กลับมาทักทายกันอีกครั้ง : หลังจากห่างหายไปนาน
อีกหนึ่งสถานที่ในเช็คลิสต์ที่อยากจะไปน่าจะเกือบๆ 3 – 4 ปีล่ะครับ
... ทริปแบบ 2 วัน 1 คืน ที่ไม่ใช่ทริปเดินป่าแบบที่เคยไป ...
แต่เป็นทริปที่ต้องนั่งรถกระบะ
4x4 เข้าไปตรงชายแดนไทยในเขตปกครอง กระเหรี่ยง DKBA
... แถมใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมงบนเส้นทาง ...
ที่คดเคี้ยวตามภูเขาที่เต็มไปด้วยฝุ่นหนาๆตลอดเส้นทาง แต่รับรองไปแล้วสนุกชัวร์

"จังหวัดเมียวดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา"
ใครจะไปรู้ว่านี่คือภูเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องความศรัทธา
ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว หรือชาวพม่าเองก็ตามครับ
เรามาออกเดินทางไปสัมผัสความสวยงามในดินแดนแห่งนี้พร้อมๆ กันครับ

: Mulayit Taung :
เป็นยอดเขาที่มี ความสูงประมาณ 2,070 เมตร จากระดับน้ำทะเล
การเดินทางของผมเริ่มต้นจากกรุงเทพในเวลา 20.00 น.
มุ่งหน้าสู่ บ้านมอเกอไทย หมู่ที่ 1 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก


05:00 น. จุดแวะพักสุดท้ายเพื่อให้เราจัดการล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุด
เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ ย้ำว่าควรจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย หรือจะซื้อเสบียงพกตุนไว้ก็ได้
และปิดท้ายเติมพลังด้วยมื้อเช้าเราพร้อมท่ามกลางอากาศเย็นสบาย
โดยมื้อแรกเริ่มตั้งแต่ตี 5 ครับ

จากนั้นก็กระโดดขึ้นหลังรถกระบะ 4x4 เตรียมเดินทางไปยังชายแดนพม่า
วิ่งผ่านทุ่งและแม่น้ำสายเล็ฏๆที่กั้นชายแดนไทย-พม่า ลุยกันต่อถนนดินแดง
เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวานั่งทะลุฝุ่นกันเลยทีเดียว 4
ชั่วโมงเรียกว่าไส้ตับขยับกองมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวเรียบร้อย 555





เส้นทางสมคำร่ำลือจริงๆ
แต่ระหว่างทางยังมีแวะจุดพักเล็กๆ ร้านค้า หมู่บ้านสามารถเข้าห้องน้ำ ซื้อน้ำ ซื้อของทานเล่นได้นะครับ

4 ชม บนรถกระบะ 11.00 โมงเราก็มาถึงลานจอดรถของวัด
หลังจากนั้นก็เริ่มเดินเท้าไปยังจุดกางเต็นท์อีก 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลา 30-45 นาที
เส้นทางไม่ยากครับ เดินสบายๆ ผ่านป่าไผ่ ผ่านเนินสูง


ผ่านจากโซนป่า เราก็จะเดินทางมาถึงเนินสุดท้ายที่จะต้องออกแรงปีนกันหน่อย
มีแรงเท่าไหร่ใส่ไปเลย
ชันหน่อยๆค่อยๆเดิน



กว่าจะปีนมาได้ลมแทบจับเหมือนกันนะครับ ระยะทางไม่มากแต่เหนื่อยจริง หยุดพักสักนิด ยืนถ่ายสักหน่อย ถือเป็นจุดพักที่มองเห็นวิวที่สวยจริงๆ




จากนั้นเราก็เริ่มเดินทางกันต่อ
ใครมาถึงจุดตั้งของเจดีย์เล็กๆ อีกนิดเดียวก็ถึงจุดกางเต็นท์แล้วครับ



ลานกางเตนท์ค่อนข้างเป็นลักษณะ เขาโล้น โล่งรอบด้าน ไม่มีต้นไม้ใหญ่
เป็นทุ่งหญ้ากับโขดหินน้อยใหญ่
ทำให้สภาพอากาศด้านบนช่วงกลางคืนมีลมค่อนข้างแรง และอากาศเย็น
อยู่ที่ประมาณ 8 - 10 องศาครับ

จากนั้นก็เตรียมจับจองหาพื้นที่ได้เลย
และจะบอกว่าวิวตรงหน้ามันดีย์ต่อใจที่สุดครับ
ทุ่งหญ้าสีเขียวสีทองปลิ้วไปตามลม จากเหนื่อยๆ มันหายวับไปกับตาเลย



ผมบอกแล้วว่าวิวตรงหน้า เดอะเบส มากมายยยยยยยยยยยยยยยยยตายตาหลับ


กางเต็นท์เสร็จ ใครจะนอนพัก เดินเล่นถ่ายรูป หรือเดินไปอาบน้ำก็ได้นะครับ
ส่วนผมนอนเพราะเพลียจากการเดินทางมากแพลนว่าช่วงบ่ายๆเย็นๆค่อยเดินลงไปไหว้สักการะพระธาตุ
และรอเก็บแสงเย็นทีเดียว ส่วนใครที่ถามเรื่องสัญญาณมือถือ
มีบ้างไม่มีบ้างเป็นปกตินะครับ ถือซะว่ามาพักผ่อนชาร์ตแบต

ประมาณบ่าย 2 -3 ก็เตรียมออกเดินทางขึ้นไปสักการะพระธาตุทางด้านบน
ง่ายๆมาก เดินจากจุดกางเต็นท์ย้อนกลับลงมาที่ลานจอดรถไปยังภูเขาอีกลูกที่อยู่ฝั่งตรงข้าม 555



เจดีย์มี 2 จุดนะครับ สามารถเดินตามเส้นทางได้เรื่อยๆ ไม่ยาก
แต่เจดีย์ที่ 2 ที่อยู่ด้านบนสุด ให้สำหรับผู้ชายที่สามารถขึ้นไปได้เท่านั้นครับ



ผมใช้เวลาบนนี้ไม่นานมากนะครับ ขึ้นมาถึงเจดีย์ยอดสุดท้ายแล้วก็รีบเดินกลับไปยังลานกางเต็นท์เตรียมเดินเล่นบริเวณรอบๆ และรอถ่ายแสงเย็น
ภูเขาที่นี่สลับซับซ้อนเรียงทับกัน สวยเหมือนรีวิวจริงๆ
ยิ่งมาช่วงทุ่งหญ้าสีเขียว สีทองผสมกัน อยากจะนอนกลิ้งไปมาสัก 1 เดือน




ช่วงแสงเย็นประมาณนี้ครับ ใช้คำว่าสวยได้เปลืองมาก ครับ







หลังจากถ่ายแสงเย็นจบลง ก็เดินกลับไปยังจุดกางเต็นท์
การอาบน้ำ เข้าห้องน้ำ จากกางเต็นท์เราต้องเดินย้อนกลับมาที่ลานจอดรถ
ส่วนผมซักแห้งดีสุดล่ะครับ อย่างที่บอกกลางคืนค่อนข้างหนาว หลับๆตื่นๆ
ทั้งคืน แถมพื้นเอียงอีก มือจิกเท้าจิกกับพื้นตลอด กางเต็นท์มัดเชือกผูก
ตรอกสมอให้แน่น เพราะลมแรงมากถึงมากที่สุดกว่าจะถึงตอนเช้าเพลียเลย

ผมตื่นประมาณ 06.00 น. เดินไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น
บรรยากาศบนยอดเขาที่สลับซับซ้อนและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งเลยนะครับ
แสงเย็นว่าสวยแล้วแสงเช้าโคตรสวยกว่า






ไม่ว่าจะเป็นเช้าหรือเย็นประทับใจจริงๆ ใช้เวลาเดินเล่นเก็บภาพไม่เกิน 8 โมง
ก็เตรียมเก็บเต็นท์สัมภาระและที่สำคัญเราต้องเอาขยะกลับมาทิ้งด้วยนะครับ


สุดท้ายช่วงเวลาที่เหมาะแก่การผจญภัยคือช่วงฤดูหนาว
อากาศจะเย็นสบายตลอดทั้งวัน
และหากใครคิดอยากจะเดินป่าหรือกางเต็นท์ครั้งแรก
ที่นี่ตอบโจทย์สำหรับมือใหม่ได้เป็นอย่างดีครับ เพราะระยะทางเดินไม่ไกลมาก
เดินง่าย และมีลูกหาบคอยช่วยเหลือตลอดการเดินทาง
บอกได้เลยว่าคุณจะประทับใจไม่รู้ลืม


ข้อควรรู้กับกฏเล็กๆน้อยๆ
- สามารถผ่านข้ามแดนชั่วคราวได้ โดยไม่ต้องใช้หนังสือเดินทาง
- พกบัตรประชาชนติดตัวเสมอ
- ด้านบนกินเจเท่านั้น ห้ามทานเนื้อสัตว์เด็ดขาด
- ห้ามนำเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด
- บ่อน้ำศักสิทธิ์ตรงบริเวณลานจอดห้าม ผญ ตัก
- ห้ามผู้หญิงและผู้ชายนอนด้วยกัน
- ผู้หญิงไม่สามารถขึ้นไปบนพระธาตุด้านบนสุดได้
- ผู้หญิงควรมีผ้าถุงไปเปลี่ยนตอนเดินขึ้นไฟว้พระธาตุ
- ผ้าบัพสำหรับกันฝุ่น เส้นทางฝุ่นค่อนข้างเยอะ
- อากาศกลางคืน ค่อนข้างเย็น 5 – 15 องศา และลมแรงมากเตรียมตัวให้พร้อม
ข้อสุดท้ายที่สำคัญมาก
อยากจะฝากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว ควรช่วยกันรักษาความสะอาดให้มาก โดยเฉพาะทิชชูเปียกที่ทิ้งเกลื่อนกลาดหลังทำธุระเสร็จเละเทะมากจริงๆ
ธรรมชาติที่สวยงามเราเองมากกว่าที่เข้าไปทำลายธรรมชาติเหล่านี้
#มูลาอิ #พม่า #Mulayit
การท่องเที่ยวมันเป็นเหมือนการชาร์ตพลังให้กับชีวิต ทำให้เราได้มองเห็นโลกที่กว้างขึ้น
จากคำว่า “ฉันอยากไป…” “ฉันหวังว่าจะได้ไป…” เปลี่ยนเป็น “เฮ้ย! ฉันได้ไปมาแล้ว” กันดีกว่า! ครับ ท่องเที่ยวด้วยความสุข สนุกทุกการเดินทางนะครับ

#ไอเอมซูเปอร์แจ๊ค #JACKxTraveller #ท่องเที่ยวกันไหม
∴☻∴
► ท่องเที่ยวกันไหม เพราะชาตินี้ต้องไป ให้ได้สักครั้ง ◄
https://www.facebook.com/JACKxTraveller/
ทุกความชอบที่ว่าใช่ เป็นไปได้จากการเที่ยวแบบเท่ๆ
สถานเที่ยวที่ดีต่อใจให้คุณไปเที่ยวตามรอยกันให้ฟินไปเลย
เชื่อผมดิ! คร้าบ เก็บกระเป๋าแล้วเราไปเที่ยวกัน
เพราะบางทีคำพูดที่สวยหรู อาจจะสู้การไปสัมผัสด้วยตนเองไม่ได้
JACK's x Traveller
วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 14.18 น.