... ♪ ยามลมหนาว พัดโบกโบยโชยชื่น ♫ เหล่าสกุณร้องรื่นรมย์ .. หมู่ดอกไม้…ชวนภมรร่อนชม ♪ ช่างสุขสมเพลินตาน่าดูชูใจ...



...เป็นประจำเมื่อฤดูกาลแห่งสายลมหนาวเดินทางมาถึงเสียงบทเพลงพระราชนิพนธ์เพลงนี้ที่ได้ยินได้ฟังตั้งแต่เด็กก็จะดังขึ้นมาอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ ๆ .. ความสุขเมื่อยามร่างกายเราได้รับสัมผัสสายลมหนาวเป็นสิ่งที่ใครหลายคนปรารถนาและอยากอยู่ด้วยนาน ๆ .. เพราะสภาพอากาศบ้านเราทุกวันนี้ร้อนขึ้นทุกวัน ๆ .. ดังนั้นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ลมหนาวพัดผ่านมาเยือน ก็คงไม่แปลกที่เราจะอยากเก็บเกี่ยวไว้ให้นานที่สุด...



...สวัสดีครับเพื่อน ๆ ทุกคนอัลบั้มนี้ผมขอรวบรวมเส้นทางจากสถานที่ต่าง ๆ ที่เคยไปมาในช่วงปลายปีตั้งแต่ราวเดือนพฤศจิกายนถึงประมาณมีนา-เมษา .. จากหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา แม้เส้นทางหลาย ๆ ที่จะเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาเพื่อน ๆ กันอยู่แล้ว แต่ก็ขอนำมาลงไว้สักหน่อย เผื่อใครอาจจะยังไม่เคยไป หรืออาจอยากเก็บไว้ประดับเป็นทางเลือกก็ยินดีครับ...



...ซึ่งจะเป็นภาพจากทางที่ภาคเหนือ และภาคใต้ของบ้านเรา ...อย่างที่บอกไปว่าเป็นภาพจากการเดินทางเก่าบ้าง ใหม่บ้าง.. ทำให้ภาพบางภาพ ณ วันนั้น กับในวันนี้อาจมีบางสิ่งอาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างเล็กน้อย แต่ก็คงไม่หนีกันมาก .. เพราะสถานที่เหล่านี้เป็นสถานที่ทางธรรมชาติส่วนใหญ่ ซึ่งที่ไหนที่พอมีชื่อเสียงอยู่แล้วผมจะขอลงข้อมูลการเดินทางไว้เล็กน้อย แต่ที่ไหนที่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นก็จะลงเยอะหน่อย .. แต่ที่แน่ ๆ แต่ละสถานที่ผมจะกล่าวถึงบรรยากาศโดยรวมของสถานที่นั้น ๆ ให้พอเห็นภาพคร่าว ๆ .. ส่วนที่เหลือก็คือเพื่อน ๆ ต้องเดินทางไปสัมผัสกันให้ได้นะครับ


ป.ล....อัลบั้มนี้มีสถานที่รวบรวมมาไม่ถึง 20 สถานที่.. ส่วนภาพมีเป็น 100 กว่า .. เปิดกระทู้ไปเดินเล่นแล้วค่อยกลับมาดูก็ได้นะครับ



... “ดอยผาตั้ง" จ.เชียงราย ... ดอยผาตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เวียงแก่น อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าประมาณเกือบ 30 กิโลเมตร ..โดยมากแล้วคนส่วนใหญ่จะมาชื่นชมพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอกกัน .. แต่สำหรับผมเย็นวันนั้นหยุดจากหน้าที่คนขับรถให้สาวเจ้าเป็นคนขับ ส่วนตัวผมเก็บภาพระหว่างทางไปเรื่อย .. ในที่สุดก็มาถึงทันเวลาที่ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงพอดี....



...อากาศเย็นสบายเลือกมุมที่อยากถ่ายได้แล้ว ก็ยืนรอเวลาที่ดวงตะวันจะลาลับไปกับผืนฟ้าเบื้องหน้า.. ตื่นเช้ามาขับรถจากที่พักที่ใกล้กันนั้นขึ้นมาด้านบนจอดรถแล้วจึงเดินเท้าต่อขึ้นอีกนิด .. ความสวยงามของทะเลหมอกในวันนั้นยังจดจำได้ดี .. สายลมหนาวส่งท้ายวันเกือบจะสิ้นปี และแสงจากตะวันในวันนั้นทุกอย่างล้วนสวยงาม .. แม้จะเป็นเพียงครั้งเดียวที่เคยได้มาแต่ก็ประทับใจมากมาย...



... “วนอุทยานภูลังกา, ภูนม" จ.พะเยา .. จากดอยผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ขับรถเลาะลงมาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1155 เข้าสู่เส้น 1021 และมุ่งหน้าเส้นทางหลวงหมายเลข 1148 เส้นที่จะพาเราไปยัง “วนอุทยานภูลังกา" ... เส้นทางขับรถมาสบาย ๆ ค่อย ๆ ขับ .. แวะกินข้าว แวะพักถ่ายรูปเล่นระหว่างสองข้างทาง ขับมาเรื่อย ๆ จนเข้าพื้นที่ จ.พะเยา ... จนถึงวนอุทยานภูลังกา จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ แวะกางเต๊นท์นอนสักคืน (ที่นี่น่าจะยังไม่มีบ้านพัก แต่มีเต๊นท์ให้เช่าจากทางวนอุทยาน) ..เก็บแรงไว้แล้วตื่นแต่เช้าเช่ารถจากเจ้าหน้าที่ขึ้นสู่ยอดสูงสุดจุดชมวิวยอดภูลังกา ... ตามภาพแรกของความเห็นนี้จะเห็นยอดภูลังกา ส่วนจุดที่ยืนอยู่คือภูนม...



...เมื่อรถถึงด้านบนจำเป็นจะต้องเดินเท้าต่ออีกสักเล็กน้อย โดยเป็นเนินแยกซ้ายขึ้นยอดภูลังกา และแยกขวายอดภูนม ... ซึ่งในภาพนี้เป็นบริเวณยอดภูนม ... ชื่ออาจฟังดูน่ารัก น่าถนอม ส่วนทัศนียภาพนั้นก็สวยงามไม่แพ้ชื่อ .. ยามเช้าตรู่นั่งรถขึ้นมาแล้วเดินขึ้นต่ออีกนิดเบา ๆ ยืนสัมผัสสายลมหนาว และเฝ้ามองจังหวะหมอกไหลผ่านหน้าไปแบบใกล้ ๆ ... เป็นความสุขที่ได้ยืนอยู่บนพื้นที่เล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ...



... “จุดชมวิวภูลังการีสอร์ท" จากวนอุทยานภูลังกาขับรถตรงต่อมาตามทางอีกไม่ถึง 1 ชั่วโมง ..ก็จะพบกับภูลังการีสอร์ท ที่ที่หลายคนเรียกกันว่าที่พักหลักร้อยแต่วิวนั้นหลักแสน...



...จากจุดชมวิวหน้าห้องพักเราสามารถมองเห็นเบื้องล่างที่มีเขาหินปูนโดดเด่นตั้งตระหง่าน และท้องทุ่งนาด้านล่างที่เป็นทัศนียภาพสวยงามยามเมื่อเรามองจากด้านบนลงไป ... ทะเลหมอกที่นี่หากมาช่วงเวลาดีดีปลายฝนก็อาจจะมีให้เห็นบ้าง แต่ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวอย่างเดือนธันวาคมยังไงเสียก็ได้เจอแน่นอน.. กับภาพของทะเลหมอกที่พัดผ่านอยู่เบื้องล่าง หามุมถ่ายภาพกันให้พอใจเสพสุขในยามเช้ากันให้เต็มที่....



...ช่วงสายหน่อย หรือว่าจะย้ายไปช่วงบ่ายช่วงเย็นการขับรถลงไปเดินเล่นที่ด้านล่างเส้นทางถนนสวยงาม ก็ยังมีอะไรให้เดินถ่ายภาพได้อีกเยอะ



...การเฝ้ารอจังหวะของแสงนั้นไม่ต่างกับการวัดดวง หรือรอลุ้นว่าในแต่ละวันธรรมชาติจะมอบอะไรให้กับเราบ้าง .. โชคดีก็ได้รับ หากไม่ได้มาก็ต้องหาสิ่งอื่นทดแทน แต่จะอย่างไรก็ตามความสุขของการเดินทางคือการได้ออกมาพักผ่อน เก็บเกี่ยวบรรยากาศความสุขกับเพื่อนกับครอบครัว ... มีภาพสวย ๆ มีความทรงจำดีดีกลับไปก็ถือว่าคุ้มเพียงพอแล้ว...



... “ดอยเสมอดาว" อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จ.น่าน... จากภูลังกา จ.พะเยา .. ขับเข้าสู่ อ.เมือง จ.น่าน และมองหาป้ายอุทยานแห่งชาติศรีน่านขับมาตามเส้นทาง .. ช่วงวันสิ้นปีเทศกาลแบบนี้ไม่ต้องบอกว่าปริมาณนักท่องเที่ยวเยอะขนาดไหน ลานกางเต๊นท์จำนวนมากถูกกางไว้รองรับนักท่องเที่ยวมากมาย .. และผมคือหนึ่งในนั้น...



...จำนวนของคนที่มากมายวุ่นวายตามแบบฉบับช่วงเทศกาล เมื่อเลี่ยงวันเดินทางไม่ได้จะยังไงก็ต้องมา ... แต่ธรรมชาติไม่ได้สนใจ หรือรับรู้ต่อจำนวนของนักท่องเที่ยวความสวยงามที่เป็นอยู่ตลอดช่วงระยะเวลาหน้าหนาวยังคงสร้างความสวยงามให้กับผู้มาเยือนได้เสมอ ..



...ยามเย็นเรานั่งรับลมอยู่บนเนินหญ้าเฝ้ามองเด็กวิ่งเล่นไปมา ผู้คนมากมายถ่ายรูปเล่นกัน .. ยามเช้าก็ตื่นมาเฝ้ามองรอชมแสงแรกแห่งวัน .. สีสันและบรรยากาศเสียงผู้คนร้องดีใจยามที่ดวงตะวันโผล่พ้นเหนือม่านหมอกเป็นอีกหนึ่งความสุขใจของคนเดินทางทุกคน.. รวมผมไปอีกหนึ่ง ...



... “ขุนวาง" ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ขุนวาง ...ข้ามฟากเข็มนาฬิกาจากเลข 3 มายังเลข 9 ตามแป้นนาฬิกาที่บ้านขุนวาง ซึ่งมีพื้นที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับดอยอินทนนท์ .. เริ่มเส้นทางจากด้านล่างดอยอินทนนท์ขับขึ้นมาตามเส้นทางผ่านน้ำตกวชิรธาร จนถึง ก.ม.ที่ 31 เส้นทางจะเป็นถนนลาดยางไปอีกเกือบ 20 ก.ม. อาจมีขรุขระบ้างเล็กน้อย แต่รถเก๋งก็สามารถไปได้สบายขับไปตามทางก็จะพบกับศูนย์วิจัยเกษตรขุนวาง...



...ที่ขุนวางนั้นมีบ้านพักให้บริการ แต่ช่วงเทศกาลอาจเต็มง่าย ๆ ... แต่ทางโครงการก็มีเต๊นท์ไว้ให้นักท่องเที่ยวบริการ ... พื้นที่ในโครงการนั้นมีลานดอกไม้ประดับตกแต่งไว้สวยงามให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเล่น รวมไปถึงไฮไลท์ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ก็คือ “ดอกพญาเสือโคร่ง" ... เช็คช่วงเวลาให้ดีแล้วจะได้พบกับดงดอกพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยงามตลอดแนวถนนภายในโครงการ



...ป.ล. เพิ่มเติมเล็กน้อยก่อนจะถึงสถานีเกษตรขุนวางยังมีศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ให้แวะชื่นชมความสวยงามกันอีกด้วยนะครับ...



... “แม่จอนหลวง" บนพื้นที่เดียวกันกับศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ขุนวาง ที่ด้านหน้าทางเข้าจะมีถนนเล็ก ๆ แยกไปสู่ “ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่แม่จอนหลวง" เส้นทางประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางช่วงต้น ๆ ส่วนหลังจากนั้นจะเป็นทางชันบ้าง ขรุขระบ้าง ไม่แนะนำสำหรับรถเก๋งนะครับ (ผมเดินทางไปที่นี่ล่าสุดเมื่อปลายธันวาคมปี 2556 ที่ผ่านมา พนักงานขุนวางบอกไปได้ แต่ผมขับเข้าไปได้ครึ่งทางก็ต้องวกออก .. รถพังแน่ครับ) ใครที่เดินทางไปควรเช็คอีกที ...



...แต่ในภาพนี้เป็นภาพก่อนปี 2556 ที่ผมไปกับรถ Ford Everest ก็ลุยฝ่าไปได้ครับ ... แต่คนขับก็ควรมีประสบการณ์ และเอารถอยู่เพื่อความปลอดภัย... แต่เมื่อไปถึงที่หมายความสวยงามก็จะรอเราอยู่ทั้งบริเวณต่าง ๆ ยิ่งในช่วงที่มีดอกพญาเสือโคร่งบานเต็มต้นด้วยแล้ว .. บอกได้คำเดียวว่าสวยงามมาก...



... “ยอดดอยอินทนนท์" จ.เชียงใหม่ .. ไม่ต้องมีคำบรรยายอะไรใด ๆ กับสถานที่ยอดนิยมอย่างดอยอินทนนท์ให้มากมาย .. ชื่อเสียงและความนิยมที่ต้อนรับผู้คนมาเนิ่นนาน ทำให้ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใครหลายต่อหลายคนอยากเดินทางมาเสมอ ...



...ช่วงเทศกาลที่ดอยอินทนนท์จะคราคร่ำไปด้วยบรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ การขับรถขึ้นมาหากเป็นเกียร์ออโต้ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ แต่หากเป็นเกียร์ธรรมดาอาจต้องระวังมากขึ้น .. หากยิ่งช่วงรถยาวติดต่อกัน การประคองให้อยู่บนเนินชัน ๆ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ...รวมไปถึงการหาที่จอดรถด้านบนที่มีจำนวนจำกัดอาจเป็นไปด้วยความยากลำบาก แม้จะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลืออยู่แต่ก็ควรมีน้ำใจแบ่งให้แก่กันนะครับ.. วันเดินทางจะได้มีแต่ความสุขกัน



... “ห้วยน้ำดัง" ... อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่ ... จาก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขับเข้าสู่ อ.แม่ริม อ.แม่แตง แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางเส้นทางมุ่งหน้าสู่ จ.แม่ฮ่องสอน อ.ปาย ... ห้วยน้ำดังจะอยู่ระหว่างเส้นทางนั้น...



...ชื่อเสียงและความนิยมของห้วยน้ำดังในช่วงฤดูหนาวยังคงเป็นที่ต้อนรับของบรรดานักท่องเที่ยวอยู่เสมอมา .. ภาพของทะเลหมอกยามเช้ากับลานจุดชมวิวกว้าง ๆ .. ภายในมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ครบพร้อม ...



...ยามเย็นหากวันไหนอากาศเย็นได้ที่ก็อาจได้พบกับทะเลหมอกที่วางตัวสลับซับซ้อนกันไปตามแนวเขาเช่นเดียวกับยามเช้าที่จุดชมวิวด้านพระอาทิตย์ขึ้นที่แสงตะวันจะค่อย ๆ บรรจงฉายแสงแรกของวันออกมาทีละน้อย โดยมีทะเลหมอกสีขาวผืนใหญ่อยู่เบื้องหน้า... ภาพที่สวยงามจากห้วยน้ำดังเหล่านี้ยังคงเป็นที่ปรารถนาของใครอีกหลายคน...



...แม้จะเช่นกันเหมือนกับทุกที่ตามสถานที่ยอดนิยมในช่วงหน้าหนาวบ้านเราที่คนจะเยอะเป็นพิเศษ แต่อย่างไรแล้วไม่ว่าคนจะเยอะน้อยแค่ไหน หรือจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ห้วยน้ำดังก็ยังเป็นภาพที่สวยงามอยู่เสมอมา....



... “โครงการหลวงป่าสนบ้านวัดจันทร์" ... อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ... เริ่มต้นจากห้วยน้ำดังขับตามเส้นทางขึ้นเขาลงเขามาเรื่อย ๆ จนถึงสามแยก จะมีแยกซ้ายเพื่อเลี้ยวไปสู่บ้านวัดจันทร์ .. แต่ถ้าตรงไปก็จะออกสู่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ... ใครมีเวลา หรืออยากสัมผัสความเงียบสงบผมแนะนำให้ลองเลี้ยวซ้ายมาทางนี้ครับ



...จากปากทางสามแยกถนนสายหลักขับเข้ามาอีกราว 40 ก.ม. เส้นทางลาดยาง มีหลุมมีบ่อ มีขรุขระบ้าง .. แต่รถเก๋งก็ยังสามารถมาได้สบาย ทางชั้นคดเคี้ยวเป็นบางช่วง โค้งหักศอกก็มีบ้าง แต่ค่อย ๆ มาไม่ประมาทก็ถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย...



...ความเงียบสงบ ความอุดมสมบูรณ์ และด้วยความไม่พลุกพล่านนี่เองทำให้ผมกลับมาที่นี่ครั้งแล้วครั้งเล่า.. แม้ตัวผมจะอยู่กรุงเทพฯ แต่ในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาผมมาที่นี่ด้วยกันทั้งหมด 5 ครั้ง .. และจะยังคงมีครั้งต่อไป ..



...ภาพของผืนป่าสนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รับประกันความเต็มเปี่ยมด้านธรรมชาติได้เป็นอย่างดี แม้ที่นี่จะเงียบไปสักหน่อยหากเทียบกับสถานที่หลายแห่งที่กล่าวมา แต่เชื่อเถอะครับว่านี่คือเสน่ห์แห่งบ้านวัดจันทร์...



...ใจจริงอยากเปิดอัลบั้มสักกระทู้บรรยายเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ แต่ไว้เป็นอัลบั้มหน้าแล้วกัน.. ส่วนอัลบั้มนี้เอาว่าชมกันคร่าว ๆ ไปก่อนว่าบ้านวัดจันทร์นั้นมีอะไรน่าสนใจบ้าง...



...อ่างเก็บน้ำ บึงน้ำขนาดย่อม ๆ ภายในบริเวณ.. ยามที่ผืนน้ำนิ่งสนิทเราจะเห็นเงาของต้นสนตีภาพหงายกลับสะท้อนน้ำให้เห็นได้ถึงท้องฟ้าด้านบนที่มาอยู่บนผืนน้ำ .. ปาดด้วยระลอกน้ำเบา ๆ ยามเมื่อสายลมพัดผ่าน ความสุขที่ได้เฝ้ามองธรรมชาติแบบนี้ หาได้ยากเต็มทีกับทุกวันนี้...



...เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือดังขึ้นแต่เช้าตรู่ ไม่ว่ามากี่ครั้งก็ไม่รีรอโอ้เอ้ที่จะลุกขึ้นมาเลยสักครั้ง .. มีบ้างที่ตื่นมายืนริมอ่างเก็บน้ำแล้วไม่มีไอหมอก ไม่มีแสงจากดวงตะวันยามเช้าให้เห็น .. แต่จาก 4 ใน 5 ครั้ง ผมได้พบกับความเต็มอิ่มของธรรมชาติยามเช้าอยู่จนเป็นภาพติดตา



...แสงจากดวงตะวันที่พุ่งขึ้นเหนือแนวป่าเบื้องหน้าอยู่ไกลเป็นลำดับสุดท้าย ปล่อยให้สิ่งที่ใกล้ตัวเราที่สุดคือเหล่าไอหมอกที่พัดผ่านเคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ เหนือผืนน้ำ .. เร็วบ้าง ช้าบ้าง หยุดนิ่งบ้างตามจังหวะพัดของกระแสลม...



...นอกเหนือไปจากทัศนียภาพของม่านหมอกเหนือผืนน้ำแล้ว ยังมีลานต้นเมเปิ้ลใบสีส้ม สีแดงให้ได้ประทับใจเพิ่มเติม ... แม้จะมีเพียงไม่กี่ต้น แต่พื้นที่เล็ก ๆ ตรงนี้ก็เป็นมุมที่สวยงามสำหรับผู้มาเยือนแทบทุกราย...



...สีส้ม สีแดง จากใบเมเปิ้ลทั้งจากยามเช้าและยามเย็นวาดระบายให้พื้นที่โครงการหลวงป่าสนบ้านวัดจันทร์มีสีสันขึ้นมามากมาย...



... ก่อนจะปิดท้ายด้วยนางเอกแห่งป่าสนบ้านวัดจันทร์อย่าง “ดอกพญาเสือโคร่ง" ... แม้จะไม่มีมากมายเป็นซุ้มถนน หรือเป็นลานกว้างเหมือนกับที่อื่น .. แต่เชื่อเถอะครับว่าสวยงามไม่ต่างกัน ...



...ยามเช้ารับไอหมอกเหนือผืนน้ำ สายหน่อยก็ได้ยินเสียงเหล่านกอพยพร้องทักทายกันไปมา .. จิบน้ำหวานจากเกสรที่เราเอื้อมไม่ถึง ถึงเวลาหน้าหนาวก็บินมาเมืองไทย ก่อนจะอพยพบินกลับไปสู่บ้านเกิด แล้วก็วนกลับมาอีกปีแล้วปีเล่า ...แค่สถานที่นี้สถานที่เดียวใช้ไปประมาณ 6 ความเห็น ... หากมีเวลาคงได้มาสาธยายฉบับเต็มกันนะครับ



...จากสายลมหนาว ขุนเขา ทะเลหมอกในตอนเหนือของบ้านเรา .. สลัดปีกบินลงมายังภาคใต้ความสวยงามของท้องทะเลแห่งฝั่งอันดามันก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสดใสไม่แพ้กัน .. จะเลือกลมหนาว หรือลมทะเล .. สุดแท้แต่หัวใจใครเลยครับ



... “เกาะพยาม" .. จ.ระนอง .. เราเริ่มต้นกันที่ จ.ระนอง สถานที่ที่อยู่บนสุดของทางภาคใต้จากอัลบั้มนี้กัน... เกาะที่เงียบ ๆ ไม่มีความเจริญ วุ่นวายอะไรมากมายนัก .. แม้ในคืนวันสิ้นปีที่ผมเคยได้มา ก็เป็นวันสบายได้ง่าย ๆ .. ผู้คนไม่เยอะ แม้หาดทรายจะไม่ขาวเท่ากับทางอันดามันตอนใต้ แต่ความเงียบสงบ และบรรยากาศนี่แหละครับที่ทำให้เราอาจหลงรักเกาะพยามเข้าโดยที่ไม่รู้ตัว...



...เกาะพยามเป็นเกาะเล็ก ๆ การเดินทางบนเกาะมีได้เพียงมอเตอร์ไซด์เช่าขับ หรือมีแรงหน่อยก็จักรยาน .. ขับผ่านแนวสวนมะม่วงหิมพานต์ หาทางเล็ก ๆ ก็ขับออกสู่หาดต่าง ๆ อ่าวต่าง ๆ ได้โดยง่าย .. ตามเส้นทางถนนบางช่วงอาจต้องระวังกันสักหน่อยตามสภาพพื้นที่ที่เป็นเกาะก็จะมีเนินเล็กเนินน้อยบ้าง..



...สำหรับใครที่สนใจจะเดินทางไปเกาะพยาม เริ่มต้นลงเรือจากท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ โดยจะมีเรือ 2 แบบ ซึ่งต่างราคากันคือเรือธรรมดาเวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และสปีดโบ๊ตประมาณราวครึ่งชั่วโมง .. ส่วนรอบ และเวลาออกก็จะมีตารางเวลาตามแต่ละรอบ .. ใครที่สนใจจะไปต้องหาข้อมูลให้เรียบร้อยเพื่อความแน่นอนก็ดีครับ



... “เกาะตาชัย" จ.พังงา ... เส้นทางต่อไปจากเกาะพยาม จ.ระนองเราลงใต้ลงมาที่จังหวัดติดกันที่พังงา .. กับเกาะยอดฮิตที่ช่วงหลังมาเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ .. เกาะตาชัยนั้นมีพื้นที่ตั้งอยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน .. จะว่าไปแล้วความสวยงามของเกาะตาชัยไม่ได้อยู่ที่ขนาดพื้นที่อันหลากหลาย หรือโลกใต้น้ำที่อาจยังเป็นรองหากเทียบกับหมู่เกาะตะรุเตา สิมิลัน หรือหมู่เกาะสุรินทร์..



...แต่เสน่ห์ของเกาะตาชัยอยู่ทีผืนหาดทรายสีขาวทอดตัวยาวมีโค้งมีเว้าให้คลื่นซัดเข้าหาฝั่งแลดูสวยงาม บวกกับน้ำทะเลสีฟ้าใสราวกระจก .. ในวันที่ท้องฟ้าสดใส แสงแดดเป็นใจ ยืนอยู่ที่เกาะตาชัยเราจะรู้สึกได้ทันทีว่าทะเลไทยไม่แพ้ที่ไหนในโลกจริง ๆ ...



... “เกาะภูเก็ต" ผ่านพ้นไปกับสองเกาะที่เป็นทะเลล้วน ๆ วกกลับเข้าสู่ความหลากหลายของจังหวัดที่ว่ากันว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของประเทศเราเลยก็ว่าได้กับเกาะภูเก็ต ... ชื่อเสียงประวัติทางการค้า เชื้อสายต่าง ๆ และวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมาทำให้ภูเก็ตยังคงมีเสน่ห์อยู่ไม่เลือนหาย รวมทั้งชายหาดและเกาะที่อยู่รายล้อม ... แม้ปัจจุบันจะมากมายด้วยรีสอร์ท และโรงแรมที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด แต่ภูเก็ตก็ยังคงเป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายคนไม่เว้นทั้งไทยหรือเทศ



...เมืองเก่าภูเก็ต หรือที่เราได้ยินคุ้นหูอีกชื่อ ชิโน-โปรตุกีส ... หากได้มาเที่ยวภูเก็ตแล้วเชื่อเหลือเกินว่าแทบจะทั้งหมดก็อยากมาลองสัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าบริเวณนี้บ้างสักวัน หรือสักช่วงเวลาหนึ่ง ... และอีกสถานที่ที่ยังคงได้รับความนิยมเสมอมา โดยเฉพาะกับชาวต่างชาติคงหนีไม่พ้น “จุดชมวิวแหลมพรหมเทพ" .. ที่เป็นสัญลักษณ์ยามตะวันตกดินของภูเก็ตเสมอมา...



... “ทะเลกระบี่" จากเกาะภูเก็ตเรามาต่อกันที่จังหวัดใกล้เคียงที่มีดีไม่แพ้กันกับทะเลกระบี่ ... ชื่อเสียงของกระบี่มีมาช้านานด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติที่มีอยู่มากมายทั้งเกาะจำนวนมาก ถ้ำต่าง ๆ น้ำตกร้อน และอื่น ๆ และทรัพยากรทางธรรมชาติของกระบี่ก็ยังถือว่าเต็มเปี่ยมด้วย.. ทำให้กระบี่นั้นมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทั้งเที่ยวทะเล เที่ยวถ้ำ ชมน้ำตก หรือจะศึกษาเส้นทางธรรมชาติก็มีเช่นกัน..



...จังหวัดกระบี่นั้นมีทะเลที่มีชื่อเสียงด้วยกันอยู่มากมายตัวอย่างเช่น ทะเลแหวก หาดไร่เลย์ เกาะรอก เกาะพีพี และอื่น ๆ ... มนต์เสน่ห์ของทะเลกระบี่นั้นก็อยู่ที่ผืนทะเลสีเขียวมรกตดูสบายตา เรียกว่าได้โทนสีที่ต่างไปจากทะเลภูเก็ตที่อยู่ใกล้กัน ....



... “เกาะลันตา"จ.กระบี่ .. ยังคงอยู่ที่กระบี่เหมือนเดิมแต่เราเดินทางเยื้องลงทางใต้มาอีกนิดสู่เกาะลันตา .. พื้นที่เกาะลันตานั้นแบ่งเป็นเกาะลันตาน้อย และเกาะลันตาใหญ่ .. โดยมากนักท่องเที่ยวก็จะเดินทางมาเที่ยวกันที่เกาะลันตาใหญ่แทบทั้งนั้น ... เกาะลันตาเป็นอีกหนึ่งความสวยงามของทะเลกระบี่ และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่น้อยเลือกเดินทางมาที่เกาะลันตาด้วยเหตุผลที่ว่ายังต้องการความเงียบสงบอยู่บ้าง...



...สัญลักษณ์ของเกาะลันตานั้นอยู่ที่ปลายสุดของเกาะบริเวณแหลมโตนดซึ่งเป็นที่ทำการ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา" .. ภาพของประภาคารสีขาวโดดเด่นอยู่ปลายยอดเนินเขาเล็ก ๆ ตั้งท้าทายลมแดดลมฝน และต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากอยู่ทุก ๆ ปี ยังคงเป็นภาพที่สวยงามเสมอ ...หาดหินที่อยู่ด้านหน้าก็งดงามแปลกตา หากใครที่มาเกาะลันตาแล้วไม่ควรพลาดที่จะมาถึงแหลมโตนดเพื่อถ่ายภาพประภาคารนี้ด้วยประการทั้งปวง



...เกาะลันตามีทั้งบริเวณร้านอาหารตั้งแต่เริ่มท่าเรือของเกาะจากด้านบนสุดของเกาะ ไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายปลายเกาะก็จะเริ่มเบาบางความคึกคักลงไปตามลำดับ ...



...ภาพของสีสันยามตะวันใกล้ลับลาฟ้าไปที่เกาะลันตานั้นงดงามแตกต่างกันไป ตามแต่ละวันที่เคยผ่านมา .. ผมได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะนี้นานด้วยกันถึง 2 เดือนเต็ม ๆ .. ขนาดว่าอยู่นานขนาดนั้นหลายครั้งที่นึกขึ้นมาก็อยากเปิดประตูวิเศษไปโผล่ที่หน้าหาดหินแถวประภาคารนั้นอยู่เรื่อยไป...



... “หมู่เกาะตะรุเตา" จ.สตูล .. และแล้วก็มาถึงสถานที่สุดท้ายของอัลบั้มนี้ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา" .. ความงดงาม ความอุดมสมบูรณ์ของหาดทราย และโลกใต้น้ำของทะเลที่นี่คงไม่ต้องพูดยาวให้เสียเวลา .. หมู่ปลาจำนวนมากมายหลากหลายพันธุ์ แนวปะการังสีสันที่สวยงามอย่างร่องน้ำจาบัง ชายหาดที่นิ่มราวกับใครเอาแป้งเด็กมาโรยไว้อย่างหน้าหาดเกาะหลีเป๊ะ หรือความสวยงามของเกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหินงาม เกาะไข่ .. และเกาะอื่น ๆ .. สำหรับผมแล้วเคยเดินทางไปที่หมู่เกาะตะรุเตาด้วยกัน 3 ครั้ง และยังหวังเสมอที่จะกลับไปอีกเป็นครั้งที่ 3 ที่ 4 ...



...น้ำทะเลใส ๆ ทรายขาว ๆ ใต้ร่มเงาไม้ .. นั่งนิ่ง ๆ แช่น้ำ หรือจะเดินหามุมสวย ๆ เก็บภาพ .. ล้วนคือความสุขด้วยกันทั้งสิ้น...



...ท้องฟ้าที่สดใส ลมพัดเย็น ยืนอยู่บนผืนทรายในวันพักผ่อน สิ่งที่ได้รับไม่ใช่เพียงแค่ความสุข ความประทับใจ .. แต่เป็นการเฝ้ามองและเข้าใจว่าธรรมชาติคงต้องเปลี่ยนแปลงไป ไม่ช้าก็เร็ว ... เพียงแต่อย่างน้อยในวันนี้เราก็ได้มาเห็นสิ่งที่สวยงาม



...ปิดท้ายอัลบั้มนี้ด้วยภาพระหว่างเส้นทางการเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ จากหลาย ๆ ที่ฝากทิ้งไว้สัก 5-6 ใบส่งท้าย...



...การเดินทางที่สวยงามไม่ได้มีเพียงแค่ถึงสถานที่ที่เราอยากไป แต่ระหว่างทางนั้นล้วนมีอะไรให้เราหา ให้เราเห็นเราเจอ .. อยู่ที่เราจะขับผ่านเลยไป หรือให้เวลากับมัน ... การช่วยกันดูแลรักษาสถานที่ที่เราเดินทางไปนั้นมีค่ามากมาย มากพอกับที่เราจะต้องระมัดระวังในเรื่องการเดินทาง อุบัติเหตุ ความไม่ประมาทจะพาเราสู่จุดหมายปลายทาง และเดินทางกลับด้วยรอยยิ้ม ...



...ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนนะครับที่ติดตามชมภาพอัลบั้มนี้กันตั้งแต่ภาพแรกจนถึงภาพสุดท้าย .. ขอบคุณที่อ่านข้อความที่บรรยายลงไป.. ขอให้การเดินทางที่จะเกิดขึ้นของทุกคนจงเป็นเส้นทางที่สวยงาม เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความประทับใจ และเดินทางโดยสวัสดิภาพทุกคนครับ...


…เรื่อง/ภาพ : Forzanu



...ขอฝากไว้อีกช่องทางเผื่อเพื่อน ๆ คนไหนอยากติดตามผลงานภาพถ่ายต่าง ๆ หรือทักทายแนะนำพูดคุยที่ด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ ^^

https://www.facebook.com/Forzanufoto



Forzanu

 วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 12.04 น.

ความคิดเห็น