ใครว่าลาวไม่มีอะไร ถ้าได้เห็นรูป (ผู้ชาย) ต่อไปนี้คงต้องเปลี่ยนใจ วังเวียงเป็นเมืองที่ถ้าอยากได้เพื่อนก็ได้แน่ๆ แต่ถ้าอยากได้ผ.ก็มีสิทธิ์ได้เหมือนกัน 55555555 นอกนั้นวิวก็สวย ธรรมชาติก็ดี เป็นอีกที่เที่ยวหนึ่งที่โอเคเลยแหละ

นี่แค่เรียกน้ำย่อยเท่านั้น อิอิ

ฝากเพจของพวกเราด้วยนะ FB : 4 สหายท่องโลก https://www.facebook.com/4-%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81-1624461511126421/?fref=ts
จะได้มีกำลังใจนำรูปผู้มาให้ดูกันอีกก 5555555555555

กลับมาอีกครั้งกับสี่สหายท่องโลก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กระทู้อันที่แล้วของพวกเรา เที่ยวเวียดนาม http://pantip.com/topic/34850194
“เฮ้ยแกร วันมาฆะฯ มีวันหยุดยาวว่ะ ไปเที่ยวไหนดี?"
“ลาว วังเวียงมั้ย?"
“เออ...ไปๆ ไปไหนก็ได้ที่มีพวกแก" (ฮิ้ววววววววว)

นี่คือจุดเริ่มต้นของทริป “ลาว – วังเวียง เวียงจันทน์ ทำฉันตกหลุมรัก … (ผู้ชายฝรั่ง)"
หลังจากทีเพื่อนสาวคนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือน้ำหนัก จองตั๋วรถทัวร์ (ขาไป) และเครื่องบิน (ขากลับ)
และที่พักในวังเวียง 2 คืน เรียบร้อย พวกเราก็นอนตีพุงรอคอยให้ถึงวันที่จะเดินทางเท่านั้น

ขออวดนิดนึงว่าเพิ่งซื้อกล้อง Lumix GX8 มาใหม่ เลยจะพาไปประเดิมท่องโลกกับทริปนี้ด้วย

แพลนของเราคือ

- ออกเดินทางด้วยรถทัวร์ คืนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ไปลงอุดรฯ แล้วต่อรถไปวังเวียง
- 20 กุมภาพันธ์ ถึงวังเวียงตอนบ่ายๆ เดินเล่น ชิลๆ
- 21 กุมภาพันธ์ ซื้อวันเดย์ทริป ทำกิจกรรมพายเรือคายัคล่องแม่น้ำซอง ไปวัดถ้ำช้าง ลอดถ้ำน้ำ เล่นน้ำที่บลูลากูน
- 22 กุมภาพันธ์ ไปเวียงจันทน์ ถ่ายรูปกับประตูชัย ไหว้วัดพระธาตุหลวง
- 23 กุมภาพันธ์ กลับกรุงเทพฯ ตอนบ่ายๆ ถึงค่ำๆ

พร้อมแล้วออกเดินทางกันเล้ยยยยยยย!!!!

***อนุญาตใช้ภาษาวิบัติบางคำ เพื่ออรรถรสในการอ่าน***19.02.2016

เวลา 21.30 น. พวกเรามาถึงที่นครชัยแอร์ เพื่อขึ้นรถไปอุดรฯ ด้วยความที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุดยาว
วันนี้ผู้คนที่สถานีเลยแน่นเอี๊ยด เบียดเสียดทุกตารางนิ้ว พอต่อคิวขึ้นรถได้ก็ถึงเวลาเอนกายนอนยาวๆ
กว่าจะถึงก็พรุ่งนี้เช้า นอนเอาแรงจะดีกว่า

20.02.2016

ถึงบขส.อุดรฯ เกือบ 8 โมง พวกเรากะว่าจะต่อรถบัสโดยตรงไปวังเวียง แต่ปรากฎว่าผิดแผน!!! รถหมดจ้า
เลยต้องต่อรถไปลงหนองคาย ข้ามด่าน แล้วก็ต่อรถไปวังเวียงอีก

ระหว่างรอผ่านตม.ก็สะดุดตากับหนุ่มคนนี้

ในที่สุดรถตู้ก็มาจอดส่งตรงถึงหน้าประตูที่พัก “จำปาลาววิลล่า" ว่าแล้วก็ตรงดิ่งเข้าไปเช็กอินเก็บข้าวของสัมภาระ

ใครที่จะมาพักที่นี่บอกเลยว่าพี่เจ้าของที่นี่น่ารักและใจดีมากกกกกกก ถามอะไรตอบได้หมด (ประหนึ่งว่าเป็นอับดุล)

แถมยังแจกแผนที่พร้อมบอกว่ามีแลนด์มาร์กอะไรเด็ดๆ และโซนไหนที่น่าไปเที่ยวบ้าง ถ้าใครไปวังเวียงแนะนำที่นี่เลยนะ

ไม่ได้ค่านายหน้า แค่อยากบอกว่าพี่เจ้าของอัธยาศัยดีจริงๆ

พอเดินออกจากที่พักยังไม่ทันไรก็เจออะไรตื่นตาตื่นใจเพียบ โดยเฉพาะหนุ่มๆ ฝรั่งและโอ้ปป้าเกาหลี คือดีงามจริงๆ

แอร๊ยยยยย ดึงสติแพร้พพพพ แล้วเราก็มาหยุดอยู่ที่ริมน้ำซอง มองไปทางไหนก็มีแต่วิวธรรมชาติสวยเลอค่า

ถ้าไม่มาเห็นด้วยตาก็คงไม่รู้ว่ามันงามขนาดไหน เพราะฉะนั้นจะชักช้าอยู่ทำไม ถ่ายรูปรัวๆ สิคะ จะได้เปลี่ยนโปรไฟล์พิคเจอร์สักที อิอิ

ชายหนุ่มผู้มีดนตรีในหัวใจ

พ่อหนุ่มเครางาม

ใสๆ วัยรุ่นชอบ

มื้อเย็นเราตกลงกันว่าจะฝากท้องที่ร้านหมูกะทะ เพราะสืบรู้มาว่าน้ำจิ้มที่นี่เด็ด ห้ามพลาดเชียวล่ะ

ซึ่งพอลองชิมแล้วก็จริงนะ อร่อยถูกปากเลยแหละ แต่ทำไมเนื้อหมู เนื้อไก่และอื่นๆ ให้น้อยจัง

สายแดรกสุดสตรองอย่างพวกเราเลยได้แต่สั่งเพิ่ม สั่งเพิ่ม และสั่งเพิ่ม! กินไปกินมานักท่องเที่ยวเกาหลีเริ่มเยอะ

ทางร้านจึงเปลี่ยนบรรยากาศเอาใจเหล่าโอ้ปป้าด้วยการเปิดเพลงเกาหลีเต็มสตรีมทั้ง Sorry Sorry ของ SJ และอื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งที่ที่ก่อนหน้านี้ยังเป็นเพลงไทยเดิมอยู่เลย! หลังจากกินเสร็จเพื่อนสาวนางหนึ่งพูดขึ้นมาว่า

“ทำไมต้องดั้นด้นมากินหมูกะทะถึงที่วังเวียงเลยวะแก หมูกะทะที่ไทยอร่อยและถูกกว่าเยอะ!!!"

เอออออ...จริงของมัน นั่นสิ่ทำไมมมมมม? ใครรู้บอกที 555555 (โรตีที่ขายเกลื่อนถนนในวังเวียงก็เช่นกัน)

ไฮไลต์ของวันนี้อยู่ที่ซากุระบาร์ ใครมาที่นี่แล้วไม่ได้แวะ พลาดนะพูดเลยยยย! ช่วง2-3 ทุ่มฟรีดริ้งค์

ฉะนั้นก่อนสองทุ่มเลยจะเห็นพี่ไทยยืนออรออยู่หน้าร้านเพียบ พอสองทุ่มเท่านั้นแหละ

แต่ละคนรีบพุ่งเข้าไปรับดริ้งค์ฟรีพร้อมจับจองที่นั่งอย่างรวดเร็ว แอบกระซิบเลยว่าถ้าอยากมีที่นั่งต้องมาจองตั้งแต่เนิ่นๆ

ระหว่างนั้นก็นั่งฟังเพลงไปเพลินๆ พลางเหล่หนุ่มๆ แต่พอยิ่งดึกบรรยากาศเริ่มคึกคัก

ใครที่ขึ้นมาเต้นเปิดฟลอร์บนเวทีนี่จะได้รับเสียงกรี๊ดกร๊าดและเสียงปรบมืออย่างล้นหลาม

ยิ่งเต้นมันส์เท่าไหร่ยิ่งได้ใจคนข้างล่างเวทีไปเลยข่าาาาา ทีนี้ทั้งไทย เกาหลี ฝรั่งก็จะพรั่งพรูขึ้นมาเต้นบนเวทีกันให้เพียบ

คือแบบ มันส์เฟร่อออออจนไม่อยากกลับเชียวล่ะ แต่พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้าไปทำกิจกรรมแอดแวนเจอร์

เลยต้องบอกลาซากุระบาร์แต่เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้พี่จะกลับมาอีกนะ พี่สัญญา

21.02.2016

8.30 น. เรารอขึ้นรถที่หน้ารีสอร์ท เพราะซื้อ One Day Trip กับที่นี่เลย สะดวกดี ไม่ต้องเดินไปขึ้นรถไกล
รถคันนี้มีพี่ๆ คนไทยอีก 6 คน และหนุ่มๆ เกาหลี (หน้าตาเกือบดี) อีก 3 คนเป็นลูกทัวร์
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสาวไทยจะกรี๊ดกร๊าดและดี๊ด๊าขนาดไหน ทริปนี้คือดี คือแฮปปี้

ซารางเฮโย โอ้ปป้า

กิจกรรมอย่างแรกที่เราทำคือพายเรือคายัคล่องแม่น้ำซอง ใครพายไม่เป็นหรือพายไม่คล่อง ไม่ต้องห่วงเลย

เพราะมีไกด์นั่งประกบท้ายคอยช่วยพายตลอดๆ นั่งชมวิวบ้าง พายเรือบ้าง ไม่พายบ้าง รู้ตัวอีกทีผ่านไปแล้วชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดก็ถึงปลายทาง

ที่ต่อไปคือแวะไหว้พระในวัดถ้ำช้าง ซึ่งจะมีหินงอกหินย้อยเป็นรูปช้างโผล่ออกมา หลังจากนั้นก็เดินเท้าเข้าไปถ้ำน้ำ

ที่ที่เราจะไปลอดห่วงยางกัน พอมาถึงปรากฎว่าคนเพียบ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือคนที่เห็นหน้ากันในซากุระบาร์เมื่อคืนนี้)

ไกด์เลยให้กินข้าวกลางวันรอไปพลางๆ

ระหว่างนั้นก็สะดุดตาและเพลิดเพลินไปกับหนุ่มๆ เหล่านี้ อิอิ

Love me like you do

โอมจงเงยขึ้นมา เงยขึ้นมา

เอาล่ะ ถึงเวลาของเราสักที ไกด์แจกไฟฉายส่องกบให้ใส่ที่หัวคนละอัน แล้วให้นั่งลงบนห่วงยาง

ณ จุดนี้บอกเลยว่าน้ำเย็นเจี๊ยบ แต่ก็อุ่นใจ เพราะเราจับมือไปด้วยกันเป็นขบวน ยิ่งเวลาสวนทางกับนักท่องเที่ยว

กลุ่มอื่นที่ทยอยออกมา แล้วเกิดสงครามในถ้ำ เตะน้ำใส่กัน นั่นคือความมันส์อีกอย่างหนึ่งเลยนะ

แต่ 70% ของคนที่เตะบอกว่า น้ำกระเด็นเข้าหน้าตัวเอง 5555555 #ดีออกกกกกกกก

และแล้วก็ถึงกิจกรรมสุดท้ายของวันนั่นคือกระโดดน้ำที่บลูลากูน มีความสูงให้เลือก 2 เลเวล

คืออนุบาล กับ มหาลัย วัดใจกันไปเลย ถึงตอนนี้ใครใคร่โดด ก็โดด ใครใครไม่โดด ก็ไม่ต้องโดด

ส่วนสี่สหายอย่างเรานะเหรอมีหรือจะกลัว ….... แค่คนมันเยอะเลยไม่อยากกระโดดเท่านั้นแหละ 55555

ว่าแล้วก็เดินไปส่องหนุ่มๆ ดีกว่า (ที่นี่เป็นอีกหนึ่งแหล่งรวมตัวฝรั่งแซ่บๆ นะ บอกเลยยยยยยย)

เช็ดน้ำลายแพร้พพพพพ

Can I See Your eyes baby

You are my world

ถ้าโอปป้าไม่อยากอกหัก แนะนำให้มารักกับเรา

Waiting for someone who love me

I'm your girl

พ่อหนุ่มกางเกงแดงแรงฤทธิ์

แอร๊ยยยยยย ยังกะโรเบิร์ต แพททินสัน

หนุ่มเซอร์ เบลอว่ารักแถบ

เป็นแฟนกับพี่ อยู่ดีกินดี ไม่มีอดนะเออ

หลังจากกลับที่พัก อาบน้ำอาบท่า หาส้มตำกินเรียบร้อยก็ได้เวลาย่ำราตรีที่ซากุระบาร์ที่เดิม เพิ่มเติมคือเรื่องเล่าสุดฮา

ระหว่างที่เรายืนเต้นและมองฝรั่งสุดหล่อคนหนึ่งอยู่ จู่ๆ ฮีก็กระโดดลงจากเวทีมาเต้นในละแวกเดียวกัน (ยิ้มอ่อนในใจ)

แต่ทันใดนั้นสาวไทยนางหนึ่งก็ปรากฎตัวข้างๆ หนุ่มตาน้ำข้าวคนนี้ด้วยท่าทีเมามาย พร้อมหันมาส่งสายตาว่า “คนนี้เป็นของชั้นย่ะ!!!"

แล้วนางก็พูดขึ้นมาว่า “ชั้นอยากได้เค้า ชั้นมาเฝ้าเค้าที่นี่ 3 วันแล้ว" โห คุณพระ!!! ยอมใจนางจริงๆ ทั้งเราและเพื่อนเลยให้กำลังใจนาง

บอกให้นางสู้ๆ วันนี้ขอให้นางได้ ขอให้นางโดนซะที ทันใดนั้นนางก็หันไปโผเข้ากอดและซบฮี

แต่ แต่ แต่!!! พอนางกอดเสร็จ นางหันมาบ่นว่า “แก เค้าเต่าเหม็นมากเลยว่ะ" 555555555 ทำเอาพวกเราขำน้ำตาเล็ด

ซึ่งก็จริงของนาง ขนาดเรายืนห่างๆ อย่างห่วงๆ ยังได้กลิ่นเต่าโชยมาขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าซบใกล้ๆ

กลิ่นจะแรงขนาดไหน เอาหน่ะ!!! ถ้าเราคิดจะทำอะไรแล้ว รับรองว่าไม่แพ้ชาติใดในโลก Fighting!!!

พอเต้นจนเหนื่อยเราก็ไปนั่งพักกับกลุ่มพี่ๆ คนไทยที่ไปทริปด้วยกันเมื่อตอนกลางวัน

พลางขอเบียร์ลาวเค้ากินฟรีทีละแก้วสองแก้ว 55555พร้อมทั้งเม้าท์มอยถึงลูกทัวร์โอ้ปป้าเกาหลี 3 คน ที่แอบกรี๊ดกร๊าดเมื่อเช้า

แต่แล้วความฝันก็ดับบสลายเมื่อพี่คนไทยเล่าให้ฟังว่า 1 ในโอ้ปป้าเกาหลีบอกเองเลยว่านางมากับบอยเฟรนด์ เรื่องมันพีคก็ตรงนี้ 55555555

ว่าแล้วก็ลุกไปเต้นให้หายชอกช้ำระกำใจดีกว่า โลกนี้มันอยู่ยากขึ้นทุกวัน 555555555

ทีนี้พี่ผู้ชายคนไทยเลยชงหนุ่มเกาหลี (กลุ่มใหม่) ที่เต้นอยู่ข้างๆ ให้ พร้อมทั้งชี้มาทางเราแล้วบอกว่า She is single

พอหันมาอีกทีโอปป้าหน้าเนิร์ดมาเต้นสีอยู่ข้างๆ แล้วว่ะ อุต๊ะะะะะ!!!! น่ากลัวจุงงงงงงงงง ถอยดีกว่า

ก่อนบาร์ปิดเราเลยเซลฟี่รูปหมู่ ที่มีทั้งโอปป้าเกาหลี พี่ๆ คนไทย และเพื่อนสาวชาวเยอรมันที่เพิ่งรู้จักกันมาร่วมเฟรม

มันเป็นอะไรที่สนุกและมันส์มากจริงๆ นี่แหละ ‪#‎มิตรภาพเกิดขึ้นได้ทุกที่‬ ‪#‎เพราะโลกมันกว้างคนข้างๆจึงสำคัญ‬

#บอกเค้าไปว่าชั้นชอบเค้า

Look at me Baby

ทริคสำหรับสาวๆ ที่อยากได้อยากโดน
เล็งเป้าหมายให้ดี แล้วเข้าไปเต้นสีข้างๆ สีเข้าไปอย่าหยุดยั้ง แล้วเป้าหมายก็จะตกเป็นของเราเอง
***หมายเหตุ*** ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ เปลือยแผ่นหลัง และเพิ่มสกิลการอ่อยอีกหน่อยจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น 30%

ทริคการไปซากุระบาร์แบบประหยัด
2-3ทุ่มฟรีดริ้งค์ หยิบมาตุนไว้เรื่อยๆ กินเผาหัวเอาให้เมากันไปเลย หลังจากนั้นตีซี้โต๊ะข้างๆ แล้วก็ขอสิคะจะรออะไร เมาฟรีดีดี๊อะ 5555

22.02.2016

ก่อนโบกมือลาวังเวียง เรามาเติมพลังมื้อเช้าร้านริมข้างทาง และกินเค้กร้านขึ้นชื่อ Luangprabang Bakery

ความดีงามในเช้าวันนี้ อิอิ

เช้าวันนี้เราเหมารถตู้ออกเดินทางไปเวียงจันทน์พร้อมพี่ๆ คนไทยแก๊งค์เมื่อวาน งานนี้มีคนร่วมหัวจมท้ายด้วยนี่มันก็อุ่นใจดีเหมือนกันนะ 5555555 ระหว่างนั่งรถ ด้วยทางที่คดโค้งเลยทำให้เพื่อนสาวนางหนึ่งอ้วกแตกในรถถึง 2 รอบ

เลยต้องรีบจอดแวะข้างทางเช็ดทำความสะอาดกันยกใหญ่ กลิ่นงี้ตลบอบอวลเชียวล่ะ

ในที่สุดเราก็มาถึงเวียงจันทน์แบบไม่ได้จองที่พักไว้ เลยเดินหากันไปเรื่อยๆ แล้วก็มาลงเอยที่โรงแรมแห่งหนึ่ง หลังจากเก็บสัมภาระ นอนพักผ่อนให้หายเหนื่อยแล้วตอนเย็นก็เหมาตุ๊กๆ ไปเที่ยวที่ประตูชัย ถ่ายรูปเก๋ๆ เป็นที่ระลึก และไปไหว้พระที่วัดพระธาตุหลวง แอบกระซิบนิดหนึ่งว่าถ้าจะมาวัดนี้ให้แต่งกายสุภาพ กางเกงขายาว มิเช่นนั้นจะต้องนุ่งซิ่นที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้นะจ๊ะ

23.02.2016

วันสุดท้าย เพิ่งจะได้ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ เราเลยวางแผนไปกินกาแฟและเบเกอรี่ที่ร้าน โจมา (ร้านดังอีกเช่นเคย) รสชาติดีงามตามท้องเรื่อง เค้กที่เรคคอมเมนด์คือเค้กมะพร้าว ส่วนชีสเค้กช็อกโกแลตเข้มข้นมาก อาจจะเลี่ยนเกินไป

พอกินเสร็จก็เดินเล่น ถ่ายรูป แล้วเตรียมขึ้นรถข้ามกลับไปอุดร แล้วต่อเครื่องบิน เป็นอันจบทริป

จุดพักสายตาระหว่างนั่งรอรถ

เสน่ห์อยู่ที่หนวดเครา ถูกใจเราเป็นแฟนได้เลย

มื้อสุดท้ายของทริป จัดหนักด้วยส้มตำสุดแซ่บ ราคาไม่แพง ให้เยอะ รสชาติอร่อย ร้านเจ๊ไก่

ตามคำแนะนำของเว็บไซต์วงใน คือดีงามมากนะพูดเลยยยยยย มาแล้วอยากให้แวะ

สรุปแล้ว

ที่ประทับใจสุดในทริปนี้คือการไปเที่ยวซากุระบาร์ มันคือความหรรษา อื้อหือ! อาห๊า! อย่างหนึ่ง เชียวล่ะ

ติดใจถึงขั้นมาสองคืนติด อยู่ถึงบาร์ปิดก็ยังไม่อยากกลับ เอาเป็นว่าต้องมาเองแล้วจะเข้าใจว่าทำไม ลาว – วังเวียง เวียงจันทน์

ถึงทำให้ฉันตกหลุมรัก … (ผู้ชายฝรั่ง) แต่แอบเสียดายที่ไม่ได้อยู่ชิลต่อที่วังเวียง เพราะเรื่องรอบรถ ขืนอยู่ต่อก็คงไปไม่ทันขึ้นเครื่อง

ทริปนี้ขอบคุณกล้อง Lumix GX8 ดี๊ดีย์ ภาพชัด ซูมผู้ชายก็เลิศ สีสวย โดยที่ไม่ต้องปรับอะไรมาก แต่ละรูปที่ถ่ายมาฮิปสเตอร์ไปอีก

เสียดายที่แบตหมดเร็วไปหน่อย และบางครั้งก็ปรับโฟกัสยากไปนิด (ขนาดใช้โหมดออโต้ก็แล้ว) เอาเป็นว่าไว้ทริปหน้า

เราไปท่องโลกด้วยกันอีกเนอะ (โหมดบ้าเห่อของเล่นใหม่)

แต่ แต่ แต่!!! ขาดไม่ได้เลยคือ เพื่อนๆ ‪#‎สี่สหายท่องโลก‬และพี่ๆ แก๊งค์คนไทยที่เพิ่งไปรู้จักกันที่นั่น

พี่ๆ น่ารักมาก อุส่าห์ให้ผ้าปิดจมูกคนละผืน ตอนที่นั่งไปเที่ยวันเดย์ทริป ไม่งั้นทั้งจมูกและปอดคงเต็มไปด้วยฝุ่น

ขอบคุณทุกคนที่ทำให้รู้ว่า ‪#‎เพราะโลกมันกว้างคนข้างๆจึงสำคัญ‬

ความในใจจากเพื่อนๆ อีกสามสหาย

สหายคนที่ 1 : ไว้ทำทางดีๆ แล้วพบกันใหม่

สหายคนที่ 2 : เพื่อนร่วมทางที่ดีทำให้ทริปสนุกขึ้น - ความโหดร้ายระหว่างทางช่วยให้ทริปน่าจดจำ

สหายคนที่ 3 : “เห้ย.....ไปเหอะ"

ปิดท้ายด้วยหนุ่มสกินเฮดคนนี้

ถ้าหิวนักกินเราก็ได้นะ แอร๊ยยยยยยย พูดอัลไลออกไป 5555555

***หมายเหตุ*** ค่าใช้จ่ายหมดไปคนละประมาณเกือบ 8,000 บาท เราว่าเป็นทริปที่แพงพอๆ กับไปเวียดนามหรือไม่ก็ฮ่องกงเลยแหละ ครึ่งหนึ่งเป็นค่าเดินทาง (เดินทางช่วงวันหยุดยาว รถหมดเลยต้องเหมารถตู้) อีกครึ่งหนึ่งเป็นค่าที่พักกับค่าอาหารการกิน