สวัสดีครับหลังจากห่างหายห้องบลูแพนเน็ต เป็นเวลานาน วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดีขอพาทุกๆท่านไปเที่ยวแบบไฮโซ สโลไลฟ์ แต่จ่ายไม่แพง ทริปนี้เราล่องเรือแบบหะรูหะหรา ที่หลับที่นอนก็ดูไฮโซ ไฮโซ้ สวย สงบ ส่วนตัวสุดๆ และที่สำคัญราคาไม่แรงเลยครับ ส่วนตัวกลับคิดว่า เฮ้ยทั้งติดทะเลมีหาดส่วนตัว มีสระว่ายน้ำ แถมมีอาหารเช้าให้ด้วย จะคุ้มไปใหนครับกับราคาไม่ถึง 6000 บาท สำหรับทริปเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ของเรา


ไปครับ ได้เวลาเก็บกระเป๋าเดินทางสู่ ภูเก็ตกันอีกแล้ว ครั้งนี้เดินทางด้วยน้องญาญ่า นางเอกคนโปรดของผมอีกตามเคย
ใครจะไม่หลงเธอหละ มีเลานจ์ใว้ค่อยบริการ อาหารเสริฟบนเครื่องเลือกที่นั่งฟรี แถมโหลดกระเป๋าได้อีกตั้ง 15 กิโล เรียกว่าสวยครบ
จบที่เดียว ไม่มีจ่ายจุกจิก


เผลอแปปเดียวมาถึงภูเก็ตแล้วครับ กำลังทานข้าวเสร็จไปเอง ลงมารับกระเป๋า สักครู่พนักงานจาก อันดามันแพลสชั่น
โทรมาสอบถามว่า เดินทางมาถึงสนามบินหรือยัง หลังจากนัดแนะกับทางอันดามันเพลสชั่นเรียบร้อยแล้ว ก็ไปรอที่จุดนัดพบได้เลยครับ
แนะนำให้จองตั๋วมาถึงภูเก็ตก่อน เที่ยงครับ เราจะได้ไม่เสียค่ารถตู้จากสนามบินไปท่าเรือ รอไม่นานเที่ยงนิดๆรถตู้มารับไปท่าเรือ ยอร์ช เฮฟเว่น
จากสนามบินไปท่าเรือใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที มาถึงแล้ว ลงจากรถตู้เสร็จ มีพี่ๆจาก อันดามันเพลสชั่น ค่อยต้อนรับและเช็คชื่อ
พาไปขึ้นเรือเลยครับ


ก่อนขึ้นเรือถอดรองเท้าใส่ตระกร้าด้วยน่ะครับ ส่วนขากลับ รองเท้าของเราจะถูกเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบ เสียดายลืมถ่ายรูปมาด้วย


ขึ้นไปด้านบนมีเจ้าหน้าที่พาไปยังที่นั่ง ซึ่งแต่ละที่มีการจองไว้ล่วงหน้าแล้วครับ ถ้าไปกันหลายๆคนก็จะได้โต๊ะนั้นไปครองเลย
ส่วนใครที่มาเป็นคู่ อาจจะต้องนั่งรวมกับแขกท่านอื่น ถือว่าเป็นการเพิ่มเพื่อนใหม่ไปในตัว แลก Line Add facebook ส่งรูปให้กัน
ถ้าพูดคุยกันถูกคอ ทริปหน้าคุณอาจจะไปเที่ยวด้วยกันอีกก็ได้ครับ


นั่งประจำที่สักพัก มีเครื่องดื่มมาต้อนรับ เย็นสดชื่น ช่วยดับร้อนได้ทีเดียว


เตรียมกล้องและพร็อพ ให้พร้อม ไปถ่ายรูปกันดีกว่าครับ มาครั้งนี้ ทางเรือ Hype ได้มีการต่อเติมชั้นสอง เป็น รูฟท็อปบาร์มีโซฟา
ไว้ให้นอนอาบแดด รับลมเย็นๆและเป็นที่ถ่ายรูปเก๋ๆให้เราครับ มันดีงามพระราม 8 มาก

ถ่ายรูปเหนื่อยแล้ว ถึงเวลากินครับ ไปตักอาหารได้เลย ไลน์อาหารจะตั้งไว้รอเรา ประมาณ 1 ชม ครับ มีซูซิ ข้าวผัด คานาเป้
เครื่องดื่ม น้ำอัดลม น้ำผลไม้ เติมได้ตลอดเวลาที่อยู่บนเรือ


เส้นทางล่องเรือวันนี้เราจะไปเกาะห้องกันครับ ใช้เวลา เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง และจอดแวะเล่นน้ำด้านหลังเกาะห้องอีก 45 นาที


ระหว่างที่เดินทางไปเกาะห้อง แขกส่วนใหญ่จะหามุมของตัวเองถ่ายรูปเซลฟี่ หรือรวมกลุ่มถ่ายรุปกันอย่างสนุกสนาน
ถ้าใครมาคนเดียว ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้รูปน่ะครับ พี่ๆบนเรือพร้อมให้ความช่วยเหลือ ช่วยคิดท่า จัดองค์ประกอบให้พร้อม
รับรองได้รูปกลับบ้าน อัพลงโซเชียลได้ทั้งเดือนครับ


มาถึงด้านหลังเกาะห้อง มีเรือยางพาเราไปชม Lagoon ด้านในของเกาะห้อง และ ใครสนใจเล่นน้ำก็เล่นได้ที่หาดข้างๆได้เลยครับ


ส่วนผมไม่ค่อยอยากลงน้ำสักเท่าไร เข้าไปชม ลากูนในเกาะห้องเสร็จ ขึ้นเรือมาถ่ายรูปนั่งบนเรือ นอนรับลมเล่นดีกว่าครับ ตามวิถีสโลไลฟ์

ขึ้นเรือมาได้พักใหญ่ พี่ๆมีผลไม้หวานฉ่ำ และ เครื่องดื่มชื่นใจมาให้ดับกระหายคล้ายร้อนสร้างความซาบซ่า
กระตุ้นให้ออกไปโชว์สเต็ปหลังจากนี้ครับ


ใครใคร่ออกสเต็ปเชิญด้านในเรือ ใครชอบสโลไลฟ์เชิญโซฟาด้านหน้าเรือ นอนรับลมพร้อมชมพระอาทิตย์ตก
โรแมนติกกันสุดๆสำหรับคนมีคู่ครับ


เรือกลับมาถึงท่าเรือประมาณ 1 ทุ่มครับ ขึ้นจากเรือ มีรถตู้ค่อยรับ-ส่งไปยังที่พัก คืนนี้เราไปนอนกันที่ แมงโกรฟ พันวา ครับ


จากท่าเรือไปยังโรงแรมใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.มาถึงเกือบสองทุ่ม คืนนี้ขอตัวเข้านอนก่อนครับ
พรุ่งนี้จะพาไปสำรวจให้ทั่วโรงแรม

สวัสดีเช้าวันที่สองของการพักผ่อนครับ แทบไม่อยากลุกจากเตียงเลย ด้วยบรรยากาศฝนตกชุ่มฉ่ำตั้งแต่ตอนกลางคืน
จนถึงตอนเช้ายังโปรยปรายไม่ขาดสาย ได้นอนคดตัวอยู่บนที่นอน และไม่ต้องรีบตื่นไปทำงาน มันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก
ก่อไก่ล้านตัวไปเลยครับ นอนต่อสิครับจะรออะไร


ตื่นมาอีกทีช่วง 9 โมง อาบน้ำแต่งตัวสบายๆไปทานมื้อเช้า อาหารเช้าของที่นี้ดูง่ายๆ ไม่ต้องมากมาย แค่ไลน์ สลัดผัก ผลไม้ ขนมปัง
และบาร์น้ำผลไม้ อาหารหลักมีทั้งอินเตอร์ ไทย สองสามอย่าง และสถานีไข่ที่ค่อยให้บริการเสริฟร้อนๆให้ครับ เหมาะกับวันสบายๆ

กิจกรรมวันนี้หนักทั้งวันเลยครับ นอนฟังเสียงฝนตก ซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม ข้าวเที่ยงเลยอดทานกันเลย นอนกันทั้งวันครับ
ช่วงบ่ายๆฝนหยุดตก ได้เวลาออกไปสูดอาการด้านนอกกันบ้าง


เริ่มจากด้านหน้าห้องพักกันเลย มีลานหมากรุก ชิงช้าและเก้าอี้ไว้นั่งรับลมทะเล มุมนี้สวยทั้งกลางวันและกลางคืนเลยครับ
ถัดไปจะเป็นศาลาไทย ไว้สำหรับนวดไทยหรือนวดผ่อนคลาย ราคาไม่แพงเลย ชั่วโมงละ 600 บาท


แอบเห็นเรือแคนูและเซริฟบอร์ด ตอนเย็นจะมาเล่นครับ ฝั่งตรงข้ามของศาลาไทย เป็นบาร์เครื่องดื่ม M Bar และ
ห้องอาหาร Thai Kitchen ที่ให้บริการทั้งมื้อเ เช้า เที่ยง เย็น อยู่ติดกับสระว่ายน้ำส่วนกลางครับ บรรยากาศห้องอาหาร
ตกแต่งแบบสบาย โล่ง โปรง สระว่ายน้ำทอดตัวยาวว่ายได้สบายเลยครับ


ไปดูห้องพักกันบ้าง มีโอกาสได้ถ่ายรูปมาแค่ สองแบบ ห้องแบบแรกเป็นห้องเริ่มต้น คือห้อง สตูดิโอ ดีลักซ์
ราคาหน้าโลว์ซีซันไม่ถึง 2000 บาท พร้อมอาหารเช้า ห้องดูกว้างมองเห็นวิวทะเล ในห้องมีไมโครเวฟ ไว้ให้อุ่นอาหารตอนดึกๆ
ดีงามมากครับ เตียงนอนเหมือนกันทั้งโรงแรมครับ รับประกันว่านอนสบาย แต่งต่างกันเพียงแค่ทำเลที่ตั้งและบรรยากาศ


มาดูห้องพักที่ ผมพักกันบ้างครับ สตูดิโอ วิลล่า โอเชี่ยน กับราคา ไม่ถึง 3000 บาท ห้องที่อยากแนะนำเลย
คือ 101 ครับ มองเห็นทะเลจากเตียงนอนเลย ใกล้ห้องอาหารและสระว่ายน้ำที่สุดครับ ลักษณะห้องคล้ายๆกับห้อง
สตูดิโอ ดีลักซ์ เพิ่มเติมขึ้นมาคือ ขนาดของห้อง และอ่างอาบน้ำด้านหน้าครับ บอกเลยว่า ราคาไม่ถึง 3000 บาท
รวมอาหารเช้าคือ คุ้มมากๆ


เย็นแล้วออกไปพายแคนูเล่นกันดีกว่าครับ ที่นี้มีหาดส่วนตัวด้วย เสียดายเล่นน้ำไม่ได้ครับ พื้นเป็นหิน
เวลาเล่นน้ำอาจเป็นอันตรายโดนบาดได้ พายแคนูเล่นชิวๆดีกว่า อย่าเสี่ยงเลยครับบริเวณหน้าหาดจะเป็นป่าชายเลน
มีต้นโกรงกรางเป็นแหล่งหากินและหลบภัยของสัตว์น้ำ ตอนเย็นๆจะเห็นชาวบ้านมาทอด แหหาปลาด้วยน่ะครับ


พายแคนูจนเหนื่อยแล้ว ไปทานข้าวเย็นกันดีกว่า ขี้เกียจออกไปข้างนอกครับ ทานกันที่ห้องอาหารของโรงแรม
สั่งมาทั้งไทยทั้งฝรั่งกันเลย รสชาติอาหาร รับรองไม่ผิดหวังครับ ทำได้ถูกปากคนไทยอย่างผม ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำ
หรือผัดไทกุ้งสด ส่วนสปาเก็ตตี้ขีเมาทะเลกับซีซ่าร์สลัด รสชาติใช่ได้ครับ เครื่องดื่มเป็น โมจิโต กับ เสาวรส ครับ
ชิมไปชิมมา เริ่มมีอาการเซ่ จัดไปคนเดียวสองแก้ว


อิ่มแล้วได้เวลาเดินย่อยอาหารสักหน่อย ขึ้นไปดูด้านบนล็อบบี้กันบ้าง เป็นลอบบี้เล็กๆ โอเพ่นแอร์
ลืมบอกไปว่าตึกข้างๆเป็นตึกของห้องแบบ สตูดิโอ ดีลักซ์ครับ อยู่ด้านบนใกล้ล็อบบี้เลย ทางขึ้นลงไม่ได้ชันมาก
แต่ก็เล่นเอาหอบเหมือนกัน ก่อนเข้าห้องแวะเยี่ยมน้องกระต่าย เห็นตั้งแต่กลางวันแหละ

บรรยากาศตอนค่ำ สงบมาก ใครมานั่งชิ่งช้าตรงนี้ ทากันยุง มาด้วยน่ะ ไม่งั้นขาลายแน่นอน
เดินวนถ่ายรูปหน้าสนามหญ้ากันไปครับ มุมสนามหมากรุก สระว่ายน้ำ ถ่ายได้แปปเดียวฝนตกไล่ อีกแล้ว
เข้าห้องอาบน้ำนอนดีกว่าครับ


รูปจากหน้าห้องพักครับ คืนนี้ราตรีสวัสด์ เตรียมตัวกลับกรุงเทพ หื้อๆ ไม่อยากกลับเลย


เช้าวันสุดท้ายของทริปอากาศดีมากครับ ฟ้าใสเลย มันน่าเสียใจนัก เอาภาพสระว่ายน้ำทิ้งท้ายครับ
เสียใจหนักมาก ไม่อยากกลับเลย ทานมื้อเช้าเสร็จ เรียกแท็กซี่ไปส่งสนามบิน


ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. เผื่อเวลาไว้ด้วยก็ดีน่ะครับ การจราจรในภูเก็ตเอาแน่เอานอนไม่ได้เหมือนกรุงเทพ
เช็คอิน โหลดกระเป่าเสร็จมุ่งตรงไปยังเลานจ์ของบางกอกแอร์เวย์เลยครับ ไปกินข้าวต้มหมัด หิวมากไม่ได้ทานมื้อเที่ยง
ขามาไม่มีเวลาได้นั่งในเลานจ์ เลยใช้เวลาที่ภูเก็ต ทั้งชาร์จโทรศัพท์ นั่งเล่นโน๊ตบุค สบายใจกันไป รอเรียกขึ้นเครื่อง
อาหารพร้อม เสริฟบนเครื่องรองท้องก่อนถึงกรุงเทพ

หมดไปแล้วครับกับทริปเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ของเรา เวลา 3 วัน 2 คืน มีความสุขมากได้พักผ่อนไปแบบสโลไลฟ์
ไม่ต้องออกไปใหน ไม่เน้นกิจกรรมหนักๆ มีความแฮปปี้ได้รูปกลับมาเปลี่ยนโปร์ไฟล์ได้เป็นปี ได้พักผ่อนแบบจริงๆจังๆ
กิน นอน ตื่น ตอนเย็นออกมาทำ activity นิดหน่อย


สรุปสุดท้ายความประทับใจของทริปนี้กันครับ


ทริปล่องเรือ Hype คือดีงามมากครับไม่ว่าจะมากับเพื่อน หรือคู่รัก เรียกได้ว่าเป็นทริปแห่งการถ่ายรูปแบบจริงจัง
ได้พักผ่อนสมอง ผ่อนคลายจากการแดนซ์ไปกับดนตรีมันๆ ลองมาสักครั้งรับรองจะติดใจ โดยเฉพาะหนุ่มๆพาแฟนมาเถอะมันดีงามมากครับ
ที่พักเพิ่มพลังในการพักผ่อนของเรา The Mangrove panwa Phuket โรงแรมสวย เรียบง่าย เงียบสงบ มีชายหาดส่วนตัว มีกิจกรรมให้ทำ
ราคาไม่แพง เริ่มต้นไม่ถึง 2000 บาทรวมอาหารเช้า ถือว่าคุ้มมากๆ แต่ก็อยู่ไกลสนามบินนิดหนึ่ง ระแวกใกล้ๆไม่มีร้านขายของเท่าไร
ต้องซื้อเข้ามาก่อนเข้าโรงแรม ด้วยความไกลจากตัวเมืองเลยทำให้ที่นี้สงบเหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆและเหมาะกับคนที่ไม่ชอบออกไปใหน
ส่วนทริปนี้ขอลาไปก่อนครับ ทริปหน้าเราจะไปทะเลต่างประเทศกันบ้างครับ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยือนกันครับ

Mr'Napat Ittiyos

 วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 16.33 น.

ความคิดเห็น