รีวิวเที่ยวนอกบ้านที่บอกตรงๆ ว่า ดุ่มๆ อ่านรีวิวจากหลายๆ web แล้วก็เลือกเอาแบบสุ่มๆ ว่าจะไปที่นั่นนี่แล้วแต่เวลาและอารมณ์ เพื่อใช้เวลาร่วมกัน 10 วัน กับพี่ๆ (เจ๊ๆ ) ที่เน้นความฮาและการกิน รายละเอียดไม่มี มีเพียงเรื่องราวมาให้ขำขันกันนะครับ

วันที่ 1 : จากภูเก็ต สู่ แม่สาย จ.เชียงราย
เดินทางด้วยสายการบิน NOK AIR Connect Fight
จากภูเก็ต 13.00 น. ลงดอนเมือง และ ต่อไปยัง จ.เชียงราย ถึงเวลาประมาณ 17.30 น. ราคา ตั๋วประมาณ 2,200 บาท
เจ๊อ้วนใจดี ให้คนขับรถหน้าตาดีขับรถมารับถึงสนามบิน เพื่อเดินทางไปยัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย สุดชายแดนไทย
วันแรกหมดเวลาไปกับการเดินทางและเข้าพักที่
โรงแรม V-Park โรงแรมใหม่เอี่ยม ห้องกว้างมาก ในราคาเพียง 600 บาท/คืน
เพราะต้องรอเจ๊หมู ที่จะบินมาสมทบจึงต้องนอนที่นี่ 2 คืน

วันที่ 2 เที่ยวคนเดียว
เพราะวันนี้ยังไม่มีใครหยุดงาน เลยมีเวลาว่างแทบทั้งวัน จะอยู่ห้องพัก ก็ใช่ที่ (รู้สึกเสียดายค่าตั๋วเครือ่งบิน)
รวบรวมความกล้าขับรถที่เจ๊อ้วนทิ้งไว้ให้ตะลอนเที่ยวคนเดียวโดย Search หารีวิวแหล่งท่องเที่ยวแม่สาย
แล้วเช็คระยะทางจาก Google Map แล้วให้ GPS นำทางไป


จุดที่1 : นมัสการพระธาตุดอยเวา ชมวิวเมืองพม่า
(เวา แปลว่า แมงป่องช้าง)
บอกตรงๆ ว่า แค่เห็นบรรดาก็จะถอดใจแล้ววววววว คิดเสียว่าเป็นการทดสอบศรัทธา
[มารู้ทีหลังว่า โถ.... ขับรถอ้อมไปอีกนิดก็มีที่จอดรถถึงหน้าพระธาตุ T_T ]



จุดที่ 2 : ครั้งนึงในชีวิตให้ได้พิชิต "สามเหลี่ยมทองคำ"
จากพระธาตุดอยเวา แม่สาย มายัง สามเปลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ก็แค่ประมาณ 30 กม. ชิลๆ
สามเหลี่ยมทองคำ เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างสามประเทศ
ได้แก่ ประเทศไทย (จังหวัดเชียงราย) ลาว (แขวงบ่อแก้ว) และพม่า (แขวงท่าขี้เหล็ก, รัฐฉาน)
มีลักษณะเป็นพื้นที่สามเหลี่ยมบรรจบกัน (Wikipedia เค้าว่างั้น) ฮ่าๆๆๆ
ที่นี่มุมถ่ายรูปก็มีไม่น้อย ถ่ายจนฝรั่งงง ว่ามาคนเดียวตั้งกล้องถ่ายแอ้คท่านู่นนี่จนขำ (เรายังขำตัวเองเลย)
แต่เอาเถอะ ชาตินี้เราคงเจอกันครั้งเดียว ฮ่าๆๆๆ



จุดที่ 3 : ชมวิวแม่น้ำโขง นมัสการพระธาตุผาเงา
ขับรถเลยจากสามเหลี่ยมทองคำมาไม่ไกล จะได้พบ "พระธาตุผาเงา"
ที่เจ๊อ้วนบอกว่าด้านบนเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยมาก
ส่วนพระธาตุผาเงานั้น มีความเป็นมายาวนานม๊ากกกกกกก (ลองหาอ่านในอากู๋นะฮะ)


จุดที่ 4 ลิ้มรส " ข้าวแรมฟืน "
เจ๊อ้วน ชวนหาอาหารรองท้องและบอกว่า มาแม่สายต้องกินข้ามแรมฟืน ห๊ะ อะไรคือข้าวแรมฟืน ?????
หน้าตาเป็นแบบนี้ เจ๊อ้วนสั่งมา 2 อย่าง
อย่างแรกเป็นข้าวแรมฟืนทอด รสชาติผมก็ว่าคล้ายๆ เต้าหู้ทอดนะ แต่บางและกรอบกว่า จิ้มน้ำจิ้มอร่อยมากๆ
อย่างที่สองนี่ ตัวข้าวแรมฟืนจะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมสีเหลืองอ่อนนุ่มเด้งดึ๋งๆ คล้ายเจลลี่
สรุปคือ อร่อยดีฮะ


จุดที่ 5 : ขอให้ชีวิตนี้มีแต่ชนะ อธิษฐานกับพระธาตุชนะศึก สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เจ๊อ้วนบอกว่า อย่าว่าแต่มีสงครามเลย แค่มีชีวิตอยู่ไปวันๆ ยังมีแต่ต้องต่อสู้ กับเรื่องต่างๆ มากมาย
ดังนั้น อยากชนะ ให้มาศักการะที่พระธาตุชนะศึก
(หูยยยยย เป็นเรื่องเป็นราว ฮ่าๆๆๆ)
"ด้วยจิตสักการะองค์พระนเรศวรที่ช่วยกอบกู้แผ่นดินไทย ขอให้ข้าพเจ้าชนะโพยภัยทั้งหลายทั้งมวลด้วยเทอญ"


จุดที่ 6 : พักสักนิดที่ "ไร่ชาฉุยฟง"
มาภาคเหนือทั้งที อย่างน้อยก็ขอให้เห็นใบชา ฮ่าๆๆๆ ไร่ชาฉุยฟง ไร่ชายอดนิยมของนักท่องเที่ยว
ถึงจะมาช่วงบ่ายคล้อยแล้ว แต่ความชิลยังมีเสมอสำหรับไร่ชา (ที่ภาคใต้บ้านผมไม่มี)
และเมื่อพรุ่งนี้จะต้องเจอกับ เจ๊ อีก 2 คน การซ้อมโพสท่า ถ่ายรูป ซ้อมมุมกล้อง จึงมีขึ้นเบาๆ


จุดที่ 7 : MO Cafe' ร้านเล็ก อร่อยใหญ่
ซ้อมโพสกันจนเหนื่อยจากไร่ชาฉุยฟง ท้องร้องดังมากกกกก เพราะ ข้าวแรมฟืน ช่างไม่อยู่ท้องเลย ฮ่าๆๆๆ
เจ๊อ้วนเลือกร้าน MO Cafe' เพราะเป็นร้านเล็กๆ น่ารักดี มีอาหารให้เลือกพอสมควร
รสชาติอร่อยเลยล่ะ
ที่ถูกใจมากๆ ก็เป็น สลัดปลาแซลมอนรมควัน แต่ ราดด้วยเนื้อผลเสาวรส แปลกดีฮะ
FB : www.facebook.com/MocafeCoffeeshop


ขอบคุณเจ๊อ้วนอ้วน สำหรับพาเที่ยวเจียงฮาย

วันเดียวเที่ยวซะเหนื่อย
วันรุ่งขึ้นจะเจออีก 2 เจ๊ รวมตัวออกเดินทางจากเชียงราย สนุกกว่าแน่นอน !!!!

ต่อตอนที่ 2 ที่ https://th.readme.me/p/5064

Hello Phang-Nga

 วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.36 น.

ความคิดเห็น