ช่วงที่ 1 : เที่ยวเชียงรายไปกับเจ๊อ้วนอ้วน ที่
https://th.readme.me/p/5061
ช่วงที่ 2 : รวมตัว 3 เจ๊ เฮไปกว๊านพะเยา ที่ https://th.readme.me/p/5064
ช่วงที่ 3 : มุ่งสู่ขอนแจ่นแดนอิสาน ที่
https://th.readme.me/p/5084
จุดหมายปลายทางต่อจากจังหวัดขอนแก่นของเรา คือ การไปชิลที่ริมแม่น้ำโขง
เพื่อนที่อีสานบอกว่าต้องไปพักที่นี่เลย "แลโขง รีสอร์ท"
ไม่ร้อช้าเจ๊อ้วนเปิด Google Map
เราเลือกเส้นทางผ่านยโสธร เพื่อแวะไปพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก บรรพบุรุษของเจ๊ก้าว (เจ๊อ้วนบอก)
ระยะทางที่ห่างไกล ยังไม่เท่าใจที่ห่างกัน
ท้องฟ้าช่างเป็นใจกับการเดินทาง
จุดที่ 1 : พักขาที่ Biz's Coffee เมืองร้อยเอ็ด
ระยะทางกว่าจะถึงยโสธรนั้นใช่น้อย ประกอบกับช่วงเช้าถ่ายรูปที่บึงแก่นนครจนเจ๊ๆ ลมจับ
ร่างกายต้องการน้ำตาลเพิ่มความหวานและความสดชื่น
พวกเราช่วยกัน Search ถามอากู๋ Google ทันที ซึ่งมีมาให้เลือกหลายร้านทีเดียว
แต่ที่ร้านนี้ Cake Ho-made และ มีขนมหลายอย่างให้เลือก
ไม่คิดว่าเราจะดวงดีขนาดนี้ เราว่าเราเลือกถูกร้าน เจ๊บอกเพราะเราเข้าวัดเข้าว่า บุญกระเพาะเราดี
ทุกอย่างดีงานพระรามเก้า ยิ่งผลไม้ที่นี่ที่ใช้คู่กับขนมคือ สดหวานมากมาย หน้าตาดูดีทุกจาน
www.facebook.com/Bizs-Coffee-205260726202848
จุดที่ 2 : พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก ยโสธร
หลังจากอิ่มน้ำตาลหวานๆ ของเมืองร้อยเอ็ดแล้ว เราก็เดินทางตาม Google Map มาถึงยังจุดหมาย
ก็ตอนบ่ายแก่ๆ แดดกำลังร้อนๆ แต่ฟ้าก็สีฟ้าาาาาาา ฟ้า ตัดกับสีพญานาคราชตัวใหญ่
เจ๊ๆ ไม่รอช้าที่จะวิ่งไปโพสท่าท่ามกลางแดดที่สามารถเผาให้เรากลายเป็นกบย่างได้เลยทีเดียว
พญาคันคาก เป็นคากคกตัวใหญ่ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ เป็นฉากหลังให้เราได้ถ่ายรูปเทียบขนาด
ความอลังการของคากคก เจ๊บอกว่า เป็นบรรพบุรุษเจ๊ก้าวเพราะมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกัน ฮ่าๆๆๆๆๆ
จุดที่ 3 : ชิมลาบเป็ดที่ ร้าน ก.แก้วลาบเป็ด
ในที่สุดเราก็ถึง จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงเย็นใกล้อาทิตย์ลับฟ้า
มื้อนี้จัดลาบเป็ดที่ร้าน ก.แก้ว รสชาติดีไม่ได้เลวร้าย แต่เราคิดว่าร้านคงหมดความนิยมไปก่อนที่
เราจะเดินทางมา เพราะ มีคนรับประทานอยู่เพียงไม่กี่โต๊ะ พนักงานดูหงอย
อาหารส่วนใหญ่หมด ไม่มี เหลือเพียงไม่กี่เมนูที่ให้เราได้เลือกสั่งรับประทานกัน
จะบอกว่าผิดหวังนิดๆ ก็คงจะได้
แต่ เจ๊อ้วนบอกว่า ก็ต้องมีบ้าง ขนาดผู้ชายที่เข้ามาทุกคนยังไม่อร่อยทุกคนเลย ฮ่าๆๆๆๆ
จุดที่ 4 : เช้านี้ที่สามชัยกาแฟ เมืองอุบล
ไข่กะทะที่นี่เน้นหมูยอและกุนเชียง เสิร์ฟมาพร้อมขนมปังไส้หมูและกันเชียงเช่นกัน
เจ๊สั่งหมูยอเพิ่มต่างหากเพราะอร่อย เกาเหลา ข้าวต้มก็ตามมาเพื่อเติมเต็มท้องที่ว่างในตอนเช้า
เพื่อให้พร้อมกับการออกไปท่องเที่ยวและเดินทางอีกครั้งหลังจากรับเจ๊นุชที่เดินทางมาจากตอนใต้
ของประเทศไทยในช่วงบ่าย
จุดที่ 5 : ชมอภิมหาเทียนพรรษา ที่ ทุ่งศรีเมือง
เนื่องจากเมื่อวานเจ๊ เจอแดดที่พิพิธภัณฑ์พญาคันคากที่ยโสธรกัน เลยขยาดขอชมความสวยงามแบบห่างๆ
อภิมหาเทียนพรรษานี้ใหญ่มาก สีทองทั้งหมด สลักลายรอบละเอียดสวยงาม
สมกับการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ
จุดที่ 6 : ชมหอไตรกลางน้ำ วัดทุ่งศรีเมือง
ไม่ไกลจากทุ่งศรีเมือง มีวัดทุ่งศรีเมือง ที่มีหอไตรอยู่กลางบึงน้ำเล็กๆ นอกจากความสวยงามของ
หอไตรที่เป็นไม้สีน้ำตาลแดงสวยงาม ยังไม่ได้ไหว้พระทำบุญด้วย
จุดที่ 7 : ชมกาแฟแบบอีสาน The Goose Cafe' & Hostel
เรามีเวลาค่อนข้างมากในการรอเจ๊นุชผู้หญิงเพียงคนเดียวในทริปนี้เลยหาร้านกาแฟเพื่อฆ่าเวลา
Goose Cafe' กาแฟห่าน ร้านเล็กๆ แต่ด้านในกว้างขวางพอสมควรเป็นร้านที่เราอ่านรีวิวและเลือกมา
www.facebook.com/The-Goose-CafeHostel-Ubon-Ratchat...
กาแฟและขนมปังอาจรสชาติดี แต่ความพีคคือการนำเสนอการตกแต่งแบบสไตร์อีสาน
และการใช้ห่านเป็นโลโก้ ก็น่ารักและเข้ากับสไตร์ดี
จุดที่ 7 : พบรัก ที่ Papilio Dessert
ขับรถไปมาๆ ในเมืองอุบลฯ หลายรอบ เพราะหาร้านอาหารบ้าง แหล่งท่องเที่ยวบ้าง
หลงไปหลงมา มักจะผ่านป่ายร้าน Papilio Dessert ทุกที
"เอ๊า ผ่านอีกละ ร้านนี้" เสียงเจ๊ๆ ดังในรถ
เจ๊อ้วนเลยบอกว่า ไหนๆ ก็ผ่านมาหลายรอบแล้ว แวะเถอะจะได้ไม่ต้องผ่านอีก ฮ่าๆๆๆ
เพียงแค่ก้าวเข้ามาในร้าน เห็นหน้าตาหล่อๆ ของบาริสต้า
คือ เจ๊ไม่ลังเลใจที่จะใช้เวลาทั้งหมดที่ร้านนี้เลย (แววตาเจ๊บอก)
ร้านแบ่งเป็น 2 โซน โซนแรกเป็นสไตร์วินเทจเก่าๆ ตกแต่งด้วยไอเท็มมากมาย ส่วนโซนที่สองเป็นห้องแบบ Eco สดชื่น
Surprise กับความอร่อยของขนมและเครื่องดื่มที่นี่ที่อร่อยเกินความคาดหมาย (คือไม่เจอในรีวิว แต่บังเอิญมาเจอเอง)
ระหว่างดื่มเครื่องดื่ม ของทานเล่นและขนม ก็ชมการจัดแต่งร้านที่มีสไตร์ของที่นี่ไปก็เพลินมากๆ
บางครั้งความสวยงาม ก็ อันตราย !!!
(กลัวโคมไฟสวยๆ จะช๊อตนะ)
จุดที่ 8 : ร้านส้มตำจินดา
ร้านนี้น้องพี่คนอุบลฯ บอกว่าต้องไปกินให้ได้อร่อยล้ำ เราไม่รอช้าหลังจากรับเจ๊นุช
และก่อนเดินทางไปยังลุ่มแม่น้ำโขง เพิ่มพลังเข้ากระเพาะทันใด
บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมกินกันได้เยอะ เพราะ เราไม่นับของหวานเป็นอาหารจ้ะ เจ๊อ้วนกล่าว
เจ๊นุช = คุณแม่ มาเอง มื้อนี้ไม่อั้น !!!!
บอกเลยว่าทุกจานอร่อยได้ดั่งใจมาก
จุดที่ 9 : ริมโขง ที่ แลโขง รีสอร์ท
หลังจากนอนที่พักราคาประหยัดมาหลายคืน คืนนี้เจ๊นุช (คุณแม่) มาเอง
บอกว่า มาเที่ยวทั้งทีไม่รู้จะได้มาอีกเมื่อไหร่ นอนให้บายไปต่ะ เดี๋ยวเจ๊จ่ายเอง
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดด เสียงทุกคนเฮลั่น รีบโทรไปเปลี่ยนห้องจากห้องธรรมดาเป็นห้องสวีทติดริมน้ำโขง
แต่จริงๆ ราคาที่พักไม่แพงเลย ในราคาห้องสวีทเพียง 1600 บาท และ ห้องธรรมดาประมาณ 500-600 บาท
แต่บรรยากาศยามอาทิตย์ลานี่เอาไปเลย 1 แสน
จะมาพักผ่อนแบบเงียบๆ ก็ไม่ใช่เจ๊
งานถ่ายภาพ ถ่ายแบบ ถ่ายวีดิโอ ก็มา !!! 55555
ที่นี่นอกจากห้องพักจะสบายมากๆ แล้ว อาหารยังอร่อยด้วย คืนนั้นเลยตั้งวงอาหารพร้อมคุยกันสนุกปาก
ตื่นเช้ามา อาหารเช้าเป็นข้าวต้มอร่อยๆ กับขนมตาลสูตรโบราณให้ลองชิม คือ โอ้โหว หอม หวานมันมากๆ
ยิ่งกว่าถูกล๊อตเตอรี่ที่ได้พบพี่เจ้าของรีสอร์ท ทั้งสวย เก่งและใจดี เจ๊ๆ คุยกันถูกคอ
ขนาดลากลับยังพูดและคิดถึงกันอยู่เลย
จุดที่ 10 : อำลาเมืองอุบลฯ ที่ ร้านอินโดจีน
ห้ามพลาดอาหารเวียดนาม คำสั่งจากเจ๊อ้วน ก่อนออกจากเมืองอุบลฯ จึงต้องตรงไปยังร้านอินโดจีน
ร้านอาหารเวียดนามชื่อดังของเมืองอุบลฯ เราสั่งเกือบจะทุกเมนู
และไม่ผิดหวังกับรสชาติจริงๆ ท้องถูกเติมเต็มจนล้น แต่ระยะทางอีกยาวไกลของทริปนี้
จำเป็นต้องเติมพลังให้เต็มเสียก่อน
อำลาเมืองอุบลฯ พร้อมเต็มอิ่มกับบรรยากาศและอาหาร
ความทรงจำดีๆ ที่ริมโขง
พร้อมเดินทางต่อ บุรีรัมภ์ เมืองแห่งปราสาทโบราณ
รออ่านตอนต่อไปนะครับ ^_^
Hello Phang-Nga
วันพฤหัสที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.54 น.