซานสามารถทำได้หลายทางครับ

1. จากสถานี THSR เจียอี้ไปอาลีซาน (สาย A) จะมีรอบเเรกเวลา 10.10 น.

ข้อมูล http://www.ali-nsa.net/Event/2013_AliTravel/indexEn.aspx

2. จากสถานี TRA เจียอี้ไปอาลีซาน รอบแรก 06.10 น. (สาย B)

ข้อมูล http://www.ali-nsa.net/Event/2013_AliTravel/indexEn.aspx

3. จากเฟิ่นชีหูถึงอาลีซาน (สาย B1)

http://www.ali-nsa.net/Event/2013_AliTravel/indexEn.aspx

ขอเสริมสำหรับรูทเส้นทางสาย B1 ก่อนนะครับว่า ถ้าจากเฟิ่นชีหูไปอาลีซานในวันธรรมดาที่จะไปอาลีซานจะมีเพียงรอบเดียว คือรอบ 13.00 น. และ 14.40 น. เท่านั้นครับ แต่ส่วนใหญ่คงขึ้นรอบ 13.00 น.กันครับเพื่อไปให้ทันอาลีซานก่อนสถานีรถไฟอาลีซานจะปิด เพื่อซื้อตั๋วบัตรชมพระอาทิตย์ล่วงหน้า

อีกประเด็นที่จะบอกว่าถ้าสายทางตรงจากเฟิ่นชีหูไปอาลีซานมีรอบน้อย ดังนั้นอีกทางเลือกหนึ่งก็คือ นั่งรถบัสจากเฟิ่นชีหูไปลงป้าย Shizhao ที่จะมีรอบเยอะกว่าจากนั้นก็ต่อรถสาย A หรือ B ได้อีกทางครับ ซึ่งทุกท่านต้องวางแผนดี ๆ ครับ นอกจากจะมีรถบัสแล้วยังมีรถตู้บริการแต่ราคาก็แพงครับ อย่างผมกับเพื่อนไปสองคนก็นั่งรถตู้ไปอาลีซานโดยมีสามีภรรยาชาวมาเลเซียนั่งไปด้วยครับ ตอนที่ไปรวม 4 คนเค้าคิดราคาคนละ 250 TWD ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งแต่ถ้าผมไม่ขึ้นรถตู้ก็จะไม่เจอความมีน้ำใจของคนมาเลเซียครับ เพราะระหว่างนั่งรถตู้คนมาเลเซียก็แบ่งขนมให้กินด้วย ทำให้ผมกับเพื่อนก็ต้องแบ่งขนมที่ซื้อจากเจียอี้ให้กินเหมือนกันครับ มาไต้หวันมีแต่เรื่องดี ๆ ยกเว้นฝน 555

ตอนนี้นั่งรถตู้ไปอาลีซานกันเลยเลยโค้งมาก จนผมและเพื่อนรวมถึงสามีภรรยาชาวมาเลเซียขอนอนสลบดีกว่า 555 อ้อลืมบอกไปถ้าใครใช้รถตู้ไปอาลีซานเมื่อมาถึงเฟิ่นชีหูสามารถฝากกระเป๋าไว้กับคนขับได้เลยครับ แล้วมาก่อนเวลา 13.00 น. คนขับรถจะบอกว่ามาประมาณ 12.40 น. เพื่อเดินทางไปอาลีซานเพราะจะได้เดินเฟิ่นชีหูได้สบายนิดนึง ไม่งั้นต้องแบกกระเป๋าคงอาจรำคาญได้

สรุปส่งท้าย

- เส้นทางรถไฟสายอาลีซานตอนนี้วิ่งได้แค่ 2 ใน 3 ของเส้นทาง คือจากเจียอี้ - เฟิ่นชีหูเท่านั้น

- ใครจะต่อไปอาลีซานก็ต้องอาศัยรถบัส หรือเหมารถตู้ไป

- เส้นทางรถไฟสายนี้จะผ่านเมือง ชุมชน ไร่สวนของชาวบ้าน และไต่ระดับขึ้นเขาเรื่อย ๆ จนเป็นป่าที่มีลักษณะภูมิศาสตร์แตกต่างกัน (ต้องอาศัยความรู้ทางวิชาภูมิศาสตร์แล้วหล่ะเรา)

- เนื่องจากเป็นเส้นทางรถไฟที่วิ่งบนเขาดังนั้นวิวสองข้างทางก็จะมีแต่ต้นไม้ ต้นไม้และต้นไม้ แต่บางจุดก็หวาดเสียวเหมือนกันเพราะด้านล่างเป็นเหมือนเหวแต่ก็ไม่น่ากลัวครับ แต่ตื่นเต้นดี 555

- ไปไต้หวันแล้วมาอาลีซานก็อย่าลืมมานั่งรถไฟสายนี้นะครับ มันเป็นฟีลลิ่ง 555

ขอจบรีวิวส่วนรถไฟสายอาลีซานเพียงเท่านี้นะครับ ตอนต่อไปพบกับอาลีซานในม่านหมอกครับผม

เพิ่มเติมอีกนิดครับ

ตอนนี้ราคารถไฟสายอาลีซานจากเจียอี้ไปเฟิ่นชีหูได้ปรับราคาจาก 240 TWD เป็น 384 TWD แล้วนะครับปรับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมาครับ ตอนผมไปยังราคา 240 TWD อยู่เลยไปเชคราคามาตามภาพด้านบนเลย