วันนี้อีหล้าพาลุย จะพาไปผจญภัยที่จังหวัดกระบี่ค่ะ....



ทริปนี้อีหล้าได้มีโอกาสร่วมเที่ยวกับคุณหมอฉัตรดาว จางวางกร คุณหมอเฉพาะทางด้านชะลอวัย


นอกจากจะได้เดินทางร่วมทริปแบบใกล้ชิดสนุกสนาน อีหล้ามุ่งมั่นว่าต้องขอเคล็ดลับความสาวความสวย

แบบยั่งยืนกับคุณหมอดาวซะหน่อย ฝันเฟื่องเรื่องความงามอีกแล้วสิเรา...



อีหล้าไปรับคุณหมอดาวและผองเพื่อนที่สนามบินกระบี่ พูดคุยกันพอกรุบกริบ


ท้องก็ร้องสั่งการให้พวกเราตรงไปยังร้านเรือนไม้ ร้านอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของกระบี่

ที่หากใครผ่านไปมาต้องแวะเช็คอินและชิมความอร่อย



บริเวณด้านในร้านใช้ไม้ไผ่ตกแต่งสวยสะดุดตา ดูเก๋ไก๋ไปทุกมุม ที่สำคัญมีต้นไม้น้อยใหญ่


สร้างความร่มรื่นให้ผู้มาชิม สำหรับอาหารขึ้นชื่อจานเด็ดจานดังต้องสั่ง.....



หอย...ค่ะ หอย....หอย.... ชักตีนมาพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด ถ้าไม่สั่งชิมถือว่ามาไม่ถึงกระบี่



ต่อด้วยหมูแป๊ะ หมูสามชั้นผัดจนแห้งคลุกเคล้าด้วยกระเทียมพริกขี้หนูพร้อมทั้งสะตอ


รสชาติเด็ดจนต้องถามหาเจ้าของต้นตำรับ จานนี้สาวๆ เทคะแนนให้หมดหน้าตัก



สำหรับน้ำพริกกุ้งเสียบที่บรรจงใส่ลงในครกน้อย เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงผักพื้นเมือง ดูน่ารักน่าชัง และน่าหม่ำอีกต่างหาก



ส่วนแกงส้มก็เข้มข้นสมคำร่ำลือ ชิมไปซี๊ดไป หร่อยจังฮู้!!! ปลาทอดซีอิ้วก็เนื้อแน่นเต็มคำ


ตามด้วยผักเหมียงกะทิกุ้งสดอีกหนึ่งเมนูที่ต้องลิ้มรสความเป็นอาหารปักษ์ใต้แบบดั้งเดิม

มื้อนี้อีหล้าบอกเลยเจริญอาหารมั๊กๆ



หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน บรรดาสาวๆ ไม่รอช้า ชักชวนกันไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง


“Standing Paddle Board" ท่ามกลางวิวเขาขนาบน้ำสัญลักษณ์อีกแห่งของกระบี่



การเล่น Standing Paddle Board เป็นอีกกิจกรรมที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะคนที่ชอบการทรงตัวบนบอร์ด


ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กระดานโต้คลื่นหรือ surf board ที่แตกต่างก็ตรงเราต้องพายเองโดยใช้เทคนิคที่ครูฝึกสอนให้

งานนี้เราเลือก SUP Krabi tour ค่ะ



พายไปชมวิวทิวทัศน์ไป บางครั้งสาวๆ ก็ล้มบ้างลุกบ้างท่าทางสนุก เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของสาวๆ อีหล้าก็พอใจแล้ว



สนุกกันมาทั้งวันขอไปพักผ่อนกายาที่ Nakamanda Resort & Spa ที่หาดคลองม่วง ห้องพักทุกห้องใหญ่โตหรูหรา


แยกสัดส่วนชัดเจนเหมาะแก่การมาพักผ่อนหรือจะมาเติมพลังความสุขเข้าร่าง ที่นี่ตอบโจทย์นี้ได้เลย

แถมยังติดริมทะเลอีกด้วย ค่ำคืนนี้คงอีกยาวไกล…



เย็นนี้ตกลงกันว่าจะทานมื้อเย็นริมชายทะเล มันต้องเริ่ดแน่ๆ ถ้ามีใครที่รู้ใจมานั่งสบตา ป้อนอาหารยามพระอาทิตย์ตกดิน


ทันใดนั้น....ป้าค่ะ...อาหารเย็นพร้อมแล้วตื่นได้แล้วค่ะ อีหล้ากำลังเคลิ้มๆ ถูกกระชากวิญญาณให้กลับมาสู่ความจริงจนได้...เฮ้อ...เซ็งเลย



ค่ำนี้สาวๆ ทานอาหารทะเลที่นำมาต้มผัดแกงทอดจนอร่อย ไม่ว่าจะเป็น กุ้งซอสมะขามที่รสชาติหวานอมเปรี้ยวเห็นแล้วต้องขอเพิ่ม



หรือจะเป็นผักเหมียงผัดใส่วุ้นเส้นรสชาติกลมกล่อม ผัดฉ่าทะเลรวมที่ยกกุ้ง หอย ปู ปลา มาเสิร์ฟบนจาน ปลาทอดที่กรอบนอกนุ่มใน แถมยังมีผัดพริกแกงสับปะรดใส่ไก่ที่หอมหวานลงตัว



เสร็จจากมื้อค่ำสาวๆ ก็เสพสุขกับธรรมชาติ ด้วยการเดินเล่นริมทะเล นั่งรับลมฟังเสียงคลื่น


ความสุขที่เก็บเกี่ยวได้จากการเดินทางมาพักผ่อน



Day 2



เช้านี้พวกเราและสาวๆ แอคทีฟกันอย่างเต็มที่เพราะเราเลือกไปโลดแล่นกันที่หาดไร่เล ดินแดนแห่งสาวกคนรักการปีนผา



พวกเรารวมตัวเพื่อขึ้นเรือกันที่หาดนพรัตน์ธารา นั่งเรือหางยาวชมวิวเพลินๆ ประมาณ 15 นาทีก็มาถึงหาดไร่เล


ขอบอกไว้ก่อนนะคะ ว่าที่นี่สวยอลังมาก ทั้งภูเขา ท้องทะเลและวิวทิวทัศน์ช่างลงตัว เห็นแล้วบอกเลยว่า อยากมาเป็นชาวเกาะซะจริงๆ



มาถึงไร่เลทั้งทีต้องมาเรียนปีนผาถึงจะเรียกว่าสาวกตัวจริง เริ่มจากการปรึกษากูรูผู้ชำนาญการเรื่องการปีนผา


ที่ Railay Rock Climbing Shop เทรนการปฏิบัติตัวกันจนเป็นที่เข้าใจแล้ว ก็เตรียมอุปกรณ์

แล้วเดินไปยังจุดที่ทางกูรูจะพาไปสอนให้เหล่าสาวๆได้หวาดเสียวกันค่ะ



ทางเดินขึ้นไปยังจุดสตาร์ทปีนผาโหดนิดๆ ฮาหน่อยๆ เพราะพวกเราต้องค่อยๆ เดินขึ้นเขาที่ชันพอดู


เมื่อคืนฝนตกซะชุ่มชื้น ทำเอาทางขึ้นลื่นไถล สาวบางคนล้มลุกคลุกคลาน เรียกเสียงกรี๊ดกราดทั้งเหนื่อยทั้งสนุก

ความสุขเล็กๆ ที่ส่งมอบออกมาทางสายตาและรอยยิ้มมันช่างทำให้วันนี้ดูสดใสเป็นพิเศษ



กว่าจะมาถึงจุดปีนผา ก็เล่นเอาเหนื่อยหอบ พวกเราทั้งไต่บันได ทั้งโหนเชือกขึ้นไป พอมาถึงเท่านั้นแหละ


ทุกคนอุทานพร้อมกันว่า โอ้แม่เจ้า!!! ทำไมถึงสวยสดหยดย้อยขนาดนี้ มองลงไปด้างล่าง เห็นน้ำทะเลสีเขียวคราม

ชายหาดผู้คนตัวเท่ามดเดิน มีเรือหางยาวแล่นไปมา มันคือความสุดยอดของการชมวิวที่ต้องใช้ความมานะอดทนถึงจะเห็นความสวยขนาดนี้



เมื่อมาถึงจุดจุดนี้ สาวๆ ก็ขอหลบมุมตามซอกหินพักหอบพอให้หายเหนื่อยกันก่อนที่จะไปต่อ ยังจุดปีนผา


ที่พีคสุดๆ เพราะทั้งสูง ทั้งชัน เริ่มจากต้องปีนป่ายบันไดไม้ขึ้นไป เพื่อไปเริ่มเรียนการปีนเขาอย่างเป็นทางการ

เสียงอุทานผ่านสายลมมาบอกว่า " แม่เจ้า... ทำไมถึงสูงขนาดนี้เนี๊ยะ จะไหวเปล่าว่ะ"



การปีนผาก็เหมือนกับการวัดใจกับความกล้าและความท้าทายกับจิตใจของตัวเอง ยิ่งปีนสูงยิ่งเห็นความงามที่สวยเว่อร์วัง อลังการ


แตกต่างจากมุมมองด้านล่างอย่างสิ้นเชิง



สำหรับพวกเรา วันนี้เราได้ปีนไปถึงจุดที่เรามุ่งหมาย เผชิญกับความกล้าในจิตใจได้สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างสวยงาม


สาวๆ ถึงกับยิ้มและหัวเราะปนความเหนื่อยล้ากับการผจญภัยบนหน้าผาสูงชัน



เพื่อนๆอยากมาพิชิตหน้าผาแบบพวกเรา ตามมาได้นะคะ กิจกรรมกลางแจ้งที่สนุกและท้าทายแบบนี้อยากให้ทุกคนมาลอง



เหนื่อยและล้ากันมาเต็มที่ก็ได้เวลามื้อเที่ยง เห็นที่ต้องเติมพลังเข้าร่างกันหน่อย พวกเราเลือกร้าน Avartar Railay Resort Krabi


มื้อนี้ขอทานอาหารสไตล์ยุโรป มีวิวป่าโกงกางของฝั่งไร่เลตะวันออกเป็นตัวชูโรง



เรื่องกินอีหล้าพลาดไม่ได้เลยค่ะ เริ่มจากสลัดเป็ดย่าง ตามด้วยซุปเห็ดที่หอมกรุ่น จานหลักเราเป็นแซลมอนสเต็กตบท้ายด้วยไอศครีมมะม่วง



บนโต๊ะอาหาร พวกเราเม้าท์มอยกันแต่เรื่องความสนุกในการปีนผา และชื่นชมความงามของไร่เล


ที่มีความสวยที่แตกต่างทำให้ไร่เลเป็นที่หมายตาต้องใจของนักท่องเที่ยวยิ่งนัก



ช่วงเช้า สาวๆจัดหนัก จัดเต็มกันมาแล้ว ช่วงบ่ายแก่ๆ เราออกจากหาดไร่เล เลยชวนกันไปนวดผ่อนคลายให้สบายตัว


และคลายปวดเมื่อยกันที่บุษกรสปา (Boossabakorn Spa & Beauty)



เมนูสปาที่มาแล้ว ต้องลองและเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ มีชื่อว่า สปา...หอย อย่าเงียบกันสิ เรื่องจริงนะ


เขาเอาหอยมานวดคลึงถูไถไปตามลำตัว เป็นการผ่อนคลายในอีกรูปแบบที่แตกต่าง



สองชั่วโมงครึ่งกับการนวดแบบหอยๆ ท้องก็เริ่มปั่นป่วนทำหน้าที่ได้ไม่บกพร่อง เรียกร้องหาอาหารเย็น


มากระบี่ทั้งทีอีหล้าและสาวๆขอเสาะหาอาหารทะเลอร่อยๆเป็นรางวัลชีวิต เราเลือก ร้านอาหาร Lae Lay Grill Spices Seafood



ที่นี่บรรยากาศดีสุดยอด มองเห็นมุมสูงของหาดนพรัตน์ธาราที่กว้างใหญ่ ชมวิวกันแบบปลื้มปริ่มเป็นที่สุด


ท่ามกลางแสงรำไรของพระอาทิตย์ยามอัสดงกับค็อกเทลรสเริ่ด อะไรจะเก๋กู๊ดขนาดนี้



ส่วนเรื่องอาหารบอกเลยค่ะว่าช่างเลิศเลอสมกับคำว่ามากระบี่ต้องชิมซีฟู๊ด จานแรกที่เสิร์ฟเป็นทะเลรวมที่ยกอาหารทะเลมาไว้ในจาน


อาทิ กุ้งมังกร หอยนิวซีแลนด์ ปลาลวก กุ้ง และปู จานนี้จัดเต็มและแรงมาก



ต่อด้วยเนื้อย่าง และค็อกเทลเบาๆ คืนนี้บอกเลยว่านอกจากจะอิ่มอร่อยแล้วยังดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สุดแสนพิเศษยามค่ำคืน


บอกได้คำเดียวว่า.... ร้านนี้ไม่ควรพลาดค่ะ



ตามไปสนุกกันต่อที่คอมเม้นต์ด่านล่างคะ ^_^อิ่มกันเต็มที่แล้วก็อดไม่ได้ที่จะออกไปเดินเล่นกันต่อแถวถนนคนเดินข้างตลาดโว็ค ที่มีทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์

แม่ค้า แม่ขายจะเริ่มนำของมาขาย ตั้งแต่ 4 โมงเย็น จนถึง 3 ทุ่ม สินค้าส่วนมากจะเป็นอาหาร ขนมขบเคี้ยวอร่อยๆ

และของฝากของที่ระลึกกิ๊บเก๋ยูเรก้า ที่เหล่าคนขายช่างสรรหามาดึงเงินเหล่านักช้อปตัวแม่



ที่นี่ยังมีสิ้นค้าพื้นเมือง อาทิ ผลิตภัณฑ์โอทอป อย่างสร้อยมุก กำไรมุก ผ้ามัดย้อม ผ้าบาติก


ที่เห็นแล้วต้องซื้อกลับมาฝากเพื่อนๆ คนละผืนสองผืนให้ชื่นใจ



นอกจากนี้ยังมีเวทีการแสดง และเป็นเวทีให้บรรดานักช้อปได้ขึ้นมาร้องเพลงร่วมสนุก คุณหมอดาวคนสวยก็ไม่ย่อท้อค่ะ


จัดไปซะหนึ่งเพลง >> ขอเบอร์แลกใจ ไม่ช่ายยยยย .... ขอใจแลกเบอร์โทร เล่นเอาบรรดานักท่องเที่ยวตบมือกันสนั่น

ในความน่ารักของคุณหมอ



เป็นการปิดท้ายความสุขของวันที่ขอบอกว่าสาวๆ ได้เดินชม ชิม ช้อปกันแบบสนุก สุดเหวี่ยงกันเลยทีเดียว



Day 3



เริ่มเช้าวันใหม่อันสดใส สาวกิจกรรมรักการดูแลสุขภาพอย่างพวกเราก็ชวนกันไปวิ่งจ๊อคกิ้ง สูดอากาศบริสุทธิ์

พร้อมทำโยคะรับอรุณกันซักหน่อย

พวกเรามาเติมพลังแห่งความสดชื่นกันที่สวนสาธารณะธารา สวนสุขภาพที่มองไปทางไหนก็มีแต่กลุ่มคนรักสุขภาพ


มาร่วมออกกำลังกาย ทั้งวิ่ง ทั้งเดิน ทั้งปั่นจักรยาน บ้างก็เล่นอุปกรณ์ฟิตเนส ภายในสวนกว้างใหญ่มีตัวไม้หลากหลายชนิด

เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย แถมยังมีวิวแม่น้ำกระบี่ให้พวกเราได้ชื่นชม ออก



มากระบี่ทั้งทีก็ต้องมาถ่ายรูปสัญลักษณ์เมืองกระบี่ ถ้าไม่ได้มาเช็คอินที่นี่ บอกได้คำเดียว มาไม่ถึงเมืองกระบี่แน่นอน



เราเดินมาจนถึงลานปูดำที่มีปูแม่ปูลูกชูก้ามรอนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาถ่ายรูป พร้อมทั้งวิวเขาขนาบน้ำที่มีเขาสองลูกและแม่น้ำขั้นกลาง



และจะให้เริ่ดมากกว่านี้ต้องถ่ายรูปกับทางม้าลายที่มีม้าลายแทนสัญลักษณ์หรือจะเป็นลายเท้าเสือที่ดูเก๋ไก๋ สมแล้วที่เป็นเมืองอาร์ต


ไหนๆมาแล้ว ก็ขอเก๊กท่าถ่ายรูปกับพี่เสือเขี้ยวดาบ 1 ในสัญลักษณ์น่ารักๆ ของกระบี่



เช้านี้ออกกำลังกายเบาๆ กันแล้ว ร่างกายต้องการสารอาหาร เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามคนกระบี่


ชอบทานติ่มซำเป็นอาหารเช้า ว่าแล้ว เราก็ตรงดิ่งไปที่ร้านซิวหม่ายหยกติ่มซำ ที่นี่มีทั้งขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า

ให้เลือกหลากหลายแถมท้ายด้วย โจ๊ก ข้าวต้ม และหมี่หุ้นกระดูกหมู เช้านี้จัดเต็มหนักๆ กันอีกแล้ว



เสร็จจากเรื่องกินเราก็ไปเตรียมตัวเก็บข้าวเก็บของที่โรงแรม วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราต้องตระเวนชิมตระเวนเที่ยวในจังหวัดกระบี่


ออกจากโรงแรมจึงขอแวะนี๊สนึง เราไปร้านดาหลาบาติก ร้านผ้าบาติกที่สวยสุดๆ ในกระบี่ ที่นี่นำผ้าหลากหลายชนิด

ทั้ง ผ้าใหม ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน มามัดย้อมเป็นลวดลาย มีทั้งทันสมัยและลายโบราณ สีสันสวยงาม ถูกใจสาวๆยิ่งนัก



นอกจากจะได้ช้อปผ้าบาติกสวยๆ ติดไม้ติดมือแล้ว ทางร้านยังใจดี สอนวิธีการนุ่งผ้า และพันผ้าอย่างมีสไตล์ ไว้นุ่งชิค..ชิค..คูล คูล..


เป็นอภินันทนาการอีกด้วย



ก่อนกลับเหล่าสาวๆ ขอไปเยี่ยมชม Krabi Boat Lagoon ท่าเรือมารีน่า ของกระบี่ ซึ่งนอกจากจะเป็นที่จอดเรือแล้ว


ยังมี ร้านอาหาร โรงแรม และห้องชุดสำหรับขาย หรือเช่าอีกด้วย นี่ถ้าไม่ติดเรื่องเงินอีหล้ากะซื้อซักห้องสองห้อง

ไว้ทำปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ท่าทางอีหล้าคงร้อนแดดและเหนื่อยมากจนเพ้อได้เป็นเรื่องเป็นราว



สำหรับทริปนี้อีหล้าและคุณหมอดาว รวมทั้งผองเพื่อน ตะลุยเที่ยวกระบี่ 3 วัน 2 คืน ช่างเป็นทริปที่จัดเต็มจัดหนัก


ทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทำให้รู้ซึ้งถึงความเป็นกระบี่ที่มีความหลากหลายในการท่องเที่ยว



ใครชอบสไตล์ไหน กระบี่สามารถตอบสนองคุณได้แทบทุกอย่าง ไหนจะความงามของธรรมชาติ


ที่สวยจนเป็นที่ต้องตาต้องใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว ผู้คนเมืองนี้ทั้งน่ารัก อบอุ่น และยิ้มแย้มแจ่มใส

แถมอาหารยังถูกปากถูกใจ เล่นเอาทริปนี้อีหล้าตัวจะแตกเลยทีเดียว



เที่ยวกระบี่ครั้งนี้อีหล้าตกหลุมรักเข้าเต็มเปา..... กระบี่เมืองนี้มีมนต์เสน่ห์ยิ่งนัก


สักวันอีหล้าและผองเพื่อนจะต้องกลับมาเยือนกระบี่อีกแน่นอนค่ะ



ที่อยู่ :117 หมู่ 3 อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่


เบอร์โทรศัพท์ :089-288-3232

อย่าลืมสั่งหมูแปะนะค่ะ รับรองจะติดใจเหมือนอีหล้า

Elahpalui

 วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 13.11 น.

ความคิดเห็น