ทุกช่วงของชีวิตมักมีอยู่ช่วงนึงที่หลายคนหมดไฟ หมดแรงบันดาลใจ เหนื่อยกับสิ่งที่พบเจอ เหนื่อยกับคนที่ผ่านมาแล้วผ่านไป การได้ออกเดินทางไปหา ไปเติมแรงบันดาลใจคงจะดีไม่น้อย การเดินทางก็เหมือนกับการใช้ชีวิตที่จะต้องคอยเรียนรู้ แก้ปัญหาและเดินไปยังสู่จุดหมายของชีวิต แต่ถ้าหมดซึ่งแรงบันดาลใจมันคงงยากที่จะเดินไปถึงฝั่งฝันได้
การเดินทางมักทำให้เราได้พบเจอสิ่งแปลกใหม่ เรื่องตื่นเต้น เรื่องราวที่ทำให้เกิดซึ่งแรงบันดาลใจใหม่ๆเหมือนกับการเดินทางของผมครั้งนี้
รีวิวการเดินทางกับสถานที่ที่ใครต่อใครไม่พลาดที่จะไปเยือนในฤดูหนาว กับเมืองที่เต็มไปด้วยความงดงามของวัฒนธรรม และความงามของธรรมชาติ เมืองที่เป็นเหมือนอีกหนึ่งแลนมาร์คของประเทสไทยที่นักท่องเที่ยวค่างชาติไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชม คงเป็นจังหวัดอะไรไปไม่ได้นอกจากเชียงใหม่
การเดินทางครั้งนี้ของผมใช้เวลาสั้นๆ3วันกับอีก2คืน ใครๆก็ว่าจะไปเที่ยวอะไรได้เยอะ แต่ความจริงแล้วทริปนี้ถึกสุดๆ เหนื่อยสุดๆ เที่ยวเยอะมากๆ และ สนุกสุดๆไป
มีเนื้อหาให้เล่ามากมายหลายความรู้สึกรูปเยอะมากๆครับ ใครอยากดูรูปเพิ่มเติมฝากไปติดตาม หรือเข้าไปพูดคุยสอบถามที่ Facebook fanpage
https://web.facebook.com/onthejourneythai/
เริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้ ผมบินไปกับพี่สิงโตครับ สายการบินไทยไลออนแอร์ มาถึงสนามบินแบบไม่รีบมาก(มั้ง) เครื่องขึ้น9.30มาถึงตอน6โมงเช้าทั้งที่check-in มาก่อนแล้ว ตื่นเต้นไปนิดเดียวจริงๆครับ ก็นั่งรอเวลาไป
สายการบินที่บินไปเชียงใหม่มีเยอะมาก และบินตลอดทั้งวันถ้าจองเร็วราคาไม่แพงมากเลยครับ
เครื่องขึ้นใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงก็เดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ที่สนามบินดอนเมืองอากาศไม่สดใสมากก็ภาวนาว่าที่เชียงใหม่ให้อากาศสดใสเย็นสบายที่เถอะลงเครื่องมาเห้ยอากาศดีเลยท่องฟ้าโปร่งแต่!!!เดินออกมา ร้อน ... ร้อน ไม่ใช่ร้อนธรรมดาด้วยนะ ร้อนมากๆๆ โอ้พระเจ้าทำมันร้อนขนาดนี้..แทบไม่ต่างจากกรุงเทพเลย
***ต้องบอกเลยว่าทริปนี้มาเที่ยวแบบไม่มีรถหารถแบบสดๆหาเอามันตรงนั้นเลย***
นั่งรถเข้าไปในเมืองที่แรกที่ไปเที่ยวคือวัดโลกโมฬี
วัดโลกโมฬี อยู่ใกล้ที่พักดีแวะไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมแล้วออกมาเที่ยวก่อนครับ วัดโลกโมฬี เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ อายุกว่าห้าร้อยปี สร้างในสมัยอาณาจักรล้านนา ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือของตัวเมืองเชียงใหม่ ใกล้แจ่งหัวริน
จากนั้นก็เดินทางไปแถวนิมมานขึ้นรถแดงไป แถวนิมมานมีร้านให้เลือกกินเยอะแยะ นั่งรถแดงไปเรื่อยก็ไม่รู้หรอกว่าจะลงตรงไหนสักพักลุงก็บอกว่าถึงแล้วนะ โผล่มาลงนิมมานซอย 7 มาเมืองเหนือคงพลาดถ้าจะไม่กินข้าวซอย ร้านข้าวซอยนิมมาน อีกหนึ่งร้านชื่อดัง เดินเข้าไปคนหน้าร้านเยอะแต่เขาไม่เห็นกินกันเลย เดินเข้าไปที่เคาเตอร์มีคิวยื่นมาให้ อีก10คิวนั่งรอไปครับ
นั่งรอไปครึ่งชั่วโมง ข้าวซอยมาเสริฟแล้ว
อร่อยสมชื่อกับการนั่งรอเลยหรือว่าเพราะหิวจัดกินไม่เหลือแม้แต่น้ำเลย
กินเสร็จไปโบกรถแดงต่อไปยังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตกลงราคาไว้เรีบร้อยพอไปถึงขอเก็บเพิ่มอีก20บาท อ้าวเห้ย แบบนี้ก็มีด้วย555
อุทยานหลวงราชพฤกษ์วันที่เรามาเยือนกำลังลงต้นไม้อยู่เยอะพอสมควรดอกไม้เหี่ยวและชำจากอากาศแต่ก็ยังสวยงามอยู่ๆ
ชมสวนเสร็จก็เดิน...เดิน...เดินไปยังเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีอากาศตอนเย็นเริ่มเย็นสบายลงบ้าง ทางเข้าไปยังเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีกวางออกมาให้เราถ่ายรูป ค่าเข้าชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี300บาทมีการแสดงสัตว์และการนั่งรถส่องสัตว์มี 2ส่วนคือ
Savanna Safari และ Predator Prowl
ขากลับมีรถส่งฟรีจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปลงที่เชียงหม่ไนท์พลาซ่า ฟรี!! ของฟรีใครจะพลาดละ 3ทุ่มตรงรถของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีก็พาเราไปส่ง
DAY 2 : เชียงใหม่ในวันที่ฟ้าหม่น
เสียงฝนตกหนักด้านนอกเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ทำให้ผมตื่นมาในยามเช้า เช้าวันนี้อากาศไม่สดใสเอาซะเลย อากาศเย็นลงไม่มากนักแต่ฝนก็กระหน่ำตกตลอดเช้า เช้าวันนี้เดินไปหาของกินแถวๆตลาดช้างเผือก ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดขนาดกลาง มีของให้เลือกซื้อทั้งของสด และอาหารสำเร็จรูปทั้งของคาวและของหวาน ยามเช้าคนยังไม่คึกคักเท่ากลางคืน...เพราะมันคือตลาดโต้รุ่ง
จากนั้นก็รอพี่ที่ติดต่อรถไว้ 07.30 พี่คนขับรถมารับถึงหน้าโรงแรมจากนั้นก็ออกเดินทางไปม่อนแจ่มครับ
อากาศตลอดทางมันช่างขมุกขมัวไม่สดใสเลย ขอให้ไปถึงแล้วฝนหยุดตกสักที
แต่ฝนตกก็ดีเหมือนกันผมจะได้เห็นหมอกลอยต่ำๆมาให้ออบกอดเรา...ไม่มีใครให้กอดก็แบบนี้แหละ
สักพักพี่เขาก็พาเรามาจอดอยู่หน้าร้านกาแฟ มีทั้งชาและกาแฟขายให้เติมพลังในช่วงเช้า
เติมพลังเสร็จก็นั่งรถต่อ บรรยากาศตลอดทางจะเห็นแปลงผักของชาวบ้านและแปลงของโครงการหลวง
สำหรับโครงการหลวงหนองหอย ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2517 ในพื้นที่อุทยาแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เป็นเขตพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารปัญหาชาวเขาได้ทำลายป่าเพื่อเปิดที่ทำกินใหม่ ปลูกฝิ่นทำไร่เลื่อนลอย จึงตั้งเป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยขึ้น เพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาชีพของเกษตรกร โดยแนะนำพืชเศรษฐกิจใหม่ๆทดแทนการปลูกฝิ่นทำไร่เลื่อนลอย ยกระดับความเป็นอยู่ของชาวเขาให้ดีขึ้น
ดอกไม้วันนี้เริ่มแบ่งบานกันแล้วบนยอดดอย.
สวนอีเดน ที่ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นค่าเข้าชมเพียง20บาท สวนอีเดนเป็นสวนองุ่นที่นักท่องเที่ยวมักจะจอดแวะเที่ยวชมระหว่างทางขึ้นไปม่อนแจ่มสามารถเดินชมได้ในระยะเวลาสั้น สวนอีเดนตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้เป็นสวนที่ลดหลั่นกันลงไป ด้านหลังสวนจะเห็นวิวสวยงามของเกษตรกร
เดินชมกันเพลินสักพักฝนเทลงมาอีกแล้วเหมือนเป็นสัญญานว่ากลับได้แล้ว!!มีที่อื่นต้องไปต่อ
จากนั้นพี่รถแดงก็พาไปม่อนแจ่มจากนั้นก็เดินขึ้นไปบนม่อนแจ่มอากาศข้างบนดีมาก คนก็เยอะพอสมควรสวนดอกไม้ที่นี้สวยงามตามท้องเรื่อง
ดอยม่อนแจ่ม อยู่ภายใน ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ การเดินทางไม่ยุ่งยากมากนัก พื้นที่บน ดอยม่อนแจ่ม ไม่กว้างมากนัก อากาศด้านบนดีมากๆ มีทั้งหมอกทั้งฝนมากระทบหน้ากระทบร่างกาย และสูดอากาศบริสุทธิ์แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว
https://web.facebook.com/onthejourneythai/
journeyXreview
วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 08.49 น.