sa4brem3is0t

ปู๊น.... เสียงหวูดรถไฟดังกึกก้องสถานีชุมแสง พลันนึกย้อนกลับไปว่าตัวเองเคยนั่งรถไฟผ่านสถานีชุมแสงไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ไม่เคยคิดที่จะตีตั๋วมาเที่ยวที่ “ชุมแสง” เลยสักครั้ง เหตุเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรให้น่าค้นหา จึงเลือกที่จะมองข้ามเมืองนี้ไป จนมาถึงวันนี้ ผมมีโอกาสได้มาสัมผัสชุมแสงเป็นครั้งแรก ได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ แอบนึกเสียดายขึ้นมาทันทีที่ได้รู้จักชุมแสงช้าไป

ชุมแสง ถูกขนาบด้วยทางรถไฟและแม่น้ำน่าน ผังเมืองของเมืองเก่าจะมีตรอกซอกซอยที่ตัดจากทางรถไฟไปบรรจบแม่น้ำน่าน ลักษณะคล้ายตาราง

7usuhluk3wry
nc2r6odksnkm

เพียงก้าวเท้าไม่กี่ก้าวจากสถานีรถไฟชุมแสง ผมก็ได้มาอยู่บนทางเดินเล็กๆ ที่ขนาบข้างด้วยบ้านเรือนไม้แบบโบราณ 2 ชั้น โดยชั้นล่างของบ้านแต่ละหลังส่วนใหญ่จะทำเป็นร้านค้า ชั้นบนจะใช้สำหรับพักอาศัย ผมแอบประหลาดใจอยู่บ้าง ถนนที่มีความยาวราว 100 เมตรจะมีร้านขายทองอยู่ถึง 3 ร้าน คุณอำนาจ กรเอี่ยม ปราชญ์ท้องถิ่นชุมแสงเล่าว่า “เดิมถนนสายนี้คือตลาดกลาง จะมีร้านทองร่วม 10 ร้าน อีกทั้งในชุมแสงยังมีการรับซื้อข้าวเพื่อส่งออกไปยังเมืองนอก มีการก่อตั้งธนาคารถึง 2 แห่ง คือธนาคารการเกษตร จำกัด และสาขาของธนาคารมณฑล จำกัด ซึ่งในสมัยนั้นธนาคารมณฑล จำกัด จะก่อตั้งเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ๆ เท่านั้น นั่นแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของเมืองชุมแสงในยุคนั้นได้เป็นอย่างยิ่ง”

kemlwjt9d0cq
kdz6dasmxy4a

ในอดีตถนนทุกสายจากทางรถไฟที่มาบรรจบแม่น้ำน่าน จุดบรรจบนั้นจะเป็นท่าเรือ ปัจจุบันอาจมองไม่เห็นภาพแล้ว แต่ก็ยังพอจะได้กลิ่นอายของการคมนาคมทางน้ำผ่านปั้มน้ำมันที่สร้างขึ้นบนโป๊ะริมแม่น้ำน่านครับ

tdbw5kv6iud1

ชาวชุมแสงมีศูนย์รวมจิตใจอยู่ที่ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง ศาลเก่าแก่คู่ชุมชนที่มีอายุยาวนานกว่า 149 ปี ชาวชุมแสงเชื่อว่าเจ้าพ่อเจ้าแม่เป็นผู้ปกป้องคุ้มครองให้เมืองชุมแสงรอดพ้นจากการถูกไฟไหม้ ศาลเจ้าปัจจุบันเป็นศาลเจ้าใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นแทนที่ศาลเจ้าเดิมซึ่งเป็นไม้สักและได้ชำรุดทรุดโทรมไป ศาลเจ้าใหม่สร้างขึ้นโดยคอนกรีต มีการประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องหลากสีและเขียนลวดลายต่างๆ อย่างสวยสดงดงาม

m4aog07niz9j
tijpls12zqia
wtvwh8mc8k5a
ddt01pwqucf6
0z7bxq2qw5lf
acd0orl1hrz5

ภายในศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง

azx1xwm6d147

เจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง ศูนย์รวมจิตใจชาวชุมแสงมาตั้งแต่อดีต

6a4n88jfamoi

ชุมแสงแกลเลอรี เป็นสถานที่ที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองชุมแสงผ่านภาพถ่ายและภาพเขียนที่เขียนโดยศิลปินหลายท่าน หนึ่งในนั้นคืออาจารย์ศักดิ์สิริ มีสมสืบ ศิลปินแห่งชาติชาวชัยนาท ที่ปัจจุบันมาอาศัยอยู่ที่ชุมแสงกว่า 47 ปีแล้ว ชุมแสงแกลเลอรีบริหารงานและดูแลโดยคุณสลิล พันธ์เลือดไทย ครับ

5455reugvzoe
m4eucriyt8ys
3ysk19fi5u3n

ในชุมแสงแกลเลอรี ยังมีของสะสมของคุณสลิล ที่มีทั้งเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันอย่าง ที่นวดข้าว ผงซักฟอก แก้ว น้ำปลา ของเล่น ของแถมที่ได้จากการซื้อสินค้ามากมาย

7f7o1grs4k8u
k3f5brqi8m5s
apo8gkd471wj
eu31zs3we03q
39nvysz597ix

คุณสลิล สาธิตการนวดข้าวให้ดูด้วยครับ

5exf91yc17ni

นอกจากนี้ ที่ชุมแสงแกลเลอรียังมีกิจกรรมวาดหน้าเอ็งกอหรือเหล่าพี่น้องผู้กล้า จากวรรณกรรมจีน”ซ้องกั๋ง” อีกด้วย โดยน้องสกุลไทย คุ้มนุ่น คนรุ่นใหม่ในชุมแสง เจ้าของร้านสกุลไทย บาร์เบอร์ ซึ่งมีฝีมือการวาดหน้าเอ็งกอ โดยครั้งนี้น้องได้วาดหน้า “หนวดแดง” หนึ่งในผู้นำของ 108 ผู้กล้าที่มีนิสัยดุดัน สีแต่ละสีที่ถูกเขียนลงบนใบหน้าจะสื่อความหมายแตกต่างกันไป เช่น สีขาวคือพื้นหน้า สีดำสื่อถึงหนวดเครารุงรัง สีแดงแทนความดุดัน เพิ่มความแฟนตาซีด้วยสีชมพู สำหรับใครที่อยากชมขบวนเอ็งกอแบบจัดเต็ม เห็นทีจะต้องรอช่วงวันคล้ายวันเกิดของเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง ที่จะจัดขึ้นราวเดือนกุมภาพันธ์ โดยงานจะจัดขึ้นหลังวันตรุษจีน 15 วัน และจะมีการจัดงานใหญ่อีกครั้งในช่วงต้นเดือนธันวาคมของทุกปี

nwr1ituz8we3
7aqslguha070
g9qkuxehsztx

ด้านข้างชุมแสงแกลเลอรี มีภาพ Street Art เพิ่มสีสันให้กับตลาดโบราณชุมแสงด้วยครับ

xf7t87v6zd6u

ถึงแม้ว่าความรุ่งเรืองในอดีตจะจางหายไปบ้าง แต่ปัจจุบันชุมแสงก็ยังคงมีเสน่ห์ มีกลิ่นอายความคลาสสิกให้ได้สัมผัสกันอยู่ อย่างที่โรงพิมพ์สหชัย ป้าตา เจ้าของโรงพิมพ์ สาธิตการเรียงตัวอักษรบนตัวเรียงพิมพ์ให้ผมดูด้วย

64xjt3fhbgyn
tqnb1w8fcs93
vofewnfh37cl

จากนั้นป้าตายังสาธิตการพิมพ์การ์ดโดยเครื่องพิมพ์โบราณด้วย ผมเองเพิ่งจะเคยเห็นอุปกรณ์และกรรมวิธีในการพิมพ์แบบโบราณเป็นครั้งแรกครับ

hnrjc6hcieoz

นอกจากโรงพิมพ์โบราณแล้ว ยังมีร้านศรีสุวรรณโอสถ ร้านขายยาสมุนไพรไทย ที่ยังคงใช้ตาชั่งแบบโบราณอยู่ครับ

21tbt1wpuo5m
ffhtrh9pgk3h

ไม่ไกลจากตลาดโบราณ เป็นที่ตั้งของบ้านศิลปิน ศุภ’กนิษฐ ภายในจัดแสดงพระบรมสาทิสลักษณ์ รวมถึงภาพเขียนบุคคลสำคัญหลายท่าน ภาพทั้งหมดเขียนโดย ดร.ศุภชัย สุวรรณกนิษฐ ครับ

6gcwefxbl3oq
lsqeluneatsu
hfsv2hwvdbfg
6fn2smc0xxo8

ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับอาจารย์ศักดิ์สิริ มีสมสืบ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ.2559 ซึ่งบ้านของท่านอยู่ในตลาดชุมแสง อาจารย์ได้พูดถึงชุมแสงว่า “คนชุมแสงเป็นคนมีน้ำใจ คนที่อื่นๆ ก็เป็นคนมีน้ำใจ แต่ด้วยการที่ชุมแสงเป็นเมืองเล็กๆ ถูกกั้นไว้ด้วยทางรถไฟและแม่น้ำ สิ่งที่โอบล้อมคนชุมแสงไว้ให้มีน้ำใจต่อกันคือทางรถไฟกับแม่น้ำ นับเป็นความสวยงามของชุมชน ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของชุมแสง ชุมแสงไม่ฟู่ฟ่า ไม่ร่ำรวย แต่ว่าบุญเก่าที่สะสมมากว่าร้อยปี ก็กินไม่หมด” ดังนั้นผมจึงไม่แปลกใจเลยที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ผมก็จะได้พบเจอแต่รอยยิ้มและความมีน้ำใจของชาวชุมแสงไปตลอดทาง

euw64tfrd2bb

ที่บ้านของอาจารย์ศักดิ์สิริ ยังมีพื้นที่ให้เด็กๆ ได้มาแสดงฝีมือทางศิลปะกันด้วย ในวันที่ผมไปมีเด็กน้อยมานั่งระบายสีกันหลายคนเลย ใครอยากจะไปพูดคุยกับอาจารย์ สามารถไปได้ที่เรือนศิลป์ (๕)

57lwa31u7w77
okpd21fp3iz9

เดินเที่ยวกันพอหอมปากหอมคอ ต่อไปขอหาอะไรรองท้องบ้างดีกว่า ติดกับเรือนศิลป์ (๕) จะเป็นที่ตั้งของร้านราดหน้าตาโก๊ะ ราดหน้าเตาถ่านในตำนานของตลาดชุมแสง ที่เปิดขายมาตั้งแต่ พ.ศ.2510 เปิดขายกันตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. ถึงแม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ลูกค้าเยอะมาก อาจต้องรอต่อคิวหากมาในช่วงเที่ยงครับ ราดหน้ามีทั้งแบบใส่ไข่ดาว หรือลูกชิ้นปลา อย่างจานนี้เป็นหมี่กรอบธรรมดา ราคา 40 บาทครับ

c12csvppvrih
n90jc9nfjinm

เดินย้อนกลับมาที่ชุมแสงแกลลอรี แล้วเดินเลยไปอีกนิด จะเป็นตลาดโบราณ จุดนี้จะมีป้าย ’ชุมแสง’ ให้ถ่ายรูปเก๋ๆ ด้วย

rmkc5gdt9prm

บริเวณตลาดโบราณตรงนี้ มีร้านหอยทอดแป้งกรอบด้วย จานนี้ 40 บาท น้ำจิ้มมีให้เลือก 2 แบบ คือแบบซอสพริก และแบบน้ำส้มครับ

79isup3vz01c

ล้างปากด้วยไอศกรีมตาลโตนด หวาน หอม อร่อยเลยทีเดียว ได้กลิ่นตาลโตนดอบอวลอยู่ในปาก ถ้วยนี้ 20 บาทครับ

3wm9jyrkj1zp

ฝั่งตรงข้ามกับตลาดเช้าเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงยืนตระหง่านริมแม่น้ำน่าน พระหัตถ์ซ้ายทรงพระแสงดาบ ว่ากันว่าบริเวณนี้เป็นจุดปะทะของพระเจ้าตากสินมหาราชกับกองทัพของพระยาพิษณุโลก เพื่อเป็นที่ระลึกถึงวีรกรรมในการกอบกู้บ้านเมืองของพระองค์ ในการศึกครั้งนั้นพระเจ้าตากสินมหาราชทรงถูกกระสุนปืนเข้าที่พระชงฆ์ (แข้ง) พระโลหิตของวีรกษัตริย์ไทยได้หลั่งลง ณ บริเวณแม่น้ำน่านแห่งนี้ จากอนุสาวรีย์นี้สามารถมองเห็นสะพานหิรัญนฤมิตรด้วยครับ

e59d5f6az4tm

ก่อนกลับขอเดินซึมซับกับบรรยากาศเมืองเก่าอีกสักครั้ง เสน่ห์ของชุมแสงไม่ได้มีเพียงแค่ความคลาสสิกของสถานที่ แต่ยังมีรอยยิ้ม มิตรไมตรีที่ชาวชุมแสงมีให้กับผู้มาเยือนอย่างไม่ขาดสาย

645baoa5pw6h
h6rohxp26e3h
pjpvn7etb2re
x756hc8x5eu6
024m3yf3yfmo

ถึงแม้การเดินเที่ยวในตลาดเก่าชุมแสงจะทำให้ผมเหงื่อไหลไคลย้อย แต่การได้ยินประโยคที่ว่า“ดื่มน้ำบ้านป้าก่อนไหมลูก” เพียงเท่านี้ ก็ทำให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ ลืมความเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ

Kamol Phapoom

ลุงเสื้อเขียว

 วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 22.22 น.

ความคิดเห็น