ความเดิมจากตอนที่แล้ว เรามีกำหนดต้องมาคืนรถที่ Lyon ค่ะ
ในที่สุดเราก็มากันทันเวลาและหลังจากเราคืนรถเช่ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เปิดแผนที่เดินไปยังที่พักกันค่ะ ที่พักสำหรับอำลาฝรั่งเศสที่ Lyon อ่านว่า ลี-ยง คืนนี้นั้น ชื่อว่า Residence Hoteliere Temporim Part Dieu บนถนน Avenue Georges Pompidou ซึ่งไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก สาเหตุที่เราเลือกพักที่นี่ก็เพื่อความสะดวกในวันพรุ่งนี้ที่เราจะเดินทางย้ายไปเที่ยวที่ประเทศอิตาลีกันบ้าง โดยเราจะเดินทางกันด้วยรถไฟ เป็นการเดินทางข้ามประเทศเขต EU ด้วยกัน
ทุกคนต่างพากันลากกระเป๋ากันอย่างหมดสภาพไปจนถึงที่พัก หนูเล็กผู้ทำหน้าที่จองที่พักมาล่วงหน้าทำหน้าที่ไปติดต่อพูดคุยและชำระเงิน จากนั้นเราก็ได้คีย์การ์ดขึ้นไปยังห้องพักชั้น 2 เมื่อเปิดเข้าไปเรียกได้ว่าเห็นแล้วหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ ห้องพักกว้างขวางสะดวกสบายสมกับที่เราจะได้พักเต็มที่ในคืนวันนี้ก่อนเดินทางไกล
เมื่อทุกคนพร้อมก็พากันเดินเท้ากลับไปยังสถานีรถไฟกลาง Gare de Lyon Part Dieu อีกรอบ แต่คราวนี้เราจะเข้าไปเที่ยวเขตเมืองเก่ากันโดยรถไฟใต้ดินค่ะ ซึ่งสถานีรถไฟใต้ดินเดินต่อไปอีกเพียงนิดเดียว
เมื่อไปถึงสถานีรถไฟใต้ดิน (Metro) หนูเล็กฝึกให้ลูกทัวร์จัดการซื้อตั๋วเดินทางด้วยตัวเองกัน นี่เป็นสิ่งละอันพันละน้อยที่ทัวร์เล็กๆ ของเรานิยมนำมาใช้ แม้ว่าก่อนมาเราจะจัดการสารพัดสิ่งเอาไว้ให้เกือบหมดทั้งการจองที่พัก จองตั๋วรถไฟ จองรถเช่า แต่เมื่อมาถึงลูกทัวร์ทุกคนจะได้ต้องรับประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ในระหว่างการมาเที่ยวเปิดโลกประสบการณ์ สิ่งเหล่านี้จะช่วยฝึกให้เราได้รู้จักการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้เดินออกจากโลกใบเดิมๆ ที่เราเคยอยู่ ได้มองโลกกว้างขึ้น เผื่อว่าวันหนึ่งลูกทัวร์แต่ละคนมีเหตุอันจะต้องเดินทางไปกับคนอืน กับครอบครัวก็จะได้มีพื้นฐานและทักษะเบื้องต้นติดตัวไปใช้งานได้
เราตัดสินใจไปตั้งต้นที่ Place Bellecour จัตุรัสกลางเมืองซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของ Lyon ดังนั้น เมื่อได้ตั๋วเดินทางเราก็ขึ้นรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงินจากสถานีนี้คือ Part Dieu ไปลงยังสถานี Chapennes (ชา-แปง) เพื่อไปต่อสายสีชมพูทิศทางที่ไป Perrache (เพอ-รา-เช) แต่ลงที่สถานี Bellecour (แบล-กูร์) ซึ่งเมื่อโผล่ขึ้นไปด้านบนก็จะเจอจัตุรัสที่ว่านี้พอดิบพอดี เรามาถึงจัตุรัสนี้แล้ว ไว้มาตามกันต่อค่ะว่าหนูเล็กจะพาเดินทัวร์ที่ไหนกันอีก ทัวร์นี้ทัวร์เดินทน ลูกทัวร์เราต้องฝึกกล้ามเนื้อขามาให้แข็งแรง ไม่งั้นขาลากตามหนูเล็กไม่ไหวแน่
การเริ่มต้นทำความรู้จักกับ Lyon ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะเริ่มต้นที่จัตุรัส Bellecour (Place Bellecour) เพราะเป็นจัตุรัสกลางเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศฝรั่งเศส และเป็นที่นัดพบยอดฮิตของผู้คนใน Lyon สิ่งก่อสร้างที่อยู่บริเวณจัตุรัสนี้ สิ่งแรกก็คือ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว Lyon Tourisme สามารถไปขอรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้ ส่วนหอคอยสูงๆ นั่นเป็นหอนาฬิกาเก่าแก่ของ Charity Hospital ส่วนรูปปั้นที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่มุมหนึ่งของลานนั้นเป็นอนุสาวรีย์บรอนซ์ของพระเจ้่าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งผลงานนี้เป็นของชาว Lyon ทำขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ ทรงอยู่ในอิริยาบทแสนสง่าประทับบนหลังม้า ด้วยผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานทำให้สีของบรอนซ์เป็นสีเขียวเข้ม ม้าไม่ยกขาผาดโผนแสดงว่าในรัชกาลนี้บ้านเมืองสงบ ไม่มีสงคราม รูปปั้นที่ขนาบ 2 ข้างที่ฐาน เป็นเทวดาประจำแม่น้ำสองสายหลักของ Lyon คือแม่น้ำโซน (Soane) แปลว่า เทพี และแม่น้ำโรห์น (Rhone) แปลว่า เทพ
หากมองผ่านอนุสาวรีย์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ไปไกลๆ บนเขาจะเห็นสิ่งปลูกสร้างสิ่งหนึ่งที่ดูงดงาม นั่นคือ Norte Dame de Fourviere (อ่านว่า น็อร์ท ดาม เดอ โฟรีวีเยร์) เป็นวิหารเก่าแก่ตั้งแต่เริ่มศตวรรษที่ 12 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นเป้าหมายของนักเดินทางส่วนใหญ่ที่มาเยือน Lyon มีคนมาชมไม่น้อยกว่า 2 ล้านคนต่อปี หากจะเดินทางขึ้นไปชมข้างบน ทำได้ทั้งการเดินที่อาจจะหอบแฮ่กๆ หรือจะนั่ง Funiculaire (cable railway) ต่อขึ้นไปจาก Subway สถานี Vieux Lyon ก็ได้ เมื่อไปถึงบนนั้นจะสามารถเดินชมสถานที่โดยรอบและถ่ายรูปวิวเมืองจากมุมสูงได้อีกด้วย ซึ่งเป็นบริเวณที่เรียกกันว่า Fourvière Hill
พวกเราเดินเล่นกันไปตามถนน Victor Hugo ร้านค้าต่างๆ ปิดตัวลงไปบ้างแล้ว จึงได้แค่เดินชมตึกรามบ้านช่อง วิถีชีวิตผู้คน บนถนนเส้นนี้มีรูปปั้นบรอนซ์อยู่อันหนึ่ง พี่ใหญ่ให้ความรู้แก่พวกเราแล้วว่า คือรูปปั้นของ André-Marie Ampére ซึ่งถ้าใครเรียนวิชาไฟฟ้า ก็คงรู้จักที่มาของหน่วยวัด "แอมแปร์" เขาเป็นผู้ค้นคิดทดลองจนสร้าง "ไฟฟ้า" ให้พวกเราได้ใช้อย่างสุขสบายทุกวันนี้ Ampére เป็นคน Lyon อีกทั้งใช้ชีวิตและทำงานที่เมืองนี้ เมืองนี้จึงได้สร้างพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องราวของเขาให้เป็นเกียรติและเป็นแหล่งเรียนรู้ของคนรุ่นหลังไว้ด้วย
จากถนน Victor Hugo เราเดินกันไปทางถนน Sala เพื่อไปชมบรรยากาศริมแม่น้ำโซน (Soane) ทำให้ไปพบกับสะพาน Passerelle Paul-Couturier เป็นสะพานขึงสีแดงสด ครั้งหนึ่งเคยเรียกกันว่า Bridge Saint-Georges ความกว้าง 87 เมตร ที่เคยถูกทำลายลง เมื่อปี ค.ศ.1944 และสร้างขึ้นมาใหม่ในรูปแบบเดิม นับเป็นสะพานที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของ Lyon
ฝั่งตรงข้ามสะพานเป็นโบสถ์เซนต์จอร์จ (Eglise Saint-Georges) แต่พวกเราไม่ได้ข้ามไปชมค่ะ แค่เมียงมองจากฝั่งนี้เท่านั้น บริเวณนี้จัดได้ว่าบรรยากาศดี เพราะเราสามารถไปยืนบนสะพานขึง ชมวิวแม่น้ำ Soane ได้อย่างสบายตาสบายใจ มีบริการเรือนำเที่ยวล่องในแม่น้ำ Soane ลอดใต้สะพาน Bonaparte ด้วย ตึกรามบ้านช่องริมๆ ทางล้วนมีสีสันพาสเทลสดใสชวนมอง มุมนี้ก็สามารถมองเห็น Norte Dame de Fourviere ได้เหมือนกัน
และหากสังเกตให้ดีก็จะเห็นโครงเหล็กสีดำๆ ที่อยู่ใกล้ๆ กันนั้นด้วย นั่นเป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ได้ชื่อว่าเป็นหอเหล็กแห่งโฟรีวีเยร์ (Tour Metalique de Fourviere) ที่กล่าวขานกันเช่นนี้เพราะนักท่องเที่ยวเห็นพ้องต้องกันว่าเมื่อมองไกลๆ มีลักษณะคล้ายกับหอไอเฟลที่กรุงปารีส เลยเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจ
พวกเราเดินชมตึกสีหวานๆ ลวดลายบนตึกที่อ่อนช้อยกันจนพอใจ ก็พากันเดินกลับไปขึ้นรถไฟใต้ดินยังสถานี Bellecour สถานีเดิม ย้อนกลับไปยังต้นทางคือ Part Dieu ใกล้ที่พักของเรา เพื่อไปหาซื้อวัตถุดิบ ข้าวของสำหรับการทำอาหารเย็นวันนี้และอาหารเช้าพรุ่งนี้ ก่อนออกเดินทางสู่ดินแดนแห่งใหม่ที่เราไม่คุ้นเคย "อิตาลี" ที่กำลังอ้าแขนรอรับเราอยู่
พรุ่งนี้แล้วสินะ "อิตาลี" ที่เราจะได้พบกัน
แวะไปเยี่ยมชมภาพถ่ายจากการเดินทางและทักทายพี่ใหญ่กับหนูเล็กได้ที่
https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/
Piyai&Noolek
วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 09.24 น.