มันสำคัญที่ว่าเราได้เก็บเกี่ยวอะไรบ้างระหว่างทาง
Freedom is from within.
I have fond memories of Journey.
บนโลกกลมๆ ที่เคลื่อนตัวไปข้างหน้า สิ่งที่จะพอเก็บรักษาเอาไว้ได้คือ ความทรงจำ
เพราะเรื่องราวระหว่างทาง ทำให้ปลายทางเดียวกัน มีความทรงจำที่แตกต่าง
ปฏิเสธใจตัวเองไม่เก่ง
ปฏิเสธใจตัวเองทำไม่ไหว
กลับมาถึงบ้านเมื่อตอน 7.00 น. ของวันที่ 3/10/2016 (ทริปนี้เดิน 50 กิโลเมตร) โชคดีมากฟ้าเปิด แสงสวย แถมมีทางช้างเผือก สวยจริงๆ
ภูกระดึง 2 days 1 night เดินระห่ำมากคับเวลาน้อย
ทริปนี้เราตัดสินใจตอนบ่ายๆ ของวันศุกร์ 30 กันยายน 2016 เพราะพึ่งกลับจากเดินป่าระยะไกลมาเมื่อวันที่ 21-25 กันยายน 2016 ที่ จ.ตาก และขามีอาการบาดเจ็บจากน้ำกัดเท้า แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ไปภูกระดึง ทั้งๆ ที่ไม่เคยอยู่ในหัวเลย ไม่มีข้อมูลอะไร คิดจะไปก็ไปเลย เก็บของลงเป้ แล้วมาหาเอาตอนอยู่บนรถทัวร์ รอติดตามเรื่องราวนะคะ (ภาพไม่ไดแต่งสีจริง สภาพอากาศจริง) เรื่องค่าใช้จ่าย ถ้าแบกของเองเอา tent ไปเอง ถุงนอน อาหาร ไปทำเอง ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 1,200 บาท คะ ข้อมูลหากมีผิดพลาด ขออภัยด้วย
สุดท้ายเรื่องราวทั้งหมดก็จบด้วยความคิดถึง
ทุกครั้งในการเดินทางมันมีความสุข มันดีต่อใจ
ภาพละเอียดเหมือนได้ไปเดินเอง มาวัน สองวัน รีวิวเหมือนมาเที่ยว เป็นปี
สำหรับการเดินทางขึ้นภูกระดึงนั้น ทางอุทยานจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นได้ตั้งแต่เวลา 07.00-14.00 น. ของทุกวัน และหลังจากเวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ทางอุทยานจะไม่อนุญาตเพราะระยะทางในการเดินทางขึ้นเขาต้องใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งจะตรงกับเวลาพลบค่ำในระหว่างทาง ดังนั้นอาจจะทำให้เกิดความยากลำบากอีกทั้งอาจได้รับอันตรายจากสัตว์ป่าที่ออกหากินในเวลากลางคืนอีกด้วย
อย่างไรก็ตามอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภู ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี และจะทำการปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 30 กันยายนของทุกปีเช่นกัน เพื่อเป็นการฟื้นฟูในช่วงฤดูฝน
การจัดเป้ เชจัดเหมือนไปเดินป่าปกติขนไปทั้งหมดที่จำเป็น หมวกควรมี เพราะแดดร้อนมาก หน้าไหม้เลย เสื้อกันหนาวอย่าลืม เพราะกลางคืนอากาศเย็น
เส้นทางพิชิตภูกระดึง แน่นอนว่าการเดินทางพิชิตภูกระดึงนั้นต้องผ่านเส้นทางที่ลำบากระยะทาง 8800 เมตร แบ่งออกเป็นเส้นทางเดินขึ้นเขา 5500 เมตร และเมื่อถึงหลังแปจะเป็นทางราบ ประมาณ 3300 เมตร ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เส้นทางที่ว่านี้จะแบ่งออกเป็นช่วงๆ แต่ละช่วงจะเรียกกันว่าซำ สั้นบ้างยาวบ้าง ชันบ้าง เรียบบ้างสลับกันไป
จากที่ทำการอุทยานฯ บ้านศรีฐาน เราจะเจอ ปางกกค่า - ซำแฮก-ซำบอน-ซำกกอก- พร่านพรานแป-ซำกอซาง-ซำกกหว้า-ซำกกไผ่-ซำกกโดน-ซำแคร่-หลังแปร
ซำแฮก เป็นช่วงแรกของการเดินทางขึ้นเขา ระยะทางจากที่ทำการไปยังเชิงเขา 700 เมตร
เดินสบาย ๆ ใครเหนื่อยก็นั่งพัก การแต่งตัวอยากให้ใสขายาว เผื่อล้มจะได้ไม่เป็นแผล น้ำ ขนม ผ้าซับเหงื่อ อาหารกลางวัน ถ้าใครจะประหยัดงบควรมีติดตัวไป ถ้าใครชิลพกเงินไปอย่างเดียว มีขายหมด ของที่ลูกหาบแบกจะไปถึงช้า อะไรที่จะใช้ควรแยกออกมาแบกเอง
ซำ คือ พื้นที่ที่มีน้ำซับหรือน้ำใต้ดินผุดขึ้นมาสู่ผิวดินหรือบริเวรหน้าผา ในสมัยก่อนคนเดินป่าก็จะแวะพักหรือดื่มน้ำตามซำต่างๆ และเรื่อยมาจนปัจจุบันถึงแม้ว่าจะไม่ต้องหาน้ำในป่ากินแล้วสำหรับการเดินขึ้นภูกระดึง สิ่งที่ยังเหมือนเดิมก็คือซำเป็นที่ที่เราจะแวะพักเหนื่อยหรือหาอาหารและน้ำดื่มดื่มกัน เพราะตามซำต่างๆ ที่เราจะเดินขึ้นภูกระดึงจะมีร้านอาหารอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีทุกซำนะ มีเป็นบางซำ
ถึงแล้วในเวลาอัดรวดเร็ว ตอนนี้ bobby วิ่งแซงไปก่อน คุณภูของแบกหนักกำลังเดินตามคงอยู่ไม่ไกลจากเชมาก
คุณลุงกลับครอบครัวนั่งทานข้าวกันที่ซำแฮก (ครอบครัวนี้ชวนเชคุยช่วงซำแฮก ลุงมาหลายรอบแล้ว ฟังแกเล่าเรื่องต่างๆ ดูลุงมีความสุขมาก ขนาดเล่าว่าลุงเคย้ป็นลมล้มพับตรงนี้นะ ยังหัวเราะกันสนุกสนาน)
ถึงแล้ว
(ปล.ตอนนี้เปลี่ยนกล้องขนาดภาพอาจเปลี่ยนไป ตอนแรกใช้มือถือ)
มณเฑียรทอง
ลงไปกลิ้งเกือกถ่ายรูป
เดินไปอย่ามัวแต่คุยหรือใส่หูฟัง ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะไม่ทันได้วิ่งหนี
ลานพระศรีนครินทร์ หรือลานพระพุทธเมตตา ประดิษฐานพระพุทธรูปที่มีประวัติความเป็นมาว่า องค์พระพุทธเมตตา เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2463 โดยหลวงวิจิตร คุณสาร นายอำเภอวังสะพุงได้ร่วมกับราษฎร สร้างขึ้นเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและสร้างด้วยแรงศรัทธา ในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์และมหัศจรรย์แห่งนี้ ซึ่งแต่เดิมเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นไม่มีพระนาม ต่อมาในปี พ.ศ.2526 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระและบริเวณรอบๆ ด้วยหินอ่อน พร้อมทั้งเสด็จมาเบิกพระเนตรและสวมเกศรวมถึงพระราชพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "พระพุทธเมตตา" ตราบจนถึงทุกวันนี้ เบื้องหน้าองค์พระพุทธรูปมีราวแขวนกระดิ่งที่มีคนเอากระดิ่งมาแขวนไว้จำนวนมาก และยังมีระฆังให้ตี
พักชมสิ่งที่น่าสนใจข้างทางแพรบ
2.ซ้าย กระดุมเงิน 2. ขวา -
ผาหล่มสัก อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 9 กิโลเมตร เป็นลานหินกว้างและมีสนต้นหนึ่งขึ้นอยู่ชิดริมผาใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปในอากาศทางทิศใต้ บริเวณผาหล่มสักนี้มองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสลับซับซ้อนในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ และเป็นจุดหนึ่งที่จะชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจนที่สุด บรรดาช่างภาพ สื่อมวลชน นิยมไปถ่ายภาพ ณ จุดนี้กันมาก เพราะยามตะวันตกดินจะเกิดทัศนียภาพงดงามที่สุด
เดินเส้นนต.โดยเริ่มจากนต.วังกวาง เพ็ญพบใหม่ โผนพบ เพ็ญพบเก่า(2ห้วยมารวมกัน นต.อยู่ทางขวามือมองไม่เห็นต้องเดินตามน้ำไป300ม.มีทางลงขวามือ)
จากนั้นเดินกลับขึ้นมาเดินทวนน้ำไปถ้ำใหญ่แล้วขึ้นเนินออกมาทางกลับที่ทำการผ่านองค์พระพุทธเมตตากลับทึ่พัก
ข้อมูลทั่วไป
ห่างจากน้ำตกเพ็ญพบประมาณ 1.4 กิโลเมตร เส้นทางเดินไปสู่น้ำตกจะดูใกล้นิดเดียวสำหรับคนชอบธรรมชาติ ชมนกชมไม้ เพราะตลอดเส้นทางครอบคลุมไปด้วยป่าดิบเขาที่มีพรรณไม้ใหญ่และร่มครึ้มกว่าทุกเส้นทางน้ำตกอื่นๆ อาจได้พบต้นส้มกุ้ง (Begonia sp.) ออกดอกเป็นสีชมพู เกสรกลางสีเหลือง ชอบขึ้นตามทางในพื้นที่สูงอย่างป่าดงดิบเขา ในเส้นทางถ้ำใหญ่นี้มีทางเดินบางช่วงที่เลียบข้างลำห้วยเล็กๆ มีต้นเมเปิ้ลอยู่เป็นระยะๆ หากช่วงต้นมกราคม เส้นทางนี้จะแดงฉานด้วยใบเมเปิ้ลที่ร่วงหล่นเกลื่อนพื้นป่า ความสวยงามของน้ำตกถ้ำใหญ่จะแปลกตาด้วยโขดหินมหึมาวางทับซ้อนไม่เป็นระเบียบ ลำธารนี้ขนาบข้างด้วยต้นเมเปิ้ล ยามเมเปิ้ลแดงล่วงหล่น ขัดสีให้ลำธารหินเขียวสวยงามมีสีสันและมีชีวิตชีวาขึ้นมามากนัก
I'm Che
วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.44 น.