ป่าคลองนาคา เหมืองโชน โตนพันเมตร ทะลุเขื่อนเชียวหลาน 4 วัน 3 คืน
ทริปนี้ถือเป็นทริป อึด ถึก นรก ทริปหนึ่งเลยก็ว่าได้ เจอฝน เจอทาก เจอบ่อโคลนดูด น้ำป่า กับเส้นทางที่เป็นป่ารกทึบ น้อยคนนักที่จะได้เดินทางเข้าไปกับเส้นทางเดินเท้าระดับหนัก เส้นทางเดินเป็นป่าดิบชื้นผ่านเหมืองโชนซึ่งเป็นเหมืองเก่าที่ปล่อยร้างมาแล้ว 40 กว่าปี น้ำตกโตนพันเมตรที่มีความสูงลาดเอียงทอดตัวลงมาจากเขาสูงเกือบ 1000 เมตรเห็นจะได้ เราจะพักในป่ากัน 3 คืน(ต้องเดินถึกและอึดพอควร) ผู้ร่วมทริปต้องใจเต็มร้อย มีประสบการณ์เดินป่ามาบ้างและต้องดูแลตัวเองได้ ทริปนี้ไม่มีลูกหาบช่วยแบบของ ของใช้ต้องใส่เป้แบกไปเอง
ทริปเดินป่าทริปนี้ ถือว่ายากมากทีเดียว ตั้งแต่การติดต่อประสานงาน ถึงสองหน่วยงาน เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าป่าคลองนาคา จ.ระนอง และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าคลองแสง จ.สุราษฯ กลุ่มเราจะเริ่มเดินที่หน่วยกำพวน ของป่าคลองนาคา ไปออกที่ปากคลองแสง ใช้เวลา 4 วัน 3 คืน น้อยคนนักที่จะเดินเส้นทางนี้ เพราะเป็นป่าที่อุดสมบูรณ์ สัตว์ป่ามากมาย หลากหลาย หลังจากที่ติดต่อประสานงานแล้วเหลือหาเพื่อนร่วมทริป ก็ยากอีกกกกกก กว่าจะถึงวันเดินทางจริงสมาชิกเด้วเข้าเด้วออกทำให้เราต้องประกาศหาคนเพิ่มบ่อยๆ
การเดินป่าที่ จ. ระนองในครั้งนี้ ก่อนอื่นเราต้องขอขอบคุณหัวหน้าทูน (นายเลิศศักดิ์ ศรีพรหม หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สุตว์ป่าคลองนาคา )และเจ้าหน้าที่ ลุงเขียว พี่นวย พี่ไข่ พี่เจอ พี่ซิว พี่เป็ด และพี่ๆ ท่านอื่น แห่งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าคลองนาคา เป็นอย่างมากที่คอยให้ข้อมูลและคอยอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ
ทริปนี้ถือเป็นการเดินป่าใต้ครั้งแรกของเรา ซึ่งเราเองตอนนี้เบื่อการเดินป่าที่ต้องไปเจอคนเยอะๆ ซึ่งมันค่อนข้างวุ่นวาย ราวต้นเดือนมีนาคม เลยนั่งหาข้อมูลที่เดินป่าจากแหล่งข้อมูลเก่าๆ ที่นักท่องเที่ยวไปค่อนข้างน้อย จนมาเจอป่าคลองนาคา มรกตนคร เหมืองโชน น้ำตกโตนพันเมตร ซึ่งข้อมูลใน internet มีน้อยมากเกี่ยวกับป่าที่นี่ เราเลยสนใจ หลักจากนั้นก็หาข้อมูลต่างๆ พร้อมทั้งหาสมาชิกที่จะร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคม ถือว่าเป็นการวางที่ค่อนข้างนานสำหรับทริปนี้
ในการเดินป่าทริปนี้ค่อนข้างพิเศษคือ นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่ 5 คน ที่เป็นคนพาคณะของเราไป ยังมีคณะของหัวหน้าทูน หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สุตว์ป่าคลองนาคา จะร่วมเดินทางไปสำรวจเส้นทางกับคณะของเราด้วยอีก 6 คน และจะใช้ทริปของเราเป็นเคสตัวอย่างในนการจัดการเพื่อเป็นแนวทางของกลุ่มเดินป่ากลุ่มอื่นๆ ที่จะเข้ามาเดินต่อไป(แต่ทางหัวหน้าทูนจะเดินถึงแค่เหมืองโชนและจะเดินทางกลับหน่วยกำพวน) ทำให้ทริปนี้มีเจ้าหน้าที่ร่วมเดินทางไปด้วย 13 คน และสมาชิกของเรา อีก 13 คน
ค่าใช้จ่ายและเบอร์ติดต่อ (ค่าใช่จ่ายอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพราะจากที่กล่าวไปในตอนแรกว่าเคสของเราเป็นเคสตัวอย่าง ควรโทรถามอีกครั้ง)
หัวหน้าทูน นายเลิศศักดิ์ ศรีพรหม หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สุตว์ป่าคลองนาคา 0818950897
พี่แป้น กรณีจะพักแพ แพคลองแสง (หน่วยคลองหยา) 083-6906197 ติดต่อเรือและแพพร้อมอาหาร
แพหน่วยคลองหยา 061-1869787 ติดต่อเรือและแพพร้อมอาหาร
ติดต่อเรือและแพได้ทั้งสองเบอร์แต่คนละเจ้าเลือกเอานะคะ
• เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา มีพื้นที่อยู่ในป่าตำบลบ้านนา ตำบลเชี่ยวเหลียง ตำบลกะเปอร์ ตำบลบางหิน ตำบลนาคา ตำบลกำพวน ท้องที่อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง พื้นที่ด้านทิศตะวันออกติดกับเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้านทิศใต้ติดกับเขตจังหวัดพังงา เนื่องจากป่าบริเวณนี้ยังมีสภาพป่าสมบูรณ์และเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ชุกชุม รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่าไว้ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้รักษาไว้เป็นป่าคุ้มครอง โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 78 ตอนที่ 94 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2504 และจังหวัด ระนอง ได้ประกาศกำหนดให้ป่าพื้นแห่งนี้เป็นป่าถาวร ตามหนังสือจังหวัดที่ 4842/2506 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2506 ต่อมาปี พ.ศ.2511 กองบำรุง กรมป่าไม้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจสภาพ ภูมิประเทศ พรรณไม้ และชนิดของสัตว์ป่า เพื่อดำเนินการประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2515 คณะปฏิวัติได้มีประกาศฉบับที่ 150 กำหนดบริเวณที่ดินป่า คลองนาคาให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 89 ตอนที่ 82 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2515 ปัจจุบันมีพื้นที่ 331,456 ไร่
• ลักษณะอากาศ
• เนื่องจากอยู่ติดกับฝั่งทะเลอันดามัน จึงได้รับผลกระทบจากลมมรสุมตะวันตก เฉียงใต้เป็นประจำ ทำให้มีฝนตกชุกเกือบตลอดปี ฤดูฝนจะมีฝนตกตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายนต่อจากนั้นก็เป็นฤดูแล้ง ซึ่งมีอากาศร้อนอบอ้าวเป็นส่วนใหญ่ ฤดูหนาวเกือบจะไม่มีเพียงแต่อากาศเย็นลงกว่าปกติเท่านั้น
หัวหน้าทูน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า หมายถึง พื้นที่ที่กำหนดขึ้นเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัย เพื่อว่าสัตว์ป่าในพื้นที่ดังกล่าวจะได้มีโอกาสสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ตามธรรมชาติได้มากขึ้น ทำให้สัตว์ป่าบางส่วนได้มีโอกาสกระจายจำนวนออกไปในท้องที่แหล่งอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกับเขตรักษาพันธุ์-สัตว์ป่า
การกำหนดให้มีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สืบเนื่องมาจากการที่สัตว์ป่าจะสามารถดำรงชีพและสืบเชื้อสายต่อไปได้ จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ แหล่งน้ำ แหล่งอาหาร แหล่งหลบภัย ป่าไม้เป็นแหล่งกำเนิดปัจจัยดังกล่าว ซึ่งดูยิ่งจะเพิ่มความสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่งต่อสัตว์ป่า เมื่อป่าไม้ถูกทำลายลงสัตว์ป่าก็ต้องต่อสู้กันเพื่อแก่งแย่งแหล่งน้ำ แหล่งอาหารที่มีจำกัด ทำให้สัตว์ป่ามีสุขภาพอ่อนแอและล้มตายไปมาก ขณะเดียวกับมนุษย์มีการพัฒนาอาวุธปืนและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้สำหรับการล่าสัตว์ป่าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เหล่านี้เป็นสาเหตุให้สัตว์ป่าถูกทำลายไปได้โดยง่าย ทำให้สัตว์ป่าบางชนิดปริมาณลดลงอย่างรวดเร็ว จนบางชนิดเกือบสูญพันธุ์หรือบางชนิดก็ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการพยายามสงวนและรักษาป่าไม้ไว้ เพื่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ในรูปแบบของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
ทริปนี้เดินจากระนอง - ไปสิ้นสุดที่ จ. สุราษฏร์
1. รองเท้าผ้าใบ (รองเท้าแตะ ลืมเอาไปเลยเดินเท้าเปล่า)
2. Tent
3. Fly Sheet
4. เปลมุ้ง
5.ถุงนอน (สภาพปลอกหาย สายขาดใช้งานจริงก็งี้)
6. ธงชาติ 🚩🚩🚩
7. รัดท้อป, ทีรัดหัวเข่า
8. Rain covers , เสื้อกันฝน
9. ผ้าชีมัค
10. เสื้อวันเดินทาง (spandex) กางเกงแบบระบายอากาศได้ดี
11. ตุ๊กแก
12. เสื้อขนกระต่ายแขนยาว น้ำหนักเบา
13. ลองจอน (ความจริง มีลองจอนแล้วถุงนอนจะไม่เอาไปก็ได้ เพราะอุ่นแล้วใส่ติดลบยังเดินสบายๆ)
14. ชุดนอนเสื้อกล้าม เกงขาสั้น ผ้าแห้งไว ผ้าถุง ถุงเท้า เข็มขัด
15. หมวก หมวก หมวก หมวก
16. เชือกขนาดต่างๆ เข็มขัดรัดของ
17. ถุงมือ
18. เกลือแร่ ลูกอม ไฟแช้ค พลาสเตอร์ ผ้าเปียก ยา
19. ผ้าโพกหัวกันเหงือเข้าตา
20. มีด นกหวีด
21. กล้อง ที่ฟังเพลง แว่น กล้อง อุปกรณ์กล้อง
22. ถุงกันทาก
23. อาหาร ของใช้ส่วนตัวกระจุกกระจิก
24. ไฟฉาย
25. ยากันยุง
26.Cable Tie
27. ชาม ช้อน
Etc .. กะน้ำหนักไว้แบกน้ำ อาหารกลางวัน ข้าวสาร 1 กก. หมูเค็ม 1 กก. น้ำดื่ม 2 ลิตร ขนมกินเล่นๆ (เราแบกกล้วยตากไป 1 กิโล น้ำตาจิไหล
ยากันทาก สเปรย์กันแมลงไม่เคยพกและไม่ใช้ด้วย เข้าป่าควรอยู่กับป่าให้ได้ เด้วก็ชิน
เราเองออกเดินทางในเช้าวันที่ 4 พ.ค.2559 โดยมีพี่วุฒ กับแก๋ม (สหายสายโหด) มารับที่บ้าน ช่วยกันหารค่าน้ำมันรถ มาถึงก็ขนเสบียงของกองกลางขึ้นรถและออกเดินทางไปยังจังหวัดระนอง
เรา เช เจ้าของรีวิว
Name: Monster เช
Race: กึ่งมนุษย์
Property: shadow 3
Walk speed: very fast
ฝากให้อ่าน.... “อะไรก็เกิดขึ้นได้"
การเดินป่า นอกจากกายพร้อม ใจพร้อม สัมภาระพร้อมแล้ว ยังต้องพร้อมที่จะหลงป่าด้วย เคยถามตัวเองมั้ยว่าพร้อมหรือยัง อย่างน้อยที่โพสมาคุณต้องทำได้
1. ในเป้ต้องมีอาหารแห้ง ข้าวสาร หมูรวนเค็ม เกลือ มาม่า เผื่อไว้กินในยามหลงป่า อย่างน้อย 3 คืน (แม้บางคนจะไปทริปกับทัวร์ก็เถอะ)
2. มีหม้อสำหรับหุงข้าว ต้มน้ำ อย่างน้อย 1 ใบ
3. มีทักษะในการหุงข้าว ซึ่งควรจะหัด เพราะถ้าเราเกิดหลงป่าไปคนเดียวใครจะช่วยคุณ นอกจากตัวคุณเอง
4. ในเป้ควรมี ไฟแช๊ค นกหวีด ไฟฉาย ถ่านสำรอง มีด และยา
5. มีทักษะในการก่อกองไฟแม้ยามฝนตก ถ้ามีแรงขนชุดแก้สกระป๋องก็ไม่เสียหาย แบกไปเถอะถึงเวลายามคับขันเด้วรู้เรื่อง
6. ต้องสามารถหาที่หลับนอนที่ปลอดภัยได้ ด้วยตัวเอง
7. ต้องมีความสามารถในการแบกสัมพาระของตัวเอง
การฝากสัมภาระของตัวเองไว้กับคนอื่นคือเรื่องที่เสี่ยงมาก หากคุณหลงกับกลุ่มในกรณีใดๆ ก็แล้วแต่ คุณมีแต่ตัว ก็อดตายในป่านะขอรับ
8. ทักษะในการสังเกตุสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่ใช่เดินก้มหน้ามองดิน
คิดอะไรออกจะมาเพิ่มเติม
ไว้มีเวลาจะทำเป็นรีวิว ให้
ในเป้เช ไม่ได้มีแต่พร้อบ แต่ในยามคับขัน เพื่อนๆ ยังพึ่งเราได้
จากแผนที่ในภาพระยะทางจากหน่วยกำพวน-จุดที่เรือมารับ วัดในแนวเส้นตรงจะได้ระยะทาง 60 กม.
แต่หลังจากสิ้นสุดการเดิน เจ้าหน้าวัดระยะทางได้ทั้งสิ้น 85- 90 กม. เพราะต้องเดินตัดทางข้ามห้วย
จะมีร้านค้าที่ หน้า ขรส. มีขายครบเกือบหมด เราสั่งอาหารเช้าและอาหารกลางวันที่ร้านนี้เลย ปกติพี่เขาไม่รับทำแต่ เขาก็มีน้ำใจ ทำให้คะเป็นข้าวหมกไก่ และข้าวไก่กระเทียม
มีหลับที่นอนให้ ไม่เสียเงินคะ แล้วแต่เราจะหยอดใส่กล่อง
เช ตื่นแต่เช้า มากวนคนที่หลับ และคอยโทรตามอาหาร
ในภาพ เช ไม่ได้เตี้ยนะ แต่ลุงเสื้อแดงสูงเกินมาตราฐานมนุษย์โลก-_-"
9.30 น. เตรียมเดินทางออกไปหน่วยกำพวน ซึ่งจะเริ่มเดินที่นั่น
เดินทางโดยรถของเจ้าหน้าที่ไปยังหน่วยกำพวน
ระหว่างทางรกมากและเต็มไปด้วยหนามและไม้ล้ม ต้องมุดต้องลอด เอาเป็นว่าวันแรกก็ไม่หมูเสียแล้ว
นั่งพักบ้างอะไรบ้าง
การมาเดินป่า ที่รกชัน และต้องมุดๆรอดๆ อีก ยิ่งเป้ที่หนักด้วยแล้ว ทำให้เสียพลังงานไปเยอะทีเดียว และยังมีหนามหวายนี่เป็นตัวดึงแรงเราไปเยอะทีเดียว เพราะเราจะไปข้างหน้า มันกับเหนี่ยวรั้งเราเอาไว้ไม่ไห้ไป ทำให้ต้องยื้อกันอยู่นาน เสียแรงไปอีก
ณ. ตอนนั้นควรใช้เวลาให้คุ้มค่า ดื่มด่ำกับสิ่งรอบตัว อย่ามัวแต่รีบเดินจนมองไม่เห็นอะไรสองข้างทาง
เดินไปได้ครึ่งทางของวันแรก พี่โส่ยเริ่มเดินไม่ไหว ยังไม่ชินกับทางที่เดี๋ยวข้ามห้วย เดียวปีนทางชัน เดี๋ยวเดินบนก้อนหิน แก๋มเลยช่วยแบกเป้ ของพี่โส่ยไปจนถึงแค้มป ที่พักในคืนแรก
สุดยอดดดเลย แงซาย พลังคูโบต้าจริงๆ เราบอกเลยนะว่าการที่จะแบกของเพิ่มสักโลในป่า นี่ลำบากมาก แก๋มเป็นคนที่เรานับถือในน้ำใจของเขามากๆ คนหนึ่งเลย เป็นคนที่คอยช่วยเหลือคนอื่นๆ ไม่เคยห่วงเลยว่าตัวเองจะลำบากมั้ย ใจแก๋มหล่อมาก
มีโชว์คนแก่ลอยน้ำ
เฮ้ยยย มันใช่เหรอว๊าาาา
เช แงซาย พี่วุฒิ ถึงแค้มป์ช้ากว่าคนอื่นเพราะเป้ที่รับมาแบกเพิ่มขึ้นอีกใบทำให้การเดินไม่สะดวกนัก และมีเดินหลงทิศ หลงทางเป็นบางช่วงเพราะป่ามันดิบรอยต่างๆ ก็เลือนลางไปตามกาลเวลา และก็ถือโอกาสถ่ายรูปใบไม้ใบหญ้าไปเรื่อย ทุกคนงง กันหมดว่ากลุ่มเราเดินไปอ้อมเอฟเวอร์เรสมารึเปล่ามาถึงเกือบค่ำมืด
ลักษณะของบริเวณที่พักเดินลงหุบไปทางค่อนข้างชัน กางเปลกันใกล้ลำห้วยที่มีน้ำพอให้ดื่มกินและใช้สอยแต่ไม่มาก ทางลงลักษณะลาดชัน
ในภาพคือพี่ธง มาเดินป่าด้วยกันครั้งแรกคะ สายนักอนุรักษ์ นักดูนก ชายหนุ่มจากเมืองเพชร
เช้ามาตื่นกันแต่เช้าคะ ทานอาหารแล้วออกเดินต่อคะ วันนี้จุดหมายคือเหมืองโชน
มาตั้งขบวนกันข้างบน
ช่วงสุดท้ายก่อนถึง ก.ม. 14 จะต้องผ่านจุดสุดท้ายเรียกว่า ครวญลาวถอย ซึ่งจะเป็นทางชันต้องมีการปีนกันบ้างงงงง ชันมากกกไปป่าววววเว้นที่ไว้ ให้ vdo
ทีมงานคุณภาพ สั่งได้ทุกแอคชั่น
เช จะไม่ทน มาตบกันมั้ย
คือบางครั้งการเดินทางจุดหมายไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรนะ เราเน้น Story และ Drama
เฟินในสกุล Cyathea นี้เป็นเฟินดิน ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ กระจายอยู่ตามเขตภูเขาในป่าเขตร้อนทั่วโลก และมีบ้างที่อาศัยอยู่ในเขตหนาว เฟินในสกุลนี้ ในธรรมชาติ มักพบได้ในป่าดิบ ที่มีความชุ่มชื้นสูง และสภาพอากาศไม่ร้อนมาก
มีรายงาน พบเฟินในสกุลนี้มากถึง 700 ชนิด ที่พบในบ้านเราค้นพบแล้ว 8 ชนิด ส่วนในมาเลเซียมีถึง 17 ชนิด ในฟิลิปปินส์มีถึง 37 ชนิด
เห็ดหูหนู
ระหว่างทางก็จะมีการหยอกล้อกันพอสนุก (ใครมาทำไว้น้อ)
ผลงานของแงซายคะ เดินมาถึงก่อนนานพอสมควร ได้หลับไปพักใหญ่ๆ
เอาใบไม้มาปิดหน้า แล้วก็มองไม่เห็น เดือดร้อนคนอื่นอีกกก
ตรงนี้มีสัณญานมือถือ up face กันมันส์เลย
เหมืองโซน เป็นชื่อของเหมืองแร่ร้าง มีอายุกว่าร้อยปี เพราะบริเวณนี้มีเฟิร์นโซนขึ้นอยู่มาก จึงเรียกชื่อว่า เหมืองโซน มีการทำเหมืองแร่มาก่อนปี ๒๔๕๙ ที่เคยรุ่งเรืองในอดีตเมื่อกว่า ๖๐ กว่าปีมาแล้ว ได้ฉายาว่า มรกตนคร เหมืองโซนนี้อยู่ในป่าลึกเขต ๓ จังหวัดติดต่อกัน คือ ด้านแถบทิศตะวันออก เป็นจังหวัดสุราษฏร์ธานี ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นจังหวัดระนอง ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นจังหวัดพังงา
การเดินทางไปเหมืองโซน เริ่มจากหน่วยพิทักษ์ป่ากำพวน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง ซึ่งเป็นเส้นทางเข้า – ออกเหมืองโซนในอดีต ใช้เวลาเดินเท้าเกือบสองวัน
แต่สำหรับเส้นทางที่ใช้เดินทางในครั้งนี้ เป็นการเดินทางแบบท่องเที่ยวไปในป่า โดยเริ่มต้นจากตัวอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นการเดินทางจากทิศใต้ไปยังทิศเหนือ ไปสิ้นสุดที่เขตอำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง ผ่านพื้นที่อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง และอำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฏร์ธานี ทั้งนี้ได้รับความสะดวกจากนายสถานีขนส่ง บ.ข.ส. อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ที่ให้ข้อมูลในการเดินทาง พร้อมทั้งหาผู้พาไปส่งยังจุดเดินทาง โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก คุณชูศักดิ์ ถิ่นพังงา สมาชิกสภาเทศบาลคุระบุรี พามาส่งที่บ้านของคุณลุง สหัส ประกอบแสง ซึ่งเป็นผู้ชำนาญในป่าแถบนี้ คุณลุงสหัสนี้อายุ ๖๗ ปี อาชีพทำสวนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงอยู่ติดกับป่าเชิงเขา คุณลุงนำพวกเรามาส่งปากทางเข้าป่าซึ่งอยู่หลังบ้านท้ายสวน มีลำธารสายเล็ก ๆ ไหลผ่านตลอดทั้งปี เส้นทางเดินเป็นทางชักลากไม้มาก่อน
ข้อมูลฉบับเต็ม
http://www.geocities.ws/tongpa/data003/2muangkhon.htm
เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ และเป็นตำนาน ที่ลึกลับ และมีอยู่จริง นั่นคือเหมืองโชนและน้ำตกที่มีความสูงถึง 1,000 เมตร เชื่อว่าจะมีอยู่เพียงแห่งเดียวในเมืองไทย ที่มีความสูงมากขนาดนี้ และบริเวณใกล้เคียง ยังมีการทำเหมืองแร่ดีบุก ซึ่งในตำนานระบุว่าเป็นแหล่งแร่ดีบุกที่สมบูรณ์ที่สุดในภาคใต้ และการขนอุปกรณ์เข้าไปทำเหมือง ต้องใช้เวลาถึง 3 ปี เพราะความยากลำบากในเส้นทางที่เป็นป่าเขาที่สูงชัน
3 คู่ 6 ใบ คือลักษณะองต้นโชน
ชื่อสามัญ Indian Rhododendron , Malabar Melastome
วงศ์ MELASTOMATACEAE
ชื่ออื่น โคลงเคลง เหมร(ใต้) พญารากขาว(กลาง) หญ้าพลองขน(ชุมพร) อ้าน้อย(เชียงใหม่) เอนอ้าน้อย(อุบลราชธานี) เอนอ้าขน
ดอก เป็นยาระงับประสาทและห้ามเลือดในคนที่เป็นริดสีดวงทวาร ราก เป็นยาดับพิษไข้ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร บำรุงตับไตและดี
เที่ยวกับเรา ลำบากหน่อยนะ
เราชอบนอนเต๊นท์ นอนเปล เราชอบกินข้าวจากหม้อสนาม เราชอบเดินตากฝน เราชอบสีเขียวๆและกลิ่นของป่า เราชอบนั่งมองแสงไฟฟืน .........
#ได้แต่มองเธอข้างหลัง #ยิ้มให้เธอเพียงข้างหลัง
พบเครื่องมือขุดแร่ที่ใช้แรงงานคนที่เป็นเสียม และที่เป็นเครื่องจักร พบซากรถยนต์ รถตีนตะขาบ มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ มีกระท่อมร้างบ้านพักคนงาน มีท่อส่งน้ำที่ใช้ฉีดแร่ มีฝายเก่าซึ่งพังแล้ว แต่ร่องรอยของฝาย ที่เป็นฝายกั้นน้ำ มีถ้ำ ถ้ำนั้นขณะนี้เป็นที่อยู่อาศัยของพวกค้างคาว มีถ้ำใหญ่ ๆ อยู่ 2 ถ้ำ
มรกตนคร
คืนนี้ฟ้าร้อง ฟ้าแลบ แต่เช นอนปลาทูคะ ขี้เกียจกางเปล หละแฮร่ๆๆๆ
วางแผนการเดินทางในพรุ่งนี้ ที่ต้องประชุมกันเพราะพรุ่งนี้จะเป็นการเดินทางเส้นสีแดง เป็นทางด่านช้าง และสัตว์ป่าอื่นๆ จึงต้องระวังตัวกันก่อน
พรุ่งนี้ เวลา 5.00 น. คณะของหัวหน้าทูนจะเดินกลับหน่วยกำพวนจะแยกกับคณะของเราตรงนี้ เดินรวดเดียวถึงหน่วยเลย และก็มีสมาชิกบางคนกลับด้วยเนื่องจากมีภารกิจถ้าเดินจนจบทริปจะไปทำงานไม่ทัน
ภาพใบอ่อนของเฟินบัวแฉกเหล่านี้ เป็นภาพที่ถ่ายจาก ยอดเขาสันแดน
จุดที่เครื่องบินชนกับหน้าผาบนเขาสันแดน
เห็นว่าเป็นเครื่องบินของนักบินฝึกหัดของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ แล้วก็มาขับชนกับภูเขา และก็ได้มีการกู้เอาศพไป พบซากเครื่องบินนั้นตรงยอดเขาแดน ยังมีซากปรักหักพังของเครื่องบินอยู่ มีให้เห็นเป็นหลักฐานอยู่ (ข้อเท็จจริงของเครื่องบินเป็นเครื่องบินฝึกบินของสายการบินสิงคโปร์แอร์ลายน์ ชนิด 2 ที่นั่ง ฝึกบินจากสิงคโปร์ แวะพักภูเก็ต จากนั้นเครื่องบินบินขึ้นจะไประนอง ทัศนวิสัยไม่ดี พุ่งชนภูเขา ทำให้ครูและลูกศิษย์นักบินเสียชีวิตทั้งสองคน เหตุเกิด พ.ศ. 2540)
ทางจะขึ้นเขาลงห้วยตลอดทางคะ เดินผ่านด่านช้าง ด่านหมู ก็เส้นทางรก มีทากเยอะ เป็นป่าที่รกมาก
แต่สุดท้ายก็แยกร่าง ลุงเขียวเลยให้เอารองเท้าแกมาใส่แทน
ลูกช้างแหก ข้างในมีขนถ้าโดนจะคันมาก ถ้าหล่นใส่หัวมีตายคะ
สิ่งที่ประทับใจมากจากการไปสำรวจน้ำตกก็คือ เพราะว่าน้ำตกเป็นหินสีขาวสะอาด เป็นน้ำตกสูงมาก และเห็นภูมิทัศน์รอบข้างสวยงาม อุดมสมบูรณ์ เห็นแล้วชื่นใจ
เดินไปตามลำคลอง ลำห้วยที่ไหลมาจากเทือกเขาแดน แล้วก็เดินไปจนถึงจุดที่เป็นยอดของน้ำตก วัดพิกัดได้ 1,200 เมตรเศษ จากระดับน้ำทะเล น้ำตกขณะที่ไปเป็นหน้าแล้ง แต่มีน้ำตกไหลพอประมาณ เยอะพอสมควร สิ่งที่อัศจรรย์ใจที่สุดของน้ำตกพันเมตรก็คือ หินผาที่เป็นน้ำตกมันเป็นหินสีขาวหมดเลย ไม่ใช่หินสีดำ มันเป็นหินสีขาวทั้งหมด ที่หน้าผาแล้วก็น้ำตก ตกรวดจนถึงพื้นล่าง ทำมุมเป็นแนวดิ่งประมาณ 15 องศา ตกยาวลงไปเลย ไม่มีชั้น หมายความว่าตกยาวไปเลยนะ ทำมุมกับแนวดิ่งประมาณ 15 องศา และก็ไปตามลาดเขา ผมได้ไต่ลงไปข้างล่างไปวัดระดับที่ข้างล่าง ถ้าผมจำไม่ผิดตอนนั้นไม่มีการบันทึกไว้ แต่ว่ามีการสูญหายของข้อมูล จะกลับไปสำรวจใหม่ แต่ว่า ถ้าผมจำไม่ผิดตอนนั้นความสูงที่ใต้น้ำตกวัดได้ประมาณ 300 กว่าเมตร ความจริงน้ำตกสูงประมาณ 900 เมตรเท่านั้นเอง แต่อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 1,200 กว่าเมตร ก็เลยถึงว่าเป็นน้ำตกที่สูงมาก สวยงาม น้ำที่ไหลจากน้ำตกจะไหลลงคลองแสง เมื่อนั่งอยู่บนยอดน้ำตกก็จะมองเห็นคลองแสง เพราะฉะนั้นตรงจุดน้ำตกเป็นจุดรอยต่อระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านาคากับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง แต่น้ำเมื่อตกแล้วจะเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง ไม่ได้อยู่ในจังหวัดพังงา
http://narongthai.com/deebooc1.html
ร้องเพลงสิ
อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง
เมื่อวันเวลาที่ฝนจางฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ
สภาพอากาศแดดออก ฝนตก แดดออกรอชมคลิปตอนฝนตก

เฝ้าดูสถานการณ์น้ำป่า
ตลอดสองข้างทางสวยงามคะ ไม่อยากกลับเลย อยากอยู่ต่ออีกสักสองสามคืน
มาถึงท่าเรื่อ ประมาณ 20.30 น. คนอื่นไม่มีใครจับกล้องกันแล้ว แต่เช ยังมีหน้าที่ต้องทำรีวิว เลยห้ามละทิ้งหน้าที่

คลิปทั้งหมด
"มัน ดี แค่ ไหน กัน ที่ เรา ได้ ร่วม ทาง"
This is my life.
คนเราจะมีพรุ่งนี้ได้อีกกี่วัน เวลามีเหลือกันเท่าไหร่
คนเราจะมีลมหายใจอีกกี่ครั้ง ยังไม่รู้เลย
ให้คิดที่ทำตามใคร ก็รู้ว่าคงดีแน่
แต่เกิดมาทั้งที ต้องทำที่ใจอยาก
ชีวิตที่เป็นตัวเอง ก็รู้ว่ามันแย่
แต่มันต้องขอลองสักครั้ง
ชีวิตจะเป็นแบบไหน คงต้องเลือกเอา
ก็ตัวของเราก็ใจของใครของมัน
ชีวิตที่เป็นแบบนี้ คงไม่ว่ากัน
ก็ชีวิตมันเป็นของเรา
I'm Che
วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.36 น.