วันที่ 8 มกราคม 2568
สวัสดีครับ วันนี้ผมก็ยังอยู่ที่ภาคอีสานครับ และในวันนี้ ผมก็จะขอพาทุกท่านมานอนกางเต้นท์กันที่อุทยานแห่งชาติ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในภาคอีสานกันครับ
หลังจากที่ผมนั้น ทำการจ่ายเงินค่าธรรมเนียมที่ด่านเก็บเงินเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขับรถขึ้นเขาขึ้นมาอีกในระยะทางที่ไกลพอสมควรครับ
และในระหว่างทางที่ผมขับรถขึ้นไปถึงยอดภูเรือนั้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการที่จะมานอนกางเต้นท์แบบเดียวกับผม ก็ขอให้มองทางซ้ายมือดีๆครับ เพราะว่าก่อนถึงยอดภูเรือนั้น มันจะมีลานกางเต้นท์ ที่เป็นลานกางเต้นท์เก่าของภูเรืออยู่ครับ (จริงๆแล้วมันก็เป็นสถานที่ ที่ค่อนข้างใหญ่ครับ สามารถเห็นได้ง่ายๆอยู่แล้ว)
เมื่อเลี้ยวรถเข้ามา ก็จะเจอลานจอดรถแบบนี้ครับ
สำหรับลานกางเต้นท์แห่งนี้นั้น ก็จะเป็นลานกางเต้นท์ ที่กางกันใต้ต้นสนน๊ะครับ
หมายเหตุ: แต่ในวันที่ผมไปนั้น เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่มีนักท่องเที่ยวมากางกันที่นี่หรอกครับ เพราะว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จะนิยมไปกางกันที่ลานกางเต้นท์แห่งใหม่กันมากกว่า (แต่ในช่วงปีใหม่นั้น ลานกางเต้นท์ทั้ง 2 แห่งของที่นี่ จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวน๊ะครับ)
และหลังจากนั้น ผมก็ขับรถต่อไปยังลานกางเต้นท์แห่งใหม่ครับ ซึ่งลานแห่งนี้ มันจะต้องเลี้ยวขวาออกไปทางจุดจอดรถ ที่นักท่องเที่ยวทุกคนนั้นจะต้องมาจอดรถ เพื่อนั่งรถสองแถวขึ้นไปในจุดชมวิวครับ
ถึงแล้วครับ (ผมไม่ได้ถ่ายรูปเอียงน๊ะครับ คือว่าพื้นมันเอียงจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า)
สิ่งที่ควรรู้: สำหรับถนนที่เป็นเส้นทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ในการเดินทางมายังลานกางเต้นท์แห่งนี้ (จากจุดจอดรถ) มันจะเป็นถนนลูกรังฝุ่น และหลุมบ่อ ประมาณ 1 กิโลเมตรน๊ะครับ ก็ขอให้นักท่องเที่ยวนั้นเตรียมใจเอาไว้ด้วย
ส่วนสภาพพื้นดินนั้น ก็แห้งแล้งอย่างที่เห็นครับ
และแน่นอนว่า พื้นแข็งมาก ต้องใช้ค้อนตอกสมอครับ
ส่วนผมก็เหมือนเดิมครับ เน้นกางใกล้ที่จอดรถครับ จะได้ไม่ต้องขนของไกล ฮ่าฮ่าฮ่า
มีร้านกาแฟด้วยครับ
มีจุดก่อไฟด้วยครับ (แต่นอกเทศกาลที่คนน้อยๆ เค้าไม่ได้จุดน๊ะครับ)
ห้องน้ำครับ (ไม่มีของวิเศษ เครื่องทำน้ำอุ่นน๊ะครับ T T)
ที่ทำการ
พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว
อัยย่ะ รถใครก็ไม่รู้ แต่โครตเท่ห์เลยๆๆๆ
รู้สึกว่า ที่ลานกางเต้นท์แห่งนี้ เค้าจะมีกิจกรรมดูดาวกันด้วยน๊ะครับ
แต่เนื่องจากวันนั้น ดวงจันทร์มันแทบจะเต็มดวง ผมก็เลยไม่ได้ออกไปถ่ายครับ
แต่ที่ไม่ออกไปจริงๆแล้ว ก็เป็นเพราะว่าอากาศมันหนาวมากครับ ฮ่าฮ่าฮ่า
วันที่ 9 มกราคม 2568
และแน่นอนว่า การที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นนั้น ผมก็ต้องตื่นเช้ามากๆ และหลังจากล้างหน้าแปรงฟันแล้ว ผมก็ต้องขับรถฝ่าถนนลูกรังฝุ่น และหลุมบ่อประมาณ 1 กิโลเมตรนั้น เพื่อไปยังจุดจอดรถ และนั่งรถสองแถวขึ้นไปอีกที
โดยอัตราค่าบริการนั้น จะอยู่ที่ 20 บาท สำหรับขาไป และขากลับครับ
หมายเหตุ: สำหรับการบริการนั้น ผมถือว่าดีมากๆครับ เพราะว่าในวันนั้น ผมเดินทางไปคนเดียว พอผมจ่ายเงิน และขึ้นไปนั่งบนรถ คนขับรถเค้าก็เดินไปชะโงกหน้าดูว่า จะมีนักท่องเที่ยวคนไหนกำลังมาหรือเปล่า และพอเค้าเห็นว่าไม่มีแล้ว เค้าก็ออกรถเลยครับ (เพราะเค้ารู้ว่า นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาในเวลานี้นั้น ต้องการขึ้นไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้น)
9 องศาครับ เช้านี้
นักท่องเที่ยวก็ค่อนข้างบางตาครับ
พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นครับ
ขึ้นแล้วครับ
เป็นไขแดงสวยเชียว
และสำหรับพระอาทิตย์ไข่แดงของที่นี่นั้น ก็จะกลมแดงอยู่อย่างนี้หลายนาทีเลยครับ
ผมก็เลยมีเวลาสำหรับเดินหามุมถ่ายรูปแบบ ชิลูเอท ที่ชอบได้หลายมุมเลยครับ
"ข้าคือผู้พิชิต ยอดภูเรือ" เงือ เงือ ฮ่าฮ่าฮ่า
แล้วหลังจากนั้น ผมก็สะพายกล้อง แล้วก็ทำท่าทางแอ๊คๆ มายืนอ่านประวัติ แบบนักท่องเที่ยวมืออาชีพเค้าทำกันครับ ฮ่าฮ่าฮ่า
พระอาทิตย์เลิกเป็นไขแดงแล้วครับ
แต่ก็ยังถ่ายรูปได้สวยอยู่
อัยย่ะ มุมนี้สวยๆ
มุมนี้ก็สวยๆๆๆ
แอบถ่ายตากล้องคนอื่น
ถ่ายป้าย คู่กับพระอาทิตย์ขึ้น
7 องศาแล้วๆๆๆ
ถ่ายรูปหิน แล้วยืนแอ๊ค อ่านประวัตินิดหน่อย
แล้วระหว่างทางกลับ ก็แว่ะถ่ายรูปหินเต่า
มันเป็นเต่าตรงไหนหว่าๆๆๆ
อ่อๆๆๆ บนยอดๆๆๆ
แบกกล้อง
วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 16.27 น.