เรามากับพายุ เขาสันหนอกวัว จ.กาญจนบุรี

สวัสดีค่ะ ก่อนจะมารีวิวนี่ขอบอกก่อนเลยว่า ทริปนี้เป็นทริปที่สุดยอดมากๆๆๆ สุดยอดอย่างไรหน่ะหรือ..??? ตอนแรกนี่ไม่คิดเลยค่ะว่าจะได้มาขึ้นเขาที่นี้ เพราะตั้งใจจะไปขึ้นเขาช้างเผือก แต่เนื่องจากจองไม่ได้ซักทีและมีช่วงเวลาจำกัดด้วย เลยทำให้เราได้มาพบกัน


การเดินทางของพวกเราก็เริ่มขึ้นค่ะ

ก่อนอื่นเลย เมื่อตกลงกับเพื่อนว่าจะมาขึ้นเขาสันหนอกวัว ก็ติดต่อกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมเพื่อจองวันที่จะขึ้น

กลุ่มเราขึ้นวันที่ 12-13 ม.ค.2560 (ปล.เจ้าหน้าที่คุยดี น่ารักมากค่ะ) เมื่อจองเสร็จก็เริ่มเตรียมตัวเก็บของเลยค่ะ

ของที่ต้องเตรียม

1.ชุดแต่งกาย

-กางเกงขายาวเป็นผ้าเนื้อหนาใส่สบาย หรือยีนส์นน.เบา

-เสื้อแขนสั้น+ปลอกแขน หรือเสื้อแขนยาว

-รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อพื้นหนามีดอกยาง+แตะ+ถุงเท้า

-หมวก/ผ้าคลุมหน้า

-เสื้อกันหนาว

2.กระเป๋าสัมภาระ

-กระเป๋าใส่เสื้อผ้าอุปกรณ์อาบน้ำ (เก็บที่รถ)

-กระเป๋าเป้สะพายขึ้นเขา ใส่ของจำเป็น

3.ครีมกันแดด

4.ไฟฉาย/ไฟแช็ค

5.สเปรย์กันแมง/คุ่น/ทาก/ยากันยุง

6.เต้น/เปล/ถุงนอน (เช่าอุทยาน)

7.หม้อสนาม *ใครมีเอาไป

8.ยาประจำตัว/ยาดม(พกติดตัว)

9.ของใช้ส่วนตัว ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก

10.เสบียง+น้ำ

11.แบตสำรอง

การเดินทาง

สำหรับการเดินทางพวกเราใช้รถส่วนตัวค่ะ เมื่อรวมตัวกันขึ้นรถเสร็จก็เดินทางไปที่ตัวเมืองกาจญ. วิ่งเข้าสู่ถนนสายหลักถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายอำเภอไทรโยค-ทองผาภูมิ(ทางหลวงหมายเลข 323)

ก่อนถึงตัวอำเภอทองผาภูมิจะมีสามแยกเลี้ยวขวาไปทางอ.สังขละบุรี(ด่านเจดีย์สามองค์) จะผ่าวัดท่าขนุน น้ำตกเกริงกระเวีย น้ำตกไดช่องถ่อง หน่วยพิทักษ์อุทยานเขาแหลม ที่ทำการอุทยานอยู่ทางขวามือ

ที่เที่ยวใกล้ๆ

น้ำตกเกริงกระเวีย,น้ำตกกระเต็งเจ็ง,สะพาานมอ,เมืองบาดาล,วัดสมเด็จ,เจดีย์โบอ่อน,น้ำตกไดช่องถ่อง/ถ้ำน้ำผุด

"คืนแรกกางเก้งนอนที่ป้อมปี่ (เขื่อนวชิราลงกรณ์)"

ค่าใช้จ่าย

-ค่าเข้าอุทยานและค่าใช้สถานที่คนละ 70บาท

-ค่าจอดรถคันละ30บาท

-ค่าเต้นท์คืนละ30บาท

-ค่าเจ้าหน้าที่ 1000

-ค่ารถไปปากทางขึ้นเขา 1000

-ค่าลูกหาบ 1400/คน จองไว้2คน นน.ไม่เกิ30กก.

-ค่าน้ำมันรถ+ค่าเสบียง

คร่าวๆแล้วประมานคนละ1500-1700 มั้งนะ ฮี่ๆๆๆ

เมื่อเริ่มเดินทาง

กลุ่มเราก็กังวลกันหนักเลยค่ะ เพราะอยู่ในช่วงพายุเข้า ต้องคอยติดตามสภาพอากาศตลอดเวลา โทรเช็คกับเจ้าหน้าที่วันละหลายๆครั้ง (ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ไม่เบื่อหนู) แล้วก็ตัดสินใจไปค่ะ เราเริ่มเดินทางวันที่ 11ม.ค. 2560 เดินทางไปเรื่อยๆแล้วแวะพักซื้อของทำกับข้าวที่อำเภอทองผาภูมิค่ะ

และเดินทางต่อไปถึงป้อมปี่ก่อนที่จะไปขึ้นเขาวันนึง บรรยากาศในการเดินทางพูดได้เลยว่าเย็นสบายค่ะ ไม่มีแดดออกเลย เมื่อเดินทางไปถึงอุทยานเขาแหลมก็จัดการซื้อตั๋วให้เรียบร้อย และเดินหาบริเวณที่จะกางเต้นท์ หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวน้ำตกใกล้ และไปซื้อกับข้าวสำหรับมื้อเย็นและสำหรับนำไปทำบนเขา หลังจากอาบน้ำกินข้าวเสร็จเรียบร้อยก็ออกมานั่งเล่นข้างนอกกันค่ะ บรรยากาศดีถึงแม้จะฟ้าครึ่ม อธิฐานของให้พายุออกไป ให้มีเช้าอันสดใส เสร็จแล้วก็เข้านอนกันค่ะ แต่เมื่อเริ่มที่จะนอนยังไม่ทันไรฝนก็ตกลงมา โอ๊ย.....ใจบ่ดีแล้วจ้า...!! แต่ก็พยายามนอนกันต่อจนเช้า ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำกินข้าว เตรียมของที่จะขึ้นเขาแล้วไปลงทะเบียนค่ะ และก็ขึ้นรถที่เจ้าหน้าที่จะพาไปส่งตรงทางขึ้นเขา

พวกเรานั่งรถขึ้นเขาท่ามกลางบรรยากาศที่ฝนตกปรอยๆ เสียใจมาก ในใจนี่คิดได้แค่ เอาว่ะมาถึงแล้วก็ต้องขึ้นเผื่อโชคจะเกิดที่เราบ้าง เมื่อถึงทางขึ้นเขาแล้วเราก็ถ่ายรูปแล้วเลือกไม้ประจำกายค่ะ

เริ่ม....!!!!!

ระหว่างทางเดินก็ขึ้นลงเขาอย่างต่อเนื่องค่ะ เนื่องจากฝนตกก็จะมีพื้นที่ลื่น ก็ต้องเดินระวังกันไปค่ะ

จุดพักจุดแรกพูดได้เลยว่า ไม่หวั่นบสบายๆอยู่แล้ว แต่หลังจากนั้นสิ โอ๊ยยยยย....อิแม่มารับข้อยแหน่!!

ขอแนะนำ สล๊อตสาวสุดสวย สวยที่สุดในทีม เธอคนนี้เป็นผู้ที่เดินได้รวดเร็วราวกับว่าเธอเป็นรถเฟอรารี่ดีๆนี่เอง 555555


และแล้วก็มาถึงเวลากินข้าว กับข้าวอร่อยหรือไม่อร่อยไม่รู้เลยทีเดียว รีบกินให้หมด หิวมากกกก

นีหล่ะ ทีเด็ด 555

และพวกเราก็เริ่มเดินทางกันต่อค่ะ อ่อ..!!! ลืมพูดถึงบรรยากาศเลย555 บรรยากาศเย็นสบายมากค่ะ ไม่ครึ้มแต่ก็ไม่มีแดดออก บรรยากาศรอบนอกหมอกลงหนาจัด มองไม่เห็นอะไรเลยทีเดียว

พักไปจุดแล้วจุดเล่าก็ยังไม่ถึงซักที ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะค่ะว่าอย่าเชื่อเจ้่าหน้าที่ ไม่งั้นสภาพก็เป็นแบบนี้หล่ะค่า 555

เดินต่อไปค่ะ วนไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึง

และแล้วก็มาถึงจุดกางเต้นท์ ถึงปุ๊ปฝนตกปั๊บเลยคร่าาาา... ของมันแรง....ฮาๆๆๆๆ จากนั้นพวกเราก็นั่งหลบฝนค่ะ พอฝนเริ่มหยุดก็เริ่มกางเต้นท์ อากาศก็เริ่มหนาว หนาวจนปากเขียวและสั่นกันเลยทีเดียว

กางเต้นท์เสร็จก็ต้องเดินเซอร์เวย์ค่ะ ปล่อยให้ตนอื่นทำกับข้าวไป 555

เพื่อนอิฉันเอง เป็นไง สตรองป่ะหล่าาาา 55555 (นี่ป้านเพื่อนกูตอนม.6 ปล.เห็นรูปแล้วโปรดอย่าด่ากู)

ฉ.ผู้ชมควรมีวิจารณญานในการรับชม...555

กลุ่มสมาคมแม่บ้านโคบาล

นี่คือลูกหาบกลุ่มเราคนนี้ชื่อลุงไก่ อีกคนชื่อลุงทราย ลุงน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ช่วยเหลือทุกอย่าง แบ่งของให้กินด้วย ลุงสุดยอดมากกกกกก กราบลุงค่ะ

นั่งพิงไฟอุ่นๆๆ พร้อมกับมองพระจันทร์ดวงกลมโต ช่วงนี้ประมาณสี่ทุ่มฟ้าเริ่มเปิดแล้วค่ะ เริ่มมีความหวังอีกครั้ง ก่อนเข้านอนก็สามารถมองเห็นทะเลหมอกตามเทือกเขาอีกด้วย สวยมากกกกก

มาค่ะงานเช้ามาแล้ว ตื่นหกโมงขึ้นมาบนสันหนอกวัวชมพระอาทิตย์ขึ้น เหลือรอดมาแค่สามคน ที่เหลือนอนหนาวอยู่ในเต้นท์


ผู้รอดชีวิต 1

ผู้รอดชีวิต 2และ3 หนาวแค่ไหนถามใจดู ปากสั่นแรง รูปก่อนหน้านี้ถ่ายไม่ได้เลย เนื่องจากมือสั่นหนักมาก 5555

แต่หลังจากนี้แหละทีเด็ด....!!!!



และแล้วก็ถึงเวลาต้องลงแล้วหล่ะ มาแล้วนะ เขาสันหนอกวัว

เนินหมาถอยนี่คือที่สุดค่ะ ขาขึ้นไปลืมถ่าย

อ้า...ลืมบอกนี้พี่เจ้าหน้าที่ค่ะ ชื่อพี่กู้สุดยอดมาก ช่วยเหลือและแนะนำทุกอย่างขอบคุณค่ะ ปล.ขอให้ลุงทรายยกลูกสาวให้นะค่าาา 5555

ขอบคุณสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไม้ พาขึ้นไปแล้วยังพาลงมาส่ง ขอบใจนะ

ถึงจุดลงเขาแล้ว ปล.ลุงลูกหาบอีกคน ลุงทรายค่ะ


สุดท้ายการที่คนพูดว่าให้ใช้สายตาจดจำเรื่องราวทุกอย่างนั้นคุณเองเคยรู้สึกบ้างไหม ว่าการที่เราได้ถ่ายรูปไว้ก็เป็นความทรงจำอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะในความเป็นจริงเรากลับกลัวว่าครั้งหนึ่งเราอาจจะลืมมันไป และมันยังทำให้เรานึกถึงสิ่งเหล่านั้นเมื่อเห็นรูป และยังคงมีความสุขอยู่เสมอ

ขอบคุณทุกคนในการเดินทาง

"กองทับต้องเดินด้วยท้อง เพื่อนพ้องก็ต้องเดินด้วยกัน"

สันหนอกวัว สันนั้นไม่ลืม


รูปเยอะไปหน่อยกราบขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาติดตามรับชมรับฟังค่ะ

ฝากไลค์ฝากแชร์ด้วยนะค่ะ

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/media/set/?set=a.12022951...

STC.Toiting

 วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.47 น.

ความคิดเห็น