รอยเปื้อนแค่จุดเล็กๆ บนกางเกงที่ผมใส่อยู่ดูจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับแม่

ที่ต้องการจะขจัดซักถูมันออกซะตอนนี้ ไม่อย่างนั้นคงนอนไม่หลับ!

เอ่อ...แม่ครับ วันนี้พวกเรากำลังรีบ! เพราะหากออกสายเดี๋ยวจะไปไม่ครบตามโปรแกรมที่วางไว้ ไหว้พระ 5 วัด

โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ 'โบสถ์รากไทร' โบสถ์ที่มีรากต้นไทรยึดอยู่ตามผนังจนเกือบจะห่อหุ้มโบสถ์ไปทั้งหลัง

ซึ่งหลายคนคงรู้จักคุ้นตาเป็นอย่างดีกับ “โบสถ์โพธิ์ปรกแห่งวัดบางกุ้ง"

สถานที่ท่องเที่ยวระดับอันซีนอินไทยแลนด์ของจังหวัดสมุทรสงคราม

เปล่าเลย! วันนี้ผมกำลังพาแม่ไปจังหวัดสิงห์บุรี เพราะที่นี่ก็มีโบสถ์โพธิ์ปรกเหมือนกัน!!

เผอิญวันนี้เป็นวันแม่และทุกปีผมจะล็อคช่วงเวลานี้ไว้ให้แม่เสมอ พาไปเที่ยวใกล้บ้างไกลบ้างอยู่ที่แม่เลือก

ผมแค่นำเสนอทริปต่างๆ มาให้พิจารณา เสนอไปนับสิบสรุปสุดท้ายปีนี้แม่แค่อยากไปไหว้พระทำบุญใกล้ๆ

แบบเช้าเย็นกลับก็พอ ผมจึงจัดเต็มให้ตามคำขอ บุญล้นแน่นอนทริปนี้!


ดีที่ออกจากบ้านได้ตรงตามกำหนดเวลาเจ็ดโมงเป๊ะ บอกแม่เรื่องกางเกงกลับมาค่อยว่ากัน

แต่ถึงกระนั้นก็พลาดจนได้เมื่อใช้เวลาที่วัดโพธิ์เก้าต้นตรงค่ายบางระจันมากเกินไป

นี่ปาเข้าไปสิบเอ็ดโมงกว่าเพิ่งจะเสร็จจากวัดแรก! ตามแผนการที่วางไว้ควรเก็บให้ได้อย่างน้อย 2 วัดในช่วงเช้า

ตอนบ่ายจะได้เที่ยวแบบสบายๆ ไม่แน่นจนเกินไป ผมมองนาฬิกาเอานาก่อนเที่ยงน่าจะทันกับวัดที่สอง

แต่กลับต้องชะงักเมื่อแม่ทักว่าหิวแล้ว! แผนจึงถูกเปลี่ยนโดยฉับพลันหันไปหาร้านข้าวกันก่อนเลย!

จากเดิมที่หมายตาร้านไว้แถวอำเภออินทร์บุรีจำต้องเสิร์ชใหม่หาใหม่เลือกร้านดาวเยอะๆ ในตัวเมืองสิงห์บุรีแทน


ดาวเยอะคนก็เยอะตาม หันมาถามแม่จะรอไหม?

ถ้าไม่รอจะได้ไปหาร้านอื่นต่อ เพราะไม่อยากง้อเจ้าของที่ดุอย่างกับเรามาขอข้าวกินฟรี

แถมยังมีกฎระเบียบข้อห้ามอีกมากมาย ห้ามสั่งนอกเมนู ห้ามสั่งหลายรอบ แต่แม่กลับชอบบอกแปลกดี!

รอคิวอยู่นานกว่าจะได้ทาน แม้อาหารอร่อยจริงแต่ลูกค้านั่งกันนิ่งท่ามกลางเสียงบ่นด่าลูกน้องของเฮียแก

กว่าจะทานเสร็จเวลาก็บานปลายไปบ่ายกว่า ไหนจะต้องมารอเรียกเช็คบิลอีก กะลุกเดินไปจ่ายก็ไม่กล้า

เพราะที่นี่มีกฎว่า ห้ามลุกจากโต๊ะไปจ่ายตัง!!


บ่ายสองโมงเศษ รถค่อยๆ แล่นเข้าเขตตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี

วิ่งมาตามทางหลวงชนบทตัดเข้าถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาจนมาถึงบริเวณโค้งน้ำ

ด้านขวามือปรากฏโบสถ์เก่าแก่ที่มีสภาพเหลือเพียงกำแพงอิฐปราศจากหลังคา

จะมีเพียงต้นไทรที่คอยให้ร่มเงาทดแทน แต่ที่แปลกคือต้นไทรดูจะเป็นส่วนหนึ่งของโบสถ์

หรือบางทีโบสถ์อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของต้นไทร เพราะตามผนังโบสถ์มีรากไทรชอนไชยึดพื้นที่ไว้โดยรอบ

คล้ายๆ กับที่วัดบางกุ้งยังไงยังงั้น จะถือว่าเข้าขั้นอันซีนของสิงห์บุรีก็ว่าได้


โบสถ์ต้นไทรเป็นที่มาของชื่อ “วัดไทร" แต่เดิมชาวบ้านเรียกว่า “วัดทะยาน" เพี้ยนมาจากคำว่า “ท้ายย่าน"

เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วถูกทิ้งร้างมานานนับร้อยปี



มี “หลวงพ่อทะยาน" หรือ “หลวงพ่อวัดไทร" เป็นพระประธานที่สมัยก่อนเคยถูกพม่าหลอมเอาทองและถูกลักลอบตัดเศียรไป

ต่อมาชาวบ้านจึงช่วยกันเรี่ยไรเงินมาบูรณะองค์พระแล้วทำเศียรขึ้นมาใหม่



ปัจจุบันชุมชนได้งบประมาณมาปรับแต่งภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงาม

กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสิงห์บุรี


แม่ถามว่าจะกลับหรือยัง? ทำเอาผมรู้สึกผิดหวัง

เหมือนตั้งใจทำอะไรซักอย่างแล้วมันยังไม่สำเร็จ มันไม่เป็นไปตามแผน มันยังมาได้ไม่ถึงครึ่งทาง

เพราะจากห้าวัดกลับมาได้แค่สอง แต่พอมองไปที่แม่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

ผมพยักหน้ารับด้วยความเต็มใจ กลับบ้านกันเถอะแม่!



ตลอดทั้งวันผมมัวแต่ยุ่งมุ่งแต่จุดหมายปลายทางของตัวเองจนลืมไปว่าทริปนี้ผมทำเพื่อใคร

จริงๆ มันบรรลุวัตถุประสงค์ของมันเรียบร้อยไปแล้ว ตั้งแต่ได้เห็นแม่ยิ้มแม่มีความสุข

ความสุขที่ได้มาเปิดหูเปิดตาได้มาสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือการได้มาใช้เวลาไปกับลูก

ชีวิตหลังเกษียรจะมีงานอะไรใหญ่ไปกว่าเรื่องของลูก ทุกอย่างที่เป็นเรื่องเล็กของลูกสำหรับแม่เป็นเรื่องใหญ่เสมอ

เหมือนกับรอยเปื้อนบนกางเกงที่เวลานี้ผมเข้าใจแม่แล้วครับ



คุณล่ะปีนี้พาแม่ไปเที่ยวแล้วหรือยัง?




เส้นทางของไอฟายน้อยสู่วัดไทร

จากกรุงเทพฯใช้ถนนสายเอเชีย (หมายเลข 32) มุ่งหน้ามาทางอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี



ผ่านแยกทางเข้าตัวเมืองสิงห์บุรีไปประมาณ 23 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายย่อยตามป้ายทางเข้าวัดระนาม

ตรงเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร เจอสะพานข้ามคลองชลประทาน

ตรงต่อไปจนสุดทางเจอสามแยกเป็นถนนเลียบแม่น้ำให้เลี้ยวซ้าย

เจอวัดระนามทางซ้ายมือ เลยไปอีก 500 เมตร เห็นโบสถ์วัดไทรตั้งอยู่ทางขวามือ

จอดรถตรงลานข้างโบสถ์ แต่ทางที่ดีอย่าจอดชิดโบสถ์ บังทัศนียภาพในการถ่ายภาพคนอื่นเค้าครับ

รวมระยะทางจากกรุงเทพฯถึงวัดไทร 171 กิโลเมตร




ติดตามผลงานของไอฟายน้อยเรื่องอื่นๆ ได้ที่ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=ifind



I-FINDNOI

 วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.35 น.

ความคิดเห็น