สวัสดีค่ะ Tamkarnwela ฉบับนี้ขอนำเสนอโรมแรมบูติคแห่งที่ 2 ที่ Tamkarnwela ได้รับมอบหมายให้ไปทำรีวิว ในโครงการประกวดสุดยอดโรงแรมบูติคไทยขนาดกลางและขนาดเล็ก ในชื่อ"Thailand Boutique Awards Season3 (2014-2015)" (TBA ) โครงการนี้มีบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นแม่งาน ซึ่งในโครงการนี้ Tamkarnwela ได้รับเกียรติเชิญให้ร่วมเป็น1 ของนักรีวิวในโครงการนี้ด้วยค่ะ



Ayodhara Village ตั้งอยู่ที่อยุธยาเป็นโอกาสดีที่จะได้ไปอยุธยากันอีกซักครั้ง ไม่ได้มานานแล้วค่ะปกติไปอยุธยาก็ไปเช้า-เย็นกลับ คราวนี้ได้มาใช้เวลานิ่งๆที่นี่ถือเป็นโอกาสดีค่ะ



ถ้าพร้อมแล้วไปด้วยกันเลยนะคะ



อยุธยาเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ ห่างจากกรุงเทพไม่มากประมาณ 70-80 กิโลค่ะ ใช้เวลาเดินทางมาไม่เกิน 1 ชั่งโมง ( ถ้ารถไม่ติดในกรุงเทพมากนักนะคะ )ชาวกรุงเทพน้อยคนนักที่จะไปเที่ยวอยุธยาแบบค้างคืนส่วนมากจะไปเช้า เย็นกลับกันค่ะ



ครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ Tamkarnwela จะได้มีโอกาสมาค้างคืนที่เมืองเก่ากันนะคะ



เรามาถึงที่นี่กันใกล้เที่ยงห้องยังไม่เรียบร้อยเลยขับรถมาหากุ้งทานรอเวลาดีกว่าค่ะขับรถเข้าตัวเมืองอยุธยากันเลยค่ะ



เป้าหมายคือร้านชายน้ำค่ะร้านนี้เพื่อนชาวอยุธยาเป็นคนแนะนำมาตั้งนานแล้วค่ะ เป็นร้านเก่าแก่ของที่นี่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เยื้องๆกับโรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์ ค่ะ หาไม่ยากค่ะมาร้านนี้บ่อยที่สุด และสังเกตได้ว่าคนที่มาทานร้านนี้ส่วนมากเป็นคนท้องถิ่นข้าราชการ พนักงานธนาคาร อะไรแบบนี้ค่ะ



มีเรา 2 คนนี่แหละนักท่องเที่ยว 555++



ร้านเก่าแก่แค่ไหนดูจากคุณลุงเจ้าของร้านได้ค่ะข้างหน้าดูเหมือนร้านเล็กนะคะแต่ข้างไหนกว้างขวาง ติดริมแม่น้ำค่ะ



ยังไม่หิวมากเท่าไหร่แต่สั่งกุ้งเผาก่อนเลยที่นี่มีกุ้งหลายราคาให้เลือกนะคะแบบ 3 ตัวโลๆ 1200 บาทตัวละ 400 บาท ตัวละ 500 บาท ตัวละ 600 บาทหรืออาจจะมีไซส์ใหญ่กว่านั้นแล้วแต่วันค่ะ



วันนี้เราเลือกแบบตัวละ 500 บาทค่ะ เบาๆ



ต้มยำปลาม้าอร่อยมากค่ะ สั่งไว้ซดคล่องคอ



ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมพริกไทค่ะ



มา 2 คน สั่งได้น้อยจริงๆทีเด็ดอยู่ที่นี่ กุ้งเนื้อเด้งแต่น้ำจิ้มยังไม่แซ่บนะคะ



แกะกุ้ง วางบนข้าว มันเยิ้มเชียว


ราดน้ำจิ้มแล้วคลุกข้าวค่ะ กุ้งเนื้อเด้งฟินที่สุดค่า



จริงๆกินแค่นี้ก็อิ่มแล้วเนี่ยอิ่มหนำสำราญแล้วกลับไปเช็คอินที่โรงแรมกันค่ะ



ระหว่างทางผ่านหมู่บ้านช้างและพะเนียดคล้องช้าง แวะเยี่ยมน้องช้างกันซะหน่อยนะคะ



ไม่รู้ตัวไหนคือตัวที่โดนวางยาพิษแล้วตัดงาไป



ช้างทุกเชือกได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าหน้าที่



ตอนที่ไปมีอาสาสมัครต่างชาติมาเฝ้าสังเกตุช้างด้วยหลายคนเลยนะคะ



งานี้มีค่าขนาดที่ยอมฆ่าช้างกันเลย



ลูกช้างเชือกนี้น่าจะเกิดได้ไม่นานค่ะเด็กมากๆ ซนด้วย



ไปเช็คอินกันค่ะ



แปะแผนที่รีสอร์ทก่อนนะคะจะได้มาถูกค่า



อโยธารา วิลเลจ ค่า



เช็คอินกันที่เรือนหลังนี้นะคะ



ที่นี่บ้านทั้งหมดเป็นเรือนไทยที่สร้างจากไม้สักทองค่ะมี 14 หลัง ที่กระจายตัวกันภายในรีสอร์ท ด้วยชื่อบ้านที่ต่างกันไป



ที่นี่ต้นไม้งามมากๆค่ะ



“อโยธารา วิลเลจ"หรือ หมู่บ้านอโยธารา


เกิดจากนักธุรกิจชท่านหนึ่งท่านเป็นคนในพื้นที่ซึ่งในอดีตเคยพำนักบนแพริมแม่น้ำแห่งนี้ด้วยความผูกพันกับสายน้ำ ประกอบกับความรักในไม้สักทอง และต้องการแบ่งปันความงามของธรรมชาติริมแม่น้ำอันเงียบสงบ ซึ่งมิได้ต่างจากอดีตเมื่อกว่า 50 ปีที่ผ่านมาให้ผู้อื่นได้สัมผัสจึงได้สร้างรีสอร์ทบ้านไทยริมแม่น้ำแห่งนี้ขึ้นมา



และต้องการให้สถานที่แห่งนี้ คงเอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย และรักษาสถาปัตยกรรมอันสวยงามของบ้านทรงไทย ให้ดำรงอยู่คู่กับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสืบต่อไป



แต่ละหลังมีลักษณะคล้ายแต่ไม่เหมือนกันค่ะ



คืนนี้เราจะพักหลังนี้ค่ะ เรือนแสงจันทร์ค่ะเป็น Honeymoon Villa ค่า



เป็นเรือนที่อยู่ในทำเลที่ดีนั่งมองแม่น้ำได้ทั้งวัน



ภายในห้องนอนค่ะ



ห้องน้ำและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบถ้วนค่ะ



พื้นที่ไม่กว้างพอดีๆค่า



ที่นี่เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการมาใช้ชีวิตอยู่แบบไทยๆ ในเรือนไทย แบบในอดีตที่สุด



วันที่ไปฝนฟ้าไม่เป็นใจเท่าไหร่ค่ะแต่อากาศสบายไม่เหมาะกับการถ่ายรูป 555++



ไปเดินดูรอบๆรีสอร์ทกันค่ะ



ที่นี่มีโอกาสใช้เป็นฉากในละครหลายเรื่องแล้วค่ะล่าสุด สุภาพบุรุษจุฑาเทพตอนคุณชายหมอ..



มีอาคารไว้สำหรับจัดสัมมนาได้ค่ะ



ที่นี่อุดมสมบูรณ์



ชมพู่



เดี๋ยวเราไปทานข้าวเย็นริมน้ำกันค่ะ



บรรยากาศชุ่มฉ่ำๆ



มาดูกันว่ารีสอร์ทจัดอะไรให้ทานบ้างค่ะน้ำพริก



ยำวุ้นเส้น



แกงเขียวหวาน



แกงจืดเต้าหู้หมูสับ



และผลไม้ค่า



แป๊ปเดียวฝนตกค่ากลับบ้านไม่ทัน



นั่งรอฝนซากันตรงนี้ดีกว่าค่าที่รีสอร์ทมี wifi นะคะ



ที่นี่ยุงดุอยู่ค่ะ



น่าจะคุ้นตาจากละครกันมาบ้างค่ะ



ตรงนี้พวกคุณชายเคยมานั่งตรงนี้



มืดแล้วเข้าห้องดีกว่าค่ะ



ตื่นเช้าด้วยความสดชื่น ฝนตกทั้งคืนเลยค่ะ



ต้นไม้ใบหญ้าที่นี่ชุ่มฉ่ำค่ะ



เช้านี้เราเตรียมตัวใส่บาตรกันค่ะชุดใส่บาตรชุดละ 70 บาทนะคะ



มีพระพายเรือมาทุกเช้าค่ะท่านมารับบาตรชาวบ้านแถวนี้มาจนถึงรีสอร์ทก็พายเรือกลับค่ะ



อนุโมทนาบุญกันนะคะ



ส่วนอาหารเช้าของเราเสริฟ์ที่เรือนค่ะ



ทางรีสอร์ทจัดให้ไม่มีชอยส์ให้เลือกค่ะอิ่มแล้วเดี๋ยวเตรียมเก็บของกลับบ้านค่ะ



Ayodhara Village อโยธารา วิลเลจ เป็นบูติครีสอร์ทที่แสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยอย่างที่เคยเป็นมาซึ่งเริ่มหายากขึ้นเรือยๆเด็กรุ่นใหม่บางคนอาจไม่รู้จักลักษณะของเรือนไทยด้วยซ้ำค่ะที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบ ปล่อยเวลาให้เดินช้าๆและผู้ที่อยากใช้ชีวิตแบบไทย



ขอบคุณโครงการ Thailand Boutique Awards Season3 (2014-2015)ที่เลือก Tamkarnwela ให้เป็น 1 ใน Blogger ที่มาร่วมทำรีวิวของโครงการค่ะ



ขอบคุณ Ayodhara Villageโรงแรมบูติคที่เข้ารอบในโครงการ Thailand Boutique Awards Season3 (2014-2015) ที่ให้การต้อนรับ Tamkarnwelaในการเข้าไปทำรีวิว



ขอบคุณตามกาลเวลาที่ไปมาด้วยกันทุกที่



ขอบคุณ Pantip.com ที่มีพื้นที่ดีดีแบบนี้ให้แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ



และสุดท้าย



ขอบคุณทุกท่านที่คลิ้กเข้ามาอ่านรีวิวนี้ค่ะทุกคอมเมนท์ กิ๊ฟโหวตล้วนเป็นกำลังใจแก่ผู้รีวิวทั้งสิ้น



และในโครงการนี้ Tamkarnwela รับผิดชอบรีวิวทั้งหมด 5 โรงแรมค่ะถ้าไม่รบกวนจนเกินไปรบกวนให้กำลังใจในรีวิวอื่นๆด้วยค่ะติดตามนะคะว่าจะมีโรงแรมอะไรที่เข้ารอบบ้าง



รักคนอ่านรีวิวค่ะ



Tamkarnwela



Tamkarnwela

 วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.25 น.

ความคิดเห็น