ผมคิดว่า ชีวิตผมทำได้ดีที่สุดแล้ว เท่าที่ผมมีชีวิตอยู่
ผมคิดว่า ผมได้ช่วยเหลือสังคมดีแล้ว
ผมคิดว่า ผมได้ทำตามกำลังของผมดีแล้ว
และ...ผมพอใจ ผมภูมิใจสิ่งที่ผมทำ ... สืบ นาคะเสถียร
“ผมเห็นใจคนที่ไม่มีโอกาสในสังคม ถูกบีบคั้น เอาเปรียบทุกอย่าง
ประเทศไทยจะดีขึ้น ถ้าคนที่มีโอกาส ยอมสละโอกาสบ้าง
เราช่วยเหลือคนส่วนใหญ่ที่ไม่มีโอกาส
ลืมตาอ้าปากได้ ผมอยากเห็นสังคมดีขึ้น" สืบ นาคะเสถียร
27-29 พ.ค.2559
กองม่องทะ สะเหน่พ่อง เกาะสะเดิ่ง กาญจนบุรี ทริปเละๆ เทะๆ (ตามพี่ๆ เอาของไปให้ชาวบ้านตุนไว้ใช้ช่วงหน้าฝนและซ่อมแผงโซลาร์เซลล์)
ภาพอาจไม่สวยเท่าไร แต่เนื้อหามาเต็มคะ ไม่มีเวลาหลังเลนส์เลยจริงๆ คะ
ทริปนี้ต้องขอขอบคุณพี่เอ UN ที่ให้อาศัยติดรถนั่งไปด้วย ถ้าไม่มีพี่เอ รีวิวนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้พี่เอทำแทบทุกหน้าที่ทั้งประสานงาน ขับรถ ขนของ ช่วยแจกของ ร้องเพลงให้ฟัง บลาๆๆๆ ขอบคุณลุงอู้ดดี้และพี่ปายที่มารับ
และกลุ่มเพื่อนๆ ของพี่เอ ที่เอาของมาแจก และทำอาหาร ให้น้องๆ ที่กองม่องทะ
สวัสดีทุกคน อาทิตย์นี้ก็มีเรื่องให้ เช แบกเป้ ออกไปนอนค้างอ้างแรมกันในป่าอีกเช่นเคย น่าจะหลายเดือนมากๆ ที่ไปนอนในป่าแทบทุกอาทิตย์ เดี๋ยวคนนู้นชวน เดี๋ยวคนนี้ชวน บ้างร้องตามเขาไปบ้าง และไหนจะทริประห่ำที่ตัวเองเป็นคนวางแผนอีก
จึงทำให้มีโอกาสนำเรื่องราวต่างๆ ที่ไปพบเจอมา มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง กระทู้ของเราไม่ได้เป็นกระทู้โลกสวยอะไร ไปเที่ยวยังงัย ก็รีวิว มาแบบนั้น สรวลเส เฮฮา กันตามประสาเพื่อนๆ นะขอรับ
รอชมและรอติดตามได้คะ กระทู้ของคนที่อยู่ไม่ติดบ้าน
เช Rider
Name: Monster เช
Race: กึ่งมนุษย์
Property: shadow 3
Walk speed: very fast
"มัน ดี แค่ ไหน กัน ที่ เรา ได้ ร่วม ทาง"
This is my life.
คนเราจะมีพรุ่งนี้ได้อีกกี่วัน เวลามีเหลือกันเท่าไหร่
คนเราจะมีลมหายใจอีกกี่ครั้ง ยังไม่รู้เลย
ให้คิดที่ทำตามใคร ก็รู้ว่าคงดีแน่
แต่เกิดมาทั้งที ต้องทำที่ใจอยาก
ชีวิตที่เป็นตัวเอง ก็รู้ว่ามันแย่
แต่มันต้องขอลองสักครั้ง
ชีวิตจะเป็นแบบไหน คงต้องเลือกเอา
ก็ตัวของเราก็ใจของใครของมัน
ชีวิตที่เป็นแบบนี้ คงไม่ว่ากัน
ก็ชีวิตมันเป็นของเรา
ในภาพคือพี่เข่ง ผช.ผู้ใหญ่บ้าน ที่ให้เราอาศัยนอน กราบงามๆ
ที่ขาดไม่ได้คือพี่ เอ UN ที่จัดการประสานงานทุกอย่าง (พวกเราทำได้เท่าที่มีกำลัง เราไม่สามารถปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือได้ )
ทริปนี้เป็นอีกทริปที่โครตฉุกระหุก
ราววันพุธ คุยกับลุง Audy ว่าจะออกเดินทางกันเช้าวันเสาร์ราวแปดโมง เราลยไม่รีบเร่งในการตระเตรียมสัมภาระ แต่ชีวิตก็เหมือนโดนทำร้าย กำลังนั่งทำงานราวเที่ยงของวันศุกร์ ลุงแกโทรมาบอกว่าเปลี่ยนแผน เดินทางเย็นนี้ไม่เกินห้าโมงเย็น Omg!!!!
เรากลับถึงบ้านอีก 5 นาทีจะ 17.00 น. ไปถึงก็รีบคว้าเป้ กำลังเก็บของแบบโครตรีบ ลุง Audy มาบีบแตรเร่งเย้วๆ อยู่ที่หน้าบ้าน เรานี่ยิ้มอ่อนๆ และมองบนเลยยย โชคดีที่ของจำเป็นยังอยู่ในกระเป๋าเป้ จึงยัดเสื้อผ้าเท่าที่จะหยิบฉวยได้ติดกระเป้าไป แล้วรีบวิ่งจี๋ ไปขึ้นรถ
....................................................................................
ระหว่างทางก็จัดแจงซื้อหาเสบียง เหล้ายาปลาปิ้ง อย่าให้ไปเป็นภาระ คนในหมู่บ้าน เรามีพร้อมกว่าเขาเราควรเตรียมไปให้พร้อม
ไปถึงกองม่องทะราว 21.00 น. คืนนี้เราพักกันที่บ้านของ ผช.ผู้ใหญ่บ้าน แกจัดหาข้าวปลามาต้อนรับ เสียอย่างเดียวคือหิวจนลืมถ่ายรูป มีแกงไตปลา ไข่เจียว น้ำพริกซาเกยาทู(แปลว่าน้ำพริกที่มีส่วนผสมของเนื้อปลา) ผักกูดต้ม ปลาทอด อาหารอร่อยจริงๆ คืนนี้ หลังจากนั้นก็นั่งคุยกันในเรื่องแผนการต่าง ว่าพรุ่งนี้จะเริ่มเดินทางตอนไหน อะไรยังไง ราว 24.00 น. ก็แยกย้ายกันไปนอน เรานอนเต้นท์เขียวๆ
เราตื่นนอน 6.00 น. อาบน้ำแปรงฟัน แล้วออกไปเดินเล่นรอบๆ หมู่บ้าน อ่อ เมื่อคืนฝนตกทั้งคืน วันนี้คงได้ขับรถกันมันส์แน่ๆ เพลียแพรบบบบ
รถพี่เอ บรรทุกข้าวของเต็มอัตรา
บ้านของ ผช.ผู้ใหญ่บ้าน จะอยู่ฝั่งตรงข้าม ของโรงเรียน
พระจากที่วัดกองม่องทะ เดิออกมาบิณฑบาตร
บ้านเรือน ในหมู่บ้าน
บรรยากาศดีคะ ไม่ร้อนไม่หนาว ฝนตกปลอยๆ
ถ้าจำไม่ผิดในป้ายเขียนว่าหลวงพ่อทันใจ
แม่ค้าตัวน้อย ใครมาก็แวะอุดหนุน ด้วยนะ
ในภาพคือพี่ศรี เป็นภรรยาของพี่เข่ง พี่ศรีทำอาหารอร่อยมาก แต่เราชอบน้ำพริกผักกูดที่สุด
เดินไปเดินมา จวนถึงเวลาที่นัดหมายก็ เดินกลับมาเจอพี่ศรีนั่งรอพร้อมผักกูดถุงใหญ่
เมื่อคืนเราบอกพี่ศรีว่าอยากไปเก็บผักกูดถามสถานที่แกว่าอยู่ตรงไหน แต่คงไม่ต้องแล้วแหละ แกไปเก็บมาตั้งแต่เช้ามืดเสียหอบใหญ่
พี่ศรีตั้งสำรับ ชา กาแฟ แต่เช้า และเตรียมหารให้เสร็จสรรพ
เราตักอาหารแล้วออกมานั่งใต้บรรได อาหารก็คือเมนูเดียวกับเมื่อคืนพี่ศรีทำไว้เสียหม้อโตที่เดียวคะ ตอนแรกพี่ศรีคิดว่าจะมาพร้อมกันหมดตั้งแต่เมื่อวาน
วันนี้เราจะเข้าสะเดิงกันแค่สองคันคือรถของพี่เอ และรถไททันของคุณชาตรี
ส่วนวันที่ 29 พ.ค.59 จะมีคณะของหมอจากศิริราชและเพื่อนๆ ของพี่เอ ตามมาสมทบ
เช้าวันที่ 28 พ.ค.59
หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว เราออกเดินทางกันตอน 8.00 น. เช้านี้เราจะเวะไปที่ตลาดสังขละเพื่อซื้อของเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย
พี่เอ บอกว่าจะซื้ออะไรให้ไปเร็วๆ ให้เวลาาคนละ 2 นาที
คุณชาตรีเดินทางมาตอนเช้า คงล่วงหน้าไปรอที่หน่วยพิทักษ์ป่าสะเหน่พ่องแล้ว
ขึ้นสังขละบ่อยมากกก เดือนก่อนขึ้นทุกอาทิตย์
ซื้อของเสร็จแล้วก็ออกเดินทางไปหน่วยพิทักษ์ป่าสะเนห์พ่องกันเลยคะ
เมื่อคืนฝนตกน้ำในลำห้วยจึงขุ่นคลัก ระดับน้ำก็สูงพอสมควร
เจอรถคุณชาตรีและเพื่อนของแก จอดรอที่หน้าหน่วย
ในภาพไล่จากซ้ายมือ พี่ต๊ะ พี่เตี้ย พี่เอ พี่ป้อม คุณชาตรี
พี่เอคือหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของที่นี่คะ แกจะเวะมาหาชาวบ้านบ่อยมาก มีอะไรก็คอยช่วยเหลือขนาดคนในหมู่บ้านป่วยไม่มีรถ ก็โทรไปหาแก ที่กทม. แก ก็รีบบึ่งรถมารับชาวบ้านไปหาหมอทันที
ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน เอ้ยเป็นที่ระลึก
พี่ปายบอกชอบมากก
จ่ายเงินและดำเนินการเรื่องเอกสาร
ภาพวิวมีไม่มาก เพราะรถมันสะเทือนระดับ 10 ริกเตอร์ หน้าคว่ำ หน้าหงาย อีกมือถือกล้อง อีกมือจับรถ ขาก็ช่วยกันเกี่ยว กันยัน ไม่งั้นมีหวังพุ่งหลาวลงจากรถแหงๆ
แผนที่
คุยกันออกรสออกชาติ สนุกมากเวลาลารถลงบ่อโคลน จุก
เป็นได้ทั้งรถและเรือ
ข้ามห้วยแล้วห้วยเล่า ระดับน้ำลึกพอสมควร
และอีกห้วย
ทางบางช่วงน้ำเริ่มท่วม
ห้วยนี้น้ำลึก ต้องใช้เน เยอะถึง 3 คน อิอิ
ขับรถข้ามลำห้วย ต้องใจเย็นๆ ถ้าลุยมาดุ่ยๆ น้ำจะท่วมกรอง
ขับไปสักพักเจอรถติดขบวนยาว จึงเข้าไปสอบถาม ได้ความว่า มมากัน 18 คัน จะเข้าไปที่ปางสนุก แต่มีรถเสียเลยจอดซ่อมแซม
ส่วนบางคันที่ไปต่อไม่ได้ก็จอดทิ้งเอาไว้ข้างทาง
คันนี้ไม้ได้ไปต่อ ลุยน้ำมาแล้วเครื่องยนต์ขัดข้อง
รอให้ขบวนทิ้งช่วงนิดหนึ่งค่อยไปต่อ
และก็ข้ามอีกห้วย นับห้วยจนตาลาย
ห้วยนี้ดูเวิ้งว้างมาก
หลังจากข้ามห้วยแล้วห้วยเล่า ก็มาถึงที่หมาย ราวๆ เที่ยง
กว่าจะถึงที่หมาย สภาพบอบช้ำมากก เหมือนไปต่อยกับบัวขาวมา 10 ยก
สงสารพี่ปลายมากๆ ทริปแรก กับการมาป่าของนาง
ถึงหมู่บ้านเกาะสะเดิ่ง ก็เอาข้าวของลงจากรถ
หลังจากพี่เอ ขนของลงจากรถแล้วแกก็เอาต้นกาแฟ มะพร้าว ขึ้นรถ แล้วขับรถออกไปพร้อมพวก อีก 3 -4 คน พร้อมตะโกนมาว่า ไม่ต้องรอกินข้าน กินกันไปก่อน
ขนมที่พีเอ ตักแจกให้เด็กๆ
นั่งเก็บภาพไปเรื่อย
เดินเล่น บรรยากาศดี ฝนปลอยๆ
เด็กๆ วิ่งหนี เช
ทางเข้าวัด
กำลังเดินเล่นเพลินๆ เห็นรถคันหนึ่งวิ่งสวนเข้ามา คิดในใจว่าเหมือรถพี่ปัญญาจริงๆ แต่อีกใจก็คิดว่าจะใช่รึ เพราะวันศุกร์ที่แล้วยังเห็นรถแกมาจอดเสียอยู่แถว อ.แก่งเสี้ยน แต่พอดูให้แน่ชัดแล้ว พี่ปัญญาจริงๆด้วย เลยเข้าไปสวัสดีและทักทายกัน
จากการสอบถามได้ความว่าขับรถมาเที่ยวคนเดียวและติดไอติมมาแจกให้เด็กๆ น่ารักจริงๆ
เด็กไปต่อแถวทานไอติมกัน เราเองก็ไปแจมมาด้วย 1 แท่ง แก้อาการ ร้อนๆ หนาวๆ จากอาการอ่อนเพลีย ได้ดีทีเดียว
น่ารักมั้ย ลูกสาว
เดินไปคุยกับชาวบ้าน คุยกันเรื่องโน้น เรื่องนี้ สอบถามว่าหน้าฝนที่นี่ลำบากมั้ย
ซักพักพี่ๆ ก็ทำอาหารเสร็จ ก็ทานข้าว ส่วนพี่เอกับพวกยังไม่กลับ หลังจากทานข้าวอิ่มก็ไปเดินเล่น ที่ริมห้วย
ขากลับฝนตกตั้งแต่ที่หมู่บ้านเกาะสะเดิ่งจึงไม่ค่อยมีภาพ พี่เอเรียกให้ผู้หญิงไปนั่งหน้า แต่เช ไม่ไป นั่งหลังสนุกกว่า พร้อมควักเสื้อกันฝนหมีออกมาใส่
เดินทางกันมาแบบทุลักทุเล พี่เอซิ่งตลอดทาง มาถึงเนินไม้แดง รถพี่เอขึ้นไปได้ก่อนแล้วแต่กว่าจะขึ้นไปได้ก็ต้องลงไปพันโซ่กันเลยทีเดียว ส่วนรถคุณชาตรี เพลาขาดกลางเนินและไม่มีวิ้นซ์ห้นา ทุกคนจึงต้องลงมาช่วยกัน
พี่เอจึงต้องลงมาช่วยดึงรถขึ้นไป
เนินเขาไม้แดงทางชันมาก ช่วงหน้าแล้งไม่มีอะไร แต่ถ้าห้นาฝนถือว่าหืดขึ้นคอ
และเทะกันไปหมดคะ
ออกจากป่ามาได้ ก็เก็บภาพกันหน่อย
เก็บระกำออกมา จะเอามาตำน้ำพริก กับต้มยำ แต่ดันหวาน
พอมาถึงบ้านพี่เข่ง ก็ชักชวนกันไปล้างโคลน ล้างรถ
ล้างรถทีไร เมาทุกที ให้ตายดิ
น่าจะประมาณ 5-6 โมง น้ำเย็นเฉียบ
พรุ่งนี้เช้ากลุ่มของพี่ๆ ที่ตามมาจะมาแจกขนมกับทำอาหารเลี้ยงเด็กๆ ที่กองม่องทะ
ทานอาหารแล้วแยกย้ายกันกลับไปนอนคะ
ตื่นแต่เช้า ชวนเด็กๆ ออกไปเดินเล่น หาหมายตกปลากระทิงตามริมห้วย
เพื่อนของพี่เอ ตื่นมาทำอาหารกันแต่เช้า
คณะหมอจากศิริราช เพื่อนของพี่เอ ที่มาในช่วงเช้าของวันที่ 29 พ.ค.59 ขนของมาแจกให้น้องๆ เพียบเลยคะ
บางครั้งการเป็นผู้ให้ก็ทำให้เราสุขใจ
เราเดินทางกลับในเย็นวันอาทิตย์ ส่วนพี่ๆ เขาเดินทางไปเที่ยวต่อที่พะบง
มาอ่านเม้นที่ 77 ไม่ทัน มีอะไรหว่า
I'm Che
วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.53 น.