...แดดร้อนแดดแรงเหลือเกินสำหรับปีใหม่ปีนี้ ยิ่งอยู่ในเมืองกรุงด้วยแล้วอยากจะขอยืมอุณหภูมิจากทางยุโรป หรือจากภาคเหนือบ้านเรามาสัก 2-3 องศา เพื่อทุเลาความร้อนลงหน่อย... และด้วยความร้อนนี่เองที่ทำให้สมาชิกในครอบครัวเริ่มสะกิด และจ้องมองหน้ากันเหมือนต่างคนต่างรู้ว่าอยากหาที่ไหนสักที่ในการพักผ่อน หนีไปเจอแดดเจอลมไกล ๆ ยังดีกว่าทนแดดทนร้อนอยู่ในบ้าน...



...สารพัดสถานที่ค่อย ๆ ถูกระดมความคิดขึ้นมาจนท้ายสุดก็มาลงเอยกันที่ “หัวหิน"...



...ขั้นตอนต่อไปคือการหาที่พักที่ไหนสักแห่งให้เพียงพอต่อจำนวนคน 8 คน ภายใต้ข้อแม้ต้องอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน หรือไม่ก็ต้องเป็นห้องเดียวกัน.. ค้นหาข้อมูลไปเรื่อยจนในที่สุดก็เจอที่ที่สามารถตอบโจทย์เราได้ตามต้องการ.. “มาราเกซ หัวหิน เรสซิเด้นท์"...



...(ภาพประกอบ : เป็นมุมสวย ๆ ที่เดินเข้ามาผ่านล๊อบบี้ .. ลักษณะพื้นที่เป็นตัว U รูปเกือกม้า ฝั่งซ้ายคือโรงแรม ฝั่งขวาคอนโด มีสระน้ำขนาดยาวสุด ๆ อยู่ระหว่างกลาง)



...เริ่มต้นการเดินทางจากกรุงเทพฯ ขับมุ่งหน้าสู่ชะอำ จนถึงสวนสนุกซานโตรินี่ก่อนจะเข้าถึงตัวเมืองหัวหิน ขับตรงมาเรื่อยผ่านโรงพยาบาลซานเปาโลฝั่งขวามือ จนถึง ซ.หัวหิน 83/1 ด้านซ้ายมือให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าที่พักได้เลย ..



...ที่มาราเกซนี้จะมีที่พักอยู่สองรูปแบบคือ ทางฝั่งโรงแรม และฝั่งคอนโด... หากขับรถมาจะเจอทางเข้าฝั่งโรงแรมก่อน จากนั้นติดกันประตูถัดมาจึงเป็นทางเข้าฝั่งคอนโด...

...(ภาพประกอบ : นับว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งมาราเกซฝั่งคอนโดเลยก็ว่าได้ สำหรับซุ้มเสาอลังการกลางสนามหญ้าซุ้มนี้)



...เสร็จสิ้นจากภารกิจเช็คอินก็เตรียมเดินเข้าสู่ห้องพักฝั่งคอนโด



...มุมนี้จะเป็นมุมที่ยืนจากซุ้มเสาในภาพก่อนหน้านี้มองย้อนกลับไปจะเห็นว่า แสงมาจากหลังตึก.. จึงไม่ต้องคิดมากว่าพระอาทิตย์ขึ้นหน้าหาดที่พักแน่นอน .. ดีใจ ๆ



...ระหว่างทางเดินสู่ห้องพักก็ขอเก็บภาพระหว่างทางสักนิด...



...มุมนี้จุดเด่นนอกจากจะอยู่ที่เสาสีทอง 2 ต้นซ้ายขวาแล้ว จะเห็นว่าสระว่ายน้ำก็จะอยู่กึ่งกลางระหว่าง 2 อาคาร มุ่งตรงสู่ทะเล มองมุมนี้ไปไกล ๆ ลากยาวได้ถึงเส้นขอบฟ้าเลยครับ... งดงามจริง ๆ



...นักท่องเที่ยวในวันที่เดินทางมายังไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะผมมากับครอบครัวในวันศุกร์ จะมีส่วนใหญ่ก็คือนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มานอนอาบแดดริมสระว่ายน้ำบ้าง เดินเล่นเดินไปเดินมาบ้าง



...มองไปเรื่อยสิ่งที่เห็นและโดดเด่นที่สุดของที่นี่ก็คงเป็นสระว่ายน้ำที่ออกแบบไว้อย่างสวยงาม ประดับด้วยน้ำพุเป็นตำแหน่ง ๆ และสีเขียว ๆ ของต้นไม้รอบตึกที่เหมาะแก่บรรยากาศร่มรื่นในวันพักผ่อนสบาย ๆ



...จากนั้นก็เข้าสู่ตัวคอนโดเป็นที่เรียบร้อย กดลิฟท์ขึ้นมายังชั้นที่พักระหว่างทางเดินสู่ห้องพักแอบชำเลืองเห็นพนักงานทำความสะอาดเปิดประตูห้องห้องหนึ่งพอดี จึงรีบขอเข้าไปถ่ายภาพสักใบสองใบสักหน่อย ..



...ในใจคือมาแล้วอยากเห็นห้องหลาย ๆ แบบจะได้ดูว่าแตกต่างกันอย่างไร จึงถ่ายมาแค่ 2 มุมแบบรีบ ๆ .. ก่อนจะรีบนำคณะครอบครัวเข้าห้องที่เราจะพักกัน



...และแล้วก็มาถึงห้องพักที่จองไว้เป็นแบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ .. ต้องรีบเก็บภาพก่อนที่ทุกอย่างจะเละ และเกะกะด้วยกระเป๋าสัมภาระต่าง ๆ



...จากที่สังเกตุกับห้องสักครู่นี้แม้ตัวรูปทรงห้องจะเป็นแบบ 3 ห้องนอนเหมือนกัน แต่ที่เห็นได้ชัดว่าต่างกันก็คือสีสัน รวมไปถึงการเลือกวัสดุที่แต่ละห้องก็จะจัดสรรให้เข้ากับบรรยากาศภายในห้องที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม



...สำหรับผมแล้วมุมโซฟาถือว่าวางตำแหน่งได้ดีกับระยะความห่างในการดูทีวี นั่งโซฟาบ้าง นั่งพื้นบ้าง หรือจะมานั่งตรงโต๊ะกินข้าวก็ยังได้สบาย ๆ เพราะพื้นที่นั้นไม่ได้กว้างมากนัก กระชับพอดี ๆ



...ภาพนี้เป็นมุมทางเดิน.. ถัดจากรูปประดับด้านขวา 2 ห้องคือ ห้องนอน ... ด้านซ้ายจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวสำหรับทำอาหาร มีทั้งไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า ตู้เย็น จานชามช้อนส้อม อ่างล้างจาน.. ครัวบ้านเราเป็นแบบไหน ที่นี่เป็นแบบนั้นคิดง่าย ๆ ครับ ...และถัดไปก็เป็นห้องน้ำ



...3 ภาพนี้คือห้องนอนที่ 1 2 3 ตามลำดับโดยภาพบนนี้คือห้องแรกนับจากทางเดินเข้ามา ในห้องไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมายนัก แต่ก็ยังมีตู้เสื้อผ้าพร้อมไม้แขวนเสร็จสรรพไว้สำหรับแขกที่เข้าพัก



...ภาพถัดไปคือห้องกลางขนาดห้องจะมีพื้นที่เท่ากันกับห้องแรกในภาพก่อนหน้านี้



...ส่วนภาพสุดท้ายคือห้องที่ 3 ที่อยู่ในสุด ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในจำนวน 3 ห้อง และอีก 1 ห้องน้ำก็รวมอยู่ในห้องนอนใหญ่นี้ด้วย



...ภายในห้องน้ำตกแต่งเล็กน้อยพอไม่ให้โล่งจนเกินไป และยังคงดีไซน์ไปในทางเดียวกับภายนอกห้อง เรียกได้ว่าไม่ทิ้งอารมณ์ให้ต่างกัน



...แม้จะไม่มีอ่างน้ำให้ แต่การได้ Rain Shower มาก็ทำให้ครอบครัวผมมีความสุขกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะคุณแม่ที่ไม่เคยใช้สุดท้ายก็ถูกใจ กลับบ้านไปอาจมีซื้อมาติดเพิ่ม... แต่สำหรับใครที่ไม่ถนัดไม่ต้องห่วงครับเพราะจากที่เห็นในภาพก็ยังมีฝักบัวแบบปกติให้หยิบใช้เวลาอาบน้ำได้



...ผมชอบกระจกในห้องน้ำที่นี่มากไม่ทิ้งคอนเซปท์จริง ๆ ยังคงสไตล์โค้งมนไว้เล็กน้อยให้เข้ากับสถานที่ น้ำร้อนน้ำเย็นเปิดผสมกันให้พอดี แปรงฟันเพลินไม่แพ้ที่บ้านครับ...



...เล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยที่วางแปรงสีฟัน ยาสีฟัน กระถางดอกไม้.. ก็กลายเป็นข้าวของวางประดับในห้องน้ำให้ดูมีสีสันขึ้นมาได้พอควร



...บริเวณโต๊ะอาหารทางคอนโดก็เตรียมให้ครบพร้อม แก้วน้ำ ถ้วย ชาม จานรอง ช้อน ส้อม ทุกสิ่งอย่างแน่นโต๊ะเลยทีเดียว... เหมาะกับการมาเป็นครอบครัว หรือเพื่อนฝูงมาก ๆ



...โทรทัศน์ที่นี่เป็นเคเบิ้ลแบบทั่วไป 3 5 7 9 ไทยพีบีเอส ครบหมด ช่องหนังภาพยนตร์ ช่องการ์ตูนมี 1 ช่อง และอื่น ๆ แต่ถ้าใครที่เป็นคอกีฬาจะติดตามถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก ที่นี่จะไม่มีเคเบิ้ลหรือจานดาวเทียมรองรับ... แต่ในห้องจะมีเครื่องเล่นดีวีดีให้ใช้ ใครมีหนังแผ่นติดมาก็เปิดดูได้สบายอารมณ์ครับ



...ห้องพักที่ได้เป็น Garden View ... อาจดูอึดอัดไปสักหน่อยแต่มองในแง่ดี การได้เห็นอะไรสีเขียว ๆ ย่อมสวยงามกว่าเปิดหน้าต่างออกมาแล้วเห็นแต่ตึก แต่อาคารเหมือนอย่างในกรุงเทพฯ ...และที่มุมระเบียงเล็ก ๆ นี้ก็มีเก้าอี้ให้นั่งเล่นด้วย สำหรับใครอยากออกมาสูดอากาศธรรมชาติช่วงเวลาสั้น ๆ ก็โอเคครับ



...หลังจากถ่ายภาพนี้เสร็จเลื่อนประตูกลับเข้าห้อง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปคือข้าวของกระเป๋าสัมภาระ เริ่มวางตามพื้นห้อง โซฟาเริ่มโดนจับจองที่นั่ง ไม่เว้นแม้โต๊ะกินข้าว... เป็นอันต้องรู้ตัวว่าเวลาให้เลิกถ่ายรูปได้แล้ว



...หลังจากนอนเล่นนั่งเล่นกับครอบครัวได้สักพัก จึงเกิดความคิดว่าอยากเห็นห้องแบบ 2 ห้องนอนบ้าง จึงเดินไปที่ล๊อบบี้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนจะขออนุญาตทางคอนโดเผื่อจะมีห้องไหนว่างที่ยังไม่มีแขกเข้าพัก เพื่อขอชมและเก็บภาพสักเล็กน้อย



...ปรากฏว่ามีว่างอยู่หนึ่งห้องพอดีที่เป็นแบบ 2 ห้องนอน .. แถมเป็น Pool View ด้วย ... จึงไม่รอช้ารบกวนพนักงานให้มาเปิดห้อง และยืนคอยเราถ่ายภาพสัก 15 นาที เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย...



...ห้องนอนแรกฝั่งติดกับผนังทีวีด้านนอก จะเห็นแสงส่องเข้ามายามบ่าย ๆ เย็น ๆ จากทางด้านซ้ายนั่นเท่ากับว่าพระอาทิตย์ที่ขึ้นหน้าหาดทางด้านขวาจะไม่รบกวนส่องแสงทะลุมาแยงตาปลุกตอนเช้าแน่นอน



...ส่วนยามบ่ายอย่างนี้ปกติห้องนอนก็คงอาจถูกปล่อยว่างเสียส่วนใหญ่ จึงไม่ได้ซีเรียสอะไรมากนักหากแสงจะส่องเข้าห้องนอน



...ถัดมาคือห้องนอนใหญ่(มาก) ห้องนี้เห็นปุ๊บบอกได้คำเดียวว่า “รักเลย"..



...สีสันอาจฉูดฉาดไปสักนิด แต่หากได้มานอนสักคืนสองคืนก็ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศการนอนได้ดีทีเดียว .. พื้นที่ว่างด้านขวาเล็งแล้วยังสามารถเสริมนอนได้อีกถึง 2 คน (แต่ไม่รู้ทางคอนโดกำหนดไว้ได้กี่คน)



...มุมหน้าต่างก็มองลงด้านล่างจะเป็น Pool View เห็นอาคารฝั่งโรงแรมตรงข้ามสีส้มเข้มแดงอ่อน สระว่ายน้ำสีน้ำเงิน ต้นไม้สีเขียว... มองแล้วชื่นใจ



...ห้องน้ำก็ยังตกแต่งในสไตล์เรียบง่ายเหมือนห้องที่ผมเข้าพัก.. ต่างกันเล็กน้อยก็วัสดุหน้าตาของใช้ในห้องน้ำ ส่วนที่มีเหมือนกันก็คือมีปลั๊กไฟ และตรงห้องอาบน้ำที่เป็นฝักบัวและ Rain Shower



...ภาพนี้มองจากห้องนอนสีเหลืองย้อนกลับไปทางโซนนั่งเล่นและห้องครัว...



...หามุมนั้นถ่ายมุมนี้ถ่าย เพลินมากอาจเพราะห้องนี้จะมีแสงสาดเข้ามาทำให้ห้องดูมีมิติมากกว่าห้องที่พักในช่วงเวลาเดียวกัน



...โดยส่วนตัวแล้วชอบห้องนี้มากกว่าห้องที่มาพัก เพราะวิวสระน้ำที่สบายตา แสงที่ส่องเข้ามาในห้องทำให้ยังได้รับแสงจากธรรมชาติแม้จะนั่งอยู่ในห้องแอร์เย็น ๆ ... ถ้าคราวหน้าได้มาในจำนวนคนที่พอดีกับห้องนอน 2 ห้อง .. คาดว่าจะต้องจองห้องทางฝั่งนี้แน่ ๆ



...มุมเล็ก ๆ น้อย บริเวณข้างโทรทัศน์ ยามบ่ายแก่ ๆ แสงลงพอดิบพอดีได้กาแฟสักถ้วย หนังสือสักเล่ม เปิดแอร์เบา ๆ ให้พอคลายร้อนนั่งรับแสงอ่อน ๆ ในวันพักผ่อน ผมว่ามีความสุขเพียงพอครับ



...เก้าอี้ตัวเดิมแต่เปลี่ยนมุมมอง ... เดินหามุมถ่ายจนเพลินจนลืมไปเลยว่ามีพนักงานรออยู่นอกห้อง..



...สุดท้ายก็กล่าวขอบคุณพนักงานที่อุตส่าห์ยืนรอเราอยู่สิบกว่านาที ... หลังจากนั้นจึงชวนที่บ้านลงมาเดินเล่นกันบริเวณข้างล่างเพื่อสูดบรรยากาศที่พักแบบเต็ม ๆ กันสักหน่อย



...เงียบสงบจริง ๆ สำหรับวันศุกร์ที่เดินทางมา มองย้อนกลับไปทางเข้าท้องฟ้าอาจไม่สวยเท่าไหร่เพราะพระอาทิตย์อยู่ทางนั้นพอดี



...ในใจก็ได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้พระอาทิตย์ขึ้นเราคงได้เห็นดวงตะวันขึ้นหน้าหาดที่พักบ้าง...



...รูปทรงการออกแบบดีไซน์ของที่มาราเกซนอกจากจะแปลกตาเมื่อแรกเห็นแล้ว ผมว่าตัวการตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ การให้สีสันก็สร้างความน่าสนใจดึงดูดสายตาไม่น้อย





...ยิ่งยามแดดส่องลงมา กระทบกับตัวซุ้มโค้ง หรือมุมต่าง ๆ ด้วยแล้ว... ผมว่าที่นี่ถ่ายรูปสนุกและเพลินมาก



...ที่ผมชอบอีกอย่างคือการวางแนวต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นต้นเล็ก ต้นใหญ่ .. ผมว่าร่มรื่นดียิ่งเดินยิ่งสัมผัสได้เพราะตลอดตัวอาคาร และริมสระน้ำเราก็จะได้เห็นสีเขียว ๆ อยู่รายล้อมรอบตัวไปหมด



...หามุมสวย ๆ สักหน่อยเลือกให้สีของน้ำในสระ ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ... ภาพก็ดูสบายตา สบายใจขึ้นเยอะ



...เดินเรื่อยมาจนถึงสิ้นสุดบริเวณสระน้ำก็จะเป็นลานหญ้ากว้าง ๆ มีต้นมะพร้าวปลูกแซมขึ้นมาเป็นจุด ๆ ตรงจุดนี้แขกมานอนเล่นกันเยอะ แต่ก็ไม่ได้อึดอัดมากมายนัก เพราะแต่ละคนก็จะเว้นพื้นที่ส่วนตัวไว้เรียกได้ว่าก็ยังสบาย



...มุมใครมุมมัน นอนอ่านหนังสือ ฟังเพลง เดินเล่นริมหาด .. เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนจริง ๆ



...ยิ่งยามเย็นแม้อย่างที่บอกว่าจากตำแหน่งนั้นไม่ใช่พระอาทิตย์ตกหน้าหาด แต่บรรยากาศของชายทะเลหัวหินก็ยังมีอะไรที่เห็นแล้วชัดเจนถึงคำว่าหัวหิน อย่างในภาพนี้กับคนขี่ม้าที่หานักท่องเที่ยวริมทะเล ส่วนที่เห็นเป็นเขาไกล ๆ ก็คือ “เขาตะเกียบ" นั่นเอง....



...เดินเล่นได้สักพักหลังจากภาพนี้ก็ขอพักเท้า หยุดเดินมานั่งเล่นริมทะเลปล่อยให้ลมพัดปะทะตัวพอเพลิน ๆ นั่งมองนักท่องเที่ยวเดินไปเดินมาหน้าหาด ทั้งไทย ทั้งต่างชาติ



...เกลียวคลื่นก็ซัดสาดเข้ามาเรื่อย ๆ นั่งทิ้งเวลาไปแบบไม่เสียดาย รู้สึกตัวอีกทีฟ้าก็ค่อย ๆ อ่อนแสงลงทีละนิด จึงมาเดินหามุมถ่ายภาพอีกรอบ...



...ท้องฟ้าวันนี้ไม่มีสีสันมากมายสักเท่าไหร่ แต่แสงสวย ๆ จากตัวอาคารฝั่งโรงแรมก็พอช่วยให้ภาพดูมีสีสันขึ้นมาได้บ้าง บวกกับแสงไฟบริเวณรอบสระว่ายน้ำที่สะท้อนลงก็ได้ภาพที่ถูกใจกลับมาภาพหนึ่ง



...หลังจากหันหน้าเข้าตัวอาคารก็เปลี่ยนมุมหันออกสู่ทะเลบ้าง ..



...ริ้วเมฆที่ลอยตัวเป็นรูปคลื่นดูแล้วแปลกตาไม่น้อย ก็พอทดแทนสีสันของท้องฟ้าที่อาจดูไม่หวือหวาไปได้บ้าง... ใช้เวลาเดินถ่ายภาพช่วงหัวค่ำไปอย่างเพลิน ๆ บริเวณฝั่งคอนโด ก่อนจะเดินไปยังลานสนามหญ้าเดินไปยังฝั่งโรงแรมเพื่อชื่นชมบรรยากาศฝั่งนั้นสักหน่อย



...เสียงเพลงแนว Bossa ทั้งเพลงไทย เพลงสากล ที่ได้ยินตั้งแต่แถวสระว่ายน้ำฝั่งคอนโด ในที่สุดก็เจอต้นตอของเสียงนุ่ม ๆ ที่ดังลอยมา



...บริเวณฝั่งโรงแรมริมหาดจะมีบาร์เล็ก ๆ ตรงนี้บรรยากาศดีมากเหมาะแก่การมานั่งรับลมเย็น ๆ จิบเครื่องดื่มชนิดโปรดท่ามกลางเสียงเพลงและสายลม... สุนทรีย์ สุนทรีย์



...และนี่คืออีกมุมสวย ๆ ยามก่อนที่สีสันของท้องฟ้าจะมืดดำไป



...ตัวอาคารบวกกับดีไซน์การตกแต่งริมสระน้ำ จะเห็นชัดว่าสวยงามและดูมีกลิ่นไอสไตล์ Moroccan กว่าทางฝั่งของคอนโด และดูจะโรแมนติคมาก ๆ เสียด้วย



...สระน้ำทางฝั่งโรงแรมขนาดจะเล็กกว่ามากหากเทียบกับพื้นที่สระน้ำทั้งหมดของทางฝั่งคอนโด



...บรรยากาศก็ค่อนข้างต่างกันด้วยความไม่ใหญ่ของสระน้ำ ทำให้พื้นที่ฝั่งนี้ดูกระชับและแน่นกว่า .. แต่ถ้าถามว่าอึดอัดไหม ก็บอกตรง ๆ ว่าไม่อึดอัดสักเท่าไหร่นัก ยิ่งวันศุกร์วันนี้ที่คนยังไม่เดินทางมากันเยอะ เดินได้สบายมาก



...ปิดท้ายที่คืนแรกของวันด้วยภาพสวย ๆ สีสันยามค่ำคืนของทางฝั่งโรงแรม



...ผมว่าต้นไม้ที่ปลูกขึ้นรอบสระนั้นนอกจากสร้างความร่มรื่นให้แล้ว ยังทำให้ตัวพื้นที่ดูไม่โล่งมากจนเกินไป ส่วนเรื่องการใช้แสงไฟสีสันนั้นต้องบอกว่าเลือกโทนได้เข้ากันดีมากกับสีของตัวตึกตัวอาคาร



...ทิ้งภาพนี้ไว้เป็นภาพสุดท้ายในคืนแรก และออกไปหาอาหารทานแถวตลาดหัวหิน .. ก่อนกลับเข้านอนห้องพักเพื่อรอเช้าวันใหม่ที่จะมาถึง



...และแล้วก็เหมือนท้องฟ้ากลั่นแกล้ง ตื่นเช้ามาอีกวันท้องฟ้ามืดสนิทไม่มีแม้กระทั่งแสงจากท้องฟ้า



...ท้องฟ้าสีเทาตั้งแต่เช้าไปจนถึงบ่ายกว่า ๆ เท่ากับว่าช่วงครึ่งเช้านี้ ผมใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวล้วน ๆ ภายในห้องพัก ซื้อขนมมากินนั่งดูทีวีเล่นอินเตอร์เนทกันไปก็ถือว่าทดแทนกับที่ไม่ได้ออกมาเดินเล่นถ่ายรูปในวันฟ้าหม่น



...นั่งอยู่ในห้องจนสุดท้ายแสงแดดก็ค่อย ๆ ทยอยส่องลงมาบ้างทีละน้อยละน้อย



...จึงชวนกันลงมาเดินเล่นเหมือนเมื่อวาน หลานก็ไปเล่นทรายริมหาด น้องก็ไปเล่นน้ำทะเล บ้างก็เดินเล่น ... ส่วนตัวผมก็มาเดินหาอะไรถ่ายเล่นไปเรื่อย



...ที่มาราเกซจะให้เช็คอินเข้าตอนเวลาบ่าย 2 โมง ดังนั้นตั้งแต่บ่าย 2 ก็จะค่อย ๆ เห็นนักท่องเที่ยว ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง ทยอยเดินแบกกระเป๋าลากกระเป๋าเข้าห้องพักไปตามตึกต่าง ๆ ที่ได้จองไว้



...ซึ่งเท่าที่สังเกตุทุกคนที่มาพอวางสัมภาระเสร็จสรรพ กิจกรรมยอดฮิตก็หนีไม่พ้นถ่ายภาพเล่นกัน ส่วนตัวของผมผมว่าที่นี่มีมุมถ่ายรูปคนสวย ๆ เยอะแยะมากมายเหลือเกิน



...คนไทยชอบถ่ายรูป ฝรั่งชาวต่างชาติชอบนอนนิ่ง ๆ พักผ่อน อ่านหนังสือเรื่องโปรด .. เป็นภาพที่เห็นแล้วก็รู้ได้ว่าความสุขในวันพักผ่อนของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน



...เดินไปเรื่อยครับ แดดออกทั้งทีก็ขอเก็บภาพให้คุ้มกับที่รอคอยมาตั้งแต่เช้ากันเสียหน่อย



...บริเวณสระน้ำยังเป็นไฮไลท์เด่นของที่นี่มาก



...มุมเหล่านี้หากมีนางแบบสวย ๆ มาแอคชั่นยืนโพสท่าทางถ่ายรูป ผมว่าด้วยสีสันของสถานที่จะขับให้ภาพออกมาสวยงามได้อย่างแน่นอน ทั้งจะอยู่ริมสระหรือจะให้แบบลงไปอยู่ในสระน้ำผมว่าได้หมด..



...เดินย้อนกลับมาทางล๊อบบี้อีกครั้ง มองออกไปกี่ครั้งก็ยังสวยเหมือนเดิม



...ตอนที่ถ่ายภาพอยู่นี้บริเวณล๊อบบี้เริ่มวุ่นวายด้วยผู้คนทั้งกลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ เพราะเป็นช่วงเวลาเริ่มเช็คอิน และซุ้มเสานี้ก็ยอดฮิตมากเพราะหลังจากนี้ไม่นาน ก็มีคนมาถ่ายรูปกันเยอะแยะ.. ดูแล้วเหมาะสมกับที่เป็นวันพักผ่อนยิ้มแย้มแจ่มใสจริง ๆ



...ถ่ายให้เห็นตัวอาคารแบบชัด ๆ กันอีกครั้ง จะเห็นว่ามีสีสันแตกต่างกันไปเล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในโทนสีเดียวกัน



...อย่างที่บอกว่าที่นี่มุมถ่ายรูปเล่นเยอะดี ด้วยระดับพื้นที่สูงต่ำภายในตัวบริเวณ ก็จะมีบางช่วงเป็นบันได เป็นอุโมงค์สร้างลดหลั่นออกแบบวางแพลนอย่างลงตัว ภายใต้พื้นที่ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาวหันหน้าสู่ทะเล ผมว่าที่นี่ออกแบบได้หลากหลาย และใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าดี



...บรรยากาศทั่ว ๆ ไปภายในมาราเกซก็ร่มรื่นแทบทุกมุม ...เดินไปเดินมาก็คิดแต่ว่าถ้ามีโอกาสคงได้กลับมาที่นี่อีกแน่ ๆ



...สระว่ายน้ำของที่นี่จะแบ่งเป็น 2 ช่วง .. ช่วงติดหน้าหาด กับอีกช่วงที่ติดบริเวณซุ้มเสาสีทอง



...ด้วยความที่ยาวของสระว่ายน้ำขนาดนี้ผมว่าซ้อมว่ายแข่งโอลิมปิค 2016 ที่ประเทศบราซิลได้เลย .... ลองว่ายเล่นดู ว่ายไปได้แค่ครึ่งเดียวเงยหน้าขึ้นมาเห็นอีกตั้งครึ่ง ... จึงเก็บแรงไว้ว่ายเข้าข้างสระดีกว่า..ไม่ไหวจริง ๆ



...อีกหนึ่งกิจกรรมสุดฮิตประจำที่นี่ก็คงเป็นสไลเดอร์นี่แหละครับ



...ผมเองก็ได้เล่นกับเค้าเหมือนกัน คือเล่นเป็นเพื่อนหลาน.. ไอ้เราก็ลืมไปว่าเป็นสระเด็กขนาดตื้น ๆ สไลด์ลื่นลงมาเข่ากระแทกพื้นสระด้านล่างเข่าเดี้ยงไป 3 วัน ... สำหรับผู้ใหญ่ที่มาผมว่าเราปล่อยให้ลูกหลานเล่นน่าจะดีกว่าครับ หรือหากต้องเล่นก็ระวังกันนิดนึงก็ดีครับเพื่อความปลอดภัย และไม่บาดเจ็บ



...แดดร่มลมตกแล้ว นักท่องเที่ยวตอนนี้เยอะแยะมากมายเต็มหาด แต่ในส่วนสนามหญ้าบริเวณตัวที่พักก็ยังดูไม่แน่นสักเท่าไหร่นัก



...เดินเล่นริมหาดสักพัก ก่อนจะรอถ่ายภาพสระว่ายน้ำยามเย็นอีกสักหน่อย



...จากเท่าที่ได้มาสัมผัสมาราเกซ 3 วัน 2 คืน .. ผมว่าที่พักนี้เหมาะกับการมาถ่ายรูปเล่น พักผ่อน ทำกิจกรรมเบา ๆ ริมหาดหัวหิน เล่นบานาน่าโบ๊ต ขี่ม้า เล่นน้ำทะเล ระหว่างวันจะเดินไปนั่งเตียงผ้าใบสั่งส้มต้ำ น้ำตก อาหารทะเลปิ้งย่างกิน ตกเย็นก็ขับรถไปหาอะไรกินทางตลาดหัวหิน หรือจะไปเดินแหล่งช๊อปปิ้ง Cicada ก่อนถึงเขาตะเกียบ.. สารพัดกิจกรรมให้ทำ



...มาพักที่ฝั่งคอนโดทางมาราเกซนั้นไม่มีอาหารเช้า หรืออะไรเตรียมไว้ให้ ... แต่ด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่ทางมาราเกซมีไว้ให้ครบอยู่แล้ว เราสามารถมาทำอาหารง่าย ๆ ได้ภายในห้อง ... เหมือนเปลี่ยนบรรยากาศเดิม ๆ จากที่บ้านมาเป็นที่พักสวย ๆ ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว กับเพื่อนฝูง กับคนที่เรารัก... ว่าง ๆ ก็มาเดินเล่นริมสระว่ายน้ำ ว่ายน้ำ เดินเล่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง เดินกินลมชายหาด...



...ผมว่าในพื้นที่กระชับ ๆ ที่นี่ เรามีความสุขได้ทุกพื้นที่ จะเดินจะนั่งเล่นตรงไหนก็ได้



...ปิดท้ายที่ภาพนี้กับภาพกว้าง ๆ ที่เห็นจากสระน้ำด้านติดริมหาด มองย้อนกลับไปจนถึงตัวอาคารล๊อบบี้...



...วันดีดี วันพักผ่อนสบาย ๆ หลบลี้หนีความวุ่นวายจากชีวิตประจำวัน แบ่งมาใช้เวลากับคนที่เรารักสักคืน สองคืน สุดสัปดาห์ ... ระยะทางไม่ไกลมากนักจากกรุงเทพฯ ขับรถมาเรื่อย ๆ สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ตลอดเส้นทางก็มีมากมายจะแวะก่อนเข้าพัก หรือจะแวะหลังจากกลับออกไป .. ผมว่ามาราเกซเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะทำให้เรามีความสุข มีภาพสวย ๆ กลับไปอย่างแน่นอน.. สำหรับผมแฮปปี้ไม่ผิดหวังที่เลือกมาราเกซให้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข... ไว้ต้องเก็บเงินมาใหม่เสียแล้ว... สวัสดีทุกคนครับ ^___^



…ติดแผนที่มาราเกซให้สำหรับใครที่นึกภาพเส้นทางไม่ออก แผนที่ดูง่ายชัดเจน... เดินทางกันปลอดภัยทุกคนครับ



Forzanu

 วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 13.43 น.

ความคิดเห็น