สวัสดีครับ พบกันอีกครั้ง วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปชมโรงแรม โซ โซฟิเทล หัวหิน โฉมใหม่ ไฉไล เก๋ไก๋ กว่าเดิมกัน ครับ
ขอบอกเลยว่าผมเคยมาที่พักที่นี้ถึง 5 ครั้ง ซึ่ง 4 ครั้งเป็นการจ่ายเงินมาพักเอง และครั้งนี้ได้รับเชิญให้มาพักอีกครั้ง
ผมรีบตอบปากรับคำดดยไม่ลังเล เลยครับ ลองมาดูกันครับ ว่าทำไมผมถึงกลับมาที่นี้อีกครั้ง



ถ้าชอบกดบวก ถ้าใช้กดถูกใจด้วยน่ะครับ
ฝากเพจน้อยๆไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยน่ะครับ
https://www.facebook.com/Friendmilynapat/



โซ โซฟิเทล หัวหิน จริงๆแล้วไม่ได้อยู่ในพื้นที่อำเภอหัวหินตามชื่อนะครับ
แต่ตั้งอยู่บนหาดส่วนตัวของชะอำตอนเหนือ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
แต่น่าจะเป็นเพราะโรงแรมตั้งอยู่ห่างจากหัวหินเพียง 25 กิโลเมตรเท่านั้น
การเดินทางสะดวก เพราะห่างจากกรุงเทพไม่มากเลยครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
(การจราจรบางช่วงเลาอาจถึง 3 ชั่วโมงครับ)



เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาสิ่งที่เห็นและสะดุดตาคงจะเป็น ตุ๊กตากระต่ายตัวโตถือนาฬิกา ชื่อ MR.Rabbis
สิ่งแรกที่ผมคิดคือเวลาในนาฬิกากระต่ายกับเวลาในนาฬิกาข้อมือผมน่ะตรงกันรึป่าวนะ???
……….อยากรู้ใช่ไหมครับ ลองมาหาคำตอบกันนะครับ......


กระต่ายตัวโตถือนาฬิกาตัวนี้เป็นสัญลักษณ์ที่ทางโรงแรมต้องการสื่อให้ผู้ที่เข้ามาพักในโซ โซฟิเทล หัวหิน
เสมือนหยุดเวลา หยุดความวุ่นวาย วางทุกอย่าง และมาผ่อนคลาย เก็บเกียวความสุข กับเวลาที่นี่


ไปเช็คอินกันเลยดีกว่าครับ Lobby ช่างกว้างขวางอะไรปานนั้น บันไดเดินขึ้นที่นี่กว้างมากครับ
ทำมาจากหินอ่อนทั้งหมด ว่ากันว่ามันใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


ฉากหลังตัวล็อบบี้เองก็เช่นกันเป็นหินอ่อนเพิ่มดีไซด์ด้วยลายเส้นแบบไทยๆ บวกกับการตกแต่งด้วยไม้
มีบรรดารูปปั้นสัตว์ต่างๆอยู่โดยรอบ ดูแล้วเป็นงานดีไซด์ที่ผสมผสานธรรมชาติกับงานศิลปะไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
กระตุ้นจินตนาการให้เห็นถึงวิวัฒนาการของธรรมชาติตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน


Welcome drink ของที่นี่ ชื่อว่า Elixir ครับ เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรประกอบด้วยกระเจี๊ยบ
โหระพาและตะไคร้ รสชาติดี หอม กลมกล่อม โดยพนักงานจะรินเครื่องดื่มมาจากโถที่มีควัน


เสริ์ฟให้แขกผ่านชุดแก้วชาร้อนแบบตะวันตก ผมนี่บรรจงดื่มสุดๆ
เพราะคิดว่ามันต้องเป็นชาสมุนไพรร้อนอะไรประมาณนั้น (ก้อมันมีควันนี่ครับ)
ที่ไหนได้…มันเย็นครับผม!!! เห็นไหมครับแค่นี้ก้อกระตุ้นจินตนาการจริงๆ


หลังจากเช็คอินเสร็จเรียบร้อย เราไปดูห้องพักกันเลยครับ ในส่วนของห้องพัก ที่นี่มีหลากหลายแบบ ดังนี้
ห้องพักแบบ โซ คอมฟี (SO Comfy)
ห้องพักแบบโซ สตูดิโอ (So studio)
ห้องพักแบบ โซ แฟมิลี่ (SO Family)
ห้องพักแบบโซ แฟมิลี่ คิดส์เฮ้าส์ (SO Family Kids House)
ห้องพักแบบโซ พูลวิลล่า (SO Pool Villa)
ส่วนการตกแต่งจะแบ่งเป็น 2 สไตล์ได้แก่ “โซ อาร์ตี้ (SO Arty)" และ “โซ เนเจอร์ (SO Nature)"


ห้องพักแบบ โซ คอมฟี (SO Comfy) สไตล์ โซ เนเจอร์ (SO Nature)


SO Nature


สไตล์การตกแต่งได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติอันสวยงาม

ตกแต่งและประดับด้วยส่วนประกอบต่างๆจากธรรมชาติ กิ่งไม้ ใบไม้ ลวดลายเฟอร์นิเจอร์

งานภาพถ่ายที่สื่อถึงธรรมชาติจากศิลปินชื่อดัง ผสานด้วยความงามจากศิลปะในแบบฝรั่งเศส

แต่ละห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อินเตอร์เน็ทไร้สายความเร็วสูง
ระบบสาระบันเทิงจากไดเร็คสตรีมและระบบเครื่องเสียง Bose
มันแบบเจ๋งมากครับเสียงปรับได้แบบรอบห้องเลยครับแม้แต่ในห้องน้ำ

ห้องน้ำที่นี่กว้างมากครับ มีอ่างแช่และที่ชอบสุดๆก้อคือฝักบัวอาบน้ำขนาดใหญ่ระบบน้ำฝน
ทำให้เวลาอาบน้ำแล้วรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางสายฝนจริงๆ (จินตนาการอีกแล้วครับ 5555

ห้องพักแบบโซ แฟมิลี่ คิดส์เฮ้าส์ (SO Family Kids House) สไตล์ โซ อาร์ตี้ (SO Arty)
การออกแบบและการตกแต่งจะความหรูหราในสไตล์ฝรั่งเศสร่วมสมัย
ผสมผสานงานศิลปะในอดีตกับงานดีไซน์สุดเก๋ไก๋ของสมัยศิลปะใหม่ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายเก๋ๆ
สีสันที่สดใส ภาพถ่ายที่งดงาม ทำให้ SO Arty ดูทันสมัย ดูแพง มากๆเลยครับ
และยังมีห้องสำหรับเด็กๆซึ่งเป็นเตียงสองชั้นอีกด้วยครับ


ห้องพักแบบโซ พูลวิลล่า (SO Pool Villa)
จุดเด่นของห้องประเภทนี้คือมีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ใหญ่มากครับ ตอนที่เป็น hotel de la paix ยังเป็นสระเล็กกว่านี้ครับ


ภายในวิลล่าตกแต่งเป็น สไตล์ โซเนเจอร์ครับ วิลล่าแต่ละครั้งตกแต่งไม่เหมือนกันน่ะครับ
ตอนจองถ้าชอบห้องสไตล์ใหนอย่าลืมรีเควสไปด้วยน่ะครับ


โซ สปา (SO SPA)


สำหรับสาวๆที่ต้องการทำสปาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ เปิดให้บริการตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 21.00 น.


โซ สปา (SO SPA) ใช้เวชผลิตภัณฑ์ของ ฟิโตแมร์ (Phytomer) ซึ่งแบรนด์ชั้นนำจากประเทศฝรั่งเศส


ด้านในตกแต่งแบบเรียบหรูทันสมัย สวยงาม บรรยากาศละมุนละไม รู้สึกผ่อนคลายมากครับ


ผมชอบที่สุดคงเป็นการตกแต่งด้วยผ้าที่พิมพ์ลายอิริยาบถของมนุษย์
เวลาที่ผ้าพริ้วไหวมันเหมือนกับคนในภาพกำลังเคลื่อนไหวจริงๆ ดูมีชีวิตชีวาดีครับ


และสำหรับโคกคูนหลังจากที่เสร็จจากการนวดแล้วจะต้องมานั่งทานชาและขนมในนี้ เหมือนกับมามารีเฟรชร่างกาย


ส่วนผมใช้เป็นที่ถ่ายรูปสะเลย ใกล้แล้วครับ ใกล้จะบ้า ฮ่าๆ

ยังครับยังไม่หมด มีบริการทำเล็บด้วยครับ

เอาจริงๆด้านในสปามีที่ให้ถ่ายรูปเยอะมากครับ แต่ต้องระวังด้วย อย่าส่งเสียงรบกวนแขกท่านอื่นน่ะครับ

และสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่าลืมจองก่อนน่ะครับ เนื่องจากคนนวดมีไม่มากและทางสปาจะได้เตรียมสถานที่ไว้ให้ล่วงหน้า

โซ ฟิต (SO FIT)


ห้องออกกำลังกายที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเปิดตลอด 24 ชั่วโมงที่ให้คุณหนุ่มๆออกกำลังกายได้อย่างอิสระ

กาลาเรีย ( Galerie )
อยุ่ติดกรับสระ โซราเรียมครับ เนในจะมีการจัดแสดงภาพถ่ายและภาพวาด มีการหมุนเวียนทุก 3 เดือน


บีช โซไซตี้ (Beach Society)


เปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00 น. ถึง 1.00 น.

นำเสนออาหารที่เหมาะสำหรับรับประทานริมชายหาดและอาหารทะเลสดใหม่ย่างหอมกรุ่นบนเตาบาร์บีคิว


พลาดไม่ได้สำหรับห้องอาหารบีช โซไซตี้ คือปาร์ตี้ริมชายหาดที่จะนำดีเจชั้นนำมาร่วมกันสร้างความสนุก

จากเสียงดนตรีเคล้าคลอเสียงคลื่นและอาหารเลิศรสในทุกๆเดือน

ไฮโซ (HI-SO)
เปิดให้บริการตั้งแต่ 17.30 น. ถึง 1.00 น.
เป็นบาร์บนชั้นดาดฟ้ามองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของทะเลและรีสอร์ท
ที่ทำให้ผมไม่ลืมที่จะถ่ายภาพลงรูปโซเชียลและอวดเพื่อนระหว่างที่จิบค๊อกเท


ไวท์ โอเว่น (White Oven)


ห้องอาหารที่ให้บริการทุกมื้อตั้งแต่ เช้า เที่ยง เย็น เปิดให้บริการตั้งแต่ 6.30 น. ถึง 23.00 น.
มีจุดเด่นอยู่ที่เตาอบหลักสีขาวที่ตั้งอยู่ใจกลางห้องอาหาร และภายในตกแต่งเสมือนยู่ใต้ท้องทะเล
มองขึ้นไปเห็นท้องเรืออยู่ด้านบน มาดูในเรื่องของอาหารกันบ้าง


อาหารเช้า


มีให้เลือกมากมาย ลายตากันไปเลยครับ แต่ที่เด็ดจริงๆในสายตาของผมคือ ขนมหวานและผลไม้
ที่จัดมาให้แบบเต็มมากไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผมถึงมาพักที่นี้ถึง 5 ครั้ง
เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจมาพักครับ


อาหารเที่ยง


ผมขอนำเสนออาหารไทยสำหรับมื้อนี้ เพราะอาหารไทยของที่นี้จะเด่นในเรื่องการผสมผสานวัตถุดิบ
ที่หาได้จากในพื้นที่ ทั้งจากในสวนสมุนไพร และจากในทะเล และมีการนำเสนอออกมาได้อย่งทันสมัย


ดูน่าทานมากครับจนลืมภาพอาหารต้นฉบับเก่าไปได้เลยครับ แต่รสชาติยังรักษาแบบฉบับไว้ได้ไม่มีผิดเผี้ยน
รสชาติไทยทำไม่เอาใจฝรั่งกันเลยครับ


ยำรสชาติเผ็ดจี๊ดจ๊าดแซ่บถึงทรวงอันนี้ผมรับประกันครับ


และอย่างที่บอกครับ ที่นี้มีดีที่ของหวาน เค้กมะพร้าวที่ใช้เวลาในการหาสูตรนานมาก
กว่าจะได้รสชาติออกมาถูกปากแบบนี้ หน้าตาน่าทานมากกกก.....

ทับทิมกรอบ ทำออกมาได้น่ากินเช่นกัน เสริมลูกเล่นเข้ามา เพิ่มความหน้ากินไปอีก
และสามารถเลือกทานได้เองเลยครับ


อาหารเย็น


ขอแนะนำผุ้ที่มีบัตร accor advantage plus ที่สามารถใช้ลดค่าอาหารได้ 50%
และไม่อยากขับรถออกไปทานด้านนอกครับ ทานง่ายๆถ้าทานอาหารจานเดียว


โซ พูล (SO Pool)


สระว่ายน้ำสีดำขนาดใหญ่ติดริมชายหาดและห้องอาหารเช้า เหมาะสำหรับครอบครัวเป็นอย่างมาก
ช่วงเย็นจะมีเด็กๆออกมาเล่นน้ำส่งเสียงกัน สนุกสนาน บรรยากาศของสระนี้จึงเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนในครอบครัว


โซ ราเรียมพูล (SO Larium Pool)


สระว่ายน้ำสีฟ้า อยู่ด้านหน้าในส่วนของสปา และฟิตเน็ต สระนี้เป็นสระสำหรับผู้ใหญ่ คู่รัก


ที่ต้องการความสงบ นอนอาบแดด และว่ายน้ำเพลินๆ ส่วนตัวแล้วชอบสระนี้มาก
มาพักที่นี้เพราะสระสีตัวตัวนี้เลยครับ


กิจกรรมพิเศษ
ความพิเศษที่ผมได้รับยังไม่หมดเท่านี้ครับ ผมมีโอกาสได้เพิ่มความพิเศษอีก 3 กิจกรรม


SO BBQ Seafood


วันนนี้เป็นความโชคดีอย่างแรกเลยครับ ทางโรงแรมได้เปิด บาร์บีคิว ซีฟู๊ด เป็นวันแรก เลยมีโอกาสให้ชิมเป็นคนแรกๆเลย


มีเหรอครับที่จะพลาดเรื่องกิน ไลน์อาหารจะเน้น อาหารทะเลเป็นหลัก ขน กุ้ง ปู ปลาหมึก สดๆจากทะเล

เผาให้ทานกันตามใจ จะทานอันใหนบอก พนักงานได้เลยครับ

ส่วนไลน์อาหารที่เด่นอีกอย่างคงหนีไม่พ้นเรื่องของหวาน ที่จัดให้แบบฟลู ออฟชั่น หลายตากันไปเลยครับ
ไลน์อาหารอื่นๆถึงจะมีน้อยไปหน่อย แต่ไม่ด้อยคุณภาพ น่ะครับมีทั้ง ส้มตำปูม้า ยำผักบุ้งกรอบ สปาเก็ตตี้ และอาหารทอดทานเล่น

เอาจริงๆรสชาติไม่ได้ ว้าว ครับ ที่จะทานไปแล้วอร่อยเหมือนร้านอาหาร แต่รสชาติถ้าเทียบกับโรงแรมด้วยกัน


ถือว่าทำได้ถูกปากด้วยทั้งวัตถุดิบรสชาติ และบริการ นั่งทานกันไปเพลินๆให้ท้องแตก

So Seafood BBQ จะมีทุกวันศุกร์ เวลา 18.00 - 21.00 น.ราคาประมาณ 1400++ /คน

SO Movie Night
ช่วงค่ำๆจะมีกิจกรรมพิเศษอย่างที่สอง นั้นก็คือ Movice night ซึ่งเริ่มวันแรกวันนี้เหมือนกันครับ มีโซฟา และ Popcorn
ไว้ค่อยให้บริการ นอนดูหนังริมทะเลได้บรรยากาศธรรมชาติ โรแมนติกมากครับสำหรับกิจกกรมนี้


Sunday Brunch


อย่างที่บอกครับกิจกกรมพิเศษอย่างที่สามคือ ซันเดย์บรันซ์ ที่จะมีทุกบ่ายวันอาทิตย์
คือจะเน้นไปในส่วนของอาหารนานาชาติมากกว่ามีทั้ง เนื้อแกะ แซลม่อน กุ้ง ปู


แต่ที่ผมจะแนะนำและชอบมากคือ สเต็กเนื้อแกะครับ ลืมไปเลยกับกลิ่วคาวของแกะ
ที่นี้ทำออกมาได้แทบไม่มีกลิ่น แถมยังนุ่มอร่อยกำลังดีเลยครับ


ส่วนของหวานจะคล้ายๆกับ บาร์บีคิวซีฟู๊ดครับ


ยังครับ ยังไม่หมด ที่นี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางและชายหาดส่วนตัวไว้ให้อีกด้วย


ด้านหน้าจะมีโซฟาเบด และชิงช้า ให้นั่งรับลมทะเล สนามหญ้าไว้ทำกิจกรรมต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นโยคะ หรือจัดปาร์ตี้ยามเย็น


เหตุผลที่ผมเลือกมาพักที่ โซ โซฟิเทล หัวหิน


1.อาหารเช้าถึงแม้ไม่ได้ดีที่สุด แต่ผมกลับชอบมากที่สุด ถูกใจในเรื่องของขนมหวานและผลไม้

2.ห้องพักที่ตกแต่งได้เข้ากับวัยของผม ที่มีสีสัน แปลกจากที่อื่นเลยทำให้จำได้ง่ายและที่สำคัยห้องกว้างมากทั้งห้องนอนและห้องน้ำ

3.สระว่ายน้ำ สปา และส่วนกลาง ผมจะคำนึงถึงข้อนี้เป็นเหตุผลหลักๆ เพราะผมเป็นคนชอบใช้เวลาพักผ่อนข้างๆสระมากกว่าบนเตียง

และส่วนกลางของที่นี้ยังมีให้บริการตามใจชอบ



นี้แหละครับ เหตุผลหลักๆของผมที่จะยอมจ่ายเงินมาพักที่นี้
ถ้าเพื่อนๆคนใหนสนใจลองดูช่วงโปร ของ บัตร Accoraccor advantage plus
ซึ่งจะมีโปร ซุปเปอร์เซลล์อยู่ ลด 40-50 % ราคาประมาณ 3000+รวมอาหารเช้าครับ


หากใครสนใจสอบถามข้อมูลได้ที่
Facebook Fanpage SO Sofitel Hua Hin
E-mail [email protected]
Tel . 032- 709 555


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชม และทุกคอมเมนท์ที่ให้กำลังใจครับ



Mr'Napat Ittiyos

 วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 09.58 น.

ความคิดเห็น