ภูชี้ดาว…ทะเลหมอกสีขาวสุดขอบฟ้า
หลังลงจากรถบริการนำขึ้นยอดภูชี้ดาว พี่พลขับเจ้าของพื้นที่บอกกับเราอย่างเป็นกันเองว่า ต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณสองร้อยเมตร ก็จะถึงจุดชมวิว ยอดสูงสุดของภูชี้ดาว ช่วงนี้หมอกเยอะ อากาศเย็น ข้างบนสวยมาก….
ฤดูหนาวปีนี้ ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวก่อนปีใหม่ เกือบทุกปีจะไปเที่ยวหลังปีใหม่ ด้วยหลายๆเหตุผลข้ามๆไป ที่บอกเล่ามาเพื่อจะบอกว่า มันก็จะโชคดีอยู่บ้างนะ ดูพยากรณ์อากาศ ในช่วงที่เราจะไปเที่ยว เค้าบอกว่าอุณหภูมิจะลดต่ำลง ภาคเหนือช่วงกลางคืนถึงเช้าตรู่อาจจะมีต่ำกว่าสิบองศา อุณหภูมิทั้งวันไม่เกินยี่สิบถึงยี่สิบห้าองศาอะไรประมาณนั้น ก็ดีอ่ะดิ ไปเที่ยวกันนนน…ลืมบอกครั้งนี้ สี่วันเต็มๆที่เชียงรายจังหวัดเดียวเลย
เอาตามโปรแกรมก่อนเลยมีไป ดอยช้าง ฟาร์มแกะ ไปนอนมองฟิน ที่ภูชี้ฟ้า ไปภูชี้ดาว กลับเข้าเมืองหาของกิน เที่ยววัด สรุปทำได้บ้างไม่ได้บ้าง มีแถมมาบ้าง ค่อยๆตามมาเนอะ เอาเรื่องที่จะกล่าวถึง ณ ที่นี่ดีกว่า ภูชี้ดาว เป้าหมายหลักปักธงชัย…
จากตัวเมืองเชียงรายนะ ตั้งเข็มทิศมาที่อำเภอเทิง ก่อนเลย มาให้ถึงอำเภอเทิงนะ ถ้าตั้งเข็มทิศ Google Maps ไปที่ภูชี้ดาวเลย มันจะพาท่านไปทางลัด เค้าบอกว่าทางนั้นมันค่อนข้างขับยาก อันนี้น้องที่รีสอร์ตที่เราไปพักเค้าแนะนำมา ให้เรามาทางอำเภอเทิง แล้วค่อยตั้งมุดหมายใหม่ไปที่รีสอร์ตที่เราจองไว้ ห่างจากทางขึ้นภูชี้ดาวประมาณเก้ากิโลเมตร งงมั๊ยไม่งงนะ เดี๋ยวค่อยๆอธิบาย
คือ..ถ้าจะชมความสวยงามตามท้องฟ้า ที่ภูชี้ดาว มันต้องขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า มันจะได้เห็นวิวทะเลหมอก เห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่ขอบฟ้า เพราะฉะนั้น เราก็ต้องไปหาที่พักค้างคืนที่ใกล้ทางขึ้น ซึ่งบริเวณทางขึ้นภูชี้ดาวมีที่พักมากมายก่ายกอง แต่เราเลือกที่นี่ มองฟิน ภูชี้ฟ้า Mongfin phuchifa (ที่พักคือสวยมาก บรรยากาศดีมากกก จะเอามาเล่ายาวๆอีกครั้งนึงนะ)
อ่าว…จะไปภูชี้ดาว ทำไมไปพักที่ภูชี้ฟ้า คือ ภูชี้ฟ้ากับภูชี้ดาว มันก็อยู่ใกล้ๆกันนั้นแหละ แล้วทำไมไม่ไปภูชี้ฟ้าด้วยล่ะ ภูชี้ฟ้าไปมาแล้วหลายรอบมาก ยังไม่เคยขึ้นภูชี้ดาวเลย มีแต่คนบอกเล่าต่อๆกันมาว่า ถ้าไปภูชี้ดาว ก็ไม่ต้องขึ้นภูชี้ฟ้าแล้ว งั้นต้องไปพิสูจน์ว่าจริงดังคำที่เค้าว่าไว้รึป่าว…
เสียงจากนาฬิกามือถือปลุกเวลาสี่นาฬิกาสี่สิบห้านาที งัวเงียงัวเงีย…ดันตัวเองจากที่นอนภายในเต็นท์โดม เมื่อคืนอากาศสิบกว่าองศาหลับสบายอยู่เลยอ่ะ แต่เพื่อภารกิจต้องลุกแล้ว
เข้าห้องน้ำ เอาน้ำลูบหน้าเบาๆให้เกิดการตื่นตัวแบบฉับพลันทันใด ก็น้ำมันเย็นเจี๊ยบเหมือนแช่ในตู้เย็น ไม่ตื่นไงไหว ขับรถจากที่พักประมาณเก้ากิโล ทางขึ้นเขาลงเขาถนนลาดยางอย่างดี แต่ก็มาแบบเบาๆ หมอกค่อนข้างหนาอยู่ ใช่เวลาประมาณยี่สิบนาทีกว่า มาถึงจุดต่อรถเพื่อขึ้นไปด้านบน อันนี้จะมีรถของชาวบ้านคอยบริการ เป็นรถกะบะขับเคลื่อนสี่ล้อ หนึ่งคันราคา 600 บาท เราไปกันสองคน กะว่าจะไปเจอใครขึ้นเป็นเพื่อนจะได้ช่วยๆกันหาร ปรากฏว่า ไม่มี…
ระยะทางจากตรงนั้นขึ้นไปด้านบน ประมาณสามกิโลเมตร เส้นทางคือเอออออ…คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป มันทั้งชันทั้งโหดร้าย บางช่วงคล้ายถนน บางช่วงก็เหมือนขับอยู่บนเปลือกทุเรียน บอกไว้เลย ใครไม่รู้อีโหน่อีเหน่ พรวดพราดขับขึ้นไปเอง ต่อให้เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ไม่รอดแน่นวล เพราะมันต้องใช้ความชำนาญทางด้วย ใช้บริการของพี่ๆเค้าอ่ะดีแล้ว เป็นการกระจายรายได้ด้วย
ถึงจุดจอดรถต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณสองร้อยเมตร อันนี้ก็ชันอยู่นะ แต่ระยะทางสั้นๆ กำลังหอบพอดี ขึ้นไปด้านบน เป็นอันจบการเดินทาง ที่เหลือคือ ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ตักตวงได้เท่าไหร่ก็จัดกันไป รับชมภาพกันเต็มๆ…..
ตรงลานจอดรถก่อนจะเดินขึ้นไปบน ภูชี้ดาว
สบายๆ ประมาณสองร้อยเมตร…
ขึ้นไปก็เจอแสงแรกของวันใหม่พอดี สวยสดงดงาม…
ขาวๆนุ่มๆ อากาศดีงาม…
แอคชั่นนิดนึง…
เราใช้เวลาอยู่บนนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง แดดเริ่มแรงก็เดินลงแล้วล่ะ ให้อธิบายภาพให้เข้าใจแบบง่ายๆ เหมือนคุณได้ขึ้นสวรรค์ได้ไปเที่ยวไปชื่นชมความงาม แต่เค้าไม่ให้คุณอยู่นานนะ เวลาบนสวรรค์มันมีจำกัด….
กลับจากภูชี้ดาว เป็นวันที่เราตั้งใจไปนอนในเมือง เพราะวันรุ่งขึ้นต้องกลับบ้านแล้ว กะไปพักแบบสบายๆ หาไรกินอร่อยๆ ตื่นเช้ามาไม่ต้องรีบมาก แต่…มันพอจะมีโชคอยู่บ้าง ที่ตัวเมืองเชียงรายมีการจัดงาน “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2024” งั้นที่คิดจะพักก็ไม่ได้พักแล้วล่ะ
เอาภาพบรรยากาศบางส่วนมาให้ชมกัน เรื่องราวทั้งหมดของงาน เราได้รำพึงรำพันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไปรับชมกันได้ตรงนี้นะ Readme.me - สวนดอกไม้งามที่…เชียงราย
คราวหน้าจะพาไป มองวิวให้เพลินที่ มองฟิน ภูชี้ฟ้า Mongfin phuchifa ที่พักสุดฟินบนยอดดอย เร็วๆนี้….
คน ฟ้า ป่า น้ำ
วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 11.45 น.