สวัสดีค่าทุกท่าน Tamkarwela ฉบับนี้จะพาไปใช้ชีวิตอยู่ในโรงแรม Hilton Sukhumvit Bangkok ซึ่งเป็นบ้านของคุณเจย์และคุณเดซี่กันเบาๆ 2 วัน 1 คืน กับอาหารอีกมากมายหลายมื้อนอกจากมื้อหลักๆ กลางวันอาฟเตอร์นูนทีเย็นเช้าและกลางวัน แล้ว เราจะพาไปดูมื้อต่างๆในthe Executive Lounge ด้วยนะคะ ทั้งอาหารเช้าอาฟเตอร์นูนที และ อีฟนิ่งค๊อกเทล์ค่ะ เพราะห้องที่เราจะพักคืนนี้เป็นแบบ KING EXECUTIVE ROOM WITH LOUNGE ACCESS เลยเข้าไปดูว่าเสิร์ฟอะไรกันบ้าง เผื่อท่านไหนสนใจจะได้เก็บไว้เป็นข้อมูลค่ะ



หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าคุณเจย์กับคุณเดซี่เป็นใครเดี๋ยวจะค่อยๆแนะนำคุณเจย์กับคุณเดซี่ให้รู้จักนะคะทั้ง 2 ท่านใจดีน่ารักค่า



บางครั้งการได้เปลี่ยนบรรยากาศหรือพักผ่อนไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลๆเสมอไปการได้มาใช้ชีวิตที่โรงแรมกลางเมืองก็สนุกดีนะคะเดินออกมาก็เจอห้างสรรพสินค้า เอ็มโพเรี่ยมและสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงศ์แล้วไปไหนมาไหนก็แสนสะดวกหรือจะใช้ชีวิตชิลล์ๆอยู่แต่ในโรงแรมก็ไม่น่าเบื่อเราเลือกแบบหลังค่ะ2 วัน 1 คืนที่นี่ผ่านไปเร็วมากยังไม่อยากกลับเลยคุณเจย์และคุณเดซี่เลี้ยงดูต้องรับ Tamkarnwela เป็นอย่างดีมากกกกกกกก

มาดูกันค่ะว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง รวมทั้งมีไอเดียเผื่อใครกำลังหาที่ฉลองวาเลนไทน์ค่ะ



และขอปิดท้ายรีวิวนี้ด้วย Weekend A La Carte Brunch ของที่นี่นะคะอาหารในเมนูมีเกือบ 50อย่างได้ สั่งได้ไม่อั้น กินซ้ำๆกี่จานก็ได้ค่ะ



ก็บกระเป๋าขึ้นรถมาด้วยกันเลยนะคะ



Hilton Sukhumvit Bangkok Hotel ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 ค่ะเข้าซอยมานิดเดียวอยู่ซ้ายมือค่ะ



หรือจะเดินทะลุด้านหลังมาจากโรงแรม Double Tree By Hilton Sukhumvit ก็ได้ค่ะ



เช็คอินกันตรงนี้ก่อนค่าแขกที่มาพักบ้านคุณเจย์กับคุณเดซี่ค่อนข้างเยอะค่ะ



เข้ามาก็จะเจอชาย-หญิงคู่นี้นี่คือคุณเจย์และคุณเดซี่และเราจะเจอในอีกหลายๆส่วนของโรงแรมค่ะ



คุณเจย์และคุณเดซี่เป็นตัวละครที่สมมุติขึ้นเพื่อดำเนินเรื่องราวภายในโรงแรมค่ะ



คุณเจย์สุภาพบุรุษชาวอิตาลีที่ชอบเดินทางชอบค้นหาอะไรใหม่ๆและชอบประเทศไทยจึงออกเดินทางจากอิตาลีมาไทยโดยทางเรือ



คุณเดซี่สุภาพสตรีชาวอเมริกันที่ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศไปไหนแต่เลือกที่จะเดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งแรกเดินทางมาโดยเรือลำเดียวกันกับคุณเจย์



ทั้ง 2 ได้พบรักกันบนเรือได้แต่งงานกันโดยมาใช้ชีวิตที่ประเทศไทย ในกรุงเทพมหานครและมีเจ้ามะลิที่คุณเดซี่กำลังจูงอยู่เป็นสมาชิกในครอบครัวค่ะ



ที่นี่จึงตกแต่งสไตล์อิตาเลี่ยน-อเมริกันในยุคปีคศ.1920



Lobby กว้างขวาง



สวยงาม



แต่ก็จะมีความเป็นไทยสอดแทรกในจุดต่างๆเช่นโต๊ะบริเวณล๊อบบี้นี้จะมีการเขียนชื่อกรุงเทพมหานครเป็นอักษรไทย



ก่อนจะขึ้นไปบนห้องแวะทานอาหารกลางวันกันก่อนค่ะที่ห้องอาหารชื่อเก๋ๆว่า Mondo ซึ่งแปลว่าโลกในภาษาอิตาเลี่ยน



บรรยากาศนั่งได้นานๆ



ที่นี่จะจำลองชีวิตการเดินทางของคุณเจย์ออกมาในรูปกระเป๋าเดินทางลูกโลกและแผนที่



น้องหมี ฮิลตันก็เป็นนักเดินทางด้วยค่ะ



บรรยากาศน่ารักดูเป็นโลกของนักเดินทางค่ะ



ทุกโต๊ะจะมีดอกไม้สีม่วงนี้ดอกไม้ประจำโรงแรมนี้ค่ะอุตส่าห์ถามชื่อมาจำไม่ได้อีกแล้ว



สบายๆ ตรงนี้ก่อนค่ะ



เมนูที่นี่มาในรูปแบบของ Passport นะคะอาหารด้านในก็แบ่งโซนประเทศกันไป



จานแรกเป็นผัดไทยค่ะอาหารยอดฮิตของชาวต่างชาติเราลองสั่งมาชิมดูรสชาติดีเลยค่ะ



สั่งอาหารแบบอยากทานอะไรก็สั่งนะคะอาจจะดูไม่ค่อยเข้ากันค่ะ 555++


Chef's Cold Cuts and Chesse Selection



Spaghetti Alla Cabonaraเข้มข้นมากค่ะ



Mondo's Green Salad



และจานสุดท้ายเป็นTraditional SpanishMeditrranean Seafood Paellaข้าวผัดสเปนนั่นเอง



ที่นี่เสิร์ฟ Cocktail ด้วยนะคะตอนเย็นบางวันมีดนตรีสดเบาๆฟังเพลินๆค่ะ



แอบถ่ายบรรยากาศ Mondo ยามค่ำมาด้วยค่ะชิลล์ใช้ได้เลย



ที่ Mondo นี่มีเสิร์ฟของหวานด้วยนะคะแต่เราจัดเป็นเซ็ต Afternoon Tea มาแทนการสั่งของหวานค่ะAfternoon Tea สั่งได้ตั้งแต่ 11.00 ถึง 18.00 น.เลยนะคะเราย้ายออกไปจิบชากันที่บรรยากาศด้านนอกดูเขียวๆก็ได้นะคะ



1 เซ็ตสามารถเลือกเครื่องดื่มเป็นชา กาแฟ หรือน้ำผลไม้ได้นะคะ



มีของหวานหลายๆแบบทั้งไทยและฝรั่งผสมผสานกันไปในเซ็ตค่ะ



จิบชาหอมๆ



เซ็ตนี้ 490++ ค่ะ อร่อยยกเซ็ต



อิ่มแล้วไปพักผ่อนบนห้องกันก่อนนะคะ คุณเจย์มาตามค่ะ



ห้องพักที่คุณเจย์และคุณเดซี่จัดให้เราอยู่ชั้น 21 เป็นห้องแบบ KING EXECUTIVE ROOM WITH LOUNGE ACCESS แบ่งเป็น1 ห้องนอนและ 1 ห้องนั่งเล่นค่ะ ส่วนของห้องนั่งเล่นจะเห็นวิวแบบนี้เลยค่ะ



มีส่วนโต๊ะทำงาน



และมีคุณเดซี่ด้วยนะคะ



พร้อมดื่มค่ะ



ไปดูส่วนห้องนอนกันนะคะ



ห้องนอนมาในโทนอบอุ่น



ห้องน้ำกว้างขวาง



นอนแช่น้ำอุ่นๆสบายๆค่ะ



ผลิตภัณพ์ที่ใช้ในแบรนด์ฮิลตัน



ชอบสิ่งนี้ค่ะสบู่แบบมีปุ่มๆ ถูไปนวดตัวไป มีโอกาสขอให้ลองค่ะ มันดีงาม



แอบเซ็กซี่เล็กๆนะคะ



ด้านขวามือจะมีห้องอาบน้ำ กับห้องสุขาค่ะครบครันที่สุดแล้ว



คืนนี้หลับสบายแน่นอน



มื้อเย็นนี้เรามีนัดกับคุณเจย์และคุณเดซี่ที่ห้องอาหาร Scaliniซึ่งเป็นอาหาร Italian-American


การตกแต่งของห้องอาหารนี้จะโดดเด่นด้วยการใช้โทนสีเข้มแบบคลาสสิก จัดฉากย้อนหลังไปยังปี ค.ศ. 1920 ช่วงที่ชาวอิตาเลี่ยนลี้ภัยมายังเมืองนิวยอร์ค และได้นำเอาอาหารอิตาเลี่ยนมาเผยแพร่ในอเมริกา



Scalini เป็นภาษาอิตาเลี่ยน หมายถึงขั้นบันได ซึ่งหมายถึงบันไดวนสำหรับเดินขึ้นมาจากด้านล่างของโรงแรมมายังห้องอาหารค่ะ



วันที่ไปพอดีมีรายการ 108 Living มาถ่ายทำเซ็ตอาหารในวันวาเลนไทน์เลยมีโอกาสได้เก็บภาพมานิดหน่อยค่ะ



โต๊ะนี้เป็นโต๊ะพิเศษที่จะเสิร์ฟเพียงโต๊ะเดียวบนบริเวณสระน้ำชั้น 26 ในคืนวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์นี้ค่ะ



Exclusive สุดๆ



ฉลองตรงนี้


กับวิวนี้ค่ะ .. แอบถ่ายมาแค่นี้ล่ะค่ะ เกรงใจกองถ่าย ไปทานอาหารของเราดีกว่า



ชอบการตกแต่งของที่นี่มาก สวยงามสุดๆ



มีมุมให้เลือกนั่งมากมาย



ไม่ว่าจะมาเป็นกลุ่มหรือมาเป็นคู่ค่ะ



ผนังส่วนหนึงของห้องอาหารถูกออกแบบเป็นไวน์เซลล่าร์ สวยงามลงตัวเข้ากับบรรยากาศของห้องอาหาร



บรรยากาศของห้องอาหารเป็นโทนสีเข้ม และสีดำ ฝาผนังของห้องอาหารเพนท์ลายด้วยภาพของเมืองนิวยอร์ค เพื่อสื่อถึงความเป็นอเมริกัน



Complementary ขนมปังสาระพัดสิ่งเสิร์ฟมากับ Dip ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆแล้วแต่เชฟว่าวันนั้นอยากให้จิ้มกับอะไร และกระเทียมย่างค่ะ มันๆดีนะคะ



จานแรกที่มาเสิร์ฟเป็น Hokkaido Scallop



หอยเชลล์สดๆจากฮอกไกโดSearedภายนอกเล็กน้อย ราดน้ำ Blueberry โรยอะโวคาโดที่นำมาทำเป็นซอสเขียวๆ แต่งจานด้วยหัวไชเท้าแดง ปูอลาสก้า เนื้อจากแก้มหมูอบแห้ง แล้วก็Heirloom tomato ซึ่งเป็นมะเขือเทศพื้นเมืองของอิตาลี รสชาติจะหวานกว่ามะเขือเทศเชอร์รี่บ้านเรา



จานต่อมาเป็น Salmon tartar ค่ะ



เพิ่มความสดชื่นของอาหารจานนี้ด้วยมะม่วงสดและ เบอรรี่ต่างๆ



ไวน์ขาวต้องมาค่ะSeafood แบบนี้



และช่วงที่ไปมีเทศกาลหอยนางรมมาจากหลายๆแหล่งชั้นเลิศค่ะราคาก็แตกต่างกันไป



ได้ลองชิมไปนิดหน่อยบอกเลยว่าของเค้าดีจริงๆ



มี Kumamoto USA / Shigoku USA /Eagle Rock USA / Belon France / Fin de Claire France / Tsarskaya France ค่ะ



Paccheri Duck: Paccheri เป็น Pasta ชนิดหนึง ลักษณะเป็นหลอดๆ แต่เนื้อแป้งจะหนา ต้องต้มนานเป็นพิเศษค่ะซอสที่ใช้ราดทำจากเนื้อเป็ดที่เปื่อยมากเข้มข้น



Risotto Porciniข้าวรืซอตโต้ หุงกับเห็ด porcini เสิร์ฟกับ Foie gras



แอบขอคั่นจังหวะด้วยพิซซ่าค่ะเค้าลือกันว่าอร่อย...ก็จริงของเค้านะ



Spaghetti Seafood มาในฝาแป้งปิดค่ะผ่านการอบมาแล้ว



Seafood มาเต็ม



Cod Filletจานนี้ไม่ได้ชิมค่ะ เพราะเก็บท้องไว้ของคาวจานสุดท้าย



US Strip Loin เสิร์ฟพร้อมถาดเกลือหลากหลาย และซอสสาระพัด


น่าทานทุกถ้วย



เนื้อมารอผักเคียงยังอร่อย



เนื้อมาแบบสุกกำลังดีค่ะ เนื้อนุ่มไม่เหนียวค่ะเราทานแบบไม่พึ่งซอสค่ะ



ถึงเวลาของหวาน จานเด็ดของที่นี่ที่คนชื่นชอบกันก็คือเค้กชอคโกแลตสูตรของคุณยายเนื้อเค้กแน่นๆ ทานกับไอสกรีมวนิลา มีซอสชอคโกแลตให้มาด้วยสามารถเอาผลไม้จิ้ม หรือราดบนไอศกรีมหรือเค้กก็ไม่ผิดกติกานะคะ



Scalini Tiramisu มาในรูปแบบไอศกรีมเข้มข้น



Panna cottaแต่ไม่ชอบ sorbet ที่ทำจากแตงกวาด้านบนค่ะ



จานนี้จำชื่อไม่ได้ค่ะ ข้างล่างในถ้วยจะอารมณ์ประมาณคัสตาร์ดค่ะ อิ่มมากแล้วค่ะจุดนี้



ก่อนกลับ พนักงานนำหนังสือมาให้ค่ะตอนแรกก็งงๆ เปิดออกมาเป็นคุ๊กกี้กับ ชอคโกแลตค่ะเป็นเซอร์ไพรซ์เล็กๆหลังอาหารมื้อนี้ค่ะ หลับฝันดี.....



ก่อนกลับห้องแวะเดินย่อยกันซักนิดไปตรงโซนที่เป็นเหมือนห้องสมุดค่ะอยู่ชั้นเดียวกับ Scaliniเลยค่ะ



เค้าเตรียมเซ็ตไว้สำหรับอาหารเช้าแล้วค่ะ



ตกแต่งได้ถูกใจจริงๆค่ะ



แต่ตอนนี้ขอขึ้นลิฟต์ไปนอนซะทีค่ะ ( หน้าลิฟต์ยังสวย )



บรรยากาศอาหารเช้าที่ Scalini



อาหารหลักๆคล้ายกับที่ Double Tree By Hilton Sukhumit ค่ะ



ครัวเปิดที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ค่ะ



ข้าวต้มค่ะ



อาหารไม่มีพร่องค่ะ



สาระพันขนมปัง



pound cake



puff pastry



ทานกันไม่เยอะค่ะน้ำส้มอร่อยพนักงานจะมาคอยเติมให้ค่ะ



อาหารคุณภาพดีทีเดียว


พาไปดูบรรยากาศ ในthe Executive Lounge กันค่ะอยู่ที่ชั้น 4



มีห้องประชุมให้บริการด้วย



ตกแต่งได้หรูหรา



สามารถมาใช้ชีวิตกินดื่มในนี้ได้ไม่ต้องไปทานที่อื่นเลยค่ะ ที่นี่เสิร์ฟอาหารเช้า / อาฟเตอร์นูนที และ อีฟนิ่งค๊อกเทลค่ะ



เริ่มจาก Evening Cocktail นะคะ



ไวน์ดื่มง่ายๆ



มุมอาหารค่ะพนักงานกำลังจัดเครื่องดื่มทั้งเบียร์Soft Drinkน้ำผลไม้ ชา-กาแฟ



อิ่มมื้อเย็นได้เลยค่ะ


Afternoon Teaถ่ายมาได้นิดเดียวค่ะ ไปถึงเค้าเก็บเกือบหมดแล้วค่ะ



อาหารเช้าย่อส่วนมาจาก Scalini ค่ะ



คุ้มค่ามากสำหรับ Benefit นี้เรายังไม่ได้มาดูสระน้ำกันเลยนะคะอยู่ชั้น 26 ค่ะ คุณเจย์ กะคุณเดซี่ นั่งอ่านหนังสือกันหนุงหนิง วิวหรูค่ะ



เจ้ามะลินั่งประจบอยู่ข้างๆ



แขกสามารถใช้บริการสระน้ำได้ทั้งที่นี่ และ Double Tree By Hilton Sukhumvitส่วนมากฝรั่งจะชอบไปฝั่ง Double Tree มากกว่าค่ะแดดทั่วถึงกว่าฝั่งนี้เดี๋ยวไม่ดำค่ะ



วันนี้เราจะสั่งอาหารกลางวันมาทานกันบนนี้ค่ะ แบบง่ายๆ ที่ Lapse



สั่งอะไรเย็นๆมาดื่มกันนะคะ น้ำผลไม้ที่นี่จะ 100 %ค่ะไม่มีน้ำไม่มีน้ำตาล อร่อยชื่นใจค่ะแก้วนี้เป็นค๊อกเทล ชื่อThe Lapse



Benessere น้ำสัปปะรดผสมน้ำตะไคร้



Albaน้ำแตงโม(ส่วนตัวชอบมาก อร่อยที่สุดเลยค่ะ )



Hilton Club Sandwich



Traditional Caesar Saladwith Smoked Salmon



คอหมูย่างหมูนุ่มค่ะ



ไก่ห่อใบเตยไม่ได้ทานมานานแล้วสมัยเด็กๆทานบ่อยค่ะ



และปิดท้ายมื้อนี้แบบไทยๆด้วยส้มตำค่ะตำได้ดีทีเดียว



เราปิดทริป 2 วัน 1 คืนที่ Hilton Sukhumvit Bangkok ไว้ที่Lapse นี้ค่ะ


แต่รีวิวยังไม่จบนะคะ



Tamkarnwela ได้กลับไปที่ Hilton Sukhumvit Bangkok Hotel อีกรอบในวันอาทิตย์คุณเจย์กับคุณเดซี่ชวนไปทาน Weekend A La Carte Brunch ที่ Scalini ค่ะ



บรรยากาศที่ Scalini อบอุ่นเช่นเคย



ที่นี่ จะจัด Weekend A La Carte Brunch ทุกวัน เสาร์ และ อาทิตย์โดยเป็น Buffet ตามสั่ง ในราคา คนละ 2200 บาท เนต แต่ถ้ารวมเครื่องดื่ม เป็น น้ำผลไม้ และ กาแฟ คนละ 2500 บาท เนต เริ่มเสิร์ฟ 12.00 - 15.00 น.ค่ะ



หาที่นั่งกันก่อนค่ะวันที่ไปที่นั่งทั้งหมดถูกจับจองแล้วค่ะใครสนใจโทรมาจองก่อนดีกว่านะคะ



เอาเมนูมาดูกันดีกว่าค่ะ



อาหารในเมนูมีมากมายสั่งได้เรื่อยๆค่ะสั่งซ้ำได้แต่อาจต้องค่อยๆทะยอยสั่งไปค่ะเพราะทุกจานปรุงสดใหม่ทุกจานอาจใช้เวลานิดนึงค่ะวันนี้ทานกัน4-5 คน สั่งมาแชร์ๆกันจะได้ชิมหลายๆเมนูค่ะ



ตอนนี้มีโปรโมชั่น Champagne Bollinger จากแคว้น Champagne ฝรั่งเศส Free Flow 5000 บาทเน็ต /ขวดละ 4250 บาทเน็ต หรือแก้วละ 800บาทเน็ตค่ะ



ขนมปังยังอร่อยเหมือนเดิมแต่ขออนุญาตไม่ทานเยอะค่ะ เพราะอยากชิมหลายๆอย่างค่ะ



Assorted Italian cold cuts and cheeses from Mondoชอบมากค่ะจานนี้



Oyster fin de Claire with caviear and Prosecco foamหอยนางรมสดหวาน มีรส Procecco นิดๆ กำลังดีค่ะ



Risotto with wind mushrooms and balsamic syrup รสชาติเข้มข้นค่ะ



Egg Norwegian , smoked salmon on bagel breadเหมาะกับ Brunch ที่สุดค่ะ



อีกเมนูไข่ Poach Egg ,Pecorino custard ,black truffle slicedเจาะไข่แดงกันเลยค่า



Rocket salad topped with cherries tomatoes, bocconcini and infused balsamic vinegar ที่นี่ใช้ผักผักจากโครงการหลวงค่ะ



Ferron rice risotto with pan fried foie gras



Refreshing pacific rock lobster, with confit potato, Kalamata olives and Sauteed baby spinachจานแรกมาสีเข้มไปนิด



จานที่ 2 ขาวกว่า



พนักงานที่นี่ดีทุกคนค่ะ



ถามว่ารับพริกไทไม๊มาทีขนาดนี้เลย



Mini beetroot wagyu beef burger balsamic shallot compote สีแดงมาจาก beetrootน่าทานเลย



แต่แป้งทิ้งไว้นานจะแข็งหน่อยค่ะ


Sichuan black pepper pork belly ,green apple Tonka bean puree ,Chinese soy & honey sauceหมูสามชั้นค่ะยอมแพ้..



Seared snapper Mounier style and capers ประมาณปลานึ่งค่ะ



Swordfish belly serve with foie grasจานนี้มีสั่งซ้ำค่ะปลาสด Foie gras อร่อยนะคะ



Deep fried prawn ,Tom yum koong pasteมีความเป็นต้มยำกุ้งนิดๆนะคะ



Smoked king salmon blini classic serving with chives and creme fraiche ชอบค่ะจานนี้



Spaghetti Verrigni with seafood เมนุนี้ได้ทานมาตอนมื้อค่ำที่ Scaliniที่อบแป้งปิดมาค่ะ



Chicken cacciatore with mushrooms and crushed potato ไม่ชอบไก่หน้าอกเป็นการส่วนตัว 555++



Seafood pizza ,calamari ,tuna,salmon, prawns ,onions chilly, oregano พิซซ่าอร่อย สั่งมา 2 รอบค่ะ



Slow cooked lamb ribs on truffle puree with lentil stew แกะไม่เหม็นสาบ เปื่อยยุ่ยค่ะ



Roasted Australian rib eye served withhbutternut puree and white mushroom sauce เนื้อนุ่มๆ



Orecchiette pastaand spicy tomato จานนี้เฉยๆค่ะ



Sauteed black mussels with Espelette chili in white wine sauce ปกติจะเสิร์ฟหอยแมลงภู่นะคะ วันนี้คงไม่มีเลยจัดหอยตลับมาแทน



Beef Carpaccio with rocket salad and parmesan shaves เนื้อดิบทานกับผักสลัด



และจานสุดท้ายที่เป็นอาหารคาวScallop จานนี้น่าจะไม่มีในเมนูนะคะเพราะหาชื่อไม่เจอตอนแรกคิดว่าโดน seared จนไหม้คงจะขมแต่ปรากฎว่าหอยสดหวานมากค่ะตรงดำๆก็ไม่ชมแถมกรอบๆลืมถามเชฟว่าคืออะไรค่ะ


มาถึงเวลาของหวานพลาดไม่ได้Mom's chocolate cake



Provencal Strawberry Tarte ทานคนเดียวไม่แบ่งใครค่ะ



Passion fruit panna cotta อร่อยค่ะ



ไอศกรีมรสต่างๆ สอบถามจากพนักงานค่ะว่าวันนั้นมีรสอะไรบ้าง



Blueberry cheesecake American styleที่นี่ขนมหวานไม่เคยทำให้ผิดหวังค่ะ



ปิดท้ายด้วยชอคโกแลตกะคุ๊กกี้เหมือนเดิมค่ะ



Weekend A La Carte Brunch ของที่นี่นับว่ามีความหลากหลายค่ะ หลายๆเมนูมาจากเมนูปกติแต่ย่อส่วนมาเป็น portion เล็กๆ ทำให้ได้ชิมหลายๆอย่างอาหารที่สั่งไปอาจออกมาช้าบ้างในบางรอบ เพราะแขกเยอะและที่นี่ทำจานต่อจานเชฟจะไม่ยอมปล่อยให้อาหารไม่ดีออกมาเสิร์ฟนะคะขอบคุณคุณเจย์และคุณเดซี่ แห่งโรงแรม Hilton Sukhumvit Bangkok ที่ชวนไปสร้างประสบการณ์ดีดีที่นี่ค่ะนอนหลับสบายมากๆและอาหารก็อร่อยทุกมื้อค่ะ



ขอบคุณตามกาลเวลาที่ไปมาด้วยกันทุกที่



ขอบคุณ Pantip.com ที่มีพื้นที่ดีดีแบบนี้ให้แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ



และสุดท้าย



ขอบคุณทุกท่านที่คลิ้กเข้ามาอ่านรีวิวนี้ค่ะทุกคอมเมนท์ กิ๊ฟโหวตล้วนเป็นกำลังใจแก่ผู้รีวิวทั้งสิ้น



หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารีวิวนี้คงมีประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อยเผื่อใช้เป็นอีก 1 ตัวเลือกสำหรับวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะถึงนี้ค่ะ



รักคนอ่านรีวิวค่ะ



Tamkarnwela



Tamkarnwela

 วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.21 น.

ความคิดเห็น