สวัสดีค่ะรีวิวฉบับนี้เป็นฉบับที่ 19 (Vol.19)แล้วนะคะ
วันนี้จะชวนเพื่อนๆ ไปใช้ชีวิตแบบ Slow Life กันค่ะ
แต่ที่ไหน เดี๋ยวตามไปชมกันนะคะ

*** SR เฉพาะที่พักนะคะอย่างอื่น ออกเองหมดค่ะ***


ขอขอบคุณที่สวยๆลา เอ นาตู เบดแอนด์เบเกอรี่ (la a natu bed & bakery) http://www.laanatu.com/thai/

https://www.facebook.com/laanatubb

แวะให้กำลังใจ ทราย ทาง Facebook"S Travel My Story" ตามลิงค์ข้างล่างนะคะ

https://www.facebook.com/pages/S-Travel-My-Story/310289235793445ทริปนี้ทราย จะมาชวนเพื่อนๆ ไปใช้ชีวิตแบบ Slow Life กันค่ะ

Slow Life ในแบบของทราย ก็คือไม่เร่ง ไม่รีบ ไปกันเรื่อยๆตามนี้นะคะ

ทราย เดินทางออกจาก กทม. ช่วงสายๆ ค่ะไปกันแบบไม่เร่งรีบก็เลยขอแวะไหว้พระเอาฤกษ์ เอาชัย ก่อนแล้วกันนะคะ

ทริปนี้ เริ่มกันที่"วัดห้วยมงคล" แต่เดิมใช้ชื่อว่า “วัดห้วยคต" ตั้งอยู่ ในชุมชนบ้านห้วยคต ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทาน นามใหม่จากห้วยคตเป็นห้วย“มงคล"

วัดที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก

การเดินทาง


1.รถยนต์ส่วนตัว

จากหัวหินใช้เส้นทางหนองพลับ-ป่าละอู(ทางหลวงหมายเลข 3218) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ถึงตำบล ทับใต้เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกหนองตะเภา แล้วเข้าไปตามทางจนถึงวัดห้วยมงคล เปิดระหว่างเวลา 05.00-22.00 น.

2. รถสาธารณะ

วัดห้วยมงคลไม่มีรถสาธารณะเข้าถึง ต้องเหมารถสองแถวจากหัวหินไป หรืออาจจะเช่ารถมอเตอร์ไซต์จากรีสอร์ท ที่พักแล้วขับไปที่นั่นจะคุ้มกว่า ระยะทางค่อนข้างไกลจากตัวเมืองหัวหินพอสมควร



เพื่อนๆไม่ต้องกลัวหลงนะคะมีป้ายบอกตลอดทางเลยถ้าทราย ไม่หลง เพื่อนๆ ก็ไม่น่าจะหลงค่ะ....อิอิหลังจาก ไหว้พระเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าสู่ที่พักกันเลยค่ะ

ลา เอ นาตู เบดแอนด์เบเกอรี่ (la a natu bed & bakery) เป็นรีสอร์ทริมทะเลขนาดเล็กที่มีสไตล์โดดเด่นเฉพาะตัว

ตั้งอยู่บนชายหาดปราณบุรี-สามร้อยยอด ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 230 กิโลเมตร

เพื่อนๆต้องเอารถจอดไว้ด้านนอกรีสอร์ทนะคะแต่ไม่ต้องกลัวปลอดภัยค่ะ


ทางรีสอร์ท มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้จากนั้น เพื่อนๆ จะนั่งรถกอล์ฟ คันนี้เข้าไปภายในรีสอร์ทค่ะ

ทางเข้า - ออก รีสอร์ท ค่ะ


ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาทีค่ะเพื่อนๆ จะมาถึงทางสะพานไม้มายังล็อบบี้ ค่ะ


ล็อบบี้ค่ะน้องพนักงาน หน้าตา น่ารัก คอยต้อนรับอยู่พอดี


หลังจากเช็คอิน เรียบร้อยแล้วเราไปดูห้องพักกันค่ะ


ห้องพักแบบ วิลล่า(Garden villa) ค่ะ"บ้านข้าวเหนียว" ค่ะ

Welcome drink ของที่นี่เป็นน้ำสับปะรดค่ะ


ภายในห้องค่ะ


ห้องน้ำ แยกออกจากห้องนอนค่ะแต่อยู่ภายในวิลล่าเดียวกัน


ด้านบนวิลล่าค่ะ

ด้านล่างวิลล่าจะมีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่น้ำได้แบบ Open เลยค่ะ ... อิอิ


ด้านล่างของวิลล่า เปิดโล่งค่ะมีที่นั่งให้นั่งเล่นสบายๆ


อารมณ์ เหมือนอยู่บ้านเลยอ่ะนี่นะถ้าไปครบ 4 คน นี่ ขาครบเลยนะ...อิอิ

เก็บกระเป๋า ล้างหน้า ล้างตา พักเหนื่อยกันพอสมควร


เดี๋ยว เราไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันค่ะเขาว่ากันว่าafternoon tea set ของที่นี่อร่อยมากๆ

ห้องอาหารอยู่ด้านบนล๊อบบี้ค่ะตกแต่งเท่ห์ มากๆ เลยเงยหน้ามองด้านบน เหมือนด้านในของร่ม

ที่นั่ง มีให้เลือกหลายโซนค่ะ


ด้านนอก ก็บรรยากาศดีนะคะ


มาแล้ว afternoon tea set ของทราย...อิอิหน้าตาน่าทานมากๆ เลย


ทานขนมกันอิ่มแล้ว เราเริ่มการสำรวจกันเลยดีกว่าค่ะ .... อิอิ


เริ่มจาก สระว่ายน้ำค่ะ

จากสระว่ายน้ำเราเดินลงมาที่ห้องอาหารค่ะแล้วก็เลือกที่จะเดินออกไปทางด้านหลังตรงสะพานไม้


พอออกมากลางสะพานไม้ มองหันหลังกลับไปนั่น กองฟางยักษ์...อิอิ

วิว จากบนสะพานไม้จะเห็นที่ห้องพักแบบวิลว่า (Garden villa) ค่ะ


ช่วงที่ ทราย มาทางรีสอร์ท เขาเพิ่งเกี่ยวข้าวไปเลยไม่ได้เห็นทุ่งนาเลย

เดินลงจากสะพานมาจะเจอนี่เลยค่ะจุดถ่ายรูป ใครไม่ได้ถ่าย ถือว่ามาไม่ถึงนะ....


เดี๋ยว ขออนุญาต พาเพื่อนๆออกไปหาอะไรอร่อยๆแถวรีสอร์ททานนะคะ


พอดี อยากทานอะไรแซบๆ ทราย ดูจากรีวิวของท่านอื่น เขาแนะนำ "ร้านเจ๊เอื้อง-เจ๊อิ้งปูเป็น"

ร้านอาหารขนาดกลาง ไม่ใหญ่มากค่ะแต่มีอาหารให้เลือกเยอะเลยมาดูกัน ทราย เลือกเมนูอะไรบ้าง

ส้มตำปูม้าแซบๆๆๆ มากๆๆๆ

หมึกนึ่งมะนาว


กุ้งเผา ครึ่งโล


ทอดมันกุ้ง


น่าทานใช่ไหมหล่ะอิ่มแล้วเรากลับเข้ารีสอร์ท กันค่ะหลังจากอิ่มแล้วเราก็กลับเข้ารีสอร์ทกันค่ะ


เรามาเดินเล่นริมทะเลกันค่ะ

ด้านหน้าติดกับทะเล ก็จะมีห้องพักแบบวิลล่า วิวทะเล (Sea view villa)


และห้องพักอีกแบบ ก็ ห้องสวีท วิวทะเล (Sea view suite)


ดูรอบๆ เสร็จ ก็ขออนุญาตลงไปเดินบนพื้นทรายบ้างแล้วกันนะ


แล้วก็วางกล้องไปทิ้งตัวลงทะเลดีกว่า....อิอิ

หันหลังกลับมา ว้าวๆๆๆๆสวยจังเลยพระอาทิตย์จะตกแล้ว (ตกด้านหลังรีสอร์ทนะคะ)


และช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึงเวลาชิว ชิว กับบรรยากาศที่สวยงามแต่ทรายนี่สุขแบบเหงาๆ เลยนะ

หลังจากปลดปล่อยอารมณ์ไปเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับดีกว่า ก่อนถึงห้อง ขอแวะเก็บภาพตอนหัวค่ำของรีสอร์ทสักหน่อย...


เดินจนสบายใจแล้ว ก็กลับห้องดีกว่าพอถึงห้อง เปิดประตูก็ถึงกับอมยิ้มเลย


เห็น พี่ควาย มานอนรออยู่บนเตียง...อิอิ

(ตอนแรกที่เข้าของตอนเช็คอิน ก็แอบแปลกใจว่า ทำไมนะ ทำไมห้องเราไม่มีพี่ควายมาวางเลย

ไม่เห็นเหมือนในรีวิวของคนอื่นนะ)

หลังจากใช้ชีวิตแบบ Slow Life ไม่เร่ง ไม่รีบ สบายๆมาทั้งวันแล้วคืนนี้ ขอนอนกอดพี่ควายสักหน่อยนะคะ


หลังจากเมื่อคืน นอนกอดพี่ควาย หลับสนิทมากๆเช้านี้ ก็ขอตื่นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นซะหน่อย


เวลาประมาณ6 โมงค่ะล้างหน้า แปรงฟันหยิบกล้องคู่กาย กับขากล้อง เดินดิ่งไปทะเลค่ะ

เก็บเกี่ยวความสุขยามเช้า เกือบ 1 ชั่วโมงเต็ม ฟ้าก็เริ่มสว่าง ไปอาบน้ำอาบท่า แต่งตัวไปทานข้าวเช้ากันดีกว่า


อาหารเช้าที่นี่ เป็นแบบเมนูมาให้เลือกค่ะแต่ทานได้เต็มที่เลยนะเขาไม่จำกัด


เมนูต่อไปนี้ ที่เพื่อนๆ เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ได้ลงไปอยู่ในท้องทรายเรียบร้อยแล้วค่ะ...

ข้าวต้มหมูร้อนๆหมูเป็นก้อนๆๆอร่อยชอบๆๆๆ


แอบเสียดายมาก ที่ไม่ได้กิน วาฟเฟอ เขาบอกว่าทรายพลาดเดี๋ยวต้องหาโอกาสมาซ้ำแน่เลยหลังจากทานข้าวเช้าเสร็จก็ขอเดินไปเก็บภาพริมทะเลอีกสักหน่อยก่อนจะเก็บกระเป๋าเตรียมกลับ กทม.


ถึงเวลาต้องบอกลาแล้วสินะรีสอร์ท ริมทะเล ที่มีทุ่งนาสีเขียวๆถ้าไม่ได้เห็นกลับตาก็คงไม่เชื่อ ถึงนาที่เห็น


จะเป็นเพียงพื้นที่เล็กๆ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เขาเกี่ยวข้าวไปหมดแล้ว

ขากลับก็เช่นกันกับขามาค่ะมีพี่ๆ พนักงานขับรถมารับ เพื่อไปส่งที่รถของเรา ที่จอดอยู่ด้านนอก


หลังจากออกจากรีสอร์ทแล้วเราก็มุ่งหน้าเข้า กทม. ค่ะแต่ระหว่างทางเกิดหิวขึ้นมาเลยขอแวะทานข้าวสักหน่อย


ฟาร์ม 1000 สุขตรงนี้ผ่านไป ผ่านมา หลายรอบแล้วรอบนี้ขอแวะสักหน่อย...หุหุ

หลังจากจัดไปแบบเต็มที่แล้วตอนเรียกเก็บเงินพนักงานเดินเอาบัตรเข้าฟาร์ม มาให้ 2 ใบค่ะ (ฟรี)


เดี๋ยว ไปดูในฟาร์มกันนะคะ ว่ามีอะไรบ้างแต่ขอออกตัวก่อนเลยนะว่าแดดร้อนมากๆๆๆๆ

ด้านใน จุดถ่ายรูปเยอะมากๆ ค่ะแต่ช่วงเวลาที่ทรายไป แดดร้อนจริงๆสรุปค่ะทริปนี้กินอิ่ม นอนหลับ ได้ปลดปล่อยอารมณ์มีความสุขแต่แอบเหงา


ความรู้สึกส่วนตัวกับ la a natu bed & bakery ปราณบุรีเป็นรีสอร์ทที่สวย มีความเป็นส่วนตัวมาก

เหมาะกับการไปพักผ่อนมากๆ ค่ะแนะนำ Afternoon tea Set และเค๊ก อื่นๆที่นี่ ไม่ใช่แค่น่าทานนะคะแต่อร่อยค่ะ

การเดินทางไม่ยากค่ะมีป้ายบอกตลอดทางพนักงานน่ารักค่ะเอาใจใส่เดินสวนกันยิ้มแย้ม ทักทายค่ะ

อยากได้อะไรเพิ่มแจ้งได้ตลอดค่ะ....

และสุดท้ายนี้หากผิดพลาดประการใดทรายขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะคะ

และขอขอบคุณเพื่อนๆทุกๆ ท่านที่ติดตามกันมาตลอดค่ะ

S Travel My Story

 วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 15.02 น.

ความคิดเห็น