บางครั้งการเดินทาง ไม่จำเป็นเสมอไปว่าเราต้องรู้จุดหมาย รู้ปลายทาง
จะอยู่ที่ไหน กินอะไร ใครจะเป็นเพื่อนร่วมทาง ลองทำอะไรใหม่ๆ
ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ เปิดหูเปิดตาให้กว้าง ให้สมองและร่างกายได้พักผ่อน
ลองก้าวออกไป เจอสิ่งแปลกใหม่ ที่ไม่ใช่แบบเดิมๆ
รีบเติมซะเถอะ "ความสุข" น่ะ มันอยู่ไม่ไกลจากตัวคุณหรอก
_________________________________________________________




ก่อนอื่นก็ขอ สวัสดีเพื่อนๆทุกๆคนน่ะครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ซะมากกว่า ไม่ได้มารีวงรีวิวอะไรเลย โดยทริปนี้

ผมคิดก่อนวันไปจริงเพียงวันเดียว อยากไปก็ไปเลย ไม่ได้สนใจกรมอุตุจะพยากรณ์ว่าอย่างไร ผมไม่สนใจ ผมพยาการณ์ตัวเองได้ 555



ทริปนี้ผมมุ่งสู่ "จังหวัดตรัง" เดินทางโดยรถไฟ ก็กะจะเที่ยวตามทางที่รถไฟวิ่งผ่าน หลักๆก็เที่ยวอยู่ 2 ที่คือ "กันตัง" กับ "ตัวเมืองตรัง" แค่นั้นเองครับตอนแรกว่าจะไปเที่ยวเกาะลิบงเหมือนกันครับ แต่ด้วยว่ามันเป็น ฤดูฝน คลื่นน้ำทะเลสูง เอาความปลอดภัยตัวเองไว้ก่อน ทริปนี้ใช้เวลา 2 วัน 1 คืนเริ่มต้นการเดินทางผมไปขึ้นรถไฟที่สถานีสุราษฎร์ธานี ขึ้นรถไฟสาย กรุงเทพ - กันตัง ชั้น 3 ค่าตั๋วเดินทางอยู่ที่ 98 บาท รถมาถึง 06.28 นาที เลทนิดหน่อยไม่มีปัญหา ถ่ายรูปเรื่อยไป



รถไฟมาแล้วก็ขึ้นไปจับจองที่นั่ง แบบว่าที่นั่งว่างเยอะมาก จะนั่ง จะนอนกลิ้งเกลือกมุมไหนเลือกเอาได้เลย สักพักรถไฟก็เริ่มเคลื่อนตัว


นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้นั่งรถไฟสายอันดามัน ก็เลยไม่หลับนั่งกินลม ชมวิว สองข้างทางเรื่อยเปื่อยย



รถไปจอดแน่นิ่งอยู่ที่สถานีเขาพลูอยู่พักหนึ่ง เห็นผู้โดยสารพูดกันว่ารถกระบะ ชนรถไฟ จริงเท็จรึป่าวอันนี้ไม่ทราบได้



เริ่มหิวล่ะ มีแม่ค้าขายข้าวเหนียวไก่มาพอดี จัดเลย 35 บาท อิ่มมมม



กินไก่ไป ชมวิวไป แหม่ฟินจริงๆ



สักพักรถไฟก็มาจอดที่ ชุมทางสถานีทุ่งสง รู้สึกว่าจะจอดเติมน้ำในห้องน้ำ และอะไรหลายๆอย่าง มีของมาขายมากมายราคาถูก จะซื้ออะไรกินก็ซื้อที่นี่เลย เพราะถ้ารถออกวิ่งไอ่ของที่ขายอยู่บบนขบวนมันแพง น้ำเปล่าที่เราซื้อกินกัน 7-10 บาท ก็ขายขวดละ 20 แหน่ะ



สักพักใหญ่รถก็เคลื่อนขบวนต่อ เราก็นั่งเอาหน้าลู่ลม เจอลุงอิสลามนั่งข้างๆ ก็แอบถ่ายสักแช๊ะ !!



พอรถไฟมาถึงสถานี "ห้วยยอด" คนลงเกือบหมดขบวน เหลือเท่าที่เห็น


(สงสัยผมจะถ่ายนาน ลุงเขาทำท่าจะปารองเท้าใส่ผม เพราะอะไรก็ไม่รู้ ผมเลยหนีไปนั่งขบวนหน้าา -.- )



จากห้วยยอดมาถึงสถานีตรัง นั่งอึดใจเดียวก็ถึง แต่ผมยังไม่ลง เลยไปเที่ยวสถานีกันตังก่อน



มาถึงสถานีกันตังล่ะ แปปเดียวเอง เท่าที่อ่านประวัติมาสถานีกันตังนี้เป็นสถานีรถไฟเก่าแก่ อายุเกืบ 100 ปีแล้ว ถ้าผมจำไม่ผิด ที่จริงแล้วกันตังไม่ใช่สถานีสุดท้ายของรถไฟสายนี้นะครับ แต่มีไปยันท่าเรือกันตังนู้นเลย แต่ตามประวัติบอกว่าโดนชาวบ้านลุกล้ำเสียหมด ที่เที่ยวแถวกันตังก็มีอยู่ไม่กี่ที่ มีต้นยางเก่าแก่ บ้านพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ท่าเรือสินค้าหรือหากจะไปเกาะลิบงก็ขึ้นที่ท่าเรือนี้ได้ ไม่ไกลกันมาก



มีร้านกาแฟเล็กๆน่ารักๆ อยู่ด่วย " ส ถ า นี ก า แ ฟ "



ป้ายนี้นักท่องเที่ยวชอบมาถ่าย "สิ้ น สุ ด ท า ง ร ถ ไ ฟ ส า ย อั น ด า มั น"



ถ่ายรูปที่สถานีกันตังเสร็จแล้วก็ตีตั๋วกับตรังเลย เนื่องด้วยฝนตกเลยตัดสินใจกลับดีกว่า กันตัง - ตรัง เสียค่าตั๋วไป 5 บาท (รถไฟที่เข้ามากันตังจะมีเพียงเที่ยวเดียวต่อวันเท่านั้นนะครับ) ที่นั่งว่างเยอะเลยมาเลือกเอาที่ถ่ายขบวน คนน้อยดี วิวสวย



นั่งมาสักพักฝนตก ก็ลุกขึ้นไปปิดหน้าต่าง เจอหลวงพ่อรูปหนึ่งแกปิดไม่ได้ ก็เลยไปปิดให้ท่าน ท่ายเลยให้นมมากล่องหนึ่ง แก้หิวได้พอดีเลยย 555



โชคดีอีกต่อหนึ่งคือพอได้คุยกับท่านแล้ว ดันไปรู้จักพระแถวบ้านผม ซึ่งผมก็รู้จักก็เลยคุยกับท่านไปเรื่อย ไปๆมาๆ ไปถามท่านว่าอยู่วัดไหน


ท่านว่าอยู่มาเลเซีย อยู่ปีนัง ผมนนี่ตาโตเลย หลุดปากทันทีเลยว่า " หลวงพ่อ ถ้าผมไปเที่ยวผมขอนอนวัดหลวงพ่อได้มั้ยครับ " (เพราะวางแผนอยู่ว่าจะไปเที่ยวปีนังแบบประหยัด กิกิ) ท่านก็ตอบเลยว่าได้ ไม่มีปัญหาแถมยังให้ข้อมูลมาเรียบร้อยย หวานหมูเลยย 555



ถึงแล้วๆ สถานีตรัง มีรถสามล้อหัวกบ จอดอยู่หน้าสถานี ถือว่าเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมืองตรัง



เรื่องที่พักเอาไว้ก่อน ขอเดินเที่ยวเรื่อยๆ ชาวบ้านเขาบอกว่ามีเจ้าแม่กวนอิมอยู่บนเขา ไม่ไกลมาก ผมก็เลยขึ้นไปเที่ยวว ไปสักการะสักหน่อย แถมยังดูวิวเมืองตรังได้จากข้างบนอีกด้วย อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟนั่นล่ะครับ ลองไปเยี่ยมชมดูได้



ขึ้นเขา ลงเขา ทำเอาเหนื่อยเหมือนกันครับเลยว่าจะไปหาที่พัก อาบน้ำซักหน่อย เลยเดินหอแถวๆหอนาฬิกาจังหวัดตรังนั่นแหละเจอโรงแรมเยอะมาก แต่มันแพงสำหรับผม 555 (เที่ยวแบบประหยัดงบ)



เดินไปเรื่อยๆ เจอเจ้าแมวอ้วนหลับขวางทาง หลับไม่รู้เรื่องเลย



เดินมาเรื่อยๆ มาหยุดที่ โรงงงแรมมมมมมมเก่าแก่แห่งหนึ่งอายุ 60 กว่าปี นั่นคือโรงแรม " โ ก เ ต็ ง " ที่พักราคาประหยัดสำหรับนักเดินทาง


ผมเลือกพักคนเดียวแบบถูกที่สุดจ่ายค่าเสียหายไป 200 บาท ได้ห้องหมายเลข 2 2 2 บรรยากาศเหมือนโรงเตี๊ยมหนังจีนเลย โดยภาพรวมโอเคนะครับ แต่แนะนำให้คนจิตไม่แกร่งกล้า พาเพื่อนมานอนด้วย โฮ่ะๆๆ



ได้กุญแจมาก็ขึ้นห้องพัก ตามประสาวัยรุ่นครับถ่ายรูปอัพลงโซเชี่ยว เท่านั้นล่ะ!! เพื่อนตัวดีทั้งหลายของผม มาให้กำลังใจกันดีดีทั้งน้านนนเลย


" ระวังนะ นอนคนเดียวว", "เฮ้ย!! ที่นั้นเฮี้ยนนะ" และต่างๆมากมาย ฮึแต่ผมไม่กลัว คืนนั้นเลยเปิดไฟนอนทั้งคืน ใส่หูฟังเปิดเพลงดังๆ หลับสบายจะตายยย แต่ไม่มีไรหรอกครับโรงแรมนี้ สิ่งที่น่ากลัวนะคือเพื่อนนี่แร่ะ กล่อมกันดีเหลือเกิน -.- มาชมบรรยากาศภายในห้องดีกว่า



หลังจากหาที่หลับที่นอน อาบน้ำอาบท่า เสร็จแล้วก็ออกไปหาอะไรกินสักหน่อยยทั้งวันกินไก่กับข้าวเหนียวอย่างเดียวเอง ไปหยุดเอาที่ร้านเย็นตาโฟแถวๆหอนาฬิกา รสชาติโอเคเลยยล่ะ ราคาถูก 40 บาทเอง



กินเสร็จก็กลับห้องพัก แหม่ะโชคดีอีกแล้ว มีรุ่นพี่สาว ที่รู้จักกันที่มหาวิทยาลัย เขาที่อยู่ที่นี่เขาจะพาไปเลี้ยงมื้อเย็น โอ้ละหนออออน้ำลายไหลเบยย 555+



ร้านแรกเป็นร้านอาหาร "บัลโคนี" อาหารอร่อย ราคาถูก ร้านน่านั่ง ขอเสนอเมนู "สุกี้กระทะร้อน" หมึกตัวเบอเร้ออเลยย



มานั่งต่อร้านที่ 2 เป็นร้าน โจ๊ก - น้ำเต้าหู้ อร่อยๆ ราคาถูกเหมือนเดิม (ของกินที่นี่ราคาถูกจริงๆ ยอมรับเลย) ร้านนี้ไม่มีชื่อร้าน แต่เขาเรียกว่าร้าน "โกหลอ" พี่เค้าบอกมา รสชาติอาหารนะเหรอ ถูกใจเป็นอย่างยิ่ง!!



คนนี้เลย เจ๊ใหญ่ผู้สนับสนุนหลัก 555+



อร่อยไม่อร่อย ดูได้จากโต๊ะข้างๆ



ทำกันหน้าร้าน ให้เห็นกันชัดๆ เสริฟกันร้อนๆ



หลังจากอิ่มๆ พี่เขาก็เลยขับรถพาเที่ยวชมเมืองกลางคืน เนื่องด้วยฝนตก เลยเงียบเหงาไปนิด


...ไปหยุดเอาที่หอนาฬิกา กับ น้ำพุหน้าจวนผู้ว่า สวยดีๆ



ยังกินไม่พอครับ พี่เขาพาไปอีก ใจดีจริงๆ ^^


....ต่อมาเป็นร้าน " สิ น โ อ ช า " ร้านนั่งชิว มีอาหาร เครื่องดื่มขนมหวานมากมาย ราคาก็ไม่แพง เมืองแห่งการกินจริงๆ "เมืองตรัง"



เจอเจ้าถิ่น มายืนมองหน้าา!!



หลังจากกินร้านนี้เสร็จ ผมก็กลับโรงเตี๊ยม เอ้ยยยโรงแรม ไปลุ้นระทึกต่อที่ห้องง T-T จิตหลอนนิดๆ เพื่อนๆมันปั่นผมไว้เยอะ


ไว้เจอกันต่อพรุ่งนี้นะครับ ฮือออออเช้าแล้ววว ผมรอดมาได้ 555+ ล้อเล่นครับ

....ผมนี่ตื่นแต่เช้า คนและรถยังน้อย เลยมาเก็บภาพบรรยากาศ ภายในตัวเมือง เชิญรับชมได้เลยครับบบบ ^^



อาจมีอะไรอยู่ข้างในบ้าน ก็เป็นด้ายยยยย



โดดเด่นซะเหลือเกิน บ้านหลังนี้



ถนนโล่งมากกก สวยอีกด้วย



เอ้า!! รีบเข้าเจ้าด่างง



ร ถ ก ร ะ ป๋ อ ง เ ท่ ๆ



เดินไปเจอโรงหนังเก่าเมืองตรัง " ต รั ง ร า ม า "



ตึกทรงเก่าๆ



ร้านอาหารสไตล์จีนๆ



โบสถ์คริสต์ สวยๆ



ร้านแว่นแบบเก๋ๆ



กุ้งสดๆ มากมาย จริงๆ



แถมยังมีภาพวาดฝาผนังอีกด้วยยยย



สวัสดีฮะพี่ชาย มายืนทำอะไรลับๆ ล่อๆ



นับว่าเป็นบรรยากาศที่น่ารื่นรมณ์มากเลยครับ สำหรับเมืองตรังในยามเช้า ชอบๆหลังจากเดินเที่ยว ถ่ายรูป ในยามเช้าตู่เรียบร้อย!! . . เสียงสวรรค์ก็โผล่มา เจ๊ใหญ่โทรมาหา บอกว่าจะพาไปกินติ่มซำ ว้าวๆๆ ลาภปากจริงๆ


..ประมาณแปดโมงพี่เขาก็เข้ามารับ มุ่งสู่ร้านติ่มซำ ^^



และร้านที่ไปนั่นก็คือร้าน " เ รื อ น ไ ท ย ติ่ ม ซำ " อร่อยมาก เข่งละ 20 บาทเองจร้าาา



คนในร้านเยอะมาก ขนาดแปดโมงแล้วนะเนี่ยยย



ติ่มซำก็มีหลากหลายรูปแบบ



สั่งมาแค่หอมปากหอมคอพอ ^^



ปอเปี๊ยะกุ้ง เนื้อแน่นๆ



ขนมจีบเนื้อเด้งเว่ออ



ลองดูข้างในสิ



ขาดไม่ได้เลยย ของดีเมืองตรัง " ห มู ย่ า ง " หนังกรอบๆ เนื้อหวานๆ



ขอฝากใจไว้ที่นี่เลยย "เรือนไทยติ่มซำ"



เช่นเคย เมื่อทานมื้อเช้าเสร็จพี่เขาไปส่งเราที่พัก ก็กล่าวอำลา ขอบคุณพี่เขาก่อนจาก แอบซึ้งนิดๆ 555 เพราะเราก็ต้องกลับแล้วเหมือนกันกลับที่พัก เก็บของ แพ็คกระเป๋า เตรียมกลับสุราษ


...ล่าก่อนเมืองตรัง เมืองที่น่ากิน 555



แหน่ะๆ เรื่องกินยังไม่หมด ไปเจอข้าวกล่อง 25 บาท กับ ไอติม 10 บาท สอยซะเลยอร่อยมากกก ที่สถานีชุมทางทุ่งสง นะครับ



ขากลับได้นั่งท้ายขบวน วิวสวย เก็บภาพมาฝากครับบ



จบทริปฉายเดี่ยว ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ตามมาอ่านกันนะครับ ขอบคุณครับ ^^



กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ 4 ของผม มีอันอื่นๆ อีก ลองเข้าไปชมได้นะครับ ขอบคุณครับ ^^



http://pantip.com/topic/33861567 ฝึกงาน & เที่ยว ไปพร้อมๆกัน ในเวลา 2 เดือนที่ "เชียงใหม่"

http://pantip.com/topic/33968119 ฝึกงาน & เที่ยว ไปพร้อมๆกัน ในเวลา 2 เดือนที่ "เชียงใหม่" (ภาค 2)

http://pantip.com/topic/34065031 แบกเป้ลุย เขาล้อมหมวก - เขาช่องกระจก 2 วัน 1 คืน แบบสบายกระเป๋า จุ๊กกรู๊ววๆ!!



Sirichai Chaimunkong

 วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.01 น.

ความคิดเห็น