ขอบอกก่อนนะครับว่า Review นี้ยาวมากกกกกกกกกกกกก

ไม่รู้ว่ากี่ตอนจบ...แต่จะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดทั้ง 6 วันเลย


Day 01 : Thu 01/12/16

คืนวันศุกร์ที่ 1 ธ.ค. 2559 กลุ่มเราเริ่มออกเดินทางจากแถวบางบัวทอง จ.นนทบุรี มีสมาชิกทั้งหมด 4 ผู้ใหญ่กับเด็กสองขวบ 1 คน รวมเป็น 5 ชีวิต ได้แก่ "ผม (หนุ่ม - แฟนพันธุ์แท้ท่องเที่ยวไทย) น้องเอ็ม (แฟนหนุ่ม) แม่แอน (พี่สาวเอ็ม) พ่อยี่ (พี่เขยเอ็ม) และน้องเซลฟี่อายุ 2 ขวบ (ลูกสาวแม่แอนและพ่อยี่)" คนนี้สำคัญมาก เพราะเป็นหัวหน้าแก๊งครับ ทุกคนต้องตามใจ 555

จากเดิมผมวางแผนว่าจะเริ่มออกเดินทางประมาณ 21.00 น. แต่ด้วยจากจราจรที่ติดขัดจากออฟฟิศมาถึงบ้าน กว่าจะกลับมาถึงจริงๆ ก็ 20.30 น. ทั้งยกของขึ้นหลังรถกระบะเจ้า "Chevrolet Colorado (ชื่อเล่น - เจ้าโด้) คู่หูคันเก่ง" เช็คของต่างๆ อาบน้ำอาบท่า ก็เลยเถิดไปเกือบ 22.00 น. ถึงจะไปรับผู้ร่วมทริปอีก 4 คน

ส่วนหลานสาวเซลฟี่ 2 ขวบยังไม่มีทีท่าว่าจะง่วงก่อนดินทาง แต่พอสตาร์ทรถไปไม่ถึง 5 นาที นางหลับปุ๋ยในอ้อมก้อมแม่แอนอย่างสบายใจ ส่วนผมก็ทำหน้าที่โชเฟอร์ขับรถ โดยใช้ถนนกาญจนาภิเษก แวะเติมน้ำมันให้เต็มถังแถวปทุมธานี ซื้อเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เพื่อให้ตาสว่างทั้งคืน 555 พร้อม Road Trip สู่จังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ในตอนเช้า

จากนั้นมุ่งหน้าอยุธยา ออกถนนสายเอเชียผ่านอ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี ตัดออกเส้นบายพาสนครสวรรค์ และมาพักรถก่อนถึงตัวเมืองกำแพงเพชร เวลาประมาณเกือบตี 2 ระหว่างออกมายืดเส้นยืดสายนั้น พ่อยี่มองเห็นว่ายางรถหน้าด้านซ้ายโดนน็อตตัวใหญ่ปักอยู่ ผมเลยสงสัยว่าน่าจะโดนแถวเส้นบายพาสที่ผ่านมา เพราะกำลังก่อสร้างทาง ถนนขรุขระมากๆ ใครใช้เส้นนี้ก็ระวังกันหน่อยนะครับ

ด้วยความที่พ่อยี่มีความรู้เรื่องรถขั้น Advance จึงลองเทสการรั่วด้วยการดึงน็อตออกมาจากล้อ แล้วใช้น้ำลายตัวเองป้ายลงไปจุดที่รั่ว ผลก็คือมีฟองฟอดออกมาคล้ายๆ ฟองสบู่ แสดงว่า "ยางรั่ว" จึงรีบเสียบน็อตกลับที่เดิมเพื่ออุดรอยรั่วครับ 555 แล้วตอนเช้าค่อยหาร้านปะยาง เทคนิคนี้ลองเอาไปใช้กันได้นะ...ง่ายๆ แต่ได้ผล


Day 02 : Fri 02/12/16

เวลาประมาณตี 5 ครึ่ง ผมขับมาถึง อ.สบปราบ จ.ลำปาง ใกล้ๆ เช้าแบบนี้จุดอ่อนของคนขับรถมาทั้งคืนเลยครับ นั่นคือ "ง่วงมากกกกกกกก" ทางออกที่ดีที่สุดคือ "จอดนอนในปั๊ม" ทริปนี้เราเน้น Slow Life แต่ต้องไปให้ทัน 555 ล้อเล่นครับ คือผมเน้นปลอดภัยเป็นหลัก ไม่เสี่ยง ไม่ขับรถเร็ว เพราะส่วนตัวถ้าขับเร็วจะเหนื่อย ขับช้าๆ ไม่เครียด ถึงที่หมายเดินเที่ยวต่อได้เลย

มารู้สึกตัวอีกทีประมาณ 6 โมงเช้า ได้หลับสักครึ่งชั่วโมงก็ดีขึ้นเยอะ จัดแจงแปรงฟัน ล้างหน้า ให้เสร็จสรรพ ร่างกายเฟรชขึ้นมากทันที แต่รู้สึกอยู่คนเดียวนะครับ เพราะอีก 4 ชีวิตหลับปุ๋ยฝันดีกันหมด ระหว่างทางก่อนเข้าลำปาง สองข้างทางถูกปกคลุมด้วยหมอกพอสมควร ระยะมองเห็นคันหน้าไม่ถึง 5 เมตร สัญญาณไฟและเสียงแตรรถจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ


เหมือนเหล่าสมาชิกโรดทริปจะรู้ว่าถนนเส้นนี้มีหมอกสวยๆ ให้ดู จึงทยอยตื่นขึ้นมาทีละคน เริ่มจากน้องเอ็มที่พูดขึ้นมาว่า “โหหหห...หมอกลงเยอะมากๆ ขับดีๆ นะพี่" ส่วนที่เหลือก็นั่งตาใสแป๋ว ดูหมอกฟินๆ ระหว่างทางกันไป ดูนาฬิกาที่ข้อมือ 7 โมงเช้าแล้วหมอกเริ่มจางลง ผมจึงพักรถอีกครั้งเพื่อให้สมาชิกได้ล้างหน้าแปรงฟันกัน สองสาวก็พาหลานเซลฟี่ไปเข้าห้องน้ำ ส่วนผมกับพ่อยี่ก็สำรวจตัวน็อตที่ติดอยู่ล้อยางด้านหน้าซ้าย ทันใดนั้นรู้สึกว่าได้กลิ่นน้ำมันเครื่องอยู่ใกล้ๆ ผมเลยทึกทักเอาเองว่า “กลิ่นรถคันที่จอดอยู่ข้างหน้ามั้งพ่อยี่?" พ่อยี่เดินดูรอบๆ รถเรา ก้มๆ เงยๆ อยู่แป๊บแล้วพูดว่า “กลิ่นของของรถเราหนุ่ม! น้ำมันเครื่องเลอะเต็มบังโคลนเลย เปลี่ยนฝากระโปรงรถดูดีกว่า"

อย่างที่พ่อยี่บอกจริงๆ ครับ เป็นกลิ่นน้ำมันเครื่องรถเราที่กระจายอยู่ห้องเครื่องจริงๆ สาเหตุเพราะก่อนหน้านี้ผมนำรถไปตั้งวาลว์ให้ดีขึ้น เรื่องวาลว์ไม่มีปัญหาครับ แต่ตอนประกอบใส่ส่วนท่ออากาศกลับเข้าไป เกิดขันแหวนล็อคไม่แน่น ทำให้แรงอัดอากาศมันดันขึ้นมา เลยเกิดปัญหาอย่างที่เห็น ที่เล่ามานี้ผมไม่รู้หรอกครับ พ่อยี่บอกทั้งนั้น 555 คือเขาให้ผมลองเร่งเครื่องให้รอบสูง แล้วแกก็ดูว่าจุดไหนที่น้ำมันเครื่องมันดูปุดๆ พุ่งๆ ขึ้นมา และแกก็เอาไขควงคันให้แน่น แค่นี้เป็นอันเรียบร้อย

สรุปคือไม่ได้หนักหนา เพราะเรารู้ปัญหาจากพ่อยี่ ช่างรถจอม Advance ครับ ขอขอบคุณและโชคดีจริงๆ ที่มีเขามาด้วย นับเป็นการเปิด Road Trip ที่เต็มไปด้วยน้ำใจ ฝีมือแบบ Specialist ที่พร้อมช่วยเหลือกัน และสีสันตื่นเต้นๆ ตั้งแต่วันแรกเลย

จากนั้นพวกเรามุ่งหน้าสู่ตัวเมืองลำพูน เพื่อไปจุดหมายแรกคือ “พระธาตุหริภุญชัย" ซึ่งเป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีระกา (ไก่) นั่นก็คือแม่แอน ระหว่างทางน้องเอ็มก็ถามขึ้นมาว่า “รถเป็นไงบ้าง? น้ำมันเครื่องลดเยอะไหม?" ผมตอบกลับไปว่า “2 ลิตรได้จ้า เดี๋ยวเราค่อยหาซื้อในเมืองลำพูนก็ได้"

ประมาณ 08.30 น. ก็ถึงที่หมาย พร้อมกับลมหนาวที่ปะทะผิวพวกเราอย่างรู้สึกได้ พอดีกับเวลากินข้าวของหลานสาวเซลฟี่ ผมจึงจอดรถไว้ที่วัดและเดินข้ามสะพาน “ขัวมุงท่าสิงห์" เพื่อพาสมาชิกไปชิม “ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย (เวียงยอง) เจ้าแรกของเมืองลำพูน" ตัวผมเคยมากินเมื่อหลายปีที่แล้ว อร่อยมากๆ คราวนี้ก็ไม่ผิดหวังครับ อร่อยเหมือนเดิม ราคาก็ไม่แพง ชามละ 40 บาท จัดเครื่องให้เต็มๆ แถมยังมีกาแฟสดให้ชิมอีก รสชาติดีไม่แพ้แบรนด์ดังเลย

หลานสาวเซลฟี่ที่ว่ากินข้าวยากๆ เจอร้านนี้เข้าไปมื้อแรก ถึงกับอึ้ง กินเยอะไม่ใช่เล่น สงสัยชอบกินข้าวนอกบ้าน...เดี๋ยววันหน้าพามาอีกนะ ไม่ไกลๆ แค่เกือบ 700 กม. เอง

ย้อนถึงที่มาที่ไปของก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย (เวียงยอง) นิดนึงครับ คือเกิดจากเมื่อหลายสิบปีก่อน ลำไยที่ลำพูนมีเยอะจนล้นตลาด ราคาตกเหลือกิโลไม่ถึง 5 บาท หลายเจ้าจึงนำมาแปรรูปเป็นลำใยอบแห้งมากมาย เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวจึงเกิดไอเดียว่า “น่าจะนำลำไยมาต้มเป็นน้ำซุปได้ไม่ยาก เพราะน้ำลำไยคนไทยก็กินกันมาตั้งนาน และก็ต้มเนื้อลำไยด้วยน้ำร้อน เรื่องเป็นน้ำซุปจึงไม่ใช่ปัญหา" จากหลักการง่ายๆ แต่พลิกวิธีคิดนิดเดียว ทำให้กลายเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย (เวียงยอง) สุดแสนอร่อย เจ้าแรกของเมืองลำพูน เผลอๆ คือเจ้าแรกของโลก...ก็เป็นได้ 555

ท้องอิ่มแล้วเราได้ฤกษ์มาไหว้พระธาตุหริภุญชัยกันซะที เป็นหนึ่งในพระธาตุที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้หลายส่วน (ส่วนใหญ่จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ส่วนเดียว) ได้แก่ ธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกอก ธาตุกระดูกนิ้วมือ และธาตุย่อยๆ อีกหนึ่งบาตรครับ ยิ่งเช้าวันศุกร์แบบนี้คนน้อยครับ แวะพระสบายๆ เดินเล่นชิลล์ๆ ถือเป็นครั้งแรกของพ่อยี่ แม่แอน (ที่ได้มาไหว้พระธาตุประจำปีไก่) และหลานสาวเซลฟี่ ที่ได้มาเที่ยวภาคเหนืออารมณ์ล้านนาแบบนี้ สามพ่อแม่ลูกดูตื่นเต้นและมีความสุขกันมาก น้องเอ็มและผมที่ขับรถมาไกลขนาดนี้ เห็นแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ มีแรงเที่ยวและขับรถต่อได้สบายๆ

แต่ภารกิจที่นี่ยังไม่จบดี เพราะเราต้องหาซื้อน้ำมันเครื่องรถและร้านปะยางกันก่อน ผมขับเข้าไปในตัวตลาดหลังพระธาตุฯ จนเจอร้านขายน้ำมันเครื่อง รถเจ้าโด้ผมใช้ยี่ห้อ Elf 20W – 50 จึงสอบถามว่ามีไหม? คำตอบคือไม่มี ผมจึงตอบว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวลองไปหาที่ตัวเมืองเชียงใหม่ คราวนี้ผมเลยถามเรื่องปะยางว่า “พี่ครับ...มีร้านปะยางแล้วเติมลมไนโตรเจนด้วยไหม?" แกตอบทันทีว่า “แถวนี้ไม่มีหรอก! ต้องไปเชียงใหม่ จริงๆ ปะยางร้านพี่เติมลมธรรมดาก็ได้ เหมือนๆ กันน่ะ" ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ พร้อมพูดขอบคุณครับ แล้วรีบขับรถไปเชียงใหม่เพื่อทำธุระเรื่องรถให้เรียบร้อยก่อน เพราะเวลาก็ปาเข้าไป 11 โมงแล้ว แพลนเที่ยวที่วางไว้จะเลื่อนไปเสียหมด

ยังไม่ทันจะวิ่งออกจากตัวเมืองลำพูน สายตาเหลือบไปเห็นร้าน “Cockpit ยานยนต์ ลำพูน" ติดกับปั๊ม ปตท. ผมนี่ต้องกลับรถมาอีกรอบ เพราะมั่นใจว่าที่นี่ต้องมีปะยางและลมไนโตรเจนให้เติมแน่นอน เท้าความนิดนึงคือผมเคยเปรียบเทียบลมยางธรรมดากับลมไนโตรเจน อย่างหลังดีกว่าเยอะครับ ไม่ว่าวิ่งทางไกลหรือใกล้ เพราะมวลของไนโตรเจนจะกระจายไปทั่วยาง แต่ลมธรรมดาจะกระจุกตามความร้อน ณ จุดใดจุดหนึ่งของอย่าง ทำให้การขับขี่ไม่นุ่มนวลและเสี่ยงต่อยางระเบิดได้ง่ายกว่า...นี่แหละเหตุผลของผม

“ปะยางร้อยเดียวครับพี่...อ๋อๆ เติมไนโตรเจนด้วยใช่ไหม? ล้อเดียวเหรอ...งั้นผมเช็คให้นะ เติมให้ 4 ล้อเลยครับ 100 เดียวพอ" ราคาถูกสุดๆ แถมยังเป็นการต้อนรับที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและประทับใจมากๆ ครับ ห้องรับรองพร้อมสรรพ กาแฟ ชา โอวัลติน ชงฟรี ดื่มฟรี ไม่เกินครึ่งชั่วโมงทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย จ่ายเงินเสร็จผมแอบถามไปว่า “เมื่อกี้ถามร้านยางในเมือง เขาบอกว่าแถวนี้ไม่มีลมไนโตรเจนให้เติม ต้องไปถึงเชียงใหม่...ทำไมเขาพูดอย่างนั้น?" น้องเขาไม่พูดอะไรมากครับ แค่บอกว่า “...เป็นปกติพี่ 555 เอาเป็นว่าผมเช็คให้พี่หมดแล้ว เที่ยวให้สนุกและเดินทางไปกลับปลอดภัยนะพี่ คนลำพูนยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนเสมอพี่"

เชื่อจริงๆ ครับว่ามิตรภาพระหว่างเดินทางเกิดขึ้นได้เสมอจริงๆ ใครมีปัญหาเรื่องยางที่ตัวเมืองลำพูน แนะนำมาที่นี่ได้เลย “Cockpit ยานยนต์ ลำพูน 053 – 093 - 359"

ลำพูนกับเชียงใหม่ห่างกันไม่ต่างกับกรุงเทพและนนทบุรี ราว 20 กม. ก็มาถึงอำเภอแรกของเชียงใหม่ นั่นก็คือสารภึ (ถ้ามาจากลำพูน ถนนพหลโยธินนะครับ) ผมเติมน้ำมันเต็มถังอีกครั้งประมาณ 1,400 บาท ก่อนมุ่งทำภารกิจตามหาน้ำมันเครื่อง Elf 20W – 50 สอบถามชาวเชียงใหม่ได้ความว่า “ถึงสี่แยกนวรัฐและเลี้ยวซ้ายนะ จะเจอร้านเกี่ยวกับรถยนต์อยู่เพียบ ร้านหัวมุมมีน้ำมันเครื่อง Elf แน่นอน" เรื่องจริงครับ Elf เพียบเลย แต่เป็นของมอเตอร์ไชค์ครับ 555 ผมดูเป็นเด็กแว้นมากใช่ไหม?

น้องเอ็มเลยโทรหาคอลเซ็นเตอร์ Elf ให้ (Total เป็นตัวแทนจำหน่ายนะครับ - เพิ่งรู้จริงๆ) เขาเช็คของให้ทันทีและบอกว่าหาซื้อได้แถว อ.ดอยสะเก็ด พร้อมให้เบอร์โทรมาเรียบร้อย ผมตั้งใจจะหันพวงมาลัยไปอยู่แล้ว น้องเอ็มมองไปเห็นร้านข้างทางขายน้ำมันเครื่อง Elf 20W – 50 โอววววว…โชคดีจริงๆ ภารกิจเจ้าโด้สำเร็จซะที ต้องขอบคุณน้องเอ็มสุดเลิฟจริงๆ

............................................................................................

ติตตาม EP 02 ได้เร็วๆ นี้ / ปล. ไว้รู้ว่ากี่ EP จบนะ 555

............................................................................................

Contact หนุ่ม - สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ ท่องเที่ยวไทย 2014
FB : Nuim Chalermchai
Page : สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ ท่องเที่ยวไทย 2014
Page : แฟนพันธุ์แท้ ท่องเที่ยวไทย 2014
IG : Nuim_Navigator
Twitter : Nuim_Navigator
Pinterest : Nuim Chalermchai Tunsingha

Nuim Navigator

 วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.46 น.

ความคิดเห็น